File size: 3,669 Bytes
6bd72a3
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
Book,Page,LineNumber,Text
12,0016,001,ฆ.  ตอนที่เรียกว่า พากย์  ในพากย์ทั้ง ๓  ที่ยกมาตัดนั้น  แท้จริง
12,0016,002,ก็เป็นตอนหนึ่งของพากย์  (พากยาค์) แต่เป็นตอนที่สุดของพากย์
12,0016,003,ท่านใช้กิริยาคุมพากย์  จึงเรียกว่าพากย์. 
12,0016,004,ทางแห่งการศึกษาวากย สัมพันธ์  
12,0016,005,<B>(๑๔๙)  การศึกษาวิธีประกอบคำพูดเข้าเป็นพากย์ มี ๒ ทางคือ
12,0016,006,กำหนดพากย์ที่เรียงไว้แล้วให้รู้ว่าบทไหนเข้ากับบทไหน  ซึ่งเรียกว่า
12,0016,007,สัมพันธ์ทาง ๑. เรียงผูกคำพูดให้เป็นพากย์เองให้ต้องตามแบบอย่าง
12,0016,008,ทาง ๑. ใน ๒ ทางนั้น  ควรเรียนทรงสัมพันธ์  ให้เห็นเป็นตัวอย่าง
12,0016,009,ไว้ก่อนแล้ว  จึงเรียนแต่งเอง  เช่นนี้  การศึกษาจะได้สะดอกดี ก่อน
12,0016,010,แต่เรียนสัมพันธ์  ควรรู้จักแบบสัมพันธ์ไว้ก่อน.</B>
12,0016,011,<B>อธิบาย:</B>  [ ๑ ] การศึกษาวากยสัมพันธ์มี  ๒ ทาง  คือเรียน
12,0016,012,สัมพันธ์ ๑ เรียนผูกคำพูดให้เป็นพากย์เองให้ต้องตามแบบอย่าง  คือ
12,0016,013,เรียนแต่ภาษาบาลี  ๑. ทางที่ ๒ เป็นการศึกษาวายกสัมพันธ์โดยตรง.
12,0016,014,ส่วนทางที่ ๑ เป็นอุปกรณ์เครื่องสนับสนุน  เพราะเมื่อเรียนรู้สัมพันธ์
12,0016,015,แล้ว  ในเวลาแต่หนังสือ  ย่อมเรียงเข้าได้ถูกต้อง. ส่วนในการแปล
12,0016,016,หนังสือจำเรียนสัมพันธ์แท้  มิฉะนั้นจะไม่รู้ว่าบทไหนเนื่องหรือเข้า
12,0016,017,กับบทไหน  เมื่อไม่รู้  ก็จับความไม่ได้  แปลไม่ถูก.  ทั้งนี้เพราะ
12,0016,018,ภาษาบาลีมีวิธีเรียงคำพูดต่างภาษาไทย.
12,0016,019,[ ๒]  ในภาษาไทย  เรียงคำพูดที่  ๑-๒ ไปตามความ  จึงไม่สู้ 
12,0016,020,เห็นความสำคัญของสัมพันธ์. ส่วนภาษาบาลีไม่เรียงอย่างนั้น  แต่
12,0016,021,เรียงวิธีวากยสัมพันธ์อีกส่วนหนึ่ง. ถ้าจะแปลคำที่  ๑-๒ ตามลำดับ