text
stringlengths 272
505
| source
stringclasses 12
values | nb_tokens
int64 46
100
|
---|---|---|
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ กระต่ายกระแตแย้ตุ่นเที่ยววุ่นวิ่ง นรสิงห์อรหันโผนผันผิน พวกคุลาแลดำดังนํ้านิล เที่ยวตามหินหาเปี้ยวลดเลี้ยวเดิน กระต่ายกระแตแย้ตุ่นเที่ยววุ่นวิ่ง นรสิงห์อรหันโผนผันผิน พวกคุลาแลดำดังนํ้านิล เที่ยวตามหินหาเปี้ยวลดเลี้ยวเดิน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
นรสิงห์อรหันโผนผันผิน พวกคุลาแลดำดังนํ้านิล เที่ยวตามหินหาเปี้ยวลดเลี้ยวเดิน<|im_end|>
|
สิงหไกรภพ
| 70 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ อันบิดามารดาของข้านี้ อยู่ถิ่นที่นัคเรศประเทศไหน แม้นรักน้องเหมือนหนึ่งน้องจงตรองใจ ช่วยบอกให้แจ้งอรรถแต่สัจจา ฯ อันบิดามารดาของข้านี้ อยู่ถิ่นที่นัคเรศประเทศไหน แม้นรักน้องเหมือนหนึ่งน้องจงตรองใจ ช่วยบอกให้แจ้งอรรถแต่สัจจา ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อยู่ถิ่นที่นัคเรศประเทศไหน แม้นรักน้องเหมือนหนึ่งน้องจงตรองใจ ช่วยบอกให้แจ้งอรรถแต่สัจจา ฯ<|im_end|>
|
สิงหไกรภพ
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ไม่ต้องคิดยักย่ายให้หลายอย่าง ในท่าทางที่จะให้ได้ผู้หญิง อย่าคิดอ่านถ่ายเทประเวประวิง เอาความจริงกล่าวไปคงได้การ ไม่ต้องคิดยักย่ายให้หลายอย่าง ในท่าทางที่จะให้ได้ผู้หญิง อย่าคิดอ่านถ่ายเทประเวประวิง เอาความจริงกล่าวไปคงได้การ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ในท่าทางที่จะให้ได้ผู้หญิง อย่าคิดอ่านถ่ายเทประเวประวิง เอาความจริงกล่าวไปคงได้การ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 57 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จึงถามสี่พี่เลี้ยงอยู่เคียงอาสน์ พระบิตุราชชนนีอยู่ที่ไหน นี่เราหลงลงมาเภตราใคร ทำไมไม่ไปกับพระชนนี จึงถามสี่พี่เลี้ยงอยู่เคียงอาสน์ พระบิตุราชชนนีอยู่ที่ไหน นี่เราหลงลงมาเภตราใคร ทำไมไม่ไปกับพระชนนี<|im_end|>
<|im_start|>assistant
พระบิตุราชชนนีอยู่ที่ไหน นี่เราหลงลงมาเภตราใคร ทำไมไม่ไปกับพระชนนี<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 58 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วเลือกสรรบรรดาเหล่าข้าหลวง ที่งามท่วงทีละมุนพึ่งรุ่นสาว เชิญเครื่องทองของประทานทั้งหวานคาว แล้วมีท้าวนางกำกับสำหรับยศ แล้วเลือกสรรบรรดาเหล่าข้าหลวง ที่งามท่วงทีละมุนพึ่งรุ่นสาว เชิญเครื่องทองของประทานทั้งหวานคาว แล้วมีท้าวนางกำกับสำหรับยศ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ที่งามท่วงทีละมุนพึ่งรุ่นสาว เชิญเครื่องทองของประทานทั้งหวานคาว แล้วมีท้าวนางกำกับสำหรับยศ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วทูลถามว่าพระองค์ลงมานี้ ธุระมีในจังหวัดหรือขัดขวาง ท้าวโกสัยเล่าแถลงแสดงพลาง เอาขุนนางแขกที่ใส่มาในกรง แล้วทูลถามว่าพระองค์ลงมานี้ ธุระมีในจังหวัดหรือขัดขวาง ท้าวโกสัยเล่าแถลงแสดงพลาง เอาขุนนางแขกที่ใส่มาในกรง<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ธุระมีในจังหวัดหรือขัดขวาง ท้าวโกสัยเล่าแถลงแสดงพลาง เอาขุนนางแขกที่ใส่มาในกรง<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จึ่งปรึกษาว่าจะขอต้องรอไว้ ค่อยลูบไล้ดูท่าก่อนหนาหลาน ฝ่ายท่านย่ารักใคร่คงได้การ จะหักหาญขอสู่ดูไม่ควร จึ่งปรึกษาว่าจะขอต้องรอไว้ ค่อยลูบไล้ดูท่าก่อนหนาหลาน ฝ่ายท่านย่ารักใคร่คงได้การ จะหักหาญขอสู่ดูไม่ควร<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ค่อยลูบไล้ดูท่าก่อนหนาหลาน ฝ่ายท่านย่ารักใคร่คงได้การ จะหักหาญขอสู่ดูไม่ควร<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พี่เลี้ยงหมอบตอบสนองขอรองบาท มีโอกาสแล้วจะนำคำเฉลย ค่ำวันนี้จะอุบายภิปรายเปรย แม้นนางเผยพจมานสถานใด พี่เลี้ยงหมอบตอบสนองขอรองบาท มีโอกาสแล้วจะนำคำเฉลย ค่ำวันนี้จะอุบายภิปรายเปรย แม้นนางเผยพจมานสถานใด<|im_end|>
<|im_start|>assistant
มีโอกาสแล้วจะนำคำเฉลย ค่ำวันนี้จะอุบายภิปรายเปรย แม้นนางเผยพจมานสถานใด<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายโยคีมียศพจนารถ ให้โอวาทนางยักษ์ไม่หักหาญ จงตัดบ่วงห่วงใยอาลัยลาน อย่าปองผลาญลูกผัวของตัวเลย ฝ่ายโยคีมียศพจนารถ ให้โอวาทนางยักษ์ไม่หักหาญ จงตัดบ่วงห่วงใยอาลัยลาน อย่าปองผลาญลูกผัวของตัวเลย<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ให้โอวาทนางยักษ์ไม่หักหาญ จงตัดบ่วงห่วงใยอาลัยลาน อย่าปองผลาญลูกผัวของตัวเลย<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ เป็นเพื่อนสุขทุกข์โศกวิโยคยาก ตั้งแต่จากกรุงไกรไอศวรรย์ ระหกระเหินเดินป่าพนาวัน กินเผือกมันต่างข้าวทุกเช้าเย็น เป็นเพื่อนสุขทุกข์โศกวิโยคยาก ตั้งแต่จากกรุงไกรไอศวรรย์ ระหกระเหินเดินป่าพนาวัน กินเผือกมันต่างข้าวทุกเช้าเย็น<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ตั้งแต่จากกรุงไกรไอศวรรย์ ระหกระเหินเดินป่าพนาวัน กินเผือกมันต่างข้าวทุกเช้าเย็น<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ประเทศใดเป็นสุขไม่ทุกข์ร้อน อาศัยนอนตามจนไม่ขวนขวาย แต่พอถือศาสนาพาสบาย ไม่วุ่นวายป่วยการขี้คร้านฟัง ฯ ประเทศใดเป็นสุขไม่ทุกข์ร้อน อาศัยนอนตามจนไม่ขวนขวาย แต่พอถือศาสนาพาสบาย ไม่วุ่นวายป่วยการขี้คร้านฟัง ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อาศัยนอนตามจนไม่ขวนขวาย แต่พอถือศาสนาพาสบาย ไม่วุ่นวายป่วยการขี้คร้านฟัง ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จะลือเดชทุกประเทศมานอบนบ ขจรจบแต่บรรดาภาษาสยาม คำนวณเสร็จแล้วประมูลทูลไปตาม ทั้งวันยามในเดือนยี่ปีระกา จะลือเดชทุกประเทศมานอบนบ ขจรจบแต่บรรดาภาษาสยาม คำนวณเสร็จแล้วประมูลทูลไปตาม ทั้งวันยามในเดือนยี่ปีระกา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ขจรจบแต่บรรดาภาษาสยาม คำนวณเสร็จแล้วประมูลทูลไปตาม ทั้งวันยามในเดือนยี่ปีระกา<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ศรีสุดาเคารพอภิวาท ไม่ห่างบาทบพิตรสนิทสนม จนแสงทองส่องสว่างน้ำค้างพรม จึงบังคมลากลับไปหลับนอน ฯ ศรีสุดาเคารพอภิวาท ไม่ห่างบาทบพิตรสนิทสนม จนแสงทองส่องสว่างน้ำค้างพรม จึงบังคมลากลับไปหลับนอน ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ไม่ห่างบาทบพิตรสนิทสนม จนแสงทองส่องสว่างน้ำค้างพรม จึงบังคมลากลับไปหลับนอน ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จึ่งร้องว่าเรือใครที่ไหนเล่า อย่าเคียงเข้าชายตลิ่งริมสิงขร จงหยุดยั้งฟังเราว่าอย่าอาวรณ์ คิดผันผ่อนหลีกไปให้ไกลกัน จึ่งร้องว่าเรือใครที่ไหนเล่า อย่าเคียงเข้าชายตลิ่งริมสิงขร จงหยุดยั้งฟังเราว่าอย่าอาวรณ์ คิดผันผ่อนหลีกไปให้ไกลกัน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อย่าเคียงเข้าชายตลิ่งริมสิงขร จงหยุดยั้งฟังเราว่าอย่าอาวรณ์ คิดผันผ่อนหลีกไปให้ไกลกัน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จะช่วยท่านจนสำเร็จให้เสร็จศึก ข้าตรองตรึกพูดจาใช่พาเหียร เป็นความในใจประสงค์ไม่วงเวียน ขอพากเพียรรบรับทัพลังกา ฯ จะช่วยท่านจนสำเร็จให้เสร็จศึก ข้าตรองตรึกพูดจาใช่พาเหียร เป็นความในใจประสงค์ไม่วงเวียน ขอพากเพียรรบรับทัพลังกา ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ข้าตรองตรึกพูดจาใช่พาเหียร เป็นความในใจประสงค์ไม่วงเวียน ขอพากเพียรรบรับทัพลังกา ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พอจวนเย็นเป็นพายุพยับฝน ให้มัวมนมืดสิ้นดินสวรรค์ คลื่นระดมลมกล้าสลาตัน ตีกำปั่นซัดไปเป็นหลายคืน พอจวนเย็นเป็นพายุพยับฝน ให้มัวมนมืดสิ้นดินสวรรค์ คลื่นระดมลมกล้าสลาตัน ตีกำปั่นซัดไปเป็นหลายคืน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ให้มัวมนมืดสิ้นดินสวรรค์ คลื่นระดมลมกล้าสลาตัน ตีกำปั่นซัดไปเป็นหลายคืน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แม้นไม่สมปรารถนาแล้วล่ากลับ มันยากยับช่างหัวมันอย่าหวั่นไหว ถึงลูกหลานว่านเครือเชื่อมันไย ไปพอให้ถึงถิ่นกันนินทา แม้นไม่สมปรารถนาแล้วล่ากลับ มันยากยับช่างหัวมันอย่าหวั่นไหว ถึงลูกหลานว่านเครือเชื่อมันไย ไปพอให้ถึงถิ่นกันนินทา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
มันยากยับช่างหัวมันอย่าหวั่นไหว ถึงลูกหลานว่านเครือเชื่อมันไย ไปพอให้ถึงถิ่นกันนินทา<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายเจ้าชู้ผู้ชายหลายประเทศ อวดวิเศษตามประสาอัชฌาสัย บ้างทูลว่าข้าพเจ้าแอบเข้าไป จะหยอกให้หญิงรักจี้รักแร้ ฝ่ายเจ้าชู้ผู้ชายหลายประเทศ อวดวิเศษตามประสาอัชฌาสัย บ้างทูลว่าข้าพเจ้าแอบเข้าไป จะหยอกให้หญิงรักจี้รักแร้<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อวดวิเศษตามประสาอัชฌาสัย บ้างทูลว่าข้าพเจ้าแอบเข้าไป จะหยอกให้หญิงรักจี้รักแร้<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ประชาชนอลหม่านทุกบ้านช่อง บ้างวิ่งร้องเรียกกันสนั่นเสียง พวกหอคอยพลอยตีกลองก้องสำเนียง ทั้งวังเวียงครั่นครื้นตื่นตกใจ ฯ ประชาชนอลหม่านทุกบ้านช่อง บ้างวิ่งร้องเรียกกันสนั่นเสียง พวกหอคอยพลอยตีกลองก้องสำเนียง ทั้งวังเวียงครั่นครื้นตื่นตกใจ ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
บ้างวิ่งร้องเรียกกันสนั่นเสียง พวกหอคอยพลอยตีกลองก้องสำเนียง ทั้งวังเวียงครั่นครื้นตื่นตกใจ ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จอมกษัตริย์ตรัสว่าของหายาก บุญเรามากจึงได้เพชรมาเขตขัณฑ์ ให้เงินทองสองถังเป็นรางวัล ทั้งแพรพรรณเสื้อผ้าบูชาพราหมณ์ ฯ จอมกษัตริย์ตรัสว่าของหายาก บุญเรามากจึงได้เพชรมาเขตขัณฑ์ ให้เงินทองสองถังเป็นรางวัล ทั้งแพรพรรณเสื้อผ้าบูชาพราหมณ์ ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
บุญเรามากจึงได้เพชรมาเขตขัณฑ์ ให้เงินทองสองถังเป็นรางวัล ทั้งแพรพรรณเสื้อผ้าบูชาพราหมณ์ ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ สินสมุทรสุดโง่เหมือนโคฝูง ตามจะจูงจมูกย่างไปข้างไหน เหมือนครั้งยายเป็นสาวกับท้าวไท ยังอยู่ในถ้อยคำไม่ก้ำเกิน สินสมุทรสุดโง่เหมือนโคฝูง ตามจะจูงจมูกย่างไปข้างไหน เหมือนครั้งยายเป็นสาวกับท้าวไท ยังอยู่ในถ้อยคำไม่ก้ำเกิน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ตามจะจูงจมูกย่างไปข้างไหน เหมือนครั้งยายเป็นสาวกับท้าวไท ยังอยู่ในถ้อยคำไม่ก้ำเกิน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ยายพราหมณ์ฟังนั่งคิดผิดสังเกต ก็เห็นเหตุโกรธขึ้งด้วยหึงสา จึงทูลความห้ามให้ไว้อัชฌา ด้วยได้มารบพุ่งถึงกรุงไกร ยายพราหมณ์ฟังนั่งคิดผิดสังเกต ก็เห็นเหตุโกรธขึ้งด้วยหึงสา จึงทูลความห้ามให้ไว้อัชฌา ด้วยได้มารบพุ่งถึงกรุงไกร<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ก็เห็นเหตุโกรธขึ้งด้วยหึงสา จึงทูลความห้ามให้ไว้อัชฌา ด้วยได้มารบพุ่งถึงกรุงไกร<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 67 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ไม่ต้องการบ้านเมืองเอาแต่ของ กับเงินทองรวบรุมใส่ตุ่มไห แล้วก็ยกหาบหามตามกันไป ไม่มีใครต่อสู้มันอยู่คง ไม่ต้องการบ้านเมืองเอาแต่ของ กับเงินทองรวบรุมใส่ตุ่มไห แล้วก็ยกหาบหามตามกันไป ไม่มีใครต่อสู้มันอยู่คง<|im_end|>
<|im_start|>assistant
กับเงินทองรวบรุมใส่ตุ่มไห แล้วก็ยกหาบหามตามกันไป ไม่มีใครต่อสู้มันอยู่คง<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 56 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ลงมายืนอยู่สะพรั่งตามฝังน้ำ ทั้งโตดำมั่นตั้นขันใจหาย ถือลูกขลุบตามยาวทั้งบ่าวนาย เหน็บพร้าพรายเดินหลามตามกันมา ลงมายืนอยู่สะพรั่งตามฝังน้ำ ทั้งโตดำมั่นตั้นขันใจหาย ถือลูกขลุบตามยาวทั้งบ่าวนาย เหน็บพร้าพรายเดินหลามตามกันมา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ทั้งโตดำมั่นตั้นขันใจหาย ถือลูกขลุบตามยาวทั้งบ่าวนาย เหน็บพร้าพรายเดินหลามตามกันมา<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ เสด็จไปไหนหนอไม่รู้แน่ อยู่แขวงแควนคเรศประเทศไหน ไม่รู้จักแห่งหนตำบลไหน จะได้ไปเสาะหาตามสาคร เสด็จไปไหนหนอไม่รู้แน่ อยู่แขวงแควนคเรศประเทศไหน ไม่รู้จักแห่งหนตำบลไหน จะได้ไปเสาะหาตามสาคร<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อยู่แขวงแควนคเรศประเทศไหน ไม่รู้จักแห่งหนตำบลไหน จะได้ไปเสาะหาตามสาคร<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 57 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ เจ้าเป็นหญิงจริงอยู่แต่สู้รบ หากว่าพบคู่ชีวิตพิสมัย เมื่อเธอมีโอรสยศไกร ก็จะได้เป็นน้องของบุตรี เจ้าเป็นหญิงจริงอยู่แต่สู้รบ หากว่าพบคู่ชีวิตพิสมัย เมื่อเธอมีโอรสยศไกร ก็จะได้เป็นน้องของบุตรี<|im_end|>
<|im_start|>assistant
หากว่าพบคู่ชีวิตพิสมัย เมื่อเธอมีโอรสยศไกร ก็จะได้เป็นน้องของบุตรี<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 55 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ถึงประทับกับบัลลังก์ที่นั่งหงส์ เขาชักธงสิแดงดูแข็งขัน ขุนเสนามาเชิญเสด็จพลัน ให้จรจรัลขึ้นไปในเภตรา ฯ ถึงประทับกับบัลลังก์ที่นั่งหงส์ เขาชักธงสิแดงดูแข็งขัน ขุนเสนามาเชิญเสด็จพลัน ให้จรจรัลขึ้นไปในเภตรา ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เขาชักธงสิแดงดูแข็งขัน ขุนเสนามาเชิญเสด็จพลัน ให้จรจรัลขึ้นไปในเภตรา ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ น้อยไปหรือดื้อดึงไปถึงสวน จะแกล้งกวนก่อความเจ้าพราหมณ์เอ๋ย แม่เมตตาอย่าทูลฉลองเลย เหมือนทรามเชยช่วยหลังไว้ครั้งนี้ น้อยไปหรือดื้อดึงไปถึงสวน จะแกล้งกวนก่อความเจ้าพราหมณ์เอ๋ย แม่เมตตาอย่าทูลฉลองเลย เหมือนทรามเชยช่วยหลังไว้ครั้งนี้<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จะแกล้งกวนก่อความเจ้าพราหมณ์เอ๋ย แม่เมตตาอย่าทูลฉลองเลย เหมือนทรามเชยช่วยหลังไว้ครั้งนี้<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 67 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ไม่ไหวติงยิงเปล่าเหมือนเป่าเล่น ลุกไปเต้นอยู่ไกลไกลไปไม่ถึง ด้วยอำนาจท่านพฤฒาอย่าคะนึง ยิ่งไม่ถึงธารท่าหน้าสันดอน ฯ ไม่ไหวติงยิงเปล่าเหมือนเป่าเล่น ลุกไปเต้นอยู่ไกลไกลไปไม่ถึง ด้วยอำนาจท่านพฤฒาอย่าคะนึง ยิ่งไม่ถึงธารท่าหน้าสันดอน ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ลุกไปเต้นอยู่ไกลไกลไปไม่ถึง ด้วยอำนาจท่านพฤฒาอย่าคะนึง ยิ่งไม่ถึงธารท่าหน้าสันดอน ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายพระหน่อนฤเบศเกศกษัตริย์ ชุลีหัตถ์บังคมก้มเกศ ทั้งสองนางพลางว่ากับบุตรี อัญชุลีเชษฐาอย่าอาวรณ์ ฝ่ายพระหน่อนฤเบศเกศกษัตริย์ ชุลีหัตถ์บังคมก้มเกศ ทั้งสองนางพลางว่ากับบุตรี อัญชุลีเชษฐาอย่าอาวรณ์<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ชุลีหัตถ์บังคมก้มเกศ ทั้งสองนางพลางว่ากับบุตรี อัญชุลีเชษฐาอย่าอาวรณ์<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 67 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ สุดสาครอภิวันท์ประสานหัตถ์ ควบกัณฐัศว์ลับเขตประเทศสถาน ม้าก็วิ่งไวไวไปมินาน พระอมแก้วสุริยกานต์วราพร ฯ สุดสาครอภิวันท์ประสานหัตถ์ ควบกัณฐัศว์ลับเขตประเทศสถาน ม้าก็วิ่งไวไวไปมินาน พระอมแก้วสุริยกานต์วราพร ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ควบกัณฐัศว์ลับเขตประเทศสถาน ม้าก็วิ่งไวไวไปมินาน พระอมแก้วสุริยกานต์วราพร ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ บังคมบาทบงกชบทศรี กับอนุชามาพลันด้วยทันที ขึ้นพาชีเร่งพหลพลไกร ฯ ฝ่ายพระสุดสาครบวรนาถ บังคมบาทบงกชบทศรี กับอนุชามาพลันด้วยทันที ขึ้นพาชีเร่งพหลพลไกร ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
บังคมบาทบงกชบทศรี กับอนุชามาพลันด้วยทันที ขึ้นพาชีเร่งพหลพลไกร ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ สมเด็จท้าวทศวงศ์ทรงวิตก ว่าเอออกเอ๋ยกรรมจะทำไฉน ข้าจะพาลูกยานัดดาไป ช่วยแก้ไขเขยขวัญตามปัญญา สมเด็จท้าวทศวงศ์ทรงวิตก ว่าเอออกเอ๋ยกรรมจะทำไฉน ข้าจะพาลูกยานัดดาไป ช่วยแก้ไขเขยขวัญตามปัญญา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ว่าเอออกเอ๋ยกรรมจะทำไฉน ข้าจะพาลูกยานัดดาไป ช่วยแก้ไขเขยขวัญตามปัญญา<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายปิ่นปักนัคราการะเวก อดิเรกเรืองเดชทุกเขตขัณฑ์ สถิตแท่นแม้นมหาเวชยันต์ บนสวรรค์บัณฑุอาสน์อมรินทร์ ฝ่ายปิ่นปักนัคราการะเวก อดิเรกเรืองเดชทุกเขตขัณฑ์ สถิตแท่นแม้นมหาเวชยันต์ บนสวรรค์บัณฑุอาสน์อมรินทร์<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อดิเรกเรืองเดชทุกเขตขัณฑ์ สถิตแท่นแม้นมหาเวชยันต์ บนสวรรค์บัณฑุอาสน์อมรินทร์<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ กูไปด้วยจะได้ช่วยพูดประจบ ให้เขาคบเขารักเป็นศักดิ์ศรี ได้ผูกพันกันไว้เป็นไมตรี คุณจะมีอยู่ดอกหวาพากันไป กูไปด้วยจะได้ช่วยพูดประจบ ให้เขาคบเขารักเป็นศักดิ์ศรี ได้ผูกพันกันไว้เป็นไมตรี คุณจะมีอยู่ดอกหวาพากันไป<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ให้เขาคบเขารักเป็นศักดิ์ศรี ได้ผูกพันกันไว้เป็นไมตรี คุณจะมีอยู่ดอกหวาพากันไป<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 58 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ อันพวกพ้องของมึงเหมือนหนึ่งบ่าว ใช้ต้มเหล้าสีเสบียงเลี้ยงทหาร ยังฮึกฮักหักโหมมาโรมราญ เหมือนฝูงฟานจะเป็นภักษ์พยัคฆา ฯ อันพวกพ้องของมึงเหมือนหนึ่งบ่าว ใช้ต้มเหล้าสีเสบียงเลี้ยงทหาร ยังฮึกฮักหักโหมมาโรมราญ เหมือนฝูงฟานจะเป็นภักษ์พยัคฆา ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ใช้ต้มเหล้าสีเสบียงเลี้ยงทหาร ยังฮึกฮักหักโหมมาโรมราญ เหมือนฝูงฟานจะเป็นภักษ์พยัคฆา ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 73 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พอม่อยหลับกลับทรงสุบินนิมิต ว่าอาทิตย์แจ่มกระจ่างสว่างไสว แล้วกลับมืดมัวคลุ้มชอุ่มไป ประเดี๋ยวใจเกิดเป็นเพลิงขึ้นเริงแรง พอม่อยหลับกลับทรงสุบินนิมิต ว่าอาทิตย์แจ่มกระจ่างสว่างไสว แล้วกลับมืดมัวคลุ้มชอุ่มไป ประเดี๋ยวใจเกิดเป็นเพลิงขึ้นเริงแรง<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ว่าอาทิตย์แจ่มกระจ่างสว่างไสว แล้วกลับมืดมัวคลุ้มชอุ่มไป ประเดี๋ยวใจเกิดเป็นเพลิงขึ้นเริงแรง<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แม้นกลัวตายชายหญิงอย่างนิ่งช้า จงออกมานั่งข้างทางถนน กูจึงจะประพรำด้วยน้ำมนต์ ให้รอดพ้นความตายสบายใจ แม้นกลัวตายชายหญิงอย่างนิ่งช้า จงออกมานั่งข้างทางถนน กูจึงจะประพรำด้วยน้ำมนต์ ให้รอดพ้นความตายสบายใจ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จงออกมานั่งข้างทางถนน กูจึงจะประพรำด้วยน้ำมนต์ ให้รอดพ้นความตายสบายใจ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายยุพาผกาธิดาผู้ใหญ่ นางเข้าใจจับยามตามดิถี ด้วยได้เรียนรู้ตำราพระบาลี เห็นจะมีเหตุร้ายจึงทายทูล ฝ่ายยุพาผกาธิดาผู้ใหญ่ นางเข้าใจจับยามตามดิถี ด้วยได้เรียนรู้ตำราพระบาลี เห็นจะมีเหตุร้ายจึงทายทูล<|im_end|>
<|im_start|>assistant
นางเข้าใจจับยามตามดิถี ด้วยได้เรียนรู้ตำราพระบาลี เห็นจะมีเหตุร้ายจึงทายทูล<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 58 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ นางฤๅษีชีป่าอีบ้าผัว มันรอดชั่วอย่างไรหนอกูขอถาม ไปลอยหน้าอยู่กับเขาเมาตะกลาม นางหม่อมห้ามไม่หยุดสุดฝีมือ นางฤๅษีชีป่าอีบ้าผัว มันรอดชั่วอย่างไรหนอกูขอถาม ไปลอยหน้าอยู่กับเขาเมาตะกลาม นางหม่อมห้ามไม่หยุดสุดฝีมือ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
มันรอดชั่วอย่างไรหนอกูขอถาม ไปลอยหน้าอยู่กับเขาเมาตะกลาม นางหม่อมห้ามไม่หยุดสุดฝีมือ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ กำลังหลงงงงวยด้วยอีสาว เปรียบเหมือนกาวแน่นหนาประดาเสีย แล้วป่วยไข้ไหนจะร้างจะห่างเมีย ดูมันเคลียคลอกันทุกวันคืน กำลังหลงงงงวยด้วยอีสาว เปรียบเหมือนกาวแน่นหนาประดาเสีย แล้วป่วยไข้ไหนจะร้างจะห่างเมีย ดูมันเคลียคลอกันทุกวันคืน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เปรียบเหมือนกาวแน่นหนาประดาเสีย แล้วป่วยไข้ไหนจะร้างจะห่างเมีย ดูมันเคลียคลอกันทุกวันคืน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ไม่เห็นเป็นเช่นแขกแปลกประหลาด ล้วนเชื้อชาติชาวฝรั่งคิดกังขา ครั้งเข้าใกล้ให้ล่ามถามกิจจา มึงพาพระอัยกามาว่าไร ไม่เห็นเป็นเช่นแขกแปลกประหลาด ล้วนเชื้อชาติชาวฝรั่งคิดกังขา ครั้งเข้าใกล้ให้ล่ามถามกิจจา มึงพาพระอัยกามาว่าไร<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ล้วนเชื้อชาติชาวฝรั่งคิดกังขา ครั้งเข้าใกล้ให้ล่ามถามกิจจา มึงพาพระอัยกามาว่าไร<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ อันพ่อเจ้าเขาไม่แก่ไม่หนุ่มนัก อายุสักยี่สิบเก้าเข้าสามสิบ พระบอกพลางทางประทานไม้เท้าทิพย์ ไปทางนี้ผีดิบมันดุดัน อันพ่อเจ้าเขาไม่แก่ไม่หนุ่มนัก อายุสักยี่สิบเก้าเข้าสามสิบ พระบอกพลางทางประทานไม้เท้าทิพย์ ไปทางนี้ผีดิบมันดุดัน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อายุสักยี่สิบเก้าเข้าสามสิบ พระบอกพลางทางประทานไม้เท้าทิพย์ ไปทางนี้ผีดิบมันดุดัน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แม้นมิช่วยให้ทันในวันรุ่ง จะรบพุ่งศึกเสือเหลือรักษา จะเสียด่านบ้านเมืองเคืองบาทา ชีวิตข้าทั้งหลายจะวายปราณ ฯ แม้นมิช่วยให้ทันในวันรุ่ง จะรบพุ่งศึกเสือเหลือรักษา จะเสียด่านบ้านเมืองเคืองบาทา ชีวิตข้าทั้งหลายจะวายปราณ ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จะรบพุ่งศึกเสือเหลือรักษา จะเสียด่านบ้านเมืองเคืองบาทา ชีวิตข้าทั้งหลายจะวายปราณ ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พอข้าเฝ้าเจ้าพราหมณ์ทั้งสามทัพ มาคอยรับอภิวันท์ด้วยหรรษา ทูลเชิญพระมเหสีให้ลีลา ขึ้นพลับพลาที่องค์พระทรงยศ พอข้าเฝ้าเจ้าพราหมณ์ทั้งสามทัพ มาคอยรับอภิวันท์ด้วยหรรษา ทูลเชิญพระมเหสีให้ลีลา ขึ้นพลับพลาที่องค์พระทรงยศ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
มาคอยรับอภิวันท์ด้วยหรรษา ทูลเชิญพระมเหสีให้ลีลา ขึ้นพลับพลาที่องค์พระทรงยศ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ มีเขี้ยวแก้วแววไวอยู่ในปาก ดูแรงราครูปสาวเห็นห้าวหาญ ประดับเครื่องเรืองจรัสชัชวาล พัดใบตาลต่างจักรป้องพักตรา มีเขี้ยวแก้วแววไวอยู่ในปาก ดูแรงราครูปสาวเห็นห้าวหาญ ประดับเครื่องเรืองจรัสชัชวาล พัดใบตาลต่างจักรป้องพักตรา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ดูแรงราครูปสาวเห็นห้าวหาญ ประดับเครื่องเรืองจรัสชัชวาล พัดใบตาลต่างจักรป้องพักตรา<|im_end|>
|
สิงหไกรภพ
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ คราวสงครามสามทัพคนนับโกฏิ ต้องจ่ายโภชนาปรนพลขันธ์ อยู่สำราญด่านเขาเจ้าประจัญ ถึงสามวันครั้นเวลาเป็นราตรี ฯ คราวสงครามสามทัพคนนับโกฏิ ต้องจ่ายโภชนาปรนพลขันธ์ อยู่สำราญด่านเขาเจ้าประจัญ ถึงสามวันครั้นเวลาเป็นราตรี ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ต้องจ่ายโภชนาปรนพลขันธ์ อยู่สำราญด่านเขาเจ้าประจัญ ถึงสามวันครั้นเวลาเป็นราตรี ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พวกเสนาว่าแน่กระนั้นหรือ เจ้าพราหมณ์รื้อรับว่าอย่าสงสัย สมคะเนเสนีก็ดีใจ พาเข้าไปทูลแถลงแจ้งกิจจา ฯ พวกเสนาว่าแน่กระนั้นหรือ เจ้าพราหมณ์รื้อรับว่าอย่าสงสัย สมคะเนเสนีก็ดีใจ พาเข้าไปทูลแถลงแจ้งกิจจา ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เจ้าพราหมณ์รื้อรับว่าอย่าสงสัย สมคะเนเสนีก็ดีใจ พาเข้าไปทูลแถลงแจ้งกิจจา ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ นกนางนวลดูนวลแสงจันทร์จับ ดูขาววับบินเรียงส่งเสียงหวาน พระชี้ให้สององค์นางนงคราญ ชมกิ่งก้านเขาไม้เหมือนลายแร นกนางนวลดูนวลแสงจันทร์จับ ดูขาววับบินเรียงส่งเสียงหวาน พระชี้ให้สององค์นางนงคราญ ชมกิ่งก้านเขาไม้เหมือนลายแร<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ดูขาววับบินเรียงส่งเสียงหวาน พระชี้ให้สององค์นางนงคราญ ชมกิ่งก้านเขาไม้เหมือนลายแร<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พระว่าพลางทางพยุงจูงฝรั่ง มันถอยหลังคุกเข่าไม่เข้าใกล้ พอมือหลุดผลุดผลุนวิ่งหมุนไป พระหลงไล่เลี้ยวลัดสกัดสแกง พระว่าพลางทางพยุงจูงฝรั่ง มันถอยหลังคุกเข่าไม่เข้าใกล้ พอมือหลุดผลุดผลุนวิ่งหมุนไป พระหลงไล่เลี้ยวลัดสกัดสแกง<|im_end|>
<|im_start|>assistant
มันถอยหลังคุกเข่าไม่เข้าใกล้ พอมือหลุดผลุดผลุนวิ่งหมุนไป พระหลงไล่เลี้ยวลัดสกัดสแกง<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 70 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ คนประจำกำปั่นสักพันถ้วน เลือกแต่ล้วนเข้มแข็งกำแหงหาญ ทั้งล้าต้าต้นหนพวกคนงาน ที่ชำนาญนาวาจะคลาไคล คนประจำกำปั่นสักพันถ้วน เลือกแต่ล้วนเข้มแข็งกำแหงหาญ ทั้งล้าต้าต้นหนพวกคนงาน ที่ชำนาญนาวาจะคลาไคล<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เลือกแต่ล้วนเข้มแข็งกำแหงหาญ ทั้งล้าต้าต้นหนพวกคนงาน ที่ชำนาญนาวาจะคลาไคล<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ทูลพระปิ่นรมจักรนัคเรศ ให้ทรงเดชทราบความตามอักษร กับพระศรีอนุชาสุดสาคร ว่าเราจรมาอยู่ด่านชานบุรินทร์ ทูลพระปิ่นรมจักรนัคเรศ ให้ทรงเดชทราบความตามอักษร กับพระศรีอนุชาสุดสาคร ว่าเราจรมาอยู่ด่านชานบุรินทร์<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ให้ทรงเดชทราบความตามอักษร กับพระศรีอนุชาสุดสาคร ว่าเราจรมาอยู่ด่านชานบุรินทร์<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ มีกำลังดั่งมิ่งม้าวลาหก แล้วโผนผกแผดร้องลำพองขน สุดสาครโดดขึ้นหลังลงกลางชล ม้าคำรนเหมือนจะลาพระอาจารย์ มีกำลังดั่งมิ่งม้าวลาหก แล้วโผนผกแผดร้องลำพองขน สุดสาครโดดขึ้นหลังลงกลางชล ม้าคำรนเหมือนจะลาพระอาจารย์<|im_end|>
<|im_start|>assistant
แล้วโผนผกแผดร้องลำพองขน สุดสาครโดดขึ้นหลังลงกลางชล ม้าคำรนเหมือนจะลาพระอาจารย์<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ทั้งสองแก้มแต้มจันทร์กระแจะลูบ เมื่อส่งตัวผัวจะจูบจะได้หอม ใส่เสื้อทองรองนวมให้กรวมกรอม ผ้าห่มห้อมหุ้มเฉลียงเฉวียงองค์ ทั้งสองแก้มแต้มจันทร์กระแจะลูบ เมื่อส่งตัวผัวจะจูบจะได้หอม ใส่เสื้อทองรองนวมให้กรวมกรอม ผ้าห่มห้อมหุ้มเฉลียงเฉวียงองค์<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เมื่อส่งตัวผัวจะจูบจะได้หอม ใส่เสื้อทองรองนวมให้กรวมกรอม ผ้าห่มห้อมหุ้มเฉลียงเฉวียงองค์<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 70 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ บาทหลวงฟังสังรเสริญเจริญยศ จงปรากฏอิทธิฤทธิ์ทุกทิศา พระคุณท่านเหลือล้นคณนา ขอกราบลาไปบุรินทร์ถิ่นนคร บาทหลวงฟังสังรเสริญเจริญยศ จงปรากฏอิทธิฤทธิ์ทุกทิศา พระคุณท่านเหลือล้นคณนา ขอกราบลาไปบุรินทร์ถิ่นนคร<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จงปรากฏอิทธิฤทธิ์ทุกทิศา พระคุณท่านเหลือล้นคณนา ขอกราบลาไปบุรินทร์ถิ่นนคร<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ตั้งเสบียงอาหารก็พานขัด จะรีบรัดยกไปเป็นใหญ่หลวง ยังจะต้องจัดพหลพลทั้งปวง ต่อเรือช่วงเรือใช้จะได้จร ฯ ตั้งเสบียงอาหารก็พานขัด จะรีบรัดยกไปเป็นใหญ่หลวง ยังจะต้องจัดพหลพลทั้งปวง ต่อเรือช่วงเรือใช้จะได้จร ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จะรีบรัดยกไปเป็นใหญ่หลวง ยังจะต้องจัดพหลพลทั้งปวง ต่อเรือช่วงเรือใช้จะได้จร ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 59 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ขัดขมิ้นเหลืองจ้อยคล้ายหอยขม ทัดยาดมนำหน้าพวกทาสี เที่ยวลอยหน้าดูละครร้อนฤดี จะใคร่มีผัวหนุ่มที่ชุ่มมัน ขัดขมิ้นเหลืองจ้อยคล้ายหอยขม ทัดยาดมนำหน้าพวกทาสี เที่ยวลอยหน้าดูละครร้อนฤดี จะใคร่มีผัวหนุ่มที่ชุ่มมัน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ทัดยาดมนำหน้าพวกทาสี เที่ยวลอยหน้าดูละครร้อนฤดี จะใคร่มีผัวหนุ่มที่ชุ่มมัน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ มาประเดี๋ยวเฉียวฉุนให้ขุ่นขิ่น เหมือนเงี่ยนฝิ่นใฝ่ฝันหุนหันหวน ว่าชักช้าทารกรรมทำกระบวน พระจะด่วนไปข้างไหนหรือใครคอย ฯ มาประเดี๋ยวเฉียวฉุนให้ขุ่นขิ่น เหมือนเงี่ยนฝิ่นใฝ่ฝันหุนหันหวน ว่าชักช้าทารกรรมทำกระบวน พระจะด่วนไปข้างไหนหรือใครคอย ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เหมือนเงี่ยนฝิ่นใฝ่ฝันหุนหันหวน ว่าชักช้าทารกรรมทำกระบวน พระจะด่วนไปข้างไหนหรือใครคอย ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 71 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ มาถึงห้องท้องพระโรงเห็นทรงยศ พระเลื่อนลดลงบังคมก้มเกศา เชิญขึ้นนั่งบนบัลลังก์อลังการ์ นางพญาโศกเศร้าแล้วเล่าความ มาถึงห้องท้องพระโรงเห็นทรงยศ พระเลื่อนลดลงบังคมก้มเกศา เชิญขึ้นนั่งบนบัลลังก์อลังการ์ นางพญาโศกเศร้าแล้วเล่าความ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
พระเลื่อนลดลงบังคมก้มเกศา เชิญขึ้นนั่งบนบัลลังก์อลังการ์ นางพญาโศกเศร้าแล้วเล่าความ<|im_end|>
|
สิงหไกรภพ
| 67 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วเชิญให้เสนาขึ้นมานั่ง ที่โต๊ะตั้งเลี้ยงดูแกรู้ถึง เสนาใส่เหล้าเข้มพอเต็มตึง บางหลวงจึงปราศรัยทั้งให้ปัน แล้วเชิญให้เสนาขึ้นมานั่ง ที่โต๊ะตั้งเลี้ยงดูแกรู้ถึง เสนาใส่เหล้าเข้มพอเต็มตึง บางหลวงจึงปราศรัยทั้งให้ปัน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ที่โต๊ะตั้งเลี้ยงดูแกรู้ถึง เสนาใส่เหล้าเข้มพอเต็มตึง บางหลวงจึงปราศรัยทั้งให้ปัน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พระจูงนางพลางเข้าปราสาทศรี พระชนนีเห็นองค์โอรสา ทั้งเขยขวัญบุษบงองค์ธิดา พากันมามีกังวลที่หนใด ฯ พระจูงนางพลางเข้าปราสาทศรี พระชนนีเห็นองค์โอรสา ทั้งเขยขวัญบุษบงองค์ธิดา พากันมามีกังวลที่หนใด ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
พระชนนีเห็นองค์โอรสา ทั้งเขยขวัญบุษบงองค์ธิดา พากันมามีกังวลที่หนใด ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พระหัวร่อพ่อเองมีอีผีเสื้อ ต้องชิดเชื้อเมื่อไปอยู่ในคูหา เองจงจำคำไพร่ชาวไร่นา มันพูดจากันเล่นก็เห็นจริง พระหัวร่อพ่อเองมีอีผีเสื้อ ต้องชิดเชื้อเมื่อไปอยู่ในคูหา เองจงจำคำไพร่ชาวไร่นา มันพูดจากันเล่นก็เห็นจริง<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ต้องชิดเชื้อเมื่อไปอยู่ในคูหา เองจงจำคำไพร่ชาวไร่นา มันพูดจากันเล่นก็เห็นจริง<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วซักถามนามนางกระจ่างใจ พาเข้าไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ ฯ จึงทูลความตามนางอ้างอาสา อวดวิชายวดยิ่งทุกสิ่งสรรพ์ แล้วซักถามนามนางกระจ่างใจ พาเข้าไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ ฯ จึงทูลความตามนางอ้างอาสา อวดวิชายวดยิ่งทุกสิ่งสรรพ์<|im_end|>
<|im_start|>assistant
พาเข้าไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ ฯ จึงทูลความตามนางอ้างอาสา อวดวิชายวดยิ่งทุกสิ่งสรรพ์<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ หัสไชยไปลังกาอาสาศึก เจ้าผลึกจะใคร่ได้ไว้เป็นเขย ก็คิดเห็นเป็นบุญที่คุ้นเคย ไม่แคลงเลยแล้วจะคงเป็นวงศ์วาน หัสไชยไปลังกาอาสาศึก เจ้าผลึกจะใคร่ได้ไว้เป็นเขย ก็คิดเห็นเป็นบุญที่คุ้นเคย ไม่แคลงเลยแล้วจะคงเป็นวงศ์วาน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เจ้าผลึกจะใคร่ได้ไว้เป็นเขย ก็คิดเห็นเป็นบุญที่คุ้นเคย ไม่แคลงเลยแล้วจะคงเป็นวงศ์วาน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ บาทหลวงชมปัญญาว่าเจ้าแขก เองคิดแยกเหมือนอย่างจิตกูคิดถวิล ช่วยตรองการผลาญศัตรูกู้แผ่นดิน ประเทศถิ่นสิงหลไม่พ้นมือ บาทหลวงชมปัญญาว่าเจ้าแขก เองคิดแยกเหมือนอย่างจิตกูคิดถวิล ช่วยตรองการผลาญศัตรูกู้แผ่นดิน ประเทศถิ่นสิงหลไม่พ้นมือ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เองคิดแยกเหมือนอย่างจิตกูคิดถวิล ช่วยตรองการผลาญศัตรูกู้แผ่นดิน ประเทศถิ่นสิงหลไม่พ้นมือ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ว่าชอบปลอบชอบง้อสอพลอพลอด ถึงเง้างอดง้องอนพูดผ่อนผัน ยิ่งข่วนหยิกพลิกผละไม่ละกัน เออกระนั้นหรือจะได้ดังใจนึก ว่าชอบปลอบชอบง้อสอพลอพลอด ถึงเง้างอดง้องอนพูดผ่อนผัน ยิ่งข่วนหยิกพลิกผละไม่ละกัน เออกระนั้นหรือจะได้ดังใจนึก<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ถึงเง้างอดง้องอนพูดผ่อนผัน ยิ่งข่วนหยิกพลิกผละไม่ละกัน เออกระนั้นหรือจะได้ดังใจนึก<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 71 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จะไปยังลังกามหาสถาน จงเตรียมการสารพัดจัดปีกหาง จะบินไปให้ดื่นพื้นนภางค์ เตรียมปีกหางไว้ให้ทั่วทุกตัวคน ฯ จะไปยังลังกามหาสถาน จงเตรียมการสารพัดจัดปีกหาง จะบินไปให้ดื่นพื้นนภางค์ เตรียมปีกหางไว้ให้ทั่วทุกตัวคน ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จงเตรียมการสารพัดจัดปีกหาง จะบินไปให้ดื่นพื้นนภางค์ เตรียมปีกหางไว้ให้ทั่วทุกตัวคน ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แม่ก็รู้อยู่ว่าพี่เป็นที่รัก อย่าทุกข์หนักเนื้อละม่อมจะผอมเหลือง ไปจัดแจงแต่งงานอยู่บ้านเมือง พอปลดเปลื้องสิ้นธุระไม่ละเลย แม่ก็รู้อยู่ว่าพี่เป็นที่รัก อย่าทุกข์หนักเนื้อละม่อมจะผอมเหลือง ไปจัดแจงแต่งงานอยู่บ้านเมือง พอปลดเปลื้องสิ้นธุระไม่ละเลย<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อย่าทุกข์หนักเนื้อละม่อมจะผอมเหลือง ไปจัดแจงแต่งงานอยู่บ้านเมือง พอปลดเปลื้องสิ้นธุระไม่ละเลย<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ สินสมุทรเห็นกำปั่นฝรั่งออก แล้วตรัสบอกพวกพหลพลอาสา ให้ปล่อยปืนครื้นครั่นตามสัญญา แล่นเข้ามาใกล้กันประจัญบาน สินสมุทรเห็นกำปั่นฝรั่งออก แล้วตรัสบอกพวกพหลพลอาสา ให้ปล่อยปืนครื้นครั่นตามสัญญา แล่นเข้ามาใกล้กันประจัญบาน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
แล้วตรัสบอกพวกพหลพลอาสา ให้ปล่อยปืนครื้นครั่นตามสัญญา แล่นเข้ามาใกล้กันประจัญบาน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ อนึ่งเล่าเจ้านายที่หมายพึ่ง ให้ทราบซึ่งสุจริตพิศมัย อย่าหลงลิ้นหินชาติขาดอาไลย น้ำพระไทยทูลเกล้าให้ยาวยืน อนึ่งเล่าเจ้านายที่หมายพึ่ง ให้ทราบซึ่งสุจริตพิศมัย อย่าหลงลิ้นหินชาติขาดอาไลย น้ำพระไทยทูลเกล้าให้ยาวยืน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ให้ทราบซึ่งสุจริตพิศมัย อย่าหลงลิ้นหินชาติขาดอาไลย น้ำพระไทยทูลเกล้าให้ยาวยืน<|im_end|>
|
นิราศเจ้าฟ้า
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พอจบคำรำลึกนึกขึ้นได้ ตกพระทัยกลัวจะขาดพระศาสนา นึกประเดี๋ยวเฉียวฉุนด้วยคุณยา รักรำภาพูดแก้ที่แผลเป็น พอจบคำรำลึกนึกขึ้นได้ ตกพระทัยกลัวจะขาดพระศาสนา นึกประเดี๋ยวเฉียวฉุนด้วยคุณยา รักรำภาพูดแก้ที่แผลเป็น<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ตกพระทัยกลัวจะขาดพระศาสนา นึกประเดี๋ยวเฉียวฉุนด้วยคุณยา รักรำภาพูดแก้ที่แผลเป็น<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายนิกรมพรหเมศประจักษ์แจ้ง ทูลแถลงโดยที่สุดไม่มุสา ฉันเป็นแพทย์ตรึกตรองใช้ลองยา จะรักษาโรคให้หายวายอาวรณ์ ฯ ฝ่ายนิกรมพรหเมศประจักษ์แจ้ง ทูลแถลงโดยที่สุดไม่มุสา ฉันเป็นแพทย์ตรึกตรองใช้ลองยา จะรักษาโรคให้หายวายอาวรณ์ ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ทูลแถลงโดยที่สุดไม่มุสา ฉันเป็นแพทย์ตรึกตรองใช้ลองยา จะรักษาโรคให้หายวายอาวรณ์ ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ จะได้เสกเอกองค์นางนงลักษณ์ ให้เป็นอัคเรศร่วมเสน่หา พลางกอดจูบลูบหลังพระลูกยา พ่อแกล้วกล้าการณรงค์ทรงกำลัง จะได้เสกเอกองค์นางนงลักษณ์ ให้เป็นอัคเรศร่วมเสน่หา พลางกอดจูบลูบหลังพระลูกยา พ่อแกล้วกล้าการณรงค์ทรงกำลัง<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ให้เป็นอัคเรศร่วมเสน่หา พลางกอดจูบลูบหลังพระลูกยา พ่อแกล้วกล้าการณรงค์ทรงกำลัง<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 65 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ นางยอกรวอนไหว้ไทเทเวศ อมรเมศเมืองฟ้าทุกราศี ถ้าแม้นสิ้นบุญญาพระสามี ให้น้องนี้มอดม้วยไปด้วยกัน นางยอกรวอนไหว้ไทเทเวศ อมรเมศเมืองฟ้าทุกราศี ถ้าแม้นสิ้นบุญญาพระสามี ให้น้องนี้มอดม้วยไปด้วยกัน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อมรเมศเมืองฟ้าทุกราศี ถ้าแม้นสิ้นบุญญาพระสามี ให้น้องนี้มอดม้วยไปด้วยกัน<|im_end|>
|
สิงหไกรภพ
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ เห็นโยคีดีใจจึงไหว้กราบ สมาบาปช่วยวิบัติที่ขัดขวาง ความเจ็บปวดรวดเร้าไม่เบาบาง นางครางพลางพลิกกายฟายน้ำตา ฯ เห็นโยคีดีใจจึงไหว้กราบ สมาบาปช่วยวิบัติที่ขัดขวาง ความเจ็บปวดรวดเร้าไม่เบาบาง นางครางพลางพลิกกายฟายน้ำตา ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
สมาบาปช่วยวิบัติที่ขัดขวาง ความเจ็บปวดรวดเร้าไม่เบาบาง นางครางพลางพลิกกายฟายน้ำตา ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 67 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วเอียงไหล่ให้แลดูแผลเจ็บ ยังเมื่อยเหน็บจนกระทั่งถึงอังสา สุดสาครถอนสะอื้นกลืนน้ำตา แล้ววันทาทูลองค์นางนงคราญ แล้วเอียงไหล่ให้แลดูแผลเจ็บ ยังเมื่อยเหน็บจนกระทั่งถึงอังสา สุดสาครถอนสะอื้นกลืนน้ำตา แล้ววันทาทูลองค์นางนงคราญ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ยังเมื่อยเหน็บจนกระทั่งถึงอังสา สุดสาครถอนสะอื้นกลืนน้ำตา แล้ววันทาทูลองค์นางนงคราญ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 69 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ เจ้าผู้ชายเคียงข้างนางผู้หญิง ทำอ้อยอิ่งอ่อนคอประจ๋อประแจ๋ จนโอ้โลมแล้วเป็นไรจะไม่แท้ ถ้าพูดแก้แล้วจะใส่เสียให้เยิน ฯ เจ้าผู้ชายเคียงข้างนางผู้หญิง ทำอ้อยอิ่งอ่อนคอประจ๋อประแจ๋ จนโอ้โลมแล้วเป็นไรจะไม่แท้ ถ้าพูดแก้แล้วจะใส่เสียให้เยิน ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ทำอ้อยอิ่งอ่อนคอประจ๋อประแจ๋ จนโอ้โลมแล้วเป็นไรจะไม่แท้ ถ้าพูดแก้แล้วจะใส่เสียให้เยิน ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ หนีพระรามกลัวจะตามมารุกรบ กงกระทบเขากระจายทลายหมด ศิลาแตกแหลกลงด้วยกงรถ จึงปรากฎตั้งนามมาตามกัน หนีพระรามกลัวจะตามมารุกรบ กงกระทบเขากระจายทลายหมด ศิลาแตกแหลกลงด้วยกงรถ จึงปรากฎตั้งนามมาตามกัน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
กงกระทบเขากระจายทลายหมด ศิลาแตกแหลกลงด้วยกงรถ จึงปรากฎตั้งนามมาตามกัน<|im_end|>
|
นิราศพระบาท
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ทั้งลูกน้อยกลอยใจไปด้วยเล่า เหมือนควักเอาดวงใจน้องไปเสีย น้องร้อนรุ่มกลุ้มใจดังไฟเลีย ทูนหัวเมียช่างไม่ไว้อาลัยเลย ทั้งลูกน้อยกลอยใจไปด้วยเล่า เหมือนควักเอาดวงใจน้องไปเสีย น้องร้อนรุ่มกลุ้มใจดังไฟเลีย ทูนหัวเมียช่างไม่ไว้อาลัยเลย<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เหมือนควักเอาดวงใจน้องไปเสีย น้องร้อนรุ่มกลุ้มใจดังไฟเลีย ทูนหัวเมียช่างไม่ไว้อาลัยเลย<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ อุศเรนคั่งแค้นแสนพิโรธ แกล้งกลั้นโกรธตรัสประภาษด้วยอาจหาญ ตัวของเจ้าเยาว์ยังกำลังพาล เหมือนหนึ่งหลานลามลวนไม่ควรเลย อุศเรนคั่งแค้นแสนพิโรธ แกล้งกลั้นโกรธตรัสประภาษด้วยอาจหาญ ตัวของเจ้าเยาว์ยังกำลังพาล เหมือนหนึ่งหลานลามลวนไม่ควรเลย<|im_end|>
<|im_start|>assistant
แกล้งกลั้นโกรธตรัสประภาษด้วยอาจหาญ ตัวของเจ้าเยาว์ยังกำลังพาล เหมือนหนึ่งหลานลามลวนไม่ควรเลย<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 73 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พระฟังคำน้ำเสียงสำเนียงสนอง ช่างพร่ำพร้องไพเราะเพราะหนักหนา จึงตรัสตอบปลอบประโลมโฉมวัณฬา อย่าโกรธาเลยจะเล่าให้เข้าใจ พระฟังคำน้ำเสียงสำเนียงสนอง ช่างพร่ำพร้องไพเราะเพราะหนักหนา จึงตรัสตอบปลอบประโลมโฉมวัณฬา อย่าโกรธาเลยจะเล่าให้เข้าใจ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ช่างพร่ำพร้องไพเราะเพราะหนักหนา จึงตรัสตอบปลอบประโลมโฉมวัณฬา อย่าโกรธาเลยจะเล่าให้เข้าใจ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 70 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ฝ่ายโยธาข้าเฝ้าชาวผลึก เมื่อเกิดศึกซ่อนหนีตามวิสัย ครั้นทัพกลับลับลี้ต่างดีใจ ทั้งนายไพร่กลับมาเข้าธานี ฝ่ายโยธาข้าเฝ้าชาวผลึก เมื่อเกิดศึกซ่อนหนีตามวิสัย ครั้นทัพกลับลับลี้ต่างดีใจ ทั้งนายไพร่กลับมาเข้าธานี<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เมื่อเกิดศึกซ่อนหนีตามวิสัย ครั้นทัพกลับลับลี้ต่างดีใจ ทั้งนายไพร่กลับมาเข้าธานี<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ใส่สนอบกรอบหน้าระย้าย้อย ล้วนเพชรพลอยแพรวพรายดอกไม้ไหว แล้วเลือกสาวสันทัดที่หัดไว้ สำหรับใช้ปรนนิบัติกษัตรา ใส่สนอบกรอบหน้าระย้าย้อย ล้วนเพชรพลอยแพรวพรายดอกไม้ไหว แล้วเลือกสาวสันทัดที่หัดไว้ สำหรับใช้ปรนนิบัติกษัตรา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ล้วนเพชรพลอยแพรวพรายดอกไม้ไหว แล้วเลือกสาวสันทัดที่หัดไว้ สำหรับใช้ปรนนิบัติกษัตรา<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งโคลงสี่สุภาพจากเริ่มวรรคนี้ ถึงคุ้งโพกระก้ม กราบกราน โพอยู่บูรานนาน เนิ่นแล้ว ชื่นชุ่มพุ่มพิศดาร เดชะพระเอย ฃออย่าให้ไภยแผ้ว ผ่องพ้นกลโกง ถึงคุ้งโพกระก้ม กราบกราน โพอยู่บูรานนาน เนิ่นแล้ว ชื่นชุ่มพุ่มพิศดาร เดชะพระเอย ฃออย่าให้ไภยแผ้ว ผ่องพ้นกลโกง<|im_end|>
<|im_start|>assistant
กราบกราน โพอยู่บูรานนาน เนิ่นแล้ว ชื่นชุ่มพุ่มพิศดาร เดชะพระเอย ฃออย่าให้ไภยแผ้ว ผ่องพ้นกลโกง<|im_end|>
|
นิราศสุพรรณ
| 81 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พอพูดกันมันฟื้นยืนสลัด เชือกที่มัดหลุดโลดโดดถลา นางตีซ้ำหนำจิตด้วยฤทธิ์ตรา อุปมาเหมือนจะดิ้นสิ้นชีวิต พอพูดกันมันฟื้นยืนสลัด เชือกที่มัดหลุดโลดโดดถลา นางตีซ้ำหนำจิตด้วยฤทธิ์ตรา อุปมาเหมือนจะดิ้นสิ้นชีวิต<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เชือกที่มัดหลุดโลดโดดถลา นางตีซ้ำหนำจิตด้วยฤทธิ์ตรา อุปมาเหมือนจะดิ้นสิ้นชีวิต<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ได้สิทธิ์ขาดราชการด่านสมุทร เป็นสุขสุดสมคะเนอยู่เคหา มีเมียสาวราวยี่สิบล้วนโสภา ที่หมดหน้านั้นให้หัดมโหรี ได้สิทธิ์ขาดราชการด่านสมุทร เป็นสุขสุดสมคะเนอยู่เคหา มีเมียสาวราวยี่สิบล้วนโสภา ที่หมดหน้านั้นให้หัดมโหรี<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เป็นสุขสุดสมคะเนอยู่เคหา มีเมียสาวราวยี่สิบล้วนโสภา ที่หมดหน้านั้นให้หัดมโหรี<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ก็ไม่ได้พาราอย่าเป็นทุกข์ ไม่บุกรุกได้ดอกหนาอย่าฉงน แต่ระวังฟืนไฟในมณฑล เรือนไพร่พลจากคาอย่าให้มี ก็ไม่ได้พาราอย่าเป็นทุกข์ ไม่บุกรุกได้ดอกหนาอย่าฉงน แต่ระวังฟืนไฟในมณฑล เรือนไพร่พลจากคาอย่าให้มี<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ไม่บุกรุกได้ดอกหนาอย่าฉงน แต่ระวังฟืนไฟในมณฑล เรือนไพร่พลจากคาอย่าให้มี<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 61 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ด้วยมิ่งมิตรคิดขัดตัดสวาท ต้องนิราศว้าเหว่ระเหระหน เพราะเขาไม่กรุณาเข้าตาจน ดูเหมือนคนดื้อด้านรำคาญใจ ด้วยมิ่งมิตรคิดขัดตัดสวาท ต้องนิราศว้าเหว่ระเหระหน เพราะเขาไม่กรุณาเข้าตาจน ดูเหมือนคนดื้อด้านรำคาญใจ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ต้องนิราศว้าเหว่ระเหระหน เพราะเขาไม่กรุณาเข้าตาจน ดูเหมือนคนดื้อด้านรำคาญใจ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ว่าคุ้งน่าท่าเสือข้ามกระแส พี่แลแลหาเสือไม่เห็นเสือ ถ้ามีจริงก็จะวิ่งลงจากเรือ อุทิศเนื้อให้เปนภักษ์พยัคฆา ว่าคุ้งน่าท่าเสือข้ามกระแส พี่แลแลหาเสือไม่เห็นเสือ ถ้ามีจริงก็จะวิ่งลงจากเรือ อุทิศเนื้อให้เปนภักษ์พยัคฆา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
พี่แลแลหาเสือไม่เห็นเสือ ถ้ามีจริงก็จะวิ่งลงจากเรือ อุทิศเนื้อให้เปนภักษ์พยัคฆา<|im_end|>
|
นิราศพระบาท
| 64 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ก็แจ้งเหตุหนหลังสิ้นทั้งหลาย นางมีกรรมจำเพาะคราวเคราะห์ร้าย ต้องพลัดพรายเพราะโทโสกับโลกีย์ ก็แจ้งเหตุหนหลังสิ้นทั้งหลาย นางมีกรรมจำเพาะคราวเคราะห์ร้าย ต้องพลัดพรายเพราะโทโสกับโลกีย์<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ก็แจ้งเหตุหนหลังสิ้นทั้งหลาย นางมีกรรมจำเพาะคราวเคราะห์ร้าย ต้องพลัดพรายเพราะโทโสกับโลกีย์<|im_end|>
|
สิงหไกรภพ
| 52 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วแกเชิญท้าวไทไปกำปั่น ลำเดียวกันตื้นลึกได้ปรึกษา เหมือนชูช่วยปลูกฝังมังคลา จะได้ผาสุกสบายเมื่อปลายมือ ฯ แล้วแกเชิญท้าวไทไปกำปั่น ลำเดียวกันตื้นลึกได้ปรึกษา เหมือนชูช่วยปลูกฝังมังคลา จะได้ผาสุกสบายเมื่อปลายมือ ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ลำเดียวกันตื้นลึกได้ปรึกษา เหมือนชูช่วยปลูกฝังมังคลา จะได้ผาสุกสบายเมื่อปลายมือ ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 62 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ เขาทำถูกหยูกยานิจจาเอ๋ย จึงหลงเลยลืมอารมณ์ดั่งลมหวน จะหิวหอบบอบช้ำประช่ำประชวร น้องใคร่ครวญให้สงสารรำคาญแทน ฯ เขาทำถูกหยูกยานิจจาเอ๋ย จึงหลงเลยลืมอารมณ์ดั่งลมหวน จะหิวหอบบอบช้ำประช่ำประชวร น้องใคร่ครวญให้สงสารรำคาญแทน ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จึงหลงเลยลืมอารมณ์ดั่งลมหวน จะหิวหอบบอบช้ำประช่ำประชวร น้องใคร่ครวญให้สงสารรำคาญแทน ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 76 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ศรีสุวรรณว่าไม่พอใจเกี้ยว แต่มาเที่ยวซื่อซื่อยังอื้อฉาว ถ้าเกี้ยวจริงยิ่งจะมีราคีคาว เหมือนเรื่องราวบุราณร่ำคำภิปราย ศรีสุวรรณว่าไม่พอใจเกี้ยว แต่มาเที่ยวซื่อซื่อยังอื้อฉาว ถ้าเกี้ยวจริงยิ่งจะมีราคีคาว เหมือนเรื่องราวบุราณร่ำคำภิปราย<|im_end|>
<|im_start|>assistant
แต่มาเที่ยวซื่อซื่อยังอื้อฉาว ถ้าเกี้ยวจริงยิ่งจะมีราคีคาว เหมือนเรื่องราวบุราณร่ำคำภิปราย<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ กรุงกษัตริย์ตรัสเล่าถึงเจ้าพราหมณ์ ที่ทูลความเกี่ยวข้องต้องประสงค์ เห็นท่วงทีศรีสุวรรณนั้นจำนง ในโฉมยงยุพเรศเกษรา กรุงกษัตริย์ตรัสเล่าถึงเจ้าพราหมณ์ ที่ทูลความเกี่ยวข้องต้องประสงค์ เห็นท่วงทีศรีสุวรรณนั้นจำนง ในโฉมยงยุพเรศเกษรา<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ที่ทูลความเกี่ยวข้องต้องประสงค์ เห็นท่วงทีศรีสุวรรณนั้นจำนง ในโฉมยงยุพเรศเกษรา<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วถอดหมวกพวกฝรั่งต่างคำนับ เป็นลำดับน้อมประณตบทศรี ขอเป็นข้ากว่าจะตายวายชีวี พระเปรมปรีดิ์ปราศรัยทั้งไพร่นาย แล้วถอดหมวกพวกฝรั่งต่างคำนับ เป็นลำดับน้อมประณตบทศรี ขอเป็นข้ากว่าจะตายวายชีวี พระเปรมปรีดิ์ปราศรัยทั้งไพร่นาย<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เป็นลำดับน้อมประณตบทศรี ขอเป็นข้ากว่าจะตายวายชีวี พระเปรมปรีดิ์ปราศรัยทั้งไพร่นาย<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พวกเรือใช้ได้ความตามนุสนธิ์ ก็เร่งคนกลับมายังฝั่งสิงขร เอาความแจ้งแก่ขุนด่านชานนคร ตามสุนทรรีบเอาคำนำไปเรียน พวกเรือใช้ได้ความตามนุสนธิ์ ก็เร่งคนกลับมายังฝั่งสิงขร เอาความแจ้งแก่ขุนด่านชานนคร ตามสุนทรรีบเอาคำนำไปเรียน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ก็เร่งคนกลับมายังฝั่งสิงขร เอาความแจ้งแก่ขุนด่านชานนคร ตามสุนทรรีบเอาคำนำไปเรียน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ ขอผ่านเกล้าเป่าปี่ขึ้นที่ทัพ ให้คนหลับสิ้นสมอารมณ์หวัง จะอาสาพาไปเข้าในวัง ตามไปลังกาอยู่เป็นคู่ครอง ฯ ขอผ่านเกล้าเป่าปี่ขึ้นที่ทัพ ให้คนหลับสิ้นสมอารมณ์หวัง จะอาสาพาไปเข้าในวัง ตามไปลังกาอยู่เป็นคู่ครอง ฯ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
ให้คนหลับสิ้นสมอารมณ์หวัง จะอาสาพาไปเข้าในวัง ตามไปลังกาอยู่เป็นคู่ครอง ฯ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 60 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ เจ้าชักนำสำนวนควรจะเชื่อ เห็นดีเหลือจริงแล้วมิตรกนิษฐา เจ้ารีบไปบอกกล่าวท้าวพ่อตา แจ้งกิจจาว่าเราเจ็บเป็นเหน็บเย็น เจ้าชักนำสำนวนควรจะเชื่อ เห็นดีเหลือจริงแล้วมิตรกนิษฐา เจ้ารีบไปบอกกล่าวท้าวพ่อตา แจ้งกิจจาว่าเราเจ็บเป็นเหน็บเย็น<|im_end|>
<|im_start|>assistant
เห็นดีเหลือจริงแล้วมิตรกนิษฐา เจ้ารีบไปบอกกล่าวท้าวพ่อตา แจ้งกิจจาว่าเราเจ็บเป็นเหน็บเย็น<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 63 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ แล้วผูกหุ่นนับหมื่นยืนไสว อยู่ที่ในเมืองด่านชานวิถี แล้วปลุกเสกหุ่นมนต์พยนต์ดี ได้ท่วงทีจะได้รบสมทบกัน แล้วผูกหุ่นนับหมื่นยืนไสว อยู่ที่ในเมืองด่านชานวิถี แล้วปลุกเสกหุ่นมนต์พยนต์ดี ได้ท่วงทีจะได้รบสมทบกัน<|im_end|>
<|im_start|>assistant
อยู่ที่ในเมืองด่านชานวิถี แล้วปลุกเสกหุ่นมนต์พยนต์ดี ได้ท่วงทีจะได้รบสมทบกัน<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 66 |
<|im_start|>user
แต่งกลอนแปดจากวรรคนี้ พระฟังนางทางว่าถ้าเช่นนั้น จะผ่อนผันสัญญาให้มารศรี แม้อิงแอบแนบถนอมยอมโดยดี เว้นแต่ที่ห้ามปรามจะตามใจ พระฟังนางทางว่าถ้าเช่นนั้น จะผ่อนผันสัญญาให้มารศรี แม้อิงแอบแนบถนอมยอมโดยดี เว้นแต่ที่ห้ามปรามจะตามใจ<|im_end|>
<|im_start|>assistant
จะผ่อนผันสัญญาให้มารศรี แม้อิงแอบแนบถนอมยอมโดยดี เว้นแต่ที่ห้ามปรามจะตามใจ<|im_end|>
|
พระอภัยมณี
| 63 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.