Datasets:

PahnKCN

/

mental_health_thai

like 1

ตอนนี้หนูอายุ13ปีและหนูเป็นนางรำของร.ร.แต่หนูรำไม่สวยเท่าทุกคนในนางรำทั้งหมดพอถึงเวลามีงานหนูก็ไม่มีใครที่จะเข้าหาหนูเลยต้องเข้าไปนั่งใกล้ๆด้วยตลอดล่าสุดตอนปิดเทอมตอนใกล้เปิดมีงานหนูก็ต้องไปรำแต่คราวนี้มันหนักกว่าทุกคั้งเพราะครั้งนี้หนูจำท่าไม่ได้เลยทุกคนเขาซ้อมกันแปปเดียวก็ได้แล้วมีแค่หนูคนเดียวทำให้หนูรู้สึกตัวเองเป็นตัวถ่วงและทั้งกดดันตัวเองมากๆทำให้ต้องร้องไห้ออกมาและหนูก็ทักไปหาแม่ว่ามีเรื่องจะบอกคือเรื่องนี้นี่แหละค่ะคิดทีไรก็จะร้องไห้ออกมาให้ได้ตอนนั้นพอเห็นรูปแม่ในโทรศัพเพราะคิดว่าแม่ต้องเข้าใจพอกลับบ้านมาหนูเล่าให้แม่ฟังแต่แม่กลับไม่เปิดใจกับสิ่งที่หนูพูดทำให้หนูรู้สึกไม่มีที่พึ่งพอตอนกลางคืนแม่มานอนด้วยยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวก็มีแต่ตุ๊กตาที่กอดมาตั้งแต่เด็กๆก็คิดว่ามันน่าจะเข้าใจเราดีที่สุดแล้ว ส่วนตัวเป็นคนนอนหลับยากจนคืนนั้นก็นอนไม่หลับก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แล้วไปนั่งคิดอยู่นานว่าจะทำไงกับชีวิตตอนนี้ดีแล้วก็อกจากห้องน้ำไปนั่งที่หน้าต่างนอกห้องดูท้องฟ้าแล้วคิดอยากทำร้ายตัวเองแล้วคิดว่าถ้าตายก็คงจะดีแล้วหนูก็ทำร้ายตัวเองจิงๆ เวลาผ่านไปแปปนึงแม่หนูหาหนูไม่เจอเพราะตรงที่หนูนั่งมันมืดจนต้องเรียกพ่อหนูมาช่วยหาจนพ่อหนุเห็นหนูนั่งที่หน้าต่าง แล้วพ่อหนุก็บอกว่านั่นแหละทั้งวันนั่งเล่นแต่คอมไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่วันนั้นหนูเครียดมากคอมแทบไม่ได้เล่น ตอนนั้นหนูเสียใจมากแต่ก็ต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วเดินเข้าไปนอนสุดท้ายก็ต้องนอนร้องกับตุ๊กตาที่นอนกอดด้วยทุกคน ตอนนั้นทำให้คิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวบนโลกนี้ หนูคิดมาตลอดก่อนเกิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า? ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ ฟังจากเหตุการณ์และความคิดของ น่าจะมีความเครียดและความกดดันอยู่พอสมควรนะคะ จะขออธิบายคร่าวๆอย่างนี้ค่ะภาวะซึมเศร้าคือการที่มีความรู้สึกเศร้า เครียดจากเรื่องต่างๆในชีวิตไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องส่วนตัว เรื่องในครอบครัว หรือการทำงาน ทำให้มีความรู้สึกไม่อยากจะทำอะไร ไม่อยากเข้าสังคม มองตัวเองในแง่ร้าย มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งภาวะซึมเศร้าจริงๆแล้วเป็นภาวะที่เกิดได้กับคนทั่วไปในสภาวะที่ต้องเผชิญกับความเครียด ความกดดันแต่อย่างไรก็ตามถ้าภาวะดังกล่าวเป็นนานติดต่อกันเกิน 2 อาทิตย์ อาจจะจัดเป็นโรคซึมเศร้า อาจมีอาการเบื่ออาหาร หรือในบางรายก็จะไปรับประทานทานอาหารมากขึ้น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอนน้อยหรือนอนมากกว่าปกติ และเก็บตัวมากจนไม่ออกไปทำงาน ไม่ออกไปเข้าสังคม ซึ่งมีความจำเป็นต้องพบจิตแพทย์ค่ะเพราะโรคทางจิตก็เหมือนโรคทางกาย ถ้าปล่อยไว้จะลุกลามและรุนแรงทำให้รักษายาก การรักษาจิตแพทย์จะทำการพูดคุยประเมินเบื้องต้นก่อน อาจมีการทำจิตบำบัดหรือการให้ยาต้านเศร้า ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่ในระยะยาวก็คงต้องอาศัยความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับปัญหาของเราเป็นหลักค่ะไม่มีความจำเป็นต้องเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นนะคะ ถ้ารู้สึกว่ารำแล้วไม่มีความสุข ก็ลองหากิจกรรมอื่นทำดูค่ะ ที่มีเพื่อนให้เราแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ ไม่ทำให้เรารู้สึกแย่ แต่ถ้ายังชอบรำอยู่ ก็ทำต่อไปให้ดีที่สุดค่ะ จริงๆแล้วบางครั้งอาจเป็นการมองโลกของเราเองที่ทำให้เรารู้สึกแย่ พยายามให้เต็มที่ ผลจะออกมาเป็นยังไงก็คงต้องยอมรับค่ะการดูแลตัวเองเบื้องต้น พูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่เราไว้ใจได้เพื่อระบายความทุกข์ ไม่เก็บตัวอยู่คนเดียว พยายามหากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องเศร้า และไม่ต้องกลัวหรืออายที่จะไปพบจิตแพทย์นะคะ

ตามต้นหัวข้อเลยค่ะ เราเป็นคนที่คิดมากอยู่แล้ว โดยมักจะชอบโดนกดดันจากรอบข้างในเรื่องการเรียนบ่อยๆ จนเราแทบจะเรียนไม่ได้เลย วิชาที่ไม่ถนัดต้องนั่งร้องไห้ในคาบตลอด เวลาร้องไห้ชอบดึงผมตัวเอง หยิก หรือไม่ก็ฉีก ขีดสมุดค่ะ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือการร้องไห้ของตนได้ด้วย ถือว่ามีอาการทางจิตไหมคะ ?

สวัสดีค่ะ อาการร้องไห้ง่ายขึ้น มีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้นั้น อาจจะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ณ ขณะที่มีปัญหา หรือเป็นภาวะซึมเศร้า โรคซึมเศร้า ความผิดปกติในการควบคุมอารมณ์ซึ่งถ้ามีอาการเป็นมากจนรบกวนการใช้ชีวิต เช่นการเรียน การทำงาน ร่วมกับทำให้มีพฤติกรรมการทำร้ายตนเอง พฤติกรรมการกินและการนอนที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย อาจจะเข้าข่ายในกลุ่มโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน ซึ่งอาจมีภาวะหดหู่ ทำอะไรที่เคยชอบทำก็ไม่สนุกด้วย แนะนำการไปพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพจิตเพิ่มเติม หากมีปัญหาใดๆก็ควรได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป เบื้องต้นพยายามทำสิ่งที่ชอบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ใช้เวลากับเพื่อนหรือคนในครอบครัวให้มากขึ้น พูดคุยระบายความรู้สึกออกมาบ้างหรือจะเขียนระบายก็ได้เช่นกัน

สวัสดีค่ะ ช่วงเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ หนูรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังกับทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกกดดันอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่บ้านและโรงเรียน หนูไม่เคยบอกความรู้สึกกับใคร เหมือนอยู่ตัวคนเดียว รู้สึกกลัวกับทุกอย่าง เวลาอยู่คนเดียวแล้วมันรู้สึกเหงา คิดเรื่องต่างๆนาๆ ร้องให้ออกมาทุกครั้ง มีวันหนึ่งหนูทนไม่ไหวเลยเล่าให้เพื่อนคนหนึ่งฟังและร้องให้ออกมาหนักมาก แต่มันก็ไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา หนูลองทำแบบทดสอบแล้วได้ 14 อาการแบบนี้เข้าข่ายโรคซึมเศร้าไหมค่ะ#รบกวนด้วยน่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ จากที่เล่ามา คิดว่า มีภาวะทางอารมณ์ไม่ปกติ อาจมีภาวะเครียด หรืออาจมีภาวะโรคซึมเศร้าค่ะผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะมีอาการที่เปลี่ยนแปลงทั้งอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ความจำ ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป และอาการแสดงทางร่างกายต่างๆ โดยอาการอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นสัปดาห์ หรือค่อยเป็นค่อยไปเป็นก็ได้-อาการทางอารมณ์ เช่น เศร้า หดหู่ อ่อนไหว บางคนอาจมีความรู้สึกไม่แจ่มใส เบื่อหน่าย บางคนมีอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียวได้-ความรู้สึกนึกคิด เช่น มองอะไรแย่หมด ท้อแท้หมดหวัง รู้สึกไร้ค่า ไร้ความสามารถ บางคนอาจมีอารมณ์ชั่ววูบอยากทำร้ายตนเอง-สมาธิความจำแย่ลง-ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป อาจจะเก็บตัว ไม่ค่อยพูด ทำงานแย่ลง-อาการแสดงทางร่างกาย เช่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง นอบหลับๆตื่นๆ ไม่เจริญอาหาร น้ำหนักลด ท้องผูก ท้องอืด ปวดหัว ปวดตามตัว*คนไข้หากมีอาการมากขึ้น อาจมีอาการหลงผิด ประสาทหลอน หูแว่วได้*โรคซึมเศร้านี้ยังมีลักษณะอาการคล้ายโรคอื่นอีก เช่น โรควิตกกังวล โรคอารมณ์แปรปรวน โรคสมองอักเสบ โรคไทรอยด์ทำงานบกพร่อง เป็นต้น-การรักษา: ในรายที่เป็นมาก แพทย์จะให้ยาช่วย แต่บางรายที่เป็นไม่มากแพทย์อาจจะพูดคุยให้คำแนะนำเพื่อให้อาการดีขึ้นดังนั้นจึงแนะนำให้ ควรเล่าถึงภาวะทางอารมณ์ให้คนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวฟังเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลายและช่วยแก้ไขปัญหานะคะและแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

สวัสดีค่ะ หนูอายุ19 เวลากดท้องข้างขวาเเล้วมันเเข็งๆ เเต่ข้างซ้ายก็ปกติค่ะไม่ได้เเข็ง มันปกติไมคะ หนูไม่ได้รู้สึกปวดท้องอะไรนะคะ มีท้องอืดบ้าง หนูเลยกังวลว่าจะเกี่ยวกับตับหรืออะไรรึป่าวคะ

สวัสดีค่ะ หากคลำได้แข็งๆ ที่ท้องด้านขวาบน อาจเกิดจากการมีตับโตได้ แต่หากมีภาวะตับโต ก็จะต้องมีอาการต่างๆ ตามสาเหตุ เช่น หากมีก้อนเนื้องอกหรือมะเร็งในตับ ก็จะต้องมีอาการปวดท้องเรื้อรัง ตัวเหลือง ตาเหลือง เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นต้น หรือหากเกิดจากการมีตับอักเสบจากสาเหตุต่างๆ ก็มักจะมีอาการปวดท้อง มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง เป็นต้นหรือหากคลำได้แข็งๆ ที่ช่องท้องด้านขวาล่าง ก็อาจเกิดจากมีเนื้องอกที่รังไข่กรือปีกมดลูก แต่ก็มักจะมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยดังนั้น หากไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไรในช่องท้อง เช่น ปวดท้อง ท้องโตขึ้น การถ่ายอุจจาระผิดปกติ เช่น ท้องเสียเรื้อรัง ถ่ายเป็นมูกเลือด ท้องผูกสลับท้องเสีย เป็นต้น รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง เบื่ออาหาร มีน้ำหนักลด ประจำเดือนมาผิดปกติ เป็นต้น ก็ไม่ได้มีโรคอะไรอยู่ค่ะดังนั้น การกดแล้วท้องแข็งๆ อาจเกิดจากมีลมในลำไส้ ซึ่งก็ทำให้เกิดอาการท้องอืดค่ะ ดังนั้น ควรลดปัจจัยต่างๆ ที่อาจทำให้ท้องอืด เช่น ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารมากเกินไป ไม่ทานเนื้อสัตว์ในปริมาณมากไป ไม่ทานอาหารที่รสจัด ไม่ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมอัดแก๊สต่างๆ รวมถึงแอลกอฮอล์ เป็นต้นหากไม่แน่ใจว่าคลำได้ก้อนในท้องหรือไม่ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ

เวลายืนหรือนั่งแล้วกดตรงบริเวณท้องส่วนบนด้านซ้ายเหนือสะดือ(เฉียงมาด้านซ้ายสัก1นิ้ว)จะรู้สึกเจ็บ แต่กดบรเวณอื่นไม่รู้สึกอะไรนะคะ รู้สึกเจ็บบริเวณที่บอกนี้ตำแหน่งเดียว (ถ้าไม่ไปกดก็ไม่เจ็บ) สังเกตุว่าถ้านอนราบแล้วกดตรงตำแหน่งเดิมจะแทบไม่รู้สึกอะไรเลย (ไม่เจ็บ) เป็นอาการแบบนี้มาสักปีกว่าแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตอย่างไรแต่กังวลว่าจะเป็นอาการนำของเนื้องอกหรืออะไรหรือเปล่าน่ะค่ะ มีคำแนะนำมั๊ยคะว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างหรือควรทำอย่างไรดีคะ

สวัสดีค่ะ อาการเจ็บหน้าท้องด้านบนซ้าย อาจเกิดจาก-กล้ามเนื้อหน้าท้องอักเสบ มีจุดกดเจ็บชัดเจน สัมพันธ์กับท่าทาง-ลำไส้อักเสบ ทำให้ปวดท้องบิด ถ่ายเหลว-กระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือกรวยไตอักเสบจะมีอาการ ปัสสาวะแสบขัด มีไข้สูง หนาวสั่น-มีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ จะมีอาการปัสสาวะแสบขัดและปนเลือดหากเป็นมาเรื้อรัง ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ มีเลือดออกจากช่องคลอด ปัสสาวะแสบขัด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆที่เป็นไปได้ดังกล่าวไป ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมการดูแลตัวเองเบื้องต้น พักผ่อน งดยกของหนัก รับประทานอาหารอ่อนๆและสุกสะอาด ดื่มน้ำมากๆ รับประทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการปวด

อาการของดิฉันคือเหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม มีอาการหัวใจเต้นเร็วทำให้เหนื่อย ไปหามา3-4รอบ รอบแรกบอกเป็นโรคเครียด รอบที่2บอกตัวเองกินชากาแฟไป คิดว่าจะเป็นเพราะคาเฟอีน รอบที่3เหมือนกันค่ะ ตรวจเลือดหาไทรรอย ปกติค่ะ บอกน่าจะเป็นเพราะกาแฟ แต่รอบสุดท้ายดิฉัน เลิกกินกาแฟ แต่ยังเป็น บอกรอบนี้เป็นกรดไหลย้อน ฉีดยาให้ และให้ยามาทานค่ะ สงสัยว่าตัวเองจะเป็นโรคหัวใจรึปล่าวคะ แต่ตรวจคลื่นหัวใจก็ปกติ แต่ตอนมีอาการ หัวใจเต้นไปถึง140-150 รู้สึกแย่มากค่ะ ไม่รู้ว่าโรคที่เป็นอยู่คืออะไร เพราะเกิดขึ้นบ่อย มีผลต่อการทำงานและการดำรงชีวิตมากค่ะ เดือนนี้เป็น2ครั้งแล้วค่ะ อยากทราบว่ากรดไหลย้อน ทำให้หัวใจเต้นเร็วแบบนี้หรอค่ะ เพราะที่เป็นอยู่ มันทรมานมากค่ะ อยากเต้นเร็วก็เต้นจนเสื้อกระตุก แต่พอบางทีก็เต้นช้า จนเหมือนใจจะขาด กรดไหลย้อนมีอาการแบบนี้หรอค่ะ

สวัสดีค่ะอาการใจสั่นหรือรู้สึกหัวใจเต้นเร็วเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ การออกกำลังกายอย่างหนัก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การรับประทานยาบางชนิด อาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน การสูบบุหรี่ การเปลียนแปลงของอารมณ์จิตใจ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการเครียด วิตกกังวล หรืออาการของไทรอยด์เป็นพิษ ทั้งหมดล้วนทำให้ร่างกายเกิดอาการใจสั่นได้ นอกจากนี้อัตราการเต้นของหัวใจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และขึ้นกับสภาวะร่างกายและจิตใจ น้ำหนัก อุณหภูมิ รวมถึงท่าทางในขณะต่าง ๆ ด้วยค่ะส่วนกรดไหลย้อน มักปวดแสบปวดร้อนบริเวณอก จุกเสียดแน่นท้อง เรอเปรี้ยวบ่อย และอาจมีอาการรู้สึกใจสั่นได้ในบางคนค่ะแนะนำว่า ควรปรึกษาแพทย์อีกครั้ง เพื่อรับการตรวจร่างกาย และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่น แล้วจึงให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ

สวัสดีค่ะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหนูเป็นไข้ อยากจะอาเจียน เป็นประมาณ2-3 วันไข้ก็หายไปแล้วอีก3วันกลับมาไข้อีก แต่คราวนี้ไม่สามารถกลืนอาหารได้ ไปหาที่ รพ.คุณบอกไม่มีไข้ และน่าจะเกิดจากกระเพราะเป็นแผล หรือกรดไหลย้อน ให้ยา MIRACID และยาขับลมมา อาการไม่ดีขึ้นใน 1 อาทิตย์ แต่ไม่รู้สึกเป็นไข้ เลยมาหาอีก รพ.หนึ่ง ว่าเป็นอาการกรดไหลย้อน ตรวจคอแล้วไม่มีก้อนหรือแดงผิดปกติ แล้วหลังจากนั้นก็ยังกินได้น้อยแต่ขับถ่ายปกติไม่มีไข้แต่หลังจากนั้น มีไข้ช่วงอาทิตย์ที่แล้ว ปวดหัว หนาวสั่น และอ้วก เป็นแาหารสักพักเป็นน้ำสีเขียวไปหา บอกอาหารไม่ย่อย จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสามารถกินอาหารได้ปกติ กินเยอะ จนวันพุธ พฤ ศ มีไข้แล้วถ่ายท้องเสีย หลังจากที่กินเสร็จ เป็นอาการท้องเสีย+ไข้มาได้ 3 วันแล้วค่ะ แต่ทานอาหารได้ปกติ ไม่ค่อยมีอาการปวดท้อง ถ้าปวดจะแปปตรงไหนตรงนี้ของร่างกายในเวลาแปปเดียว อยากจะสอบถามคุณว่าหนูเป็นอะไรร้ายแรงหรือป่าวคะ มีอาการปวดต้นคอบ่า อาการไข้ ถ่ายไม่ปกติ ปวดหัว หนาวสั่น จะไม่เป็นตลอด แต่เป็นมาตรงอาทิตย์ละครั้งเวลาที่เครียด แต่เสาร์อาทิตย์จะไม่เป็นค่าา ขอบค่ะ

สวัสดีค่ะกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่เกิดจากกรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารเนื่องจากหูรูดบริเวณกระเพาะกับหลอดอาหารหลวม มักมีอาการไอ กลืนลำบาก แน่นอก จุกแน่นลิ้นปี่ แสบร้อนกลางอก เจ็บคอ คลื่นไส้ อาเจียน อาจแสดงอาการคล้ายคนเป็นหอบหืดได้ การรักษาคือการรับประทานยาลดกรด และปรับพฤติกรรมเช่นไม่กินแล้วนอนทันที หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้มีอาการมากขึ้นโดยอาการดังกล่าวมานั้นเรื่องไข้และท้องเสีย อาจเกิดจากอาหารเป็นพิษ หากเป็นเฉียบพลัน มีลำไส้อักเสบ หรือลำไส้แปรปรวนได้ ส่วนกรดไหลย้อนจริงๆแล้วไม่ค่อยทำให้มีเรื่องของท้องเสียค่ะ แต่ก็ขึ้นกับว่าอาการที่ไปพบแพทย์วันนั้นๆและผลจากการตรวจร่างกายด้วยหากกินได้น้อยมาก อาเจียนเยอะ จนดื่มน้ำตามไม่ทัน อ่อนเพลีย ไข้สูง ปวดท้องมาก อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดเพิ่มเติม หากมีการติดเชื้อรุนแรงจำเป็นต้องได้ยาฆ่าเชื้อและสารน้ำในรพ.การดูแลตัวเองเบื้องต้น ดื่มน้ำมากๆ จิบน้ำผสมเกลือแร่ ไม่ควรกินยาให้หยุดถ่ายเพราะในภาวะอาหารเป็นพิษควรให้มีการถ่ายหรืออาเจียนออกมาให้หมดจะดีกว่า รับประทานยาแก้คลื่นไส้ ยาลดไข้ได้ รับประทานอาหารอ่อนและสุกสะอาด

สวัสดีค่ะ หนูกระดูกขาหักสองท่อนบริเวณหน้าเเข้งเเละน่อง ผ่าตัดดามเหล็กไว้ให้ได้ประมาณเดือนกว่าเเล้วค่ะ อยากถามว่าถ้าเหล็กเคลื่อนหรือว่าเหล็กงอ เราจะรู้สึกมั้ยค่ะ เราจะปวดมากมั้ยค่ะ เเล้วถ้าเหล็กมีปัญหาเราจะรู้สึกมั้ยค่ะ กลัวมากค่ะเพราะตอนไปเข้าห้องน้ำเกิดลื่นนิดหน่อย เเล้วเอาขาข้างเจ็บตรงส้นเท้าเหยียบพื้น ตอนเเรกปวดค่ะเเต่ตอนนี้เบาปวดเเล้ว เเต่รู้สึกช้ำๆนิดหน่อย กังวลมากค่ะ กลัวกระดูกเคลื่อนเเล้วต้องผ่าใหม่อีกรอบ

1 ถ้าเหล็กขยับหรือเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมจะไปกดกล้ามเนื้อทำให้ปวดมากครับ2.ถ้าเหล็กเคลื่อนเล็กน้อยจะไม่ค่อยรู้สึก แต่ถ้าหักหรือ หลุดออกจะรู้สึกได้ทันทีครับคำแนะนำ ควรกลับไปปรึกษาแพทย์ผู้ผ่าตัดเพื่อตรวจโดยการถ่ายเอกซ์เรย์ใหม่ ก็จะรู้ว่ากระดูกที่ดามเหล็กไว้มีปัญหาหรือไม่

วันนี้ยายเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนล้มค่ะ เอกซเรยเเละให้รอดูอาการค่ะว่ากระดูกคอร้าวหรือหัก..แต่ถามยายยายว่าชาแขนขาใม่รู้สึกค่ะอยากจะทราบว่ายายจะหายเป็นปกติใหมค่ะกังวลมากค่ะตอนนี้

สวัสดีค่ะ กระดูกคอหักนั้นอาจทำให้เส้นประสาทที่อยู่รอบๆได้รับบาดเจ็บร่วมไปด้วยได้ ซึ่งอาจทำให้พบอาการปวดคอ หลัง หรือส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ เหน็บชา กล้ามเนื้อเกร็งตัว อ่อนแรง สูญเสียการควบคุมการขับถ่าย ไปจนถึงอัมพาต ซึ่งบ่งบอกถึงการบาดเจ็บของระบบประสาทและไขสันหลังได้ หากยายมีอาการชาแขนหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ควรรีบพากลับไปพบแพทย์ค่ะเบื้องต้นระวังไม่ให้มีการขยับคอบ่อยๆ เพราะจะยิ่งทำให้กระดูกเคลื่อนมากขึ้นได้

พอดีว่าหนูจะฟันได้ปีกว่าๆจะเข้า2ปีแล้ววันนี้ไปเปลี่ยนยางแล้วพอมาถึงบ้านเพิ่งจะสังเกตเห็นกระดูกตรงเหงือว่ามันมีแหลมๆนิดหน่อเวลาลิ้นไปดุนโดนเลยตกใจว่าแบบนี้มันปกติมั้ยอ่ะค่ะกังวลมากแต่ไม่รู้สึกเจ็บอะไรนะค่ะ

สวัสดีคะ กระดูกที่เห็นอาจจะเป็นส่วนของรากฟัน หรือ ตัวฟันที่มีการเคลื่อนที่ได้คะตอนนี้อาจจะแนะนำให้ปรึกษาทัณตแพทย์อีกครั้งนะค่ะ เพราะอาจจะต้องดูว่าเป็นแค่ส่วนของฟันหรือไม่ค่ะอย่างอื่นที่เป็นได้คือ อาจจะเป็นเรื่องของกระดูกที่งอกเองหรือ ปัญหาของเหงือกค่ะ เช่น อาจจะเป็น ซีส หรือ อาจจะเป็นการติดเชื้อ หรือ อักเสบของเหงือกค่ะ

กระดูกนิ้วเท้านิ้วนางข้างขวาหักค่ะก่อนอื่นขอเล่ารายละเอียดค่ะ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ดิฉันถูกรถมอเตอร์ไซค์ชนแนวขวางตอนขับไปทำงาน เมื่อไปถึงมือก็มีแผลถลอกตามตัวค่ะ และพอไปเเอ็กซเรย์กระดูกเท้าข้างที่รู้สึกปวด ทำให้รู้ว่ากระดูกนิ้วเท้าข้างขวานิ้วนางหักค่ะ ซึ่งคุณได้ใส่เฝือกปูนครึ่งนึงแล้วพันไว้เป็นเวลา 2 อาทิตย์และไปเอ็กซเรย์กระดูกอีกรอบวันที่ 4 ธันวาคมค่ะพอถึงวันนัดเอ็กซเรย์กระดูกออกมา ยังไม่ติดกันดี คุณเปลี่ยนเป็นเฝือกอ่อนให้ แล้วนัดตรวจอีกทีวันที่ 25 ธันวาคมค่ะซึ่งในช่วง 2 อาทิตย์กว่าหลังจากเปลี่ยนเฝือก สามีได้ไปทำงานที่ ตจว ดิฉันต้องอยู่คนเดียว ทำอะไรลำบาก เลยถอดเฝือกเพื่อเดินค่ะ ข้างที่กระดูกหัก ใช้ส้นเท้าลงเวลาเดินค่ะ พอตอนนอนก็กลับมาใส่เฝือกไว้เหมือนเดิม มีวันนี้ค่ะ 17 ธันวาคม ดิฉันต้องออกไปรับเอกสารตรงสำนักงานหน้าหอ เลยขับมอเตอร์ไซค์เลยค่ะ แต่รถสูงเลยทำให้เสียหลักก่อนออกรถแล้วเผลอใช้เท้าขวาค้ำไว้ไม่ให้รถเสียหลักล้ม กลับมาถึงห้อง รู้สึกไม่ดีเลยค่ะ กลัวกระดูกไม่ติด เพราะเผลอไปทำแบบนั้น แต่ที่ไปเพราะเหตุจำเป็นค่ะ โอกาสที่กระดูกจะแยกออกจากกันเพราะใช้เท้าค้ำนั้นมีมากมั้ยค่ะ ตอนนี้้กังวล จิตตก กลัวไปเอ็กซเรย์แล้วกระดูกจะไม่ติดค่ะ

สวัสดีค่ะ กระดูกนิ้วเท้านั้นจัดเป็นกระดูกขนาดเล็ก การดามหรือการรักษามักใช้เวลาสั้นกว่ากระดูกชิ้นใหญ่ๆในร่างกาย ศัลยแพทย์ด้านกระดูกและข้อจะดูลักษณะและตำแหน่งที่หัก ว่าหักหรือเคลื่อนมากจนต้องเข้าไปผ่าตัดแก้ไขหรือไม่ ถ้าไม่ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีดามด้วยเฝือกเอาไว้ให้เข้าที่อยู่ประมาณ 4-6 อาทิตย์ หลังจากนั้นแพทย์จะทำการเอ็กซเรย์ซ้ำว่ากระดูกเริ่มมีการติดหรือเชื่อมกันหรือไม่โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าว การเสียหลักล้มลงไป อาจทำให้เกิดการขยับจนมีโอกาสทำให้กระดูกที่ดามไว้เคลื่อนที่ไปได้แต่ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไปค่ะ ในขณะนี้ก็พยายามให้มันอยู่นิ่งที่สุด ไม่ไปขยับอะไรเพิ่มเติมอีก ใช้ไม้เท้าช่วยเดินไปก่อน และกลับไปติดตามอาการกับแพทย์ตามนัด แต่หากปวด บวมมาก อาจจะไปให้แพทย์ดูก่อนนัดได้

กระดูกตรงหลังหูเหนือท้ายทอยด์ผม ไม่เท่ากันครับ ข้างซ้ายมันจะนูนๆมากกว่าข้างขวาครับ ผมลองกดแล้วไม่เจ็บ ไม่รู้สึกปวดเลยครับ แค่รู้สึกว่ามันนูนออกมาอ่ะครับ ผมทราบทราบว่า ผมเป็นโรคอะไรหรือเปล่า แล้วปล่อยไว้อันตรายไหมครับ น่าจะเป็นมา2-3วันแล้วครับ แต่ผมเพิ่งสังเกตุเห็น ผมรู้สึกกังวล

สวัสดีครับ กระดูกส่วนนี้เข้าใจว่าหมายถึงกระดูกที่แพทย์เรียกว่า Mastoid sinus ปกติจะเท่ากันอย่างสมมาตร ถ้ารุ้สึกไม่เท่ากัน แต่ไม่มีอาการผิดปกติอย่างไร ก็ปล่อยไปก่อนครับ เพราะคนเรากระโหลกศีรษะอาจโตไม่เท่ากันได้ ซ้ายขวา เกิดจากตอนเกิด กระโหลกรอยแยกปิดไม่พร้อมกัน นอนหงายมากก็กดกระโหลกได้บ้าง ตอนแรกเกิดพยาบาลจึงมักให้ทารกนอนคว่ำ หัวจะได้ทุยสวยแต่ถ้ารุ้สึกว่ามันผิดปกติมากควรไปปรึกษาแพทย์ให้ถ่ายเอกซ์เรย์กระโหลก ได้ครับ เพราะอาจวินิจฉัยแยกโรคจาก การอักเสบไซนัส เนื่องจากเป็นโพรงอากาศไซนัสอย่างหนึ่งของกระโหลก เมื่อมีหูอักเสบ หรือหวัดก็อาจลามไปถึงกกหูได้ หรืออาจเป็นเนื้องอกของกระโหลก Meningioma ได้ครับคำแนะนำไม่ต้องกังวลครับ ถ้าไม่มีอาการส่วนใหญ่ คนไข้จะรู้สึกไปเอง แท้จริงไม่มีอะไรผิดปกติมากครับ ลองไปพบแพทย์จะได้สบายใจครับ

สวัสดีครับ ขอสอบถาม โดนทำร้ายร่างกาย กระดูกตรงโหนกคิ้วยุบลงเป็นหลุมวงกว้าง จะเป็นอันตรายไหมครับ ผ่านมาประมาณ 8วันแล้วครับ ตอนนี้มีอาการปวดหัวช่วงท้ายศีรษะเวลานอน และเข็ดคอฝั่งขวา มีอาการมึนเป็นบางช่วง นอนบางครั้งแขนกระตุก

สวัสดีค่ะ 9876543การที่ถูกแรงกระแทกเข้าไปจนเกิดเป็นการยุบลงของโหนกคิ้วนั้น อาจจะเป็นการยุบตัวของผิวหนังชั้นบน ชั้นใต้ผิวหนัง หรือเป็นกระดูกที่ร้าวลงไป การจะให้ได้การวินิจฉัยที่แน่ชัด อาจต้องตรวจร่างกายจริง หรือเอ็กซเรย์บริเวณที่มีอาการร่วมด้วยส่วนอาการปวดศีรษะ รู้สึกเคล็ดที่คอ มึนๆนั้น อาจจะเป็นอาการหลังได้รับบาดเจ็บได้ การจะสังเกตว่ามีอันตรายลึกเข้าไปถึงสมองหรือไม่นั้น ควรดูว่หลังเกิดอุบัติเหตุ มีการสลบหรือหมดสติไปชั่วครู่ และต่อมามีอาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียนพุ่ง ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรง ชัก เกร็ง ซึมลงหรือไม่ ถ้ามีอาการใดๆเหล่านี้ต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากอาจเกิดเลือดออกภายในกะโหลกศีรษะขึ้นในเบื้องต้นพักการใช้งาน ระวังการกระแทกซ้ำ ถ้ามีอาการใดๆที่ทำให้ไม่สบายใจ หรือกระดูกยุบเข้าไปชัดเจน ควรไปพบแพทย์

คือผมเป็นอัมพาต ตั้งแต่เอวลงไปไม่มีความรู้สึกอยากสอบถามว่าการหลั่งอสุจิจะสามารถทำได้อย่างไรครับแต่อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้เป็นปกติ จะต้องมีการกระตุ้นอย่างไรหรือใช้อุปกรณ์อะไรหากใช้การสัมผัสก็ไม่ทำให้มีอารมณ์ เพราะไม่มีความรู้สึกแต่ที่สังเกตคือว่ามันสามารถแข็งตัวได้นานแต่ไม่สามาถหลั่งได้ครับ

สวัสดีคะปัญหาเรื่องของเส้นประสาทไขสันหลังจะทำให้ความรู้สึกของบริเวณที่ต่ำกว่าที่ผิดปรกติไม่มีความรู้สึกค่ะ ดังนั้นการกระตุ้นด้วยการสัมผัสอาจจะไม่สามารถที่จะให้มีorgasm ได้ค่ะจากงานวิจัย ที่ตีพิมพ์ใน NCBI 2008มีข้อมูล สนับสนุนว่าการใช้advances in penile vibrator stimulation (PVS)สามารถที่จะทำให้คนไข้ชายที่มีปัญหาเรื่อง spinal cord injury สามารถมีการหลั่งได้ค่ะดังนั้นการกระตุ้นที่เร่งร้าวอาจจะช่วยได้ค่ะมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่สามารถส่วนได้ค่ะแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ED erectile disfunction

คือว่าหนูไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร เเต่ที่คิดว่าน่าจะเกิดจากแพ้ยาสีฟันหรือเปล่าคะ พอดีหนูใช้ยาสีฟันคลอเกตสูตรฟันขาว แล้วก่อนหน้านี้เคยใช้มา แล้วแพ้ เหงือกบวม แต่ครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัยเลยจำเป็นต้องเอากลับมาใช้อีกที ตอนนี้หนูเลิกใช้แล้วค่ะ แล้วเปลี่ยนใช้ตัวใหม่แทน แต่ทำไมครั้งนี้มาเป็นแผลที่กระพุ้งแก้มคะ กังวลมากๆ ไปเสิร์ชใน google แล้วก็บอกว่ามะเร็งในช่องปากบ้าง ร้อนในบ้าง ถ้าส่งรูปให้คุณดูได้ หนูก็อยากส่งให้ดูนะคะ กระพุ้งแก้มบวมๆแล้วทำให้เหงือกบวมด้วย ตอนนี้กระพุ้งแก้มบวมมาติดฟันกรามซี่สุดท้ายแล้วค่ะ เป็นมาได้ประมาณ 3 วันแล้วค่ะ ตอนนี้รู้สึกปวด กินข้าวก็ปวดแล้ว หนูเป็นอะไรกันแน่คะ TT

สวัสดีค่ะ แผลที่บริเวณกระพุ้งแก้ม อาจเป็น- แผลร้อนใน (aphthous ulcer) จะมีลักษณะเป็นแผลขนาดเล็กและตื้น มีสีเหลืองหรือขาว รอบๆ แผลจะมีอาการบวมแดงได้ โดยจะพบได้ที่เยื่อบุภายในช่องปาก ทั้งในบริเวณเหงือก กระพุ้งแก้ม ลิ้น เพดานอ่อน รวมถึงคอหอย และจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ทำให้กินอาหารและพูดลำบาก แผลร้อนในจะหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ สาเหตุในการเกิดมีได้จากหลายปัจจัย ซึ่งการใช้สารเคมีที่รุนแรง หรือแพ้สารเคมีบางอย่าง เช่น ในยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากต่างๆ ก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดได้- การโดนของแข็งหรือแหลมคมทิ่มแทง เช่น ก้างปลา กระดูกไก่ เป็นต้น- โรคติดเชื้อต่างๆ เช่น โรคมือ-เท้า-ปาก โรค herpangina (เฮอร์แปงไจนา) เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่จะมีไข้ร่วมด้วย และมักจะมีมากกว่า 1 แผล- necrotizing sialometaplasia คือเนื้อเยื่อต่อมน้ำลายที่อยู่ในช่องปากบริเวณเพดานเกิดการตายจากการขาดเลือดมาเลี้ยง จึงทำให้เกิดเป็นแผลตื้นๆ แต่มักจะไม่เจ็บ และสามารถหายได้เองภายใน 6-10 สัปดาห์- โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ เช่น Bechet's disease, lichen planus, mucous membrane pemphigoid เป็นต้น แต่มักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอีกหลายอย่าง- มะเร็ง แต่พบได้น้อยมากในคนอายุน้อย และมักพบในผุ้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือเคี้ยวหมากเป็นประจำ โดยจะเป็นแผลเรื้อรังที่ไม่หาย มีขนาดขยายใหญ่ขึ้นรวดเร็วหากมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ แต่หากไม่มีอาการอื่นๆ อาจสังเกตแผลไปก่อนก็ได้ หากแผลหายไปได้เองภายใน 2 สัปดาห์ ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากแผลไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ หรือมีการขยายขนาดเพิ่มขึ้น หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะในเบื้องต้น ควรงดการใช้ยาสีฟันที่เคยใช้แล้วมีอาการดังกล่าว ควรบ้วนปากด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารและเครื่องดื่มที่ร้อน อาจใช้ยาทาป้ายปาก เช่น ยาไตรแอมซิโนโลน หรือยาชาเฉพาะที่สำหรับป้ายปาก เป็นต้น

เรากำลังกังวลกับอะไรไม่รู้เราป่วยได้2-3วันเริ่มกังวลอาจเป็นเพราะอยู่แต่บ้านเรารู้สึกกระวนกระวายใจนอนไม่หลับรู้สึกไม่สบายใจเลยควรทำยังไงดีให้ทันหายไปจากอาการแบบนี้

สวัสดีค่ะ จากที่เล่ามา ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของอาการได้นะคะแนะนำให้พูดคุยความรู้สึกที่เกิดขึ้น กับคนในครอบครัวหรือเพื่อน เพื่อให้ลดภาวะความกระวนกระวายใจที่เกิดขึ้นนะคะ

1. • หนูเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบค่ะ ไม่หายสักที เคยออกมาเป็นเลือด 2-3ครั้ง พบหมดทุกครั้ง จนครั้งล่าสุดให้ยามาทานยาว 3 เดือนค่ะ แต่หนูรู้สึกว่า มันก็ยังเสี่ยงเป็นอยู่ เพราะตอนกลางคืนหนูฉี่กระปริบกระปรอยทุกคืนเลยอะค่ะ แต่ก็ทานยาทุกคืนนะคะ • เคยอัลตร้าซาวน์ เพาะเชื้อปัสสาวะ แต่คุณไม่เจออะไรเลยค่ะ เลยถูกให้กินยา 3 เดือน หนูอยากรู้ว่าแบบนี้ควรทำยังไงดีคะให้หายขาด? หนูเหมือนเป็นโรคประจำตัวไปเลย😭 2. • ปกติหนูทานคอลลาเจนทุกวันค่ะ (เป็นคอลลาเจนเพียวนะคะ) แล้วเดือนล่าสุดประจำเดือนมาน้อยมาก ปต่เดือนก่อนๆจะมาปกติตลอด และล่าสุดหนูปวดท้องมากกว่าปกติ มาน้อยมากจริงๆออกแนวแห้งๆ มีลิ่มเล็กๆออกมาด้วยค่ะ • หลังจากหมด หนูมีคล้ายๆตกขาวผสมเยื่อสีน้ำตาลออกมา หนูไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คิดว่าเหมือนเยื่อบุที่ขับออกมาไม่หมด ไหลออกมาทุกวันค่ะ แต่ไม่ออกตลอดเหมือนประจำเดือนค่ะ แต่ไม่มา2วันแล้วนะคะ อาจจะหมดหนูก็ไม่แน่ใจ • วันนี้หนูรุ้สึกหน่วงๆที่ท้องน้อยด้านซ้ายค่ะ พอกดแล้วท้องน้อยก็ตึงๆ หน่วงๆ บอกไม่ถูกค่ะ แต่ไม่ปวดหลังปวดเอวนะคะ ตอนมีเพศสัมพันธุ์ครั้งล่าสุด หนูรุ้สึกจุกที่ท้องน้อยมากค่ะ คือไม่เคยเป็นมาก่อน เลยเอะใจค่ะว่าเกี่ยวมั้ย • หนูเคยตรวจภายในค่ะ พบว่ามีก้อนเนื้อขนาด 1 เซนอยู่ที่ปากมดลูกค่ะ คุณไม่ได้บอกอะไรนะคะ แต่ให้มาตรวจปีละครั้ง • หนูเคยตรวจตับ/ไตค่ะ แบบเจาะเลือด บอกว่าปกติดีค่ะ คอลลาเจนไม่เป็นผลอันตราย อันนี้หนูจากรู้ว่าหนูเป็นอะไรเกี่ยวกับมดลูกมั้ยคะ เพราะหนูเพิ่งมารู้ทีหลังว่าคอลลาเจนจะทำให้ก้อนเนื้อโตขึ้น หนูเลยหยุดกินไปได้ 3 วันแบ้วค่ะ หรือเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะหรอคะ หนูเครียดมาก???

สวัสดีค่ะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้นมักเป็นการติดเชื้อที่มาจากเชื้อแบคทีเรียเป็นหลักโดยกลไกการติดเชื้อยังไม่ชัดเจน แต่บางรายสัมพันธ์กับปัจจัยต่างๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์, การทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ถูกวิธี, การกลั้นปัสสาวะ, การใช้ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นต้น นอกจากนี้หากสอดใส่สายสวนปัสสาวะ ก็มีโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้มากค่ะอาการปวดท้องน้อย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ ปวดจากกล้ามเนื้ออักเสบ ปวดประจำเดือน เนื้องอกที่มดลูกหรือรังไข่ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลำไส้อักเสบ เป็นต้นหาก กังวลเรื่องเนื้องอกที่มดลูก แนะนำให้ไปตรวจซ้ำนะคะส่วนการดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ ได้แก่การดื่มน้ำเปล่ามากๆ, ไม่กลั้นปัสสาวะ, การเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศใช้การเช็ดจากบริเวณอวัยวะเพศไปทางทวารหนัก, การใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะซึ่งแนะนำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้ ร่วมกับการไปติดตามการรักษากับแพทย์สม่ำเสมอนะคะ

อยากหายจากวิตกกังวล เคยไปส่องกล้องทางเดินอาหารมา แจ้งว่าเป็นกระเพาะอักเสบ ชอบมีความวิตกกังวล ผมควรทำยังไงครับ ผมชอบไปเสพข่าวโรคภัยต่างๆทำให้จิตใจผมแย่ตาม ขอคำแนะนำทีครับ เพราะโรคนี้ถ้าจัดการด้านจิตใจได้ อาการไรจะดีขึ้นแต่ทำไมมันยังวนอยู่ในหัวผมครับ

สวัสดีค่ะ อาการวิตกกังวลกับสิ่งต่างๆรอบตัวหลายๆอย่าง รู้สึกแพนิคบางครั้งนั้น อาจจะเกิดจาก ภาวะวิตกกังวลทั่วไป ภาวะแพนิค โรคซึมเศร้าภาวะวิตกกังวลทั่วไป เป็นภาวะทางจิตใจที่ผู้ป่วยจะมีความเครียดหรือกังวลมากไปในหลาย ๆ เรื่อง บางครั้งอาจไม่สามารถระบุสาเหตุของความกังวลได้ ส่งผลให้นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ และอาจกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยสิ่งที่ผู้ป่วยกลัวก็จะไม่เฉพาะเจาะจง อาจมีความกังวลในหลาย ๆ เรื่องเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป อาจไม่สามารถระบุสาเหตุของความกังวลได้แน่ชัดจากที่กล่าวมา น่าจะเข้ากับกลุ่มความผิดปกติของความกังวลที่มีอยู่มากที่สุด ในเบื้องต้น แนะนำการพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สงบ ตั้งสติให้รู้ตนเอง หาข้อมูลให้แน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ แต่ไม่ตระหนกจนเกินไปแต่หากมีอาการเป็นมากจนรบกวนการใช้ชีวิต การทำงาน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินเพิ่มเติม และเข้ารับการรักษาด้วยยาหรือจิตอย่างเหมาะสมต่อไป

สวัสดีค่ะ อยากจะถามสูตินารีคือดีฉันมีอาการ คันที่ปากมดลูก มีน้ำสีเหลืองเกือบเขียวไหลออกมา ไม่เหลวค่ะ เป็นน้ำเลย ไม่แสบ ไม่มีกลิ่น ไม่รู้ว่าดิฉันเป็นอะไรรู้สึกเครียดมากเลยค่ะ 🙏🏻

อาการที่กล่าวมาคล้ายกับเป็นภาวะติดเชื้อในบริเวณช่องคลอด ซึ่งรักษาได้ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะค่ะ ในระหว่างนี้หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ใกล้บ้านเพื่อตรวจร่างกาย/ตรวจภายในอย่างละเอียด จะได้ผลการวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุดค่ะ

สวัสดีค่ะคุนดิฉันมีความกังวลใจมากค่ะพอดีตอนนี้ตั้งครรภ์แต่ยังไม่ทราบว่ากี่สัปดาห์เวลาซาวดูเจอแค่เยื่อเป็นจุดเล็กๆแต่ยังไม่เห็นถุงการตั้งครรภ์เลยค่ะตอนนี้เครียดมากค่ะเพราะมีเลือดออกสีแดงสดแล้วก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มออกน้ำตาลไม่มีอาการปวดท้องกลัวจริงเป็นไปได้ว่าอายุครรภ์ยังน้อยรึป่าวค่ะ

สวัสดีค่ะ wimon Srijanการมีเลือดออกจากช่องคลอดขณะตั้งครรภ์เป็นอาการที่ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะน่าจะบ่งบอกถึงความผิดปกติหรือมีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์เช่น แท้ง หรือท้องนอกมดลูก หรือเป็นครรภ์ไข่ปลาอุก ไม่ว่าจะอายุครรภ์มากหรือน้อยก็ไม่ควรมีเลือดออกจากช่องคลอดขณะตั้งครรภ์ค่ะสูตินรีแพทย์จะทำการตรวจภายในดูลักษณะปากมดลูกร่วมกับอัลตราซาวน์หน้าท้องเพื่อยืนยันการวินิจฉัยระหว่างนี้งดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างช่องคลอด งดการออกแรงหนักๆไปก่อน และรีบไปพบสูตินรีแพทย์นะคะ

สวัสดีคะหนูอยากสอบถามคือช่วงนี้หนูเริ่มสงสัยเกี่ยวกับอาการของตัวเองหนูรู้สึกไม่ดีเลย อาการคือหนูไม่อยากรู้จักหรือพบปะกับผู้คนรอบข้างเลยคะ แต่ถ้ารู้จักแล้วหนูมักจะกังวลและกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาทำร้าความรู้สึกเรามั้ยจนไม่กล้าคบเพื่อนใหม่ๆ ชอบอยู่คนเดียวรู้สึกเหมือนตัวเองปลอดภัยมากกว่าอยู่กับคนเยอะๆ ช่วงหลังๆมานี้จะมีความสุขมากเกินแต่แป๊บๆก็รู้สึกอยากร้องให้ พอใครมาสกิดหรือทำให้เสียความรู้สึกก็จะคิดมากจนนอนไม่หลับ บางครั้งก็รู้สึกเบื่อสังคมมากๆอยากตายเลยก็มีคะ ช่วงหลังๆอาการและความรู้สึกอยากตายเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เจอปัญหา แต่ไม่กล้าไปพบแพทย์คะ ทุกวันนี้กลัวทุกอย่างแม้กระทั่งคนในครอบครัวไม่กล้าปรึกษาใครเลยคะ หนูจะแก้ใขได้ยังไงกับอาการกลัวผู้คนแบบนี้คะ ขอบพระมากคะ😥🙏

อาการของ อาจแค่วิตกกังวล กลัวการเข้าสังคม ที่เรียกว่า Social anxiety disorder ยังไม่ถึงกับเป็นโรคซึมเศร้านะครับ เป็นธรรมดาของคนวัยรุ่นที่ขาดความมั่นใจตัวเอง ขาดการอบรมเลี้ยงดูในวัยเยาว์ที่เป็นกลุ่มเครือญาติ แต่มักมาจากครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ที่ลูกจะอยู่ตามลำพัง ควรจะต้องขจัดความกลัวนี้ให้ได้ ลองปรึกษาพ่อแม่ หรือญาติที่สนิท แม้แต่ครุ หรือเพื่อนสนิทก็ได้ครับ เวลาไปไหน เพื่อความมั่นใจ ควรหาคนไปด้วยเสมอ อย่าคนเดียว อย่าไปในที่มีคนพลุกพล่านมาก ถ้าเกิดอาการแพนิก จะหายใจเร็ว หัวใจสั่น หน้าซีด เหงื่อออก มาก ให้พยายาม ควบคุมการหายใจช้าๆ นั่งพัก ออกห่างจากคนพลุกพล่านคำแนะนำ พยายามอย่าอยุ่คนเดียว ยิ่งเก็บตัวยิ่งเป็นมากขึ้น หากิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เล่นกีฬา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นั่งสมาธิ กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ห้ามใช้ยาเสพติด เหล้าหรือบุหรี่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์หรือนั่งจิตวิทยาก็ได้ครับ ที่สายด่วน 1323 กระทรวง สธ ตลอด 24 ขม ถ้าเป็นมากแพทย์จะจ่ายยากล่อมประสาทให้คลายเครียด จะช่วยได้มากครับกรุณาอ่านเพิ่มเติม เรื่องโรคกลัวที่ชุมชน

หนูอายุ13ปีค่ะ อยู่ชั้นม.1 หนูรู้สึกกลัวครูคนนึงมากเขาสอนอังกฤษค่ะเป็นผู้หญิง มันทั้งกลัวทั้งเครียดจนไม่อยากเรียนวิชานี้เลย ครูคนนี้หนูกลัวตั้งแต่ที่เรียนออนไลน์เลยค่ะเขาดูโหดชอบถามจี้เด็ก ตีในสิ่งที่ไม่ควรจะตี ถ้าถามว่าใจดีมันก็งั้นๆแหละค่ะ หนูเคยมีความทรงจำไม่ดีเกี่ยวกับครูโหดๆด้วยค่ะตอนประถมครูตอนประถมครูคนนั้นน่ากลัวมากๆ หนูไม่อยากเจอครูโหดๆอีกเลยค่ะเพราะทำให้หนูไม่อยากวิชานั้น

สวัสดีค่ะ โรคกลัวเป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกกลัวสิ่งของหรือสถานการณ์บางอย่างเกินกว่าเหตุหรือกลัวอย่างไม่มีเหตุผล อาการของ Phobia นั้นรุนแรงกว่าอาการวิตกกังวลทั่ว ๆ ไป ผู้ป่วยจะเผชิญภาวะนี้เป็นระยะเวลานาน และมักแสดงปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกายและจิตใจร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ เหงื่อออก หายใจถี่อาการรู้สึกกลัวครูที่โรงเรียนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน แต่จะมากน้อย หรือจัดว่าเป็นโรคหรือไม่ ต้องดูอาการอื่นๆร่วมเช่นกลัวมากจนไม่สามารถทำกิจกรรมกับครูคนนั้นได้อย่างปกติ มีอาการทางกายอื่นๆร่วมด้วยดังที่กล่าวไป แนะนำการปรึกษากับผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้คนอื่นๆเพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป ในเบื้องต้นพยายามสงบสติอารมณ์ ให้รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ และถ้าหากมีความกลัว ให้ตั้งสติ เผชิญหน้า หรืออาจปรึกษากับเพื่อนร่วมชั้นถึงปัญหาที่เป็นอยู่ก่อนก็ได้เบื้องต้น

ช่วงนี้รู้สึก เบื่อง่ายมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไรรู้สึกไม่พอใจในตัวเองสักอย่าง จนไม่อยากทำอะไร ช่วงนี้กินอาหารเยอะผิดปกติด้วย โดยปกติเป็นคนที่คิดมากพอรู้สึกไม่พอใจตัวเองก็จะร้องไห้และก็ทำร้ายตัวเอง เลยโกหกพ่อแม่บ่อยๆเกี่ยวกับรอยตามตัว ไม่กล้าบอกใครเลยกลัวคนรอบข้างจะไม่อยากเข้าใกล้

สวัสดีค่ะอาการเบื่อง่าย ไม่พอใจในตนเอง กินเยอะผิดปกติ ดังกล่าวมา อาจจะเกิดจาก ภาวะซึมเศร้า โรคซึมเศร้า โรคจิตเภท การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และบุคลิกภาพอย่างผิดปกติโดยโรคซึมเศร้าคือการมีภาวะซึมเศร้าติดต่อกันอย่างน้อย 2 อาทิตย์ขึ้นไป โดยไม่มีช่วงที่ดีขึ้นเลย มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย อาจมีอาการเบื่ออาหาร หรือในบางรายก็จะไปรับประทานทานอาหารมากขึ้น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอนน้อยหรือนอนมากกว่าปกติ และเก็บตัวมากจนไม่ออกไปทำงาน ไม่ออกไปเข้าสังคม อันนี้จึงจะจัดว่าเป็นโรคซึมเศร้าได้จากที่กล่าวมา อาจจะมีอาการที่เข้าข่ายได้เช่นกัน แนะนำการสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด ถ้ามีอาการอยากทำร้ายตนเอง หดหู่มาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม เบื้องต้นหาสิ่งที่ชอบทำเพื่อผ่อนคลาย พักผ่อนให้เพียงพอ ระบายความรู้สึกกับผู้ที่ไว้ใจได้

เมื่อวันพุธ เรามีอะไรกับแฟนขณะตอนมีอะไรกับแฟนเลือดไหลออกมาทางช่องคลอดเลยไปซื้อยาที่ร้านขายยา ร้านขายยาให้ยาคุมฉักเฉินมาทาน1เม็ดวันต่อมาเลือดเราถึงหยุดไหล พอมาวันเสาร์ตอนเรามีอะไรกับแฟนแล้วเลือดไหลอีกรอบ ไม่ทราบว่าเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกมั้ยค่ะ ตอนนี้เครียดมากเลย แต่ตอนเราเลือดไหลไม่รู้สึกเจ็บหรืออะไรเลยค่ะ

สวัสดีค่ะการมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน อาจมีสาเหตุมาจาก ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เลือดตามหลังการปฏิสนธิ การติดเชื้อที่ปากมดลูกหรือมดลูก การมีเนื้องอกที่มดลูกหรือปากมดลูก อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบภาวะมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV เป็นโรคที่พบในผู้หญิงอายุน้อยได้เช่นกัน อาการเริ่มต้นเช่นมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด มักเกิดตามหลังการมีเพศสัมพันธ์แนะนำการไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการ ตรวจภายใน และควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี เบื้องต้นงดการมีเพศสัมพันธ์ ยังไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมาใช้เอง

สวัสดีคะ อยากปรึกษาเรื่องโรคซึมเศร้าคะ ทุกวันนี้ทำงานแบบแทบไม่มีความสุขเลย ภาวะงานกดดัน เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยโอเคมากถึงมากที่่สุด คนอื่นอาจจะมองว่าเรื่องงานปัญหานี้ใครๆก็เจอ แต่เรารู้สึกหน่วงๆ มันเศร้าแบบบอกไม่ถูก กลัวระแวงไปหมด

สวัสดีคะ ปัญหาเรื่องการทำงานเป็นปัญหาหลักของคนวัยทำงานคะ เนื่องจากตัวเนื้องานแล้ว การที่จะต้องติดต่อกับคนทำให้มีปัญหาได้ค่ะ เพราะคนที่เราเจอต่างกันค่ะมาดูกันดังนี้ก่อนนะค่ะปัญหาเรื่องงาน ซึ่งเป็นปัญหาที่เราสามารถแก้ไขได้ค่ะ ถามตัวเองดังนี้ค่ะ ว่าเราชอบงานนี้หรือไม่ เราทำแล้วมีความสุขหรือไม่ เราสามารถที่จะทำงานได้ตามความพอใจและมีมาตรฐานในการทำงานหรือไม่ ความสุขของการได้ทำงานที่รักจะทำให้เราชอบที่จะทำงาน สนใจใส่ใจกับงานคะ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงได้ค่ะปัญหารเรื่องเพื่อร่วมงาน ปัญหาที่ต้องพบกันทุกวิชาชีพค่ะ ถ้ามีเพื่อนร่วมงานดีเราก็จะทำงานอย่างมีความสุขค่ะ แต่บางครั้งหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องพยายามผ่อนปรนและเห็นใจเพื่อนร่วมงานค่ะพยายามหางานอดิเรกมาทำหลังเลิกงานค่ะ กีฬา ฟังเพลงอะไรก็ได้ค่ะ ทำให้เราหยุดคิดเรื่องงานได้ค่ะและถ้าไม่สามารถควบคุมจิตใจตัวเองได้ก็แนะนำปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการดูแลค่ะ

ผมรับของจากลุงที่หอพักแล้วแกเพิ่งล้มเมื่อกี๊ มีแผลเลือดไหล แกจับแผลแล้วยื่นของส่งให้ผม มือผมมีแผลครับ ผมเลยกังวลว่าผมสามารถติดเชื้อHIVจากกรณีนี้ได้มั้ย แล้วถ้าหากผมเอามือที่รับของมาจับหน้าจับตาผมจะติดเชื้อได้มั้ยครับ เครียดมาก

แพทย์ตอบตามLinkนี้นะคะ

กังวลคะ ไปทำเล็บที่ร้านแห่งนึงมาละเป็นแผลมีเลือดออกขณะตัดเล็บ รู้สึกกังวลว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะเค้าทำเล็บเราต่อจากอีกคนโดยที่ไม่มีการทำความสะอาดอุปกรณ์ พอรู้สึกกังวลลละไปตรวจเลือดละที่โรงพยาบาลได้ยาต้านมากินภายใน72ชม. เค้าให้กิน28วัน แล้วมีอาการตัวร้อน มีผื่นคัน เพลียเมื่อยตัว ตอนนี้กินยาได้ 5วันแล้ว อยากสอบถามว่าหนูมีโอกาสติดเชื้อhivมากน้อยแค่ไหนคะ แล้วอาการที่เป็นเกิดจากผลของยา รึหนูมีอาการติดเชื้อhivแล้ว

สวัสดีค่ะ HIV เป็นการติดเชื้อไวรัส HIV โดยจะทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจนถึงแก่ชีวิตได้ HIV เป็นไวรัสที่ติดต่อกันผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย การสัมผัสสารคัดหลั่งจากเยื่อบุตา ปาก อวัยวะเพศของกันและกัน การใช้ของมีคมร่วมกัน หรือของใช้ส่วนตัวที่มีสารคัดหลั่งติดอยู่ร่วมกัน การที่สารคัดหลั่งหรือเลือดมาโดนแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ผิวหนัง เป็นต้นการใช้ยาต้านไวรัสกินติดต่อกัน 28 วันหลังรับเชื้อภายใน 72 ชั่วโมงนั้น จะต้องกินติดต่อกันทุกวันตรงเวลาจนยาหมด และกลับไปเจาะเลือดติดตามตามนัดในระหว่างที่กินยาอาจจะมีผลข้างเคียงเช่นคลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยตามตัว ได้ ที่กล่าวมา อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยา โดยอาการเริ่มแรกของโรค hiv อาจจะคล้ายๆได้เช่นกันเช่นมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่นขึ้นตามตัว ต่อมน้ำเหลืองโต เจ็บคอ ซึ่งอาจจะแยกกันได้ยาก และเป็นอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจง แต่จริงๆแล้ว ถ้าได้เริ่มกินยาต้านไวรัสภายใน 72 ชั่วโมงเพื่อกดการเข้าของไวรัสสู่ร่างกาย โอกาสติดเชื้อก็ยังมีได้น้อยมากแนะนำการกินยาต่อไปอย่างต่อเนื่อง และกลับไปเจาะเลือดตามนัด ยังไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไปค่ะ

แฟนเคยกินยาคุมฉุกเฉินครั้งนึงครับ เกิดจากถุงยางขาด ไม่อยากให้แฟนกินอีก กลัวส่งผลต่อร่างกายแฟน แล้วดันมามีเหตุการณ์แบบเดิมอีก แต่ยังไม่ได้ถึงจุดสุดยอด แต่ถุงยางดันขาดกลัวว่าจะมีน้ำอสุจิเผลอเข้าไป อยากทราบว่า ยาคุมฉุกเฉินส่งผลต่อร่างกายไหมครับและขนาดไหน ถึงไม่ส่งผลก็ไม่อยากให้กินแล้วครับ มันทำให้รู้สึกไม่ดีต่อกัน กังวลมากครับ ผมว่าจะมีอะไรกันอีกทีคือตอนแต่งงานแล้วครับหรือไม่เราก็รับผิดชอบเค้าได้แล้ว ทั้งเรื่องกินอยู่ต่างๆ หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเองเยอะมาก แต่ไม่รู้ว่าอันไหนจริงครับ ขอบมากครับ ขอที่เป็นความจริงนะครับ

สวัสดีค่ะ หากยังไม่ถึงจุดสุดยอดและยังไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีค่ะ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินก็ได้แต่หากไม่มั่นใจว่ามีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้นหรือไม่ รวมถึงไม่ได้อยู่ในช่วงระยะปลอดภัยหลัง 7 วัน ก็ควรพิจารณาทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ ซึ่งหากไม่ได้ทานยาคุมฉุกเฉินเป็นประจำ มีเพียงแค่เคยใช้เมื่อนานมาแล้ว ก็ไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกายหรือมีผลอะไรต่อเนื่องตามมา และการทานยาคุมฉุกเฉินในครั้งใหม่นี้ อาจทำให้ได้รับผลข้างเคียงบางอย่างเท่านั้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ปวดหัว เจ็บเต้านม ปวดท้อง และมีเลือดออกกะปริดกะปรอย เป็นต้น ซึ่งในบางรายอาจไม่เกิดอาการใดๆ เลยก็ได้หากยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ ก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด เป็นต้น เพื่อที่จะได้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่ต้องกังวลใจค่ะ

พอดีมีพสพกับแฟนช่วงมีประจำเดือนหลั่งนอก และมีอีกครั้งในช่วงวันที่ 15 ธค น้ำแรกหลั่งนอก และวันที่16 น้ำแรงของวันหลั่งนอกเช่นกัน เดือนนี้ประจำเดือนน่าจะมาช่วงวันที่3-4 จนถึงตอนนี้ยังไม่มา บวกกันช่วงก่อนสิ้นเดือนเตรียมตัวสอบ มีอาการเครียดและซึมมาก นอนเกือบเช้าทุกวัน ไม่ออกกำลังกาย และทานอาหารแค่มื้อเย็นมื้อเดียว เป็นอย่างนี้จนถึงวันที่ 12 ธค ในช่วงต้นๆเดือนมีอาการตกขาวและรู้สึกเหมือนประจำเดือนจะมาเป็นระยะๆ ตอนนี้ยังกังวลอย่างมากว่าจะท้องหรือเปล่า

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้วิธีการหลั่งนอกนั้น จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4%-22% ดังนั้น หากประจำเดือนยังไม่มา แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนค่ะ หากตรวจไม่พบ การที่ประจำเดือนไม่มา จึงเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว เป็นต้นหากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ อาการตกขาว และรู้สึกเหมือนมีประจำเดือน ก็อาจเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้ค่ะ ดังนั้น ก็ควรรอต่อไปอีกซักระยะ ประจำเดือนก็จะมาในที่สุดค่ะ

คุณคะ คือหนูกลัวท้องมากๆค่ะ หนูมีเพศสัมพันธ์ล่าสุด 22 กันยา (ใส่ถุงยางตลอดนะคะ) แล้วประจำเดือนก็มาวันที่ 5 ตุลา แล้วพอครบ 20 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ หนูก็ไปตรวจเลือดที่รพ.ผลคือเป็นลบ แต่ด้วยความที่หนูไปอ่านเจอในพันทิปมาว่าประจำเดือนมาปกติก็สามารถท้องได้ ถึงปจด.หนูจะมาปกติแต่หนูก็ยังกังวลอยู่ดีอะค่ะ วันนี้ครบ 1 เดือนหลังมีเพศสัมพันธ์หนูก็ลองตรวจเองอีกรอบ ผลคือ 1 ขีดเข้มๆ แต่หนูเพิ่งมีมีอาการแปลกๆเช่น ง่วงแปลกๆ ง่วงนอนไวกว่าปกติ ไม่ก็แน่นท้องบ่อยๆ ไม่รู้ว่าเพราะเครียดหรืออะไร หนูจะมีโอกาสท้องไหมคะ ผลเลือดคือชัวร์สุดแล้วใช่มั้ยคะ

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์ถ้าได้ใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันเอาไว้ตลอดการมีเพศสัมพันธ์ และถุงยางไม่ขาด ไม่รั่วเลยนั้น มีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยกว่า 1- 2%ดังนั้นจากที่กล่าวมา ถ้าใส่ถุงยางตลอดทุกครั้ง โอกาสตั้งครรภ์เกิดได้น้อยมากๆ การที่ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะหลังผ่านการมีเพศสัมพันธ์มา 1 เดือนแล้วให้ผลลบ ก็น่าจะเป็นผลลบจริง และถ้าตั้งครรภ์จริงจะไม่มีเลือดประจำเดือนที่มาตามรอบมาตามปกติได้ ยกเว้นเป็นเลือดออกผิดปกติจากสาเหตุอื่นๆที่ไม่ใช่ประจำเดือนโดยอาการอื่นๆที่กล่าวมาไม่ได้จำเพาะเจาะจงต่อการตั้งครรภ์ การยืนยันการตั้งครรภ์ไม่ว่าจะเป็นทางปัสสาวะหรือทางเลือดนั้นให้ผลที่แน่นอนได้ตั้งแต่ 7-14 วันหลังปฏิสนธิขึ้นไปถ้าตรวจอย่างถูกต้อง ตอนนี้ถ้าไม่สบายใจ อาจไปยืนยันผลที่รพ.ซ้ำดูอีกครั้งได้ค่ะ

มีอะไรกับแฟนวันที่ 9 ป้องกันโดยการใส่ถุงยางค่ะแฟนไม่เสร็จ (ขอโทษที่ต้องใช้คำนี้นะคะ) จริงๆประจำเดือนต้องมาวันที่ 20 แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มาเลยค่ะเครียดมาก แฟนช่วยตัวเองและเเตกใส่ที่ขาเลยเอาน้ำล้างออกค่ะ แต่กังวลว่าตอนที่ล้างออกมันจะไหลเข้าไปตรงนั้นของเรา เครียดมากเลยค่ะกังวลว่าจะท้อง

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัย ใช้ตลอดการสอดใส่อวัยวะเพศ ถุงยางไม่มีรอยขาดรอยรั่วให้เห็นชัดเจนนั้น มีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยกว่า 2% ซึ่งจัดว่าน้อยมาก การล้างสารคัดหลั่งบริเวณอวัยวะเพศภายนอกหลังจากนั้น โอกาสที่น้ำอสุจิจะมีชีวิตและผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้มีน้อยมากๆประจำเดือนที่มาช้าเกินกว่า 35 วันจากครั้งก่อนนั้น อาจจะมีสาเหตุอื่นๆนอกจากการตั้งครรภ์เช่นถุงน้ำหลายใบในรังไข่ ฮอร์โมนจากรังไข่ไม่สมดุล พังผืดมดลูก โรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติแต่ควรตรวจหาสาเหตุเรื่องการตั้งครรภ์ให้แน่ใจก่อนว่าไม่มี โดยชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ ควรซื้อมาตรวจเองก่อนเบื้องต้น หากให้ผลลบ แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มาตามกำหนด ควรไปยืนยันผลการตั้งครรภ์ที่รพ.อีกครั้งค่ะ

เดือนธันวาคมประจำเดือนมาวันที่16-20 เดือนมกราคมประจำเดือนมาวันที่16-20 เดือนกุมภาพันธ์ประจำเดือนมาวันที่16-20 ละคืนของวันที่20กุมภาพันธ์มีเพศสัมพันไม่ได้ป้องกันค่ะหลั่งนอก ตอนนั่ยังมีเลือดประจำเดือนนิดไปใกล้หายแ้ซะอยากทราบว่าหนูจะท้องไหมค่ะเครียดมากค่ะตอนนี้มีตกขาวปริมาณมากสีขาวยืดใสบ้างเจ็บท้องน้อยบางครั้งเหมือนกระตุก อยากทราบว่าหนูจะท้องไหมกังวลมาก

สวัสดีครับ จากประวัติที่ให้มา การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงหลังหมดประจำเดือนไปไม่นาน แม้ว่าจะมีโอกาสที่ไม่สูงนัก เพราะยังไม่น่าจะถึงช่วงตกไข่ แต่ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ เพราะรอบเดือนของผู้หญิงนั้นมีการคลาดเคลื่อนได้ ประกอบกับถ้าไม่ได้มีการป้องกันและพยายามหลั่งนอก ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อยู่ครับ เพราะการหลั่งนอกมีโอกาสล้มเหลวสูง จนมีน้ำหล่อลื่น หรือ น้ำอสุจิถูกหลั่งในช่องคลอด ซึ่งตัวอสุจิก็จะค่อยๆเดินทางเข้าไปในมดลูกได้ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ การใช้ถุงยางอนามัย หรือ ใช้ยาคุมกำเนิดแบบแผง จะดีกว่าครับส่วนเรื่องตกขาว เป็นสิ่งที่ร่างกายผลิตออกมาเป็นประจำอยู่แล้วครับ ถ้ายังมีสีขาว ก็ถือว่าปกติ และไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์แต่อย่างใด ดังนั้น ณ ตอนนี้ ขออย่าพึงกังวล และสังเกตรอบเดือนถัดไปว่ามาตรงรอบหรือไม่ ถ้าประจำเดือนมาช้า ขอให้ใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ดูอีกครั้ง เพื่อความถูกต้องแม่นยำครับ

คุณครับ อาการนี่ใช่พิษสุนัขบ้าไหมครับ ตอนนี้ผมเป็นแพนิค กับโรควิตกกังวลอยู่นะครับ คือตอนเล่นกีฬาผมชอบถ่มนํ้าลายหลายครั้งมากกับเสลดแล้วนํ้าลายจะออกมาตอนเราคิดไรอยู่ ทำให้ผมกลืนหลายครั้วมาก แล้ว5วันนี้ มีอาการปวดหัวปวดตา กับร้อนตัวบ่อยๆตอนนี้รู้สึกแนนตรงคอ ผมพึงโดนฟันหมามีแผล เมื่อ10วันทีผ่าน โดยไม่ได้ล้างแผล แต่เคยไปฉีดpcecก่อน1วันจึงมาโดนฟันหมาอ่ะครับ ผมมีอาการเหนื่อยลา ออนแรงตอนคิดว่าตัวเองเป็นพิษสุนัขบ้า ทำให้ไม่ค่อยอยากกินไร รู้สึกอารมผมหงุดงาย ใครมาทำอะไรไม่พอใจก็จะโว่ยวายใส่ อาการแบบนี้ใช้พิษสุนัขบ้าไหมครับ รู้สึกกลัวมื่อสัน แล้วแผลทีโดนฟันหมา ตอนโดนไม่มีอาการเจ็บ ไม่มีอาการร้อน หรือแส่บ ไม่คันอ่ะครับ แต่ถ้าผมคิดหนักรู้สึกมันจะปวดนิดๆ

สวัสดีคะคุณขอเรียนชี้แจงเรื่องการสัมผัสน้ำลายสุนัข ที่ถูกเข้าที่แผลหรือว่าการถูกสุนัขกัด แล้วได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วนะค่ะหลักการฉีดวัคซีน ถ้าได้ verolab ให้ฉีดเข้ากล้ามค่ะ ทั้งหมด สาม หรือ ห้าเข็ม ถ้าฉีดก่อนถูกกัด สามเข็ม เข็มกระตุ้น หนึ่งเข็มถ้าไม่เกิน หกเดือน ถ้าเกินหกเดือน สองเข็ม โดยไม่ต้องฉีด RIGถ้าได้รับการฉีดวัคซีนแล้วโอกาสในการติดโรคน้อยแล้วค่ะอาการของโรคพิษสุนัขบ้า มักจะมาด้วยเรื่องของระบบประสาทค่ะ เนื่องจากติดเชื้อเข้าไปในเส้นประสาทค่ะคือ ชาบริเวณที่ถูกกัดมีอาการไม่สู้แสง หรือวุนวาย หรือ แอบซ้อน ส่วนใหญ่มักจะสัมพันธ์กับเรื่องดุร้าย หรือ ซึมก็ได้ค่ะดังนั้นถ้ามีปัญหาจริงๆ คงต้องรีบกลับไปพบแพทย์ค่ะ ไม่มีทางรักษาเฉพาะแต่สามารถที่จะรักษาตามอาการได้ค่ะ

สวัสดีครับคุณ ผมอายุ20-21ครับ ผมรู้สึกเคลียดกังวลไม่กล้าออกไปไหน ไม่อยากพูดคุยกับใคร อยู่เเต่ในห้อง อยากอยู่คนเดียว เวลาคุยกับใครไม่กล้าสบตารู้สึกกดดันมาก หรือสถานที่ที่ๆคนเยอะๆ กลัวเวลาต้องออกไปไหน เช่นเวลานั่งรถเบาะข้างๆคนขับจะเกรงคิดตลอดเวลากลัวจะเป็นอุบัติเหตุ ขึ้นไปที่สูงๆยิ่งกลัวตัวเองจะตกลงจากตรงนั้น กลัวทำอ่ะไรที่มีเสียงดังๆ รู้สึกเหนื่อยมาก ทั้งที่ไม่ค่อยได้ทำอ่ะไร นอนไม่ค่อยหลับ น้ำหนักลด เเละอยู่ดีๆมีอาการหน้ามืด มึนๆหัวใจเต้นรั่วๆ เป็นอยู่เเปปนึ่งเเล้วก็หาย เป็นๆหายๆ อาการเเบบนี้เป็นอยู่หลายเดือนเเล้วครับไม่รู้จะปรึกษาใคร

สวัสดีค่ะ for meจากอาการดังกล่าวมาเข้าได้กับภาวะวิตกกังวลทั่วไป มากที่สุด โรคอื่นๆที่เป็นไปได้เช่น โรควิตกกังวลแบบเฉพาะเจาะจงคือมีปัจจัยกระตุ้นชัดเจน โรคแพนิค โรคความผิดปกติทางอารมณ์ภาวะวิตกกังวลทั่วไป เป็นภาวะทางจิตใจที่จะทำให้ผู้ป่วยมีความเครียดหรือกังวลมากไปในหลาย ๆ เรื่อง บางครั้งอาจไม่สามารถระบุสาเหตุของความกังวลได้ ส่งผลให้นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ และอาจกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้อาจมาจากหลายปัจจัย เช่น ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง พันธุกรรม สภาพแวดล้อม เป็นต้นอาการหลักๆเช่น มีอาการตื่นตระหนก กลัว ไม่สบายใจ หงุดหงิด ประหม่า เครียด ไม่มีสมาธิ พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม และขาดความมั่นใจในตัวเองการรักษาควรพบจิตแพทย์เพื่อประเมินสภาวะทางจิตและยืนยันการวินิจฉัยก่อน อาจมีการให้ยาในกลุ่มระงับอาการวิตกกังวลกลุ่มเบนโซไดอะซีปีน เช่น ยาอัลปราโซแลม ยาโคลนาซีแพม และยาลอราซีแพ ร่วมกับยาที่มีผลต่อระดับสารสื่อประสาทเซโรโทนินอย่างกลุ่มยาต้านเศร้าเอสเอสอาร์ไอ เพื่อรักษาในระยะยาว และการทำจิตบำบัดการดูแลตัวเอง ฝึกทำจิตใจให้ผ่อนคลาย รู้จักปล่อยวาง อาจนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบมากขึ้น ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และไม่ใช้สารเสพติดทุกชนิด ดูแลสุขภาพ โดยออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพออ่านเพิ่มเติม

คือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์แต่ใช้นิ้วช่วยให้เสร็จได้ประมาณ2-3สัปดาห์ แล้วประจำเดือนก็มาแล้วมีโอกาสท้องไหมค่ะคือเป็นคนที่เครียดมากๆ แล้วก็รู้สึกว่าท้องใหญ่ๆปัสสาวะวันล่ะ3-5ครั้ง มีอาการตกขาว

สวัสดีค่ะ หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่อวัยวะเพศชานเข้าสู่ช่องคลอด มีเพียงแค่การใช้นิ้วช่วยตัวเอง โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีค่ะสำหรับการที่หน้าท้องใหญ่ อาจเกิดจากมีไขมันสะสมในชั้นไขมันที่บริเวณหน้าท้องมาก ซึ่งมักเกิดจากการมีน้ำหนักตัวมากไป หรือการไม่ได้ออกกำลังกายา หรืออาจจเกิดจากมีท้องอืด ซึ่งเกิดได้หลายสาเหตุมากมาย เช่น การทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สหรือเครื่องดื่มที่มีแก๊ส เช่น น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ ถั่ว เมล็ดธัญพืชต่างๆ เป็นต้น การมีท้องผูก โรคกระเพาะอาหารอักเสบ มีความเครียด เป็นต้น หรืออาจเกิดจากการมีก้อนเนื้อหรือซีสต์ในช่องท้องก็ได้ แต่ก็จะต้องมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คลำได้ก้อนในท้อง อุจจาระผิดปกติ มีเลือดออกจากช่องคลอด เป็นต้นสำหรับอาการตกขาว หากไม่มีกลิ่นเหม็นรุนแรง ไม่มีแสบหรือคันช่องคลอด ไม่มีปวดท้องน้อย ก็ถือว่าเป็นตขาวที่ปกติดีค่ะ

พอดีหนูเป็นประจำเดือนวันที่ 29-31 คะแล้วหนูไปมีอะไรกับแฟนวันที่3 มีอะไรกันแบบไม่สอดใส่อวัยวะเพศชายนะคะแต่มีการแตกในปากแล้วหนูก็ไปคายออกในห้องน้ำหนูกลัวว่าตอนที่คลั่งน้ำอสุจิออกมาข้างนอกแล้วแฟนหนูมือไปโดนน้ำอสุจิแล้วมาสอดใส่ให้อวัยวะเพศของหนูจะท้องไหมคะกลัวมากๆเลยคะกังวลมาก ตอนนี้หนูรู้สึกว่าท้องน้อยหนูมันป่องๆแล้วก็มีตกขาวเยอะมากเลยคะ แล้วก็พะอืดพะอมด้วยหนูกังวลมาหลายวันแล้วอะคะไม่ได้นอนเลยคิดมากมาตลอดเลยคะหนูจะท้องไหมคะ ควรทำไงดีคะ

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศเลยนั้น แทบจะไม่มีโอกาสทำให้ตั้งครรภ์ได้ค่ะ น้ำอสุจิที่ค้างอยู่ที่มือมาสอดใส่ตรงอวัยวะเพศนั้น โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยมาก เพราะน้ำอสุจิเมื่ออยู่บนมือที่เป็นสภาพแห้งๆ ไม่ได้อยู่ภายในร่างกายมนุษย์ทันที มักจะตายไปอย่างรวดเร็วอาการท้องป่อง ตกขาวมามาก พะอืดพะอม ไม่ใช่อาการที่จำเพาะต่อการตั้งครรภ์ค่ะ หากไม่สบายใจ สามารถซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจยืนยันได้เองเบื้องต้น ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ และสังเกตรอบเดือนครั้งถัดไปอีกครั้ง หากประจำเดือนมาภายใน 35 วันจากครั้งก่อนตามปกติ ก็แสดงว่าน่าจะไม่ได้มีการตั้งครรภ์

ตอนเที่ยงได้ไปกินข้าวที่โรงอาหารและวางจานข้าวกับแก้วน้ำไว้บนโต๊ะอาหารไว้แล้วได้ออกไปล้างช้อนประมาณ2นาทีกว่าๆแล้วกลับมากินอาหาร มาเอะใจหลังจากกินข้าวเสร็จรู้สึกกังวลกลัวมีน้ำลายสุนัขปนเปื้อนอยู่กับอาหารหรือน้ำขณะที่ตนเองออกไปล้างช้อนเพราะแถวนั้นมีสุนัขจรจัดที่อยู่ในบริเวณโรงอาหาร3-4ตัวแต่ตอนที่กลับมาที่โต๊ะอาหารไม่เห็นสุนัขมากิน ถ้าสมมุติว่าอาหารหรือแก้วน้ำมีสุนัขแอบมากินแล้วเรากินเข้าไปจะเป็นอะไรมั้ยคะตนเองเหมือนมีแผลในช่องปากมีอาการแสบๆด้วย(เคยฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเมื่อต้นเดือนธันวาคม64)ควรต้องไปฉีดประตุ้นมั้ยคะรู้สึกกลัวมากๆ

สวัสดีค่ะ การสัมผัสกับสัตว์ที่อาจทำให้ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ามาได้เช่น ถูกข่วนหรือกัดโดยตรง มีเลือดออกจากแผล สัตว์มาเลียตรงแผลหรือบริเวณเยื่อบุต่างๆเช่นเยื่อบุตา เยื่อบุจมูกหรือเยื่อบุปาก หรือการไปกินเนื้อสัตว์ดิบๆจากที่กล่าวมา ถ้ามีน้ำลายสุนัขปนเปื้นอในอาหารหรือตามภาชนะนั้น เชื้อโรคที่ออกมาอยู่นอกร่างกายสิ่งมีชีวิต มักจะตายไปอย่างรวดเร็ว มีโอกาสน้อยที่จะติดโรคจากกรณีที่กล่าวมา ส่วนใหญ่มักจะต้องเป็นการโดนกัดหรือข่วนโดยตรง แล้วน้ำลายสัตว์สัมผัสกับแผล ณ ตอนนั้นๆเลยมากกว่าจากที่กล่าวมา น่าจะยังไม่มีข้อบ่งชี้ที่ต้องไปรับวัคซีนกระตุ้นอีก และถ้าเคยรับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ามาประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ภูมิคุ้มกันน่าจะยังอยู่ในระดับสูงมาก ไม่น่าจะจำเป็นต้องฉีดกระตุ้น ยกเว้นว่าไม่สบายใจมาก อาจนำสมุดวัคซีนเดิมไปพบแพทย์ที่รพใกล้บ้านเพื่อซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินความเสี่ยงอีกครั้ง

คือกลัวเข็มมากๆค่ะ แค่เห็นเข็มก็ใจสั่นมาก และรู้สึกเครียดทุกครั้งที่ต้องฉีดยา เลยพยายามหลีกเลี่ยงการฉีดยา/เจาะน้ำเกลือ หรืออะไรก็ตามที่มีเข็ม ยิ่งช่วง3ปีมานี้เป็นหนักขึ้นค่ะ โดยหลังจากได้รับการฉีดยาก็จะเป็นลมไปเลย ทั้งที่ไม่ได้มองเข็มฉีดยา และตอนฉีดยามีคนมาชวนคุยเพื่อไม่ให้คิดว่ากำลังจะฉีดยาด้วยค่ะ คือไม่อยากกลัวเข็มแล้ว ควรพบเพื่อบำบัดอาการนี้ได้มั้ยคะ

สวัสดีค่ะ อาการกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆอย่างไม่มีเหตุผล จนมีอาการมากผิดปกติเช่น รู้สึกคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ เหงื่อออก หายใจถี่ หากอาการกลัวรุนแรงถึงขั้นกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันนั้นอาจเกิดมาจากการเป็นโรคกลัว (phobia) ต่อสิ่งนั้นๆ ซึ่งเป็นการกลัวแบบจำเพาะ อาจเกิดจาก กระบวนการทำงานของสมองที่ผิดปกติ หรือเกิดจากประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีตเป็นภาวะที่ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการและความรุนแรงอย่างละเอียด และ เข้ารับการรักษาซึ่งจะมีทั้งการทำจิตบำบัด การฝึกเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวโดยมีแพทย์คอยควบคุมอยู่ การบำบัดพฤติกรรมและการรู้คิด หรือการใช้ยาบางชนิดเพื่อช่วยปรับสมดุลเคมีในสมอง ให้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งนั้นๆน้อยลง เป็นต้นอ่านเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะ คือหนูเคยโดนหนูกัด(หนูที่อยู่ตามบ้าน)เมื่อประมาณ 5-6ปีก่อน ตอนนั้นเด็กและแค่ทำแผลปกติ แล้วหนูพึ่งมาอ่านเรื่อง พิษสุนัขบ้ามันสามารถติดโดยหนูได้ และระยะฟักตัวยาวนาน ตอนนี้กังวลมากๆเลยค่ะ เราไปฉีดยาไว้ได้มั้ยค่ะ แบบว่ากันไว้ก่อน ตอนนี้กังวลมาก แล้วพึ่งโดนหมางับไปประมาณ16วัน ไม่ได้ฉีดยาเหมือนกันค่ะเพราะคิดว่าแค่ถลอก ตอนนี้เลยเครียดดมาก แต่หมายังอยู่นะคะ ไม่หนีไม่หาย ตอบให้หนูมั่นใจทีค่ะ หนูแพนิคมากๆเลย

สวัสดีค่ะ หากเหตุการณ์ที่โดนหนูกัด ได้ผ่านมา 4-5 ปีแล้ว โอกาสที่จะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ถือว่าไม่มีแล้วค่ะ เพราะระยะฟักตัวของโรคพิษสุนัขบ้านั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3 สัปดาห์ถึง 4 เดือน โอกาสที่ระยะฟักตัวจะยาวนานเกิน 1 ปีนั้น แทบไม่มีค่ะส่วนการที่โดนสุนัขงับเมื่อ 16 วันก่อน หากสุนัขยังไม่ตาย ก็แสดงว่าสุนัขไม่ได้เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ดังนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าแล้วค่ะแต่หากหลังจากนี้ โดนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัดหรือข่วนอีก ก็ควรไปฉีด พิษสุนัขบ้า และฉีดวัคซีนบาดทะยักด้วยค่ะ โดยควรรีบไปฉีดในวันที่โดนกัดหรือข่วนค่ะ

เป็นโรคกระเพาะตั้งแต่อายุ15จนปัจจุบันอายุ19 เวลาเป็นจะปวดช่วงลิ้นปี้ไปถึงหลังบางครั้งก็เจ็บท้องด้านซ้ายแบบจี๊ดๆไปหาคลีนิคได้ยามาทานก็ไม่หายค่ะทั้งๆที่เริ่มกินข้าวตรงเวลาได้เป็นเดือนแล้วค่ะ เป็นคนไม่กินเผ็ด น้ำอัดลม ของหมักดองก็ไม่ยุ่งเลยตั้งแต่เด็ก และช่วงนี้รู้สึกหน่วงๆแถวท้องน้อยล่างซ้าย(เฉพาะบางครั้ง)ร่วมด้วยค่ะ จะมีสิทธิ์เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมั้ยคะ กังวลมาก

สวัสดีค่ะ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือโรคกระเพาะ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบหรือเกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร สามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในระยะเวลารวดเร็ว เป็นในระยะสั้น ๆ และหายภายใน 1-2 สัปดาห์หรือมีอาการบ่อยครั้งเป็นระยะเวลานานจนเกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดแผล และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ดังนั้นจึงควรควบคุมและลดปัจจัยที่จะทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผลเรื้อรังจนเกิดการกลายไปเป็นเซลล์มะเร็ง โดยการใช้ยาลดกรดในกลุ่มโปรตอน ปั๊ม อินฮิบิเตอร์ (Proton Pump Inhibitors) หรือ เอช 2 รีเซพเตอร์ แอนตาโกนีสต์ (H2-Receptor Antagonist หรือ H2 Blocker) เพื่อลดการหลั่งกรด ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ ร่วมกับรับประทานอาหารอ่อนๆสุกสะอาดและรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่นอนหลังรับประทานอาหารทันที และหลีกเลี่ยงอาหารที่รับประทานแล้วทำให้เป็นมากขึ้น ในบางคนอาจเป็นพวกอาหารเผ็ด อาหารรสจัด หรือน้ำอัดลมหากมีอาการถ่ายดำ ถ่ายเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด ปวดท้องมาก น้ำหนักลด กินได้น้อยผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์อ่านเพิ่มเติม

ผมอยากบอกอาการเพิ่มเติมจากหัวข้อที่แล้วครับ..คือนอกจากปวดมากจนทานยาแก้ปวดชนิดรุนแรงยังไม่ทุเลาแล้ว ผมน้ำหนักลดเกือบ3กิโล อ่อนเพลียไม่มีแรงแถมจิตใจยังหดหู่วิตกกังวลอย่างมากเลยครับ ที่ปวดท้องข้างซ้ายแบบนี้ และอยากรู้ว่าถ้าเป็นแล้วจะรักษาหายมั้ยเพราะผมรักษาที่โรงพยบาลต่างจังหวัด จำเป็นที่จะต้องส่งตัวต่อมารักษากับโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่าใน กทม หรือไม่

สวัสดีคะ เรียนอย่างนี้ค่ะ ประวัติเหมือนจะมีปัญหาเรื่องของแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้จริงค่ะ ในช่วงแรกค่ะ แต่ตอนนี้เหมือนจะมีเรื่องของลำไส้ใหญ่ด้านซ้ายอักเสบร่วมด้วยค่ะ เนื่องจากมีอุจจาระออกมาเป็นเลือดปนออกมาค่ะ ซึ่งที่สำคัญมากที่สุดต้องได้รับการตรวจค่ะ ว่ามีเรื่องเลือดออกจริงๆค่ะ เนื่องจากอาหารบางชนิดอาจจะทำให้มีสีของอุจจาระเป็นสีแดงได้ค่ะ เช่น แตงโม มะเขือเทศ พริก คะ ดังนั้นการตรวจอุจจารหาเม็ดเลือดสำคัญที่สุดค่ะหลังจากนั้น ถ้าอุจจาระมีเลือดปนออกมาต้องได้รับการส่องกล้องเข้าที่ลำไส้ทั้งหมดค่ะ เรียกว่า colonoscope เพื่อดูว่ามีเรื่องก้อน หรือ แผลหรือไม่ค่ะและประวัติครอบครัวมีใครเป็นเรื่องเนื้องอกลำไส้ หรือ มะเร็งลำไส้ก็สำคัญเช่นกันค่ะนี่คือขั้นตอนการตรวจค่ะถ้าไม่มีเลือดออกมาจริงหรือ มีเลือดออกมาเป็นสีดำคล้ำมีกลิ่นเหม็น อันนี้จะเป็นเรื่องของแผลในกระเพาะอาหารค่ะ เนื่องจากเลือดถูกกรดทำให้เป็นสีดำและมีกลิ่นเหม็นค่ะโรคตัับอาจจะต้องกลับไปมองเช่นกันค่ะ เพราะถ้าเป็นมากอาจจะทำให้มีเลือดคั่งในตับ เส้นเลื่อดขยาย หลอดเลือดที่หลอดอาหารป่องออกทำให้มีเรื่องอาเจียนเป็นเลือดถ่ายเป็นเลือดได้ค่ะต้องตรวจหลายอย่างร่วมด้วยค่ะแนะนำพบแพทย์ค่ะ ศัลยแพทย์ก่อนก็ได้ค่ะโรงพยาบาลประจำจังหวัดก็สามารถตรวจได้ค่ะ

คือหนูอายุ19ปีคะ เเม่ตายตั้งเเต่ยังเด็กอยู่กับอา2คน พ่อหนูเป็นคนคาดหวังในตัวหนูสูงจนบางครั้งหนูทำไม่ได้หนูชอบร้องไห้ตลอด ร้องไห้เเม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ หนูเหมือนเด็กร่าเริงคนนึง เเต่กลางคืนชอบนอนร้องไห้คิดเเต่เรื่องที่ตัวเองทำไม่ได้ น้ำหนักหนูเพิ่มขึ้นทั้งที่หนูทานอาหารปกติ หนูกลัวไปหมดทุกอย่าง บางครั้งอยากฆ่าตัวตาย ไม่อยากเจอปัญหา

สวัสดีคะ ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนค่ะว่าผุ้ปกครองส่วนใหญ่จะคาดหวังให้ลูก เป็นคนเก่งสามารถดูแลตัวเองได้ค่ะแต่วัยของเราจะถูกพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งร่างกายและสมองค่ะ ความผิดชอบจะมีมากขึ้นตามลำดับค่ะอย่าเพิ่งท้อ หรือ คิดฆ่าตัวตายนะค่ะ เพราะอายุยังน้อย ลองปรึกษาอาดูก่อนค่ะ ว่าพอที่มีทางช่วยอะไรได้ไหมค่ะตอนนี้เรียนระดับไหนแล้วค่ะ อาจจะลองพยายามตั้งใจเรียน หรือ ดนตรี กีฬา แล้วลองเริ่มทำอะไรให้สำเร็จแล้วลองดูว่าพ่อจะว่าอย่างไรค่ะแต่อย่างไรก็ตามถ้ามีความจำเป็นไม่สามารถพูดคุยกับใครได้แนะนำให้พบจิตแพทย์ค่ะ

ผมมีอาการปวดทวารอ่ะครับเป็นมา 2 อาทิตย์ แต่ตอนนี้พอดีขึ้นมาหน่อย แต่4-5 วันหลังมานี้ผมนอนอยู่รู้สึกปวดท้องถ่ายจนต้องตื่นตลอดประมาน 6 โมงเช้า ถ่ายออกมาเป็นก้อนออกเหลวๆมีเศษอาหารปนมาตลอด บางวันก็มีอาการคลื่นไส้ มวนท้องด้วย อยากทราบว่าผมเป็นโรคอะไรป่าวครับ เครียดมากด้วย ชั่งน้ำหนักตลอด น้หนักลดไป 1 กิโลได้ภายในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ช่วงที่ผ่านมาผมกินเจอยุ่พอดี รบกวนคุนช่วยตอบหน่อยครับ

สวัสดีค่ะ อาการปวดทวาร ถ่ายเหลว คลื่นไส้ มวนท้องดังกล่าวมานั้น อาจจะเกิดจาก การมีลำไส้อักเสบหรือติดเชื้อจากการรับประทานอาหารที่ไม่สุกสะอาดหรือก็คือภาวะอาหารเป็นพิษ อาจมีอาการอยู่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หากเป็นเกินนั้น ร่วมกับมีน้ำหนักลดผิดปกติร่วมด้วย อาจมีสาเหตุอื่นๆเช่น ลำไส้แปรปรวนรุนแรง มีเนื้องอกในลำไส้ใหญ่หรือไส้ตรงเบื้องต้นควรดื่มน้ำมากๆ ให้ชดเชยกับที่เสียออกมา อาจจิบน้ำเกลือแร่ด้วย รับประทานยาแก้ปวดท้อง แก้คลื่นไส้เพื่อบรรเทาอาการได้ รับประทานอาหารอ่อนๆและสุกสะอาดควรไปพบแพทย์หากมีอาการต่อเนื่องเกิน 1 สัปดาห์ จนทำให้อ่อนเพลีย กินได้น้อย มีน้ำหนักลดลงอย่างชัดเจน เช่นเกิน 5% ของน้ำหนักตัวขึ้นไป เรื่องมะเร็งนั้นหากเพิ่งเป็นมา 2 สัปดาห์ น้ำหนักตัวยังลดลงเพียง 1 กิโลกรัมซึ่งอาจจะยังไม่ชัดเจนมากนักอาจจะยังนึกถึงได้น้อย แต่หากไม่สบายใจ สามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจเบื้องต้นดูก่อนได้ค่ะ

แฟนของผมกินยาคุม2วันติดครับวันที่28กับ29มิ.ย แล้ววันที่4-7ก.คมีเลือดออกเหมือนเมน(ออกเกือบเท่าเมน)จนมาถึงวันนี้วันที่32ของรอบเดือนแล้วยังไม่รู้สึกว่าเมนจะมาเลย กังวลว่าเมนจะไม่มาครับ อยากรู้ว่าเมนจะมาไหมครับ

สวัสดีค่ะ tยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินคือยาคุมที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศในระดับสูง กินหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยจะให้ประสิทธิภาพได้เต็มที่ประมาณ 80-90% หากได้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และกินครบตามข้างฉลากกำหนดผลข้างเคียงของการใช้ยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องได้ซึ่งการมีผลข้างเคียงจากยาไม่ได้บ่งบอกว่าตั้งครรภ์หรือไม่ หากยังไม่สบายใจเรื่องการตั้งครรภ์ และประจำเดือนมาช้ากว่า 35 วันจากครั้งก่อนไปแล้ว ซึ่งถือว่าช้าผิดปกติ ควรจะต้องยืนยันการตั้งครรภ์ แม้โอกาสจะมีน้อยหากใช้ยาอย่างถูกต้อง สามารถซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจได้เองเบื้องต้น ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ และหากให้ผลลบ แต่รอบเดือนก็ยังไม่มา ควรไปยืนยันผลที่รพ.และหาสาเหตุต่อไป

สวัสดีค่ะเรามีอาการกลัวเวลาคนทะเลาะกันมากๆยกตัวอย่างเช่นเวลาพ่อเเม่เริ่มขึ้นเสียงกันเราจะกลัวจนร้องไห้ออกมาและตัวสั่นเวลานอนถ้าเราผ่านเหตุการณ์แบบที่ว่าข้างต้นจะมีอาการนอนไม่หลับเพราะเสียงทะเลาะจะวิ่งวนอยู่ในหัวแล้วเราจะมีความคิดอยากตายทุกครั้งเหมือนเราตันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกว่าเสียงจะหายออกไปใช้เวลาประมาณ2-3วันเรารู้สึกกังวลในทุกๆเรื่องไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยรู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตหรือแม้กระทั่งเรื่องเเย่ๆเล็กน้อยเราก็เก็บเอาไปคิดจนเครียดจนร้องไห้อีกควรทำยังไงดีคะ

สวัสดีค่ะ อาการกลัวเสียงดัง ร้องไห้ ตัวสั่น นอนไม่หลับ กังวลกับปัญหาต่างๆในชีวิตดังกล่าวมานั้น อาจจะเป็นอาการที่เกิดจากการมีภาวะซึมเศร้า โรคซึมเศร้า ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์จากเหตุการณ์ต่างๆที่เข้ามาในชีวิต เป็นต้นภาวะซึมเศร้าจะทำให้มีความรู้สึกเศร้า สับสน หดหู่ เก็บตัวมากขึ้น เกิดได้ในคนปกติที่เจอกับปัญหาเช่นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว หาทางออกให้กับปัญหาในชีวิตไม่ได้ หากเป็นต่อเนื่องเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ไม่ดีขึ้น ร่วมกับมีพฤติกรรมการกินการนอนเปลี่ยนแปลงไปชัดเจน ไม่อยากเข้าสังคม ทำอะไรก็ไม่สนุก อาจจะเข้าข่ายโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชที่ควรได้รับการดูแลระยะยาวโดยจิตแพทย์ด้วยการใช้ยาและการทำจิตบำบัดเบื้องต้นแนะนำสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด หากหดหู่มาก ไม่อยากไปเรียน เก็บตัว มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ให้รีบแจ้งผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ เพื่อพาเข้าไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด ในขณะนี้หาสิ่งที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ พยายามหลีกหนีหรือออกห่างจากสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

คือพ่อกับแม่เคยทะเลาะกันต่อหน้าหนูแล้วเสียงดังมาก ตอนนี้ถ้ามีคนพูดเสียงดัง หรือคุยกันเสียงดัง หนูจะใจสั่น หายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกกลัว แต่พึ่งรู้ตัวว่าไม่ใช่แค่คนคุยกันเสียงดัง แต่รวมไปถึงเสียงพลุ หรืออะไรที่ดังมากๆ หนูจะตกใจกลัว หายใจไม่ทั่วท้อง หนูควรไปพบจิตแพทย์มั้ยคะหรือเป็นอาการของคนทั่วไปที่เสียงดังแล้วเป็นอาการแบบหนู

สวัสดีค่ะ อาการกลัวเสียงดังดังกล่าวมา ถ้าเป็นเสียงดังมากจากการทะเลาะวิวาท หรือเสียงพลุที่ดังมากๆ คือรู้สึกตกใจ แต่หลังจากนั้นก็ควบคุมอาการได้ ก็อาจจะเป็นภาวะปกติ ที่พบได้ในคนทั่วไปแต่หากกลัวมากจนมีอาการทางกาย จากการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่มากผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นเร็ว แน่นอก หายใจไม่ออก ขยับร่างกายไม่ได้ชั่วคราว เหงื่ออกมาก ร้อนวูบวาบ อาจจะมีภาวะที่เรียกว่าโรคแพนิค หรือโรควิตกกังวล ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินสภาพจิตเพิ่มเติมการดูแลตัวเองเบื้องต้น การเปลี่ยนความคิด โดยเมื่อรู้สึกเหมือนจะมีอาการดังกล่าว ให้ลองพุ่งความสนใจไปยังเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เช่นที่ที่เราชอบไป และต้องตั้งสติว่าเหตุการณ์นี้จริงๆแล้วไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ไม่จำเป็นต้องมีความหวาดกลัว

ปกติเป็นคนกลัวโรงพยาบาลมากค่ะ แล้วตอนนี้คือมีปัญหาคือ เวลามีเพศสัมพันธ์กับแฟน เวลาจะสอดใส่รู้สึกเจ็บมากๆ รู้สึกไม่มีความสุขขนาดร่วมเพศ และตลอดเวลาเหมือนเป็นตกขาวมีกลิ่นเหม็น ทำให้ขาดความมั่นใจ ละประจำเดือนไม่มาทั้งที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ ปัญหาเยอะมากค่ะ ขาดความมั่นใจสุดๆ ทำให้ไม่กล้ามีเพศสัมพันธุ์กับแฟนเลย ตอนนี่กังวลไปหมดเลยค่ะ

repostสวัสดีค่ะ การเจ็บในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์อาจเกิดจาก-ความผิดปกติที่ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ ไม่ว่าจะเป็นแผล ผื่นจากการระคายเคืองที่ทำให้เกิดอาการคันหรืออาการแสบร้อนก็ทำให้มีอาการเจ็บได้-การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน แต่มักเกิดในผู้หญิงวัยทอง ทำให้ช่องคลอดแห้ง และเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์-การอักเสบของช่องคลอด จากเชื้อราหรือแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการตกขาว คัน แสบร้อนและเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ได้-การอักเสบในอุ้งเชิงกราน พังผืดในช่องท้อง-มีช่องคลอดที่หดรัดตัวผิดปกติ คือปฏิกิริยาอัตโนมัติของร่างกายที่มีต่อความกลัวการสอดใส่ทางช่องคลอดในบางรูปแบบหรือทุกรูปแบบ โดยกล้ามเนื้อช่องคลอดจะเกิดการบีบรัดจนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ไม่สามารถสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปได้แนะนำเพื่อพบแพทย์เพิ่มเติมให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอน ไม่จำเป็นต้องกลัวหรืออาย เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ควรไปตรวจให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ช่วงหลังมานี้ ตัวเองมีอาการ ภาวะทางอารมณ์แปลกๆค่ะรู้สึกตัวเองหดหู่ง่ายมากๆ แล้วก็จะร้องไห้ออกมา ร้องไห้ง่ายมาก ในบางทีรู้สึกเหงา และเหมือนไม่เป็นที่ต้องการจากคนรัก อยากให้มีใครสักคนฟังเราในบางช่วงเวลา รู้สึกอยากมีใครในวันที่รู้สึกโดดเดี่ยวภายในใจเรามีแฟนนะคะ แต่เราไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ในบางครั้ง แฟนเราดีมากๆ ครอบครัวรักเรามาก แต่อาจจะ ทำงานกันเยอะ บางทีเวลาก็ไม่มี เราเข้าใจหมดทุกอย่างเลยแต่ช่วงนี้ พอช่วงกลางคืน เวลาอยู่คนเดียว รู้สึกตัวเองจะหดหู่ เหงา และเศร้า รู้สึกอยากร้องไห้ แล้วก็ร้องออกมา จนบางทีก็หลับไปเราชอบทะเลาะกับตัวเอง เหมือนตัวเองมี 2 คนในร่างเดียวเคยขับรถแล้ว อยากขับให้ชนไปเลย บางทีเวลาเสียใจ ใจชอบคิดแบบนี้แต่ก็จะมีอีกเสียงพยายามหยุดเราไว้...เราไม่รู้มันคือโรคซึมเศร้าไหม แต่เราไม่อยากเป็น มีคนให้เราไปหา แต่เรากลัว และใจต่อต้านนานมาแล้ว ประมาณ 2 ปีก่อน เคยเสียใจมากๆกับเรื่องความรัก ตอนนั้นเก็บตัวอยู่คนเดียว ร้องไห้ทุกคืน นอนไม่หลับ ตี 5 ถึงหลับ ร้องไห้ทุกคน แล้วคิดว่า ถ้าเราตายไปจะไม่ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้อีก บอกตัวเองทุกคืนว่า ทำไมถึงทุกข์จัง แล้วเราจะตายไหม แล้วก็รู้สึกว่า ตายไปอาจจะหมดความรู้สึกแบบนี้ เคยคิดว่า จะเอากรรไกรมาแทง แต่ก็ได้แค่คิดค่ะ ยังไม่ลงมือทำจริง เพราะว่า จะมีอีกความคิดแทรกเข้ามา คือพ่อ กับแม่จะเสียใจไหมแม้กระทั่งพิมพ์ตอนนี้ เราก็ร้องไห้ เราไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรค่ะเรารู้สึกหมดแรง เหนื่อยและง่วง ทั้งวัน ทั้งๆที่นอน 7-8 ชม. (นอนประมาณ 10.30-11.30 pm)ไม่สดใสเท่าไหร่ สมาธิไม่ค่อยมี ตอนหลังขับรถแล้วจะต้องเรียกตัวเองทุกครั้งว่า กำลังขับรถนะ ขับรถนะ ใจกระสับกระส่ายมากค่ะยิ่งเราเจอข่าวว่าคนทำร้ายตัวเองจากโรคแบบนี้ ใจเรากลัวมาก กลัวขึ้นมาทันทีเลยพอจะช่วยเราได้ไหมคะคุณ

สวัสดีคะสวัสดีค่ะ ความรู้สึกที่มีตอนนี้เป็นภาวะที่เรียกว่า ภาวะโรคซึมเศร้า และเนื่องจากมีความรู้สึกที่คิดถึงเรื่องการฆ่าตัวตาย ขอแนะนำว่าเป็นภาวะเร่งด่วนที่ควรจะไปพบและปรึกษาจิตแพทย์ทันที เพื่อพูดคุยและหาสาเหตุขอภาวะโรคซึมเศร้านี้ และเข้ารับการรักษาทันที ซึ่งการรักษาประกอบด้วยการรับประทานยาต้านการซึมเศร้า และการทำกลุ่มบำบัดค่ะข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ( depression หรือ Major depressive disorder ) โรคซึมเศร้าเป็นสภาวะทางจิตที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 2 อาทิตย์ ผู้ป่วยมักจะมีปัญหาขาดความมั่นใจ ขาดความสนใจในกิจกรรมที่เคยสนใจมาก่อน รู้สึกเหนื่อยอ่อนเพลีย และบางครั้งมีภาวะเจ็บปวดที่หาสาเหตุไม่ได้ บางครั้งอาจมีภาวะเชื่อในสิ่งที่ผิด และ ได้ยินหรือเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ภาวะซึมเศร้าอาจเกิดขึ้นในได้คนปกติ ภาวะซึมเศร้าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ดังนั้นขอยืนยันว่าควรไปพบจิตแพทย์ทันทีอย่างที่กล่าวมาข้างต้นโรคซึมเศร้าเป็น สภาวะจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างอย่างไรก็ตาม สภาวะนั้นจะต้องเป็นต่อเนื่องอย่างน้อย 2 อาทิตย์ แพทย์ถึงจะพินิจฉัยว่ามีปัญหาเรื่องภาวะซึมเศร้า เพราะนอกจากนี้ยังมีสภาวะที่ทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยนในช่วงระยะเวลาอันสั้น หรือ เกิดเป็นช่วงเวลา เช่น seasonal affective disorder ซึ่งเป็นสภาวะซึมเศร้าที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล มักเกิดในกลุ่มประเทศเขตหนาว ที่มีระยะเวลากลางวันสั้นลงในฤดูหนาว กลางคืนยาวขึ้นซึ่งในคนไข้กลุ่มนี้สามารถที่ช่วยได้ด้วยการนั่งในห้องที่ใช้แสงไฟพิเศษ ประมาณ 15-20 นาทีต่อวันนอกจากนี้ควรจะสังเกตว่าก่อนที่อาการซึมเศร้าจะเกิดขึ้นกับ มีเหตุการณ์อะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตของ ทั้งเหตุการณ์ที่คิดว่าอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะซึมเศร้าขึ้นหรือไม่ก็ได้ ให้พยายามรวบรวมความคิดเหล่านั้นไว้ด้วย และอีกอย่างที่สำคัญที่จะลืมเสียมิได้คือ มีการใช้สารหรือยาบางอย่างที่ทำให้มีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วยหรือไม่จุดมุ่งหมายหลักในการรักษาคนไข้กลุ่มนี้ มีดังต่อไปนี้การป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีสภาวะซึมเศร้าการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยสูญเสียความรู้สึกสนใจและพอใจที่อยากจะทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียความอยากอาหารและมีปัญหาเรื่องน้ำหนักที่ผิดปกติไปการป้องกันไม่ให้มีการนอนหลับมากเกินไปการป้องกันเพื่อไม่ให้มีความรู้สึกหงุดหงิดการป้องกันไม่ให้เกิดสภาวะเหนื่อยอ่อนเพลียและรู้สึกล้าตลอดเวลาการป้องกันไม่ได้ผู้ป่วยคิดว่าตัวเองมีปมด้อย หรือรู้สึกผิดการป้องกันให้ผู้ป่วยสามารถมีกำลังใจในการคิดและพยายามคิดและตัดสินใจในทางที่ถูกต้องการป้องกันไม่ให้เกิดความคิดที่จะฆ่าตัวตายดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ลักษณะอาการที่เกิดขึ้นกับ ต้องได้รับการพบจิตแพทย์ทันที เพื่อประเมินสภาวะทางจิตใจ และให้สามารถได้รับการพินิจฉัยที่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพ เช่น การรักษาด้วยยาต้านภาวะซึมเศร้า และการเข้ากลุ่มบำบัดอย่างที่กล่าวมาข้างต้น

สวัสดีค่ะอายุ 18 สูง160 นน 42 ค่ะ วันก่อนไปกางเต้นกันแล้วหนูปวดปัสสาวะตอนดึกไม่อยากใช้กระบอกคอมฟอร์ทร้อย ก็เลยปลดตะขอกางเกง อาการปวดก็เบาลงนอนต่อ รู้สึกตัวประมาณตี5ค่ะ รู้สึกเจ็บตึงท้องมากทนไม่ได้แล้วก็เลยต้องกระบอกคอมฟอร์ทร้อย ปล่อยออกมาจนเต็มเลยค่ะ พอเช้ามาทุกคนก็เห็นกัน มาทักหนูว่าทำไมเป็นเด็กแต่กลั้นไว้มากขนาดนี้ อันตรายมาก เลยรู้สึกกังวลค่ะคุณ เพราะอ่านดูในเว็บกระเพาะจุได้400-600ซีซีเอง แต่กระบอกนั้น1000ซีซี หลังจากนั้นก็ปวดท้้องน้อยอยู่เป็นครึ่งวันเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ งาน,กระเพาะปัสสาวะจะจุปัสสาวะได้มากสุดประมาณ 500 มิลลิตรสำหรับในผู้หญิง ส่วนในผู้ชายอาจได้ถึง 700 มิลลิตร อย่างไรก็ตาม โดยปกติ เมื่อกระเพาะปัสสาวะมีปริมาณน้ำปัสสาวะ 200 มิลลิตรขึ้นไป ก็จะไปกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะ ดังนั้น เมื่อเกิดการปวดปัสสาวะ ก็ควรไปปัสสาวะ การกลั้นปัสสาวะไว้นานเกิน อาจทำให้เกิดผลเสียตามมา ได้แก่- การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งยังมีผลทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ง่ายหลังจากนั้นตามมาด้วย- น้ำปัสสาวะไหลย้อนขึ้นไปในท่อไต ทำให้ท่อไตเกิดการขยายตัว ซึ่งหากมีการกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ น้ำปัสสาวะอาจไหลย้อนจนถึงกรวยไต เกิดท่อในไตขยายตัว ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อในกรวยไตได้บ่อยๆ รวมถึงอาจเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต- หูรูดกระเพาะปัสสาวะเสียหาย ซึ่งอาจมีผลทำให้กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ดังนั้น หลังจากนีั ก็ไม่ควรกลั้นปัสสาวะอีก และหากต่อมา มีอาการทางปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะกะปริดกะปรอย ปัสสาวะไม่สุด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ มีปวดท้องน้อย ปวดหลังบ่อยๆ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ

คือผมเคยเล่นกะเพื่อนบ่อยๆฮะตอนนั้นยังเด็กเลยไม่คิดอะไรมากเเต่พอโตเเล้วก็รู้สึกอยากรู้ว่าเป็นได้ยังไงเกิดอะไรขึ้นก็มีอยู่ว่า ผมชอบเล่นกะเพื่อน โดยให้คนนึงยืนหันหลังชิดผนังฮะเเล้วสูดหายใจเข้าลึกๆเต็มปอดเเล้วกลั้นหายใจไว้ ระหว่างที่กลั้นหายใจ ที่ให้เพื่อนที่เหลือ ประมาน2-3คน เอาฝ่ามือกดดันไปที่กลางอกของคนที่กลั้นหายใจครับ กดรวมที่จุดเดียว นานประมาน10วิ หลังจากนนั้นคนที่กลั้นหายใจก้รู้สึกหน้ามืดเเล้วหมดสติไปเลยฮะ รู้สึกเหมือนไปอีกต่างโลกไปใช้ชีวิตที่นั่นประมาน10ปี กว่าจะรู้สึกตัว พอตื่นมาก็มึนๆงงๆเลยฮะเหมือนพึ่งตื่นนอนเเต่เวลาจิงๆเเล้วหมดสติไปประมาน7-15วิเองฮะถามว่า มันเกิดอะไร อย่างไร อยากรู้เกี่ยวกับทฤษฏีเรื่องนี้อะฮะ คือสงสัยเเเหล่ะจิงๆ

สวัสดีค่ะอาการที่รู้สึกวูบไป คล้ายกับจะหมดสติหลังจากที่ถูกกดบริเวณกลางอกดังกล่าวมานั้น อาจจะเป็นอาการที่ค่อนข้างอันตรายจากการขาดเลือดไปเลี้ยงสมองชั่วคราวจากการทำท่าทางบางอย่างต่อร่างกาย สาเหตุอื่นๆเช่นการเปลี่ยนท่าทางที่เร็วเกินไป ทำให้ความดันลดต่ำอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะหายไปได้เอง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจทำให้มีอาการคล้ายจะวูบ น้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นต้นแนะนำว่าไม่ควรทำท่าทางดังที่กล่าวมาอีก เพราะอาจจะมีอันตรายได้ พักผ่อนให้เพียงพอ งดการทำงานหนักๆ และตอนนี้ให้สังเกตอาการของตนเองค่ะ ถ้ามียังมีอาการวูบ หน้ามืด คล้ายจะหมดสติต่อเนื่องนั้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการ และทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพิ่มเติม

สวัสดีครับผมมีเรื่องปรึกษาหน่อยนะครับพอดีช่วงที่ผ่านมาทำงานกะกลางคืนเริ่มเดือนพฤษจิกายนถึงเดือนปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาครับงานจะเป็นยกของใส่ถุงยืนทั้งคืนครับที่สาเหตุต้องออกเพราะอาการครั้งแรกทำงานกลับมานอนไม่หลับแม้จะเหนื่อยล้าเพียงใดง่วงแต่นอนไม่หลับครับผมก็เลยไปหาฉีดยาให้ก็ยังไม่ดีขึ้นมาตอนแรกผมคิดว่ากล้ามเนื้ออักเสบหรือเปล่าครับ ก็ไปหาอีกทีฉีดยาก็ให้กินยาก็ยังไม่ดีขึ้นมาครับนอนไม่หลับปวดศรีษะร้อนมากครับแผ่นหลังด้วยครับ กล้ามเนื้อกระตุกเริ่มมาไม่กี่วันนี่เองครับทีแรกกระตุกแล้วก็หายแต่พอนานเข้ากระตุกตลอด24ชั่วโมงจนนอนไม่หลับครับยิ่งเวลากังวล เครียด หรือตื่นเต้น จะกระตุกมากขึ้นกว่าเดิม ครับ เป็นมาสี่ห้าวันแล้วหัวใจก็เต้นแรงกว่าปกติ จะเป็นแต่ข้างซ้ายครับหัวลงมาถึงขาเลยครับ ขารู้สึกจะชา ตลอดด้วยครับ ข้างขวาไม่เป็นเลยครับ ผมอยากรู้ว่าเป็นโรคอะไรครับ ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพราะแม้ผมจะทำสมาธิ กลั่นหัวใจ พยายามไม่เครียดกังวลแต่ก็ยังกระตุกเหมือนเดิมครับไม่หายเลยครับ ผมลืมไปว่าช่วงทำงานกลางคืนผมจะดื่มน้ำร้อนเยอะครับคืนละ 2-3 ลิตรครับ รบกวนคุณด้วยนะครับ ขอบครับ

สวัสดีคะ ปัญหาคือ ปวดศีรษะ และมีเรื่องของกล้ามเนื้อกระตุก ปวดกล้ามเนื้อตอนนี้อาจจะต้องดูเรื่องของการการทำงานที่หนักเกินไปค่ะ ทำให้กล้ามเนื้อมีการหดตัวถี่ๆ มากเกินไปค่ะหรือ อาจจะตูภาวะเครียด ซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาได้เช่นกันค่ะ กล้ามเนื้อที่เครียด ทำให้มีอาการแบบนี้ได้ค่ะนอกจากนี้อาจจะต้องดูว่ามีความผิดปรกติของเรื่องเกลือแร่ในร่างกายหรือไม่ค่ะเช่น โปแทสเซียม หรือ แคลเซียม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อ่ะดังนั้นควรจะรีบปรึกษาแพทยเพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ

สวัสดีครับผมอายุ 16 มีอาการกล้ามเนื้อกระตุกตอนเเรกๆเริ่มมีอาการตรงฝ่าเท้าเหมือนมีอะไรมาจักจี้ ต่อมาปิดเทอม3เดือนนั่งเล่นคอมทั้งวันนอนเเล้วปวดหัวไปหากบอกว่ากล้ามเนื้อตึงเครียดให้ยาคลายกล้ามเนื้อมากินไปแล้วก้หายปวดเเต่ที่พูดไปยังไม่มีอาการกล้ามเนื้อกระตุกพอเปิดเทอมมาได้1อาทิตย์เเขนก้เริ่มกระตุกวันนั้นนอนเเทบไม่ได้ผ่านมา2วันการกระตุกตรงเเขนหายไปเริ่มมากระตุกทุกส่วนกระตุกตามหัวใจเต้นที่นิ้วมือกระบังลมน่องต้นขาเท้าบางครั้งก้กระตุกเเบบสบัดไปเลยที่พูดมาทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นเฉพาะตอนนอนคือผมเป็นคนหลับยากเพราะขี้กังวลมากครับไม่ทราบว่าผมจะเป็นอะไรร้ายเเรงหรือเปล่าครับ

สวัสดีคะ อาการกล้ามเนื้อกระตุกเกิดจากสาเหตุดังนี้ค่ะอาการชัก ซึ่งถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ต้องได้รับการรักษาทันทีเส้นปลายประสาทส่วนปลายเสื่อมมีปัญหาความผิดปรกติของตับและไตการกระตุกของกล้ามเนื้อนอกอำนาจจิตใจการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนภาวะที่มีแคลเซียมมากเกินไป ความผิดปกติของต่อมพาราไทรอยด์ภาวะที่มีความเป็นด่างในเลือด เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์มีซีสที่ต่อมหมวกไตHuntington's diseaseภาวะไตวายภาวะไตวายระยะสุดท้ายภาวะกลัวที่แคบ หรือ กลัวการกักขังในที่แคบแคลเซียมในเลือดต่ำภาวะไตบวมภาวะความผิดปกติของสมองเนื่องจากการกินสมองของผู้ป่วยที่มีโรค วัวบ้าในกรณีของอาจจะเกิดจากการความเครียด และภาวะ ที่เรียกว่า restless leg syndromeแนะนำพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ

สวัสดีครับ,เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาได้พบว่า ร่างกายตัวเองผิดปกติ โดยกล้ามเนื้อแขนกระตุกซึ่งระยะแรกเริ่มจากการกระตุกเวลานอน พอผ่านมาซักพัก แขนเริ่มกระตุกรัวๆเองเป็นบางครั้งลองสังเกตอาการดูพบว่า บริเวณกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่หลัง, หลังแขน กระตุกรัวทุกครั้งเวลาเกร็ง หรือ เวลาเครียด, กังวล และ จะไม่เกิดอาการเมื่อเวลาทำงานที่ใช้สมาธิสูงไม่ทราบว่า ผมควรเริ่มต้นเข้ารักษาอย่างไรดีครับขอบครับ

สวัสดีค่ะ อาการกล้ามเนื้อเกร็ง กระตุกเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่มักเกิดมาจากการใช้ชีวิตประจำวันทั่ว ไป เช่น ได้รับคาเฟอีนและสารกระตุ้นอื่น ๆ มากเกิน หลังการออกกำลังกาย ความเครียดและความวิตกกังวล เป็นต้น แต่บางครั้งอาจเกิดจากความผิกปกติในร่างกาย เช่น ความผิดปกติของระบบประสาท การขาดสารอาหารและวิตามินบางชนิด ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ การใช้ยาบางชนิด สารนิโคตินที่พบในบุหรี่และสารเสพติดประเภทอื่น ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อขากระตุกได้ง่ายการรักษาขึ้นกับสาเหตุค่ะหากอาการกระตุกเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และมีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย แนะนำว่า ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจร่างกาย และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่น แล้วจึงให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ

คุนครับพอดีวันอังคารมนั่งเล่น เฟสบุคอยู่แล้ว มีเพื่อนคนหนึ่ง ลุกมาจากข้างหลังผม แล้วมาจับตรง ข้อศอกแล้วบอกกับผมว่า แปปดูก่อน เพราะตอนนั้นผมเลือนไปเจออุบัตเหต จับแล้วปล่อย ผมก็ไม่คิดไร ที่นี้ด้วยความผมเป็นคนชอบวิตกกังวลคิดมาก ผมก็เลยคิดว่ามันเอาเข็มมาทิ่มผม แต่ตอนนั้นผมไม่รู้สึกเจ็บ แต่ผมคิดมาก ผมเลยมองดูแล้วผมรอยเหมือนเข็มทิ้ม แบบเลือดคลั่ง ผมเลยวิตกกังวลว่ามันเอาเข็มมาทิ้ม

สวัสดีค่ะ การโดนเข็มทิ่มตำ ย่อมต้องรู้สึกเจ็บจนสะดุ้ง หากไม่มีความรู้สึกเจ็บ อีกทั้งไม่เห็นเลือดไหล ก็ไม่น่าโดนเข็มทิ่มตำแต่อย่างใดค่ะ ดังนั้น จึงไม่น่าเกิดการติดเชื้อ HIV ได้แต่อย่างใดค่ะนอกจากนี้ การจะติดเชื้อ HIV ได้ เข็มที่นำมาทิ่มนั้นต้องมีเลือดของผู้ ที่ติดเชื้อ HIV อยู่ ซึ่งหากมีเชื้อ HIV อยู่จริง โอกาสในการติดเชื้อก็มีเพียงแค่ 0.3% ค่ะ

เรียนสอบถามคุณตอนนี้กังวลมากเลยค่ะ เบื้องต้นตั้งเเต่เริ่มเเรกเลยคือ มีติ่งเนื้อที่รูทวาร เมื่อหลายปีมาแล้ว 5-6 ปี ได้ค่ะ แต่ยังขับถ่ายใช้ชีวิตได้ปกติ แต่เมื่อ 1-2 ปี ที่ผ่านมา เริ่มขับถ่ายไม่ปกติ ท้องผูกบ่อยขึ้น จนต้องกินยาระบาย หลังจากนั้นก็ท้องผูกสลับท้องเสีย จนหลังๆเริ่มติดยาระบาย ถ้าไม่กินก็ไม่ถ่าย เหมือนลำไส้มีขนาดเล็กลง ถ่ายออกมาเป็นเส้นเล็กๆ จนตอนนี้ก็พยายามกินผักเยอะๆและเลิกกินยาระบาย ก็ถ่ายได้ค่ะ แต่เหมือนถ่ายไม่หมด กินเข้าไปเยอะ แต่ถ่ายออกมานิดเดียวจนมาอาทิตย์ก่อน ท้องผูก ถ่ายแข็ง และมีเลือดออกเป็นเลือดสดขณะถ่าย(เป็นครั้งคราว)ก่อนหน้านี้เคยเป็นครั้ง 1 นานมาเเล้ว เข้าใจว่าอุจจาระคงบาด ตามที่อ่านในเว็บไวต์ต่างๆ จนตอนนี้เหมือนรูทวารมันบวมอะค่ะ เเข็งๆ เหมือนมีอะไรอุดอยู่ แต่ยังถ่ายได้อยู่นะค่ะ ปวดท้องหน่วงๆตลอดเลย ปวดท้องข้างขวาบ้าง ปวดแถวชายซี่โครงบ้าง สลับๆกันไป ปวดมานานแล้วด้วยอะค่ะ รู้สึกไม่สบายตัวเลย ไม่สบายใจด้วย กลัว เครียด กังวลมากเลยค่ะ

สวัสดีครับสำหรับอาการโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่(CA colon)ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ฝั่งซ้าย (Left side) มีดังนี้คือ มีการเปลี่ยนแปลงของลักษณะอุจจาระ มีขาดเป็นลำเล็กคล้ายแท่งดินสอ แบน มีมูกเลือดปน มีอาการไม่ถ่ายนานๆสลับอาการถ่ายมาก ท้องอืดแน่น เบื่ออาหารน้ำหนักลด ส่วนอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ทางฝั่งขวา (Right side) คือมีเลือดออกทางเดินอาหารเรื้อรัง มีอาการอ่อนเพลียซีด เหนื่อยง่าย สำหรับมะเร็งตรงบริเวณไส้ตรง(CA rectum) จะมีอาการปวดอุจจาระบ่อย ปวดเบ่งบริเวณรูทวาร ถ่ายอุจจาระไม่สะดวก มีเลือดปนในอุจจาระ อุจจาระมีขนาดเล็กได้ครับ ยังมีโรคอีกชนิดเรียกว่าลำไส้แปรปรวน(Irritable bowel disease,IBS) โรคชนิดนี้ไม่มีความผิดปกติทางโครงสร้างของลำไส้ แต่มีความผิดปกติในการทำงาน ทำให้มีอาการท้องผูก ถ่ายอุจจาระเป็นลำเล็ก ถ่ายไม่สุด หรือมีอาการถ่ายเหลว ท้องอืดแน่นได้ อย่างไรก้ตามโรค IBS จำเป็นต้องแยกจากโรคที่ทำให้เกิดอาการคล้ายกัน ซึ่งมีอันตรายมากกว่าเช่น มะเร็งลำไส้ หรือลำไส้ติดเชื้อแบคทีเรีย โปรโตซัว ส่วนอาการถ่ายเจ็บบริเวณรูทวาร ถ่ายแล้วมีเลือดหยดตามมา มีก้อนบริเวณรูทวาร อาจเป็นแผลขอบรูทวาร (Anal fissure) ถ้าเป็นแผลขอบรูทวารเรื้อรังโดยไม่ได้รับการรักษา จะมีติ่งเนื้อยื่นออกมาจากแผลได้ครับสำหรับอาการของคุณคิดว่าโรคแผลขอบรูทวาร(Anal fissure) อธิบายอาการมากที่สุดอย่างไรก้ตามแนะนำให้มาโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจร่างกาย ตรวจทางรูทวาร หากมีข้อบ่งชี้แพทย์ผู้ทำการรักษาจะสั่งตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อตรวจคัดกรอง หรือวินิจฉัยโรคครับ

คือก่อนหน้านี้ผมมีอาการกลืนอาหารแล้วรู้สึกจุกตรงกลางหน้าอกผมจึงไปหา x-ray แล้วไม่พบเนื้องอก แต่บอกว่าเป็นกรดไหลย้อนจึงให้นามาทาน1เดือนอาการไม่ดีขึ้น ผมกลับไปหาอีกครั้ง ก็ยังไม่ได้คำตอบชัดเจนว่าผมเป็นอะไร จึงกังวลว่า จะเป็นมะเร็งหลอดอาหารหรือไม่ครับ การx ray แล้วไม่พบเนื้องอกนี่สามารถยืนยันได้หรือไม่ครับว่าไม่เป็นมะเร็ง ผมอายุ 20ปีครับ ช่วยตอบหน่อยนะครับกังวลมาก

สวัสดีค่ะ โรคมะเร็งหลอดอาหารในระยะเริ่มแรกนั้นมักไม่แสดงอาการอะไร เมื่อโรคเริ่มลุกลามมากขึ้น จะเริ่มแสดงอาการ ได้แก่กลืนอาหารลำบาก กลืนแล้วเจ็บ โดยจะเริ่มจากการกลืนอาหารแข็งลำบาก ต่อมาจะกลืนอาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลืนน้ำหรือน้ำลายไม่ได้ มีอาการสำลักเวลากลืน มีน้ำลายมาก มีเสมหะปนเลือด หรืออาเจียนเป็นเลือด นอกจากนี้อาจมีอาการเจ็บหน้าอก หรือแสบร้อนบริเวณหน้าอก น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เสียงแหบ ไอเรื้อรังอาเจียน สะอึก เป็นต้นโรคมะเร็งหลอดอาหารมักพบในผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ดังนั้นหาก เพิ่งอายุ 20 ปี โอกาสที่จะเป็นนั้นน้อยอย่างยิ่ง สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นมะเร็งหลอดอาหาร เช่น การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีโรคอ้วน ทานเนื้อสัตว์ที่ใส่สารกันบูด เช่น เนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ เป็นประจำ ชอบดื่มน้ำร้อน หรืออาหารร้อนจัดเป็นประจำ รวมถึงในผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนที่มีอาการกำเริบบ่อยครั้ง อาจมีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารเพิ่มขึ้น ในผู้ที่มีภาวะหลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง (Barrett 's esophagus) เคยได้รับการรักษาด้วยรังสีบำบัดบริเวณช่วงอก เป็นต้นการวินิจฉัยมะเร็งหลอดอาหารนั้น จะเริ่มจากลักษณะอาการที่เข้ากันได้ หรือมีอาการที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งหลอดอาหาร แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มด้วย- การส่องกล้องตรวจหลอดอาหาร(endoscopy) โดยการส่องกล้องเข้าไปทางปาก หากพบความผิดปกติ แพทย์จะตัดชิ้นเนื้อบางส่วนไปตรวจหทางห้องปฏิบัติการต่อไป- การกลืนแป้งแบเรียมผู้ป่วยต้องกลืนสารแบเรียมเข้าไป จากนั้นแพทย์จะตรวจหาความผิดปกติอื่น ๆ จากการฉายภาพรังสีในกรณีของ ซึ่งยังอายุแค่ 20 ปี และมีแค่อาการจุกแน่นกลางหน้าอก ลักษณะจึงยังไม่น่าเป็นมะเร็งหลอดอาหารค่ะ อาจเป็นอาการของโรคกรดไหลย้อน หรือกระเพาะอาหารอักเสบค่ะสำหรับการเอ๊กซเรย์ หากเป็นการเอ๊กซเรย์ธรรมดาบริเวณทรวงอก (chest X-ray) จะไม่สามารถตรวจดูรอยโรคหรือความผิดปกติที่อยู่ภายในหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารได้ค่ะในเบื้องต้น นอกจากการทานยาที่ได้รับมาต่อเนื่องแล้ว ควรเลือกทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ปริมาณมาก งดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ เนื้อสัตว์ติดมัน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ควรแบ่งทานครั้งละพอประมาณ ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ทานช้าๆ ไม่เร่งรีบ และไม่ควรทานอาหารก่อนนอนภายใน 2 ชั่วโมง ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และน้ำอัดลมอัดแก๊สต่างๆ เป็นต้น

สวัสดีค่ะ หนูมีอะไรกับแฟนในวันที่ 8 มี.ค. โดยที่แฟนได้ใส่ถุงยางอนามัย แต่ตอนที่ถอดถุงยางออกเหมือนมีน้ำอสุจิเลอะตรงบริเวณรอบนอกอวัยวะของหนู หนูจึงได้มีการซื้อยาคุมฉุกเฉินทานหลังจากนั้น1 ช.ม. โดยทานสองเม็ดพร้อมกัน และหลังจากนั้นประมาณ 3-4 วัน ได้มีเลือดออกสีน้ำตาลแต่ไม่มากเป็นแบบนี้ 2 วัน ต่อมาประมาณวันที่27-29 มี.ค. หนูได้มีอะไรกับแฟนอีกครั้งโดยที่ไม่ได้ใส่ถุงยาง แต่ไม่ถึง1นาทีก็เอาออก และแฟนหนูก็ยังไม่เสร็จ แต่หนูกังวลมากว่าจะท้อง หลังจากนั้น 1 สัปดาห์จึงได้ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ โดยได้ตรวจแบบเว้น 2 วันตรวจครั้งเป็นจำนวนทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ผลคือไม่พบการตั้งครรภ์ทั้ง 3 ครั้ง และจนตอนนี้ประจำเดือนหนูก็ยังไม่มาค่ะ หนูเครียดมาก ๆ ประจำมาครั้งสุดท้ายคือ 28 ก.พ. - 3 มี.ค. ค่ะ โดยปกติประจำเดือนหนูจะมาไม่ตรงกันบางครั้งก็มาช้า 5วัน บางทีก็มาเร็วกว่าครั้งเดิม 1 สัปดาห์ บางครั้งก็มาแบบต้นเดือนและสิ้นเดือนค่ะ และตอนนี้มีตกขาวร่วมด้วยแต่ไม่มีกลิ่น ซึ่งตอนนี้เครียดมาก ๆ ค่ะ หนูมีโอกาสตั้งครรภ์สูงมากไหมคะ

สวัสดีค่ะ หากมีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยใส่ถุงยางและมีการกินยาคุมฉุกเฉินตามไปด้วยนั้น โอกาสตั้งครรภ์มีได้น้อยมาก ปกติแล้วถ้าใส่ถุงยางอนามัยตลอดการมีเพศสัมพันธ์ โอกาสตั้งครรภ์ก็มีได้น้อยกว่า 1-2% โดยไม่ต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินอีกแต่หากมีช่วงที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย แม้ไม่ลึก ไม่นาน ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้แม้จะน้อยกว่าการมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในตามธรรมดา กรณีนี้จึงอาจมีข้อบ่งชี้การใช้ยาคุมฉุกเฉินร่วมไปด้วยเพื่อช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ลงไปอีกประมาณ 80-90%โดยยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนไปได้ แต่ไม่ควรเกินไปจาก 7 วันที่ควรจะเป็นหรือไม่เกิน 35 วันจากรอบก่อน หากเกินกว่านี้แล้วถือว่าผิดปกติ ควรจะต้องยืนยันการตั้งครรภ์ด้วยชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะที่ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ หากให้ผลลบแต่ประจำเดือนก็ไม่มา ให้ไปยืนยันที่รพอีกครั้ง

คือผมกังวลมากกับแฟน ขออธิบายก่อนนะครับ ผมมี พสพ กับแฟน(ป้องกันทุกครั้งเช็คไม่ขาดไม่รั่ว)วันที่ 8 มิถ.ละ ปจด เขามาวันที่ 12 มิถ ละก็มี พสพ อีกเดือน กค คือ วันที่ 3 7(มั้ง) 14 ละครั้งสุดท้ายคือ 28 กค ซึ่งในเดือน กค.เขาประจำเดือนไม่มา ในปลายเดือน มิถ เขาบอกรู้สึกจะมาอีกแต่ไม่มาเพราะช่วงปลายเดือน มิถ ถึงกลางเดือน กค เขาเครียดมาก ละเรามีทะเลากันหนักจนเขาร้องไห้หนักมากกกกก ละทีนี้ปลายเดือน กค.ยังไม่มาเรา2คนก็เครียด ซื้อที่ตรวจมาตรวจ 2 ครั้ง ครั้งแรกตรวจ(จำวันไม่ได้)ขึ้นขีด จาง1ขีดไม่มีขีดจางอีกขีด ก็โล่งนิดๆ มีพสพ.วันสุดท้ายวันที่ 28 มิถ ซื้อตรวจครรภ์ละตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 2 สค ตอนเช้าขึ้นขีดแดง 1 ขีดเข้ม ละโล่งใจ แต่ ณ ตอนนี้ผมกับแฟนเครียด แฟนมีอาการคล้ายคนท้อง เช่น ฉี่บ่อย ร่างกายอยากนอน(เขาบอกไม่รู้เพราะ ขก รึป่าว) ปวดท้องเหมือนท้องอืด เวียนหัวนิดๆ มีตกขาว ในนี้เขาพึ่งเหม็นข้าวมันไก่ แต่น้องเขาไม่เหม็น เลยอยากถามว่า มี พสน ครั้งท้ายวันที่28 กค ตรวจ 2 สค ขึ้นขีดแดงเดียว ไม่มีจางอีกขีด มีโอกาสตรวจไม่พบไหม ละถ้าตรวจอีก พบ ควรทำอย่างไร(ไม่พร้อม) ถุงไม่ขาดไม่รั่วตั้งแต่เริ่มม พสพ

สวัสดีค่ะ หากประจำเดือนมาเป็นปกติดีในวันที่ 12 มิ.ย. ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 8 มิ.ย. แต่หากได้มีเพศสัมพันธ์อีกในวันที่ 3, 7, 14 และ 28 ก.ค. ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ โดยหากใช้ถุงยางอนามัย โอกาสตั้งครรภ์ก็จะอยู่ที่ประมาณ 2%-18%หากตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. ประจำเดือนยังไม่มา และได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ในวันที่ 2 ส.ค. แล้วพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 3, 7, 14 ก.ค. ค่ะ แต่เนื่องจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายคือ 28 ก.ค. ดังนั้น การตรวจในวันที่ 2 ส.ค. จึงถือว่ายังเร็วไปที่จะตรวจพบหากมีการตั้งครรภ์จริง แนะนำควรรอให้ครบ 2 สัปดาห์นับจากวันที่ 28 ก.ค. ก่อน คือจนถึงประมาณวันที่ 11 ส.ค. หากประจำเดือนยังไม่มา จึงควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูอีกครั้ง หากยังตรวจไม่พบ แสดงว่าการที่ประจำเดือนไม่มา น่าจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้นสำหรับอาการต่างๆ คือ ปวดท้อง ท้องอืด เวียนหัว ตกขาว เนื่องจากยังตรวจไม่พบการตั้งครรภื จึงย่อมไม่ใช่อาการชของการตั้งครรภ์ แต่อาจเกิดจากมีความเครียด หรือเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้ ดังนั้น ควรรอประจำเดือนไปอีกซักระยะก่อนค่ะ

มีเพศสัมพันธ์ ไม่สวมถุงยาง หลั่งนอก เเละกินยาคุมฉุกเฉิน หลังกินยาคุมฉุกเฉิน6วันเเล้วมีเลือดออกเเค่หยดสองหยด เเละมีออกมาอีกครั้งวันต่อมาเเต่ไม่ใช่ประจำเดือนแล้วตรวจครรภ์รอบเเรกหลังวันมีเซ็กส์14วัน ไม่พบเเละตรวจอีกที หลังจากมีเซ็กส์ 29 วัน ก็ไม่พบอีกครั้ง เเต่ระหว่างนั้นก็มีอาการเบื่ออาหารร่วม2สัปดาห์ กินไม่ค่อยได้ เเเล้วก็กลับมากินได้อีกครั้ง เเต่พอมาวันนี้ มีไข้ อาจจะเพราะอากาศเปลี่ยน เเต่มีอาการพะอืดพะอม ปวดหัว อยากจะบอกว่าประจำเดือนมาไม่ปกติเเละเดือนที่เเล้วไม่มาค่ะ อยากทราบว่ามาจากความเครียด บวกกับไข้ด้วยไหมคะ คือตรวจครรภ์หลังจากมีอะไรกันเกือบเดือนก็ ไม่พบ ค่ะ เเต่กังวลมากๆ เพราะอาการเหมือนมีครรภ์เลย

สวัสดีค่ะ หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป แล้วหลังจากนั้น 6 วัน ได้มีเลือดออกมา ก็น่าจะเป็นเลือดที่เกิดจากผลของยาได้ค่ะและหากหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 14 วัน และ 29 วัน ได้ตรวจหาการตั้งครรภ์แล้วไม่พบ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา ก็จะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น ส่วนอาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ คือเบื่ออาหาร ทานไม่ได้ ก็ไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์ ซึ่งหากในตอนนี้ ทานได้เป็นปกติแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรค่ะ ส่วนอาการมีไข้ ไม่ว่าเกิดจากการติดเชื้ออะไร ก็มักทำให้มีอาการปวดหัว คลื่นไส้ ตามมาได้ค่ะ ทั้งนี้ หากยังคงมีไข้อยู่ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยด้วย ซึ่งควรต้องตรวจหาการติดเชื้อโควิด 19 ด้วย แต่หากไข้ได้หายไปแล้ว และไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร และให้รอประจำเดือนต่อไปก่อน ประจำเดือนก็น่าจะมาในที่สุดค่ะ

พอดีเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ แต่เกิดเหตุการณ์ถุงยางอนามัยรั่วค่ะ (เพราะลองเช็คดูหลังจากรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ) เหตุการณ์เกิดคืนวันเสาร์ (ประจำเดือนหมดเมื่อวันศุกร์) หลังจากนั้นจึงรีบทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวยี่ห้อ Maple Forte ภายใน 1 ชม. นั้นเลยค่ะ กังวลใจมาก ว่ายาจะได้ผลไหม แต่ปกติประจำเดือนมาเกือบตรงตลอดค่ะ คลาดแค่ 1-2 วันเท่านั้น

สวัสดีค่ะ หากนับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา (ไม่ใช่วันที่ประจำเดือนหมด) จนถึงวันที่มีเพศสัมพันธ์ หากนับได้ไม่เกิน 7 วัน ถือว่ายังอยู่ในระยะปลอดภัย โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีน้อยมาก ดังนั้น จึงอาจไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินก็ได้แต่หากนับได้เกิน 7 วัน ก็จะถือว่าเลยระยะปลอดภัยไปแล้ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีได้ แต่หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป โดยทานภายในไม่เกิน 12 ชั่วโมงหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ ยาคุมฉุกเฉินก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95%สำหรับประจำเดือนในรอบถัดไปนั้น อาจมาช้ากว่าปกติได้จากผลของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ดังนั้น หากกังวลใจ ก็อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ

คุณครับ​ พอดี2อาทิตที่ผ่านมาผมกับแฟน​ยืนจูบกันแล้วนํ้าอสุจิของผมก็ออกมา​ ผ่านไป15นาที​ ผมก็แบบทำท่าแบบมีเพศสัมพันแบบกระแทกเบาไปมาไป​แบบยืนเอาน่ะครับ​ ผมใส่กางเกง​ในและกางบ๊อคเซอและกางเกงวอมร่วมเป็น3ชั้น ส่วนเธอใส่กางเกง​ขาสันกับกางเกงวอม​ของเธอ2ชั้น​ อสุจิของน่าจะออกมาอยู่บนอากาศได้ประมาณ10นาที​ ผมกังวลว่าอสุจิของผมจะซึมซับ​เข้าไปช่องคลอดของเธอ​ ตอนทำแบบนั้นวันที่19ประจำเดือนเธอก็มาวันที่28​ เธอพึ่งเป็นวันที่3ของเดือนนี้​เธอจะท้องหรือป่าวครับ​ แต่ผมดูอาการ​เธอ​เธอบอกรู้สึกจะอ๊วก​แต่ไม่บ่อย​นานๆจะเป็นแต่ไม่อ๊วก​มีเพศสัมพัน​ใส่กางเกงจะท้องไหมครับ

สวัสดีค่ะ การที่น้ำอสุจิที่ออกมาและเปื้อนกางเกงของฝ่ายชาย ซึ่งใส่ไว้ 3 ชั้น กางเกงก็จะซึมซับน้ำอสุจิจนปริมาณลดลงไป เมื่อไปโดนกางเกงของฝ่ายหญิง ซึ่งใส่ไว้ 2 ชั้น โอกาสที่น้ำอสุจิจะซึมเข้าสู่ช่องคลอดจึงแทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น โอกาสที่จะตั้งครรภ์จึงไม่น่ามีค่ะนอกจากนี้ หากประจำเดือนได้มาแล้ว ในวันที่ 28-30 ต.ค. นี้ ก็แสดงว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นแต่อย่างใด สำหรับอาการอยากอาเจียน อาจเป็นอาการที่พบร่วมได้ขณะมีประจำเดือน คล้ายกับอาการปวดท้อง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว เป็นต้น ที่มักพบได้ขณะมีประจำเดือน ไม่ได้เป็นอาการของการตั้งครรภ์แต่อย่างใดค่ะ

คือในวันที่12 ม.ค.63ที่ผ่านมาผมได้อาบน้ำให้สุนัขหลังจากไม่ได้อาบให้มันมานานเกิน2สัปดาห์แล้วตัวของสุนัขได้ไปเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆมาอาดมีคาบน้ำลายบ้างแต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยแห้ง ผมจึงอาบน้ำให้มันโดยใช้แชมพูอาบน้ำกำจัดเห็บหมัด พออาบให้สุนัขเสร็จผมเลยพักไปประมาณ30นาที แล้วผมค่อยไปอาบน้ำ ผมได้ถูตัวแล้วไปทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยจึงกังวลว่าการอาบน้ำให้สุนัขอาจมีเชื้อพิษสุนัขบ้าติดมามือหลังอาบน้ำให้สุนัขเสร็จแล้วผมมาอาบน้ำต่อ แต่สุนัขของผมฉีดวัคซีนครบแล้วแต่อาจมีน้ำลายสุนัขตัวอื่นๆ และตัวผมเคยฉีดวัคซีนครบไปแล้วและก็ได้ฉีดกระตุ้น1เข็มไปเมื่อวันที่31 ธ.ค.62 แล้ว จึงอยากทราบว่า 1.ผมจะติดโรคพิษสุนัขบ้าไหมครับ จากการที่อาบน้ำให้สุนัขแล้วมาอาบน้ำตัวเองต่อและทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วย

สวัสดีค่ะ โรคพิษสุนัขบ้าเกิดเมื่อถูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่น สุนัข แมว หนูกัด หรือไปสัมผัสสารคัดหลั่งของมันเข้าไปตรงแผลหรือเยื่อบุเช่น ในปาก โดยตรง โรคพิษสุนัขบ้าป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน 5 เข็ม และมีการกระตุ้นวัคซีนเมื่อถูกกัดซ้ำการสัมผัสที่อาจทำให้ติดเชื้อได้เช่น-ถูกข่วนหรือกัดโดยตรง มีเลือดออกจากแผล-สัตว์มาเลียตรงแผล หรือมาเลียปาก-กินเนื้อสัตว์ดิบ-แผลไปโดนเนื้อหรือเลือดสดๆของสัตว์ดังนั้นการอาบน้ำให้สุนัข แต่ไม่ได้โดนสุนัขกัดหรือข่วนจนมีเลือดออกที่ผิว แทบจะไม่มีโอกาสรับเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ การโดนน้ำลายสุนัขตัวอื่นๆ แต่ผิวหนังตรงนั้นไม่มีแผล ก็แทบจะไม่มีโอกาสรับเชื้อเช่นกัน

สวัสดีค่ะประมาณเดือนกันยารู้สึกปวดขาหนีบข้างขาวเลยคลำดูปรากฏว่าต่อมน้ำเหลืออักเสบแต่เดือนนั้นมีประจำเดือนที่มีอาการปวดท้องมากกว่าปกติ ที่เท้าและขาไม่มีอาการบาดเจ็บมีแต่รอยจ้ำเขียวๆม่วงๆวงใหญ่ๆที่ขา แต่ส่วนตัวเป็นคนน้ำเหลืองไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก โดนยุงกัดหรืออะนิดๆหน่อยๆก็จะเกาจนเป็นแผบตลอด คลำไปคลำมาเจอข้างขวาตรงขาหนีบ 2 ก้อนไม่ถึง 1ซม.ต่ำลงไปมีเท่าเม็ดถั่สเขียว2ก้อน บนโหนกอีก2 ข้างซ้ายตรงขาหนีบ1บนโหนก1เมดเท่าเม็ดถั่วเขียว ไปหาหทอคลีนิคมา1ครั้งให้ยามาท่นแต่ไม่ยุบ ไปหารพ.มา1ครั้งให้ยาฆ่าเชื้อมาอีกก็ไม่ยุบ ได้ตรวตเลือด Cbc กับปัสสาวะไปผลดลือดปกติ ได้ไปหารพ.รามาอีก1ครั้งขออดูอาการ1เดือน ไปที่ไหนก็บอกว่ามันเกิดขึ้นเองได้ แต่ตอนนี้มีที่ข้างคอข้างขวา1เม็ดเท่าเม็ดถั่วเขียวและที่ด้านหลังคแด้ายซ้ายอีก1เม็ดเท่าเม็ดถั่วเขียว แต่เป็นฟันคุดปวดอยู่บ่อยๆ มีที่บนเนินอกอีก2เม็ด ตอนรี้กังวลมากค่ะ 1.จำเป็นมั้ยคะว่าการเป็นก้อนแบบนี้คือการติดเชื้อ Hiv 2.ไปอ่านเจอมาเค้าบอกเป็นต่อมน้ำเหลืองทั่วตัวเป็นการติดเชื้อHiv 3.เคยถามถามถึงการตกขาวว่ามีกลิ่นมั้ยแต่ปกติ 4.การเกาจนเป็นหรือเป็นจ้ำเขียว จะทำให้ติดเชื้อจนเป็นต่อมน้ำเหลืองได้หล่ยเม็ดแบบนี้เลยมั้ยคะ 5.อาการที่กล่าวมามันคือออาการของคนติดเชื้อมั้ยคะเครียดมาก ปล.แต่ไม่มีอาการไข้ ไม่เบื่ออาหาร น้ำหนักปกติ

สวัสดีค่ะสำหรับก้อนที่คลำได้ไม่ว่าจะเป็นบริเวณขาหนีบหรือส่วนใดๆตามร่างกาย จำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกายยืนยันก่อนค่ะว่าก้อนดังกล่าว เป็นก้อนเนื้องอก ต่อมน้ำเหลือง ถุงน้ำ ก้อนไขมัน หรือก้อนที่เกิดจากภาวะอื่นๆภาวะใดกันแน่ เนื่องจากแต่ละแบบต้องการรักษาที่แตกต่างกันออกไปค่ะทั้งนี้ในเรื่อง HIV ที่ผู้ป่วยกังวลนั้น การติดเชื้อ HIV ไม่จำเป็นต้องมาด้วยอาการที่คนไข้เล่ามาเสมอไปค่ะ อาการมาได้หลากหลาย หากต้องการตรวจยืนยันให้แน่ใจ สามารถขอเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อ HIV ร่างกายได้ค่ะสำหรับอาการที่ผู้ป่วยประสบอยู่ ขอแนะนำให้กลับไปตรวจกับแพทย์อีกครั้งค่ะ โดยควรเล่าประวัติ อาการของผู้ป่วยโดยละเอียดและตรวจร่างกายเพิ่มเติมค่ะ แพทย์อาจทำการตรวจพิเศษอื่นๆ เพื่อยืนยันผลการวินิจฉัยให้แม่นยำมากขึ้นค่ะสำหรับเรื่องต่อมน้ำเหลืองโตที่ผู้ป่วยกังวล สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

เป็นประจำเดือนวันที่ 7-10 พ.ย.และมีเพศสัมพันธุ์โดยไม่ได้ตั้งใจคืนวันที่ 12 พ.ย.ตอนเช้าก็ทานยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ดตามเวลาที่ระบุถูกต้องแล้วพอดีมีอาการไข้เจ็บคอจึงสอบถามเภสัชว่าทานยาปฏิชีวะนะได้หรือไม่เภสัชว่าให้หลีกเลี่ยงไปก่อน 2-3 วันหลังทานยาคุมฉุกเฉินจึงทานยาพาราเพื่อลดไข้แต่หมดฤทธิ์ยาก็ไข้ประมาณ 2 วันแต่อาการไม่ดีขึ้นจึงไปหาตรวจอาการไข้ตรวจว่าทอลซิลอักเสบมีไข้สูงต้องใช้ยาปฏิชีวะนะ จึงแจ้งว่าทานยาคุมฉุกเฉินแล้วจะไม่ไปยับยั้งยาคุมรึป่าวก็ถามว่าใช้ยาวันไหนยังไงแล้วก็บอกว่าทานน่าจะเกิน 24 ชม.แล้วไม่เป็นไรและอีก 3 สัปดาห์ให้ตรวจครรภ์แล้วกัน และครบ 3 สัปดาห์ก็ตรวจตามที่แนะนำแต่ไม่ขึ้นสองขีด แต่หลังตรวจผ่านมาเกือบสัปดาห์ประจำเดือนก็ยังไม่มาจะมีโอกาสท้องมั้ยคะรู้สึกกังวลมาก และหลัังทานยาคุมสองวันก็มีเลือดออกกระปิดกระปอยอยู่ 2 วัน

สวัสดีค่ะ หากได้แจ้งแพทย์ที่ดูแลแล้วว่ามีการใช้ยาคุมฉุกเฉิน และแพทย์ซักประวัติเรื่องการใช้ยาแล้ว ว่ายาน่าจะออกฤทธิ์ไปแล้ว ยาที่กินเข้าไปต่อจะไม่มีผลอะไร ก็น่าจะสบายใจได้ค่ะยาคุมกำเนิดฉุกเฉินคือการรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีขนาดฮอร์โมนเพศหญิงในปริมาณที่สูงหลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ จะได้ผลดีที่สุดเมื่อรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ผลข้างเคียงหลังกินยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด หรือทำให้ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนไปจากปกติ คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะดังนั้นหลังใช้ยาคุมฉุกเฉิน อาจมีประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้เช่นกันแนะนำให้สังเกตประจำเดือนในรอบถัดไปว่ามาตามปกติหรือไม่ หากมาช้ากว่า 35 วัน ควรไปพบสูตินรีแพทย์หรือลองซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเองเบื้องต้น และถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ควรจะป้องกันไว้ก่อนเช่นใช้ยาคุมแบบแผง หรือฉีดยาคุม หรือฝังยาคุม หรือป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยค่ะ ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆเพราะประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีอื่นและทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้มาก

คุณ พอดีผม มีอาการ ปวดหัว แล้วตัวร้อนเป็นบ้างเวลาตัวร้อนทุกวันเป็นมานานแล้วครับ ผมพึ่งรู้สึกว่าเป็นตอนโดนกัดพอดี ผมไปจับตัวเพื่อนดูก็มีอาการตัวร้อนแบบผมด้วย และผมมีอาการ ชา เป็นบ้างจุดและเหมือนไฟช๊อตตามแขนขาบ้างก็ตรงทีโดนฟันหมา ผมกังวลเป็นพิษสุนัขบ้า ตอนนี้ผานมา1เดือนแบ้วครับ หมายังไม่ตาย ฉีดวัคซีน ครบแล้วครับ ผมอยากทราบถ้า เชื้อพิษสุนัข ฝักตัวอยู่จะสามารถทำลายได้ไหมครับ หมาตัวนั้นมันไม่ได้กัดครับแค่มันอาปากอยู่ แล้วผมสะบัดนิ้วไปโดนเกิดแผลถลอกเล็กๆ

สวัสดีคะ ต้องเรียนอย่างนี้ค่ะ ถ้าสุนัขติดเชื้อพิษสุนัขบ้า จะทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่ภายในสิบวันค่ะ ถ้าสุนัขยังมีชีวิตอยู่คงไม่มีเรื่องการติดเชื้อค่ะและถ้าได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และทำแผลเรียบร้อยแล้วคงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการติดเชื้อค่ะแต่อย่างไรก็ตามอาจจะต้องสังเกตุอาการไว้ก่อนค่ะ

สวัสดีค่ะหนูมีคำถามมาสอบถาม3เรื่องค่ะ 1.หนูอยากรู้ว่าทำไมหนูถึงไม่อยากให้คนที่เคยคุยหนูจากหนูไป กลัวการจากลามากๆค่ะ อยากให้ทุกคนอยู่กับหนู กลัวถูกทิ้ง หนูก็เคยมีคำถามนะคะว่าทำไมเวลาที่เค้าตอบคำสั้นๆหรือคำไม่ที่คุ้นเคยหนูจะรู้สึกกังวลต่างๆ 2.หนูตั้งคำถามว่าหนูเกิดมาทำไม หนูเกิดมาก็ต้องตายอยู่ดีชีวิตไม่มีอะไรน่าสนใจเลยค่ะ ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งเดิมๆทำสิ่งที่ทำประจำจนชิน 3.หนูรู้สึกเศร้ามากค่ะช่วงนี้ทั้งๆที่ไม่มีใครทำให้หนูเศร้าเลยค่ะ มันฟังดูแปลกๆนะคะ ... หนูคลั่งรักคนหลายๆคนบ่อยมากเลยค่ะ รู้สึกอยากโดนโอบกอดจนจนหายไม่ออก

สวัสดีค่ะ อาการรู้สึกกลัวการจากลา กังวล ตั้งคำถามหลายๆอย่างกับชีวิต อาจจะเป็นความรู้สึกที่เกิดได้ในคนปกติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยรุ่นที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงแต่หากความรู้สึกกังวลต่างๆเป็นมากจนทำให้รู้สึกหดหู่ ซึมเศร้า ทำให้ไม่อยากเข้าสังคม อาจจะต้องนึกถึงภาวะซึมเศร้า โรคซึมเศร้า หรือการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ไปอย่างผิดปกติโดยกาจะรวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้านั้น ก็คือมีภาวะซึมเศร้าติดต่อกันอย่างน้อย 2 อาทิตย์ขึ้นไป โดยไม่มีช่วงที่ดีขึ้นเลย มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย อาจมีอาการเบื่ออาหาร หรือในบางรายก็จะไปรับประทานทานอาหารมากขึ้น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอนน้อยหรือนอนมากกว่าปกติ และเก็บตัวมากจนไม่ออกไปทำงาน ไม่ออกไปเข้าสังคม อันนี้จึงจะจัดว่าเป็นโรคซึมเศร้าได้ เป็นภาวะที่ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินและรักษาหากมีอาการดังกล่าวมากกว่า 2 สัปดาห์ไม่หายไป แนะนำไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินสภาพจิตใจเบื้องต้นว่าน่าจะเข้ากับกลุ่มอาการได้มากที่สุด หากพบว่าเป็นโรคซึมเศร้าจริงอาจจ่ายยาต้านเศร้าร่วมกับทำจิตบำบัดต่อไป ในเบื้องต้นพยายามหาสิ่งที่ชอบและสนใจทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและลดความรู้สึกกลัวและกังวลต่างๆ ใช้เวลากับคนที่รักเช่นเพื่อนหรือคนในครอบครัว พูดระบายความรู้สึกหรือเขียนระบายออกมาก็ได้เช่นกัน

กำลังเรียนอยู่ครับ รู้สึกกังวลใจทุกครั้งที่จะถึงคาบเรียน กลัวว่าจะมีการสุ่มให้ตอบคำถาม เพราะจะมีอาการตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงมาก แล้วรู้สึกเหมือนมันวูบในท้องเหมือนตกจากที่สูง ขาอ่อนแรงขึ้นมาทันที เหนื่อยมากครับ ปกติไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย จะไม่รู้สึกคิดไปก่อนเลยครับ แต่ตอนนี้แค่คิดก็จะมีอาการวูบๆในท้องเหมือนตกจากที่สูง ไม่อยากกังวลไปเองอีกแล้วครับ เหนื่อยมากๆ เบื่ออาหาร กิจกรรมที่เคยทำเป็นประจำเช่น ดูหนัง ฟังเพลงก็ไม่อยากทำ ไม่สนุกไม่แฮปปี้เหมือนเมื่อก่อน หวนคิดถึงตัวเองเมื่อก่อนมากครับ อยากมีความสุขแบบนั้นอีกสักครั้ง เหนื่อยมากครับกับอาการวิตกกังวลตลอดเวลา คนในครอบครีวก็เครียดตามเพราะไม่เคยเจอโรคแบบนี้ อยากทราบว่าผมเข้าข่ายโรควิตกกังวลใช่ไหมครับ แล้วทำอย่างไรจึงจะหายครับ เป็นแบบนี้ถึงขั้นต้องกินยา ปรึกษาแพทย์ไหมครับ เป็นแบบนี้มา3เดือนครับแต่ช่วงแรกๆจะมีอาการคล้ายๆแพนิกครับเวลาที่นึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้กังวล แต่ได้กินสมุนไพรที่เพื่อนแนะนำให้ทานก็ดีขึ้นแต่ก็ยังวิตกกังวลอยู่ เหนื่อยกับการที่ตัวเองต้องกังวลไม่มีความสุขอย่างนี้มากๆครับ

สวัสดีคะ ตอนนี้มีปัญหาเรื่อง anxiety disorder น่าจะเข้าได้มากที่สุดค่ะ แต่ก็ยังอาจจะมีปัญหาเรื่องซึมเศร้าร่วมด้วยได้ค่ะ ก่อนอื่นต้องมาดูกันก่อนว่าอะไรเป็นสาเหตุให้กลัวที่จะตอบคำถามและกลัวว่าทำไมการเรียนไม่ได้สนุกแบบเคย เช่น มเพื่อนล้อมากๆ เวลาตอบคำถามผิด กลัวถูกหักคะแนนหรือกลัวว่าถ้าตอบผิดแล้วจะถูกลงโทษถ้าเป็นปัญหาเรื่องนี้จะต้องปรับความคิดใหม่ค่ะ คิดว่าการตอบคำถามเป็นเกมส์ค่ะ แต่ในช่วงแรกอาจจะแนะนำให้พบจิตแพทย์เพื่อใช้ยาปรับอารมณ์ช่วยก่อนค่ะแล้วค่อยๆ ปรับวิธีคิดไปเรื่อยๆค่ะ ให้สามารถที่จะมีความสุขกับการเรียนได้ค่ะการกินยาอย่างอื่นไม่แนะนำในช่วงนี้ค่ะ แนะนำเรื่องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนนะค่ะ

วันที 28 ตุลาคม มาประจำเดือนประมาณวันที 5-6 ของประจำเดือน และวันนั้นได้มีอะไรกับเเฟน เเต่ก่อนจะมีอะไรกัน เเฟนได้ช่วยตัวเองเสร็จเเล้ว1รอบ เเละก้ได้มีเพศสัมพันกันเเต่ใส่ถุงยางเเละหลั่งนอก ผ่านมาตอนนิ้ยังกังวลว่าจะท้องใหม เพราะรู้สึกมีอาการเหมือนคนตังครรถ์ มีอาการปวดหัวหลังตื่นนอนเเล้วปัสสาวะบ่อย หงุดหงิด อารมเเปรปรวน เมือย เเละนอนไม่ค่อยหลับ อยากทราบว่าควรทำอย่างไรดีค่ะ ควรตรวจครรภ์เองวันไหนค่ะ

สวัสดีค่ะ หากประจำเดือนมาวันที่ 28 ต.ค. แล้วได้มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 5-6 นับจากวันแรกที่มีเพศสัมพันธ์ ก็ถือว่ายังอยู่ในระยะปลอดภัย โอกาสในการตั้งครรภ์นั้นมีน้อยมาก และหากได้ใส่ถุงยางอนามัยร่วมด้วย โอกาสในการตั้งครรภ์ก็แทบไม่มีค่ะส่วนอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น คือปวดหัว ปัสสาวะบ่อย อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ ไม่น่าใช่อาการของการตั้งครรภ์ เพราะอาการของการตั้งครรภ์ มักจะเกิดหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ค่ะ แต่หากกังวล ก็อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดู โดยสามารถที่จะตรวจในวันนี้ได้แล้ว หากตรวจไม่พบ อาการต่างๆ ที่เป็นอยู่ ก็จะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีเรื่องเครียดหรือวิตกกังวลอยู่ หรือเป็นผลจากการที่นอนไม่หลับ เป็นต้น ซึ่งในเบื้องต้น ก็ควรนอนหลับให้เพียงพอก่อน หากไม่สามารถนอนให้หลับสนิทเพียงพอ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อจ่ายยานอนหลับให้ค่ะ

เดือนพฤษคมมีประจำเดือนวันที่ 2-6 ค่ะ โดยปกติจากการนับวัน จะต้องมีประจำเดือนอีกครั้งในวันที่ 2-9 มิถุยายนค่ะ เพราะจากการบันทึกโดยการนับวันแรกที่มีประจำเดือนได้30-39วันค่ะมีเพศสัมพันในเดือนพฤษาคมสองครั้ง คือ วันที่19 และ23 ป้องกันด้วยการใส่ถุงและเช็คทุกครั้งค่ะ ก่อนหน้านี้ก็รอบเดือนมาตลอดแต่เดือนนี้ยังไม่มาเลยกังวลกลัวจะท้องเครียดมากค่ะ โดยมีอาการคือเป็นไข้ ไม่แน่ใจว่าติดจากคนในครอบครัวหรือไม่ ใจหวิวๆไม่แน่ใจจากความเครียดหรือไม่ มีอาการปวดท้องคล้ายประจำเดือนจะมาแต่ก็ไม่มาสักที รวมถึงเรอบ่อยปกติก็เรอบ่อยค่ะแต่ไม่มีการคัดหน้าอกแต่อย่างใดเลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเพราะเครียดมาก ผลตรวจเมื่อเช้าตี5 พบขีดเดียวค่ะ ถ้ายังไม่มาต้องตรวจซ้ำใช่ไหมคะ? โอกาศท้องมีมากแค่ไหนคะ? แล้วถ้าไม่มาแล้วสารถตรวจสอบวิธีไหนได้บ้างคะว่าไม่ท้อง ตอนนี้ก็ลดความเครียดจากการตรวจลงมานิดนึงแต่พอไไปอ่านในอินเตอร์เนตก็เครียดอีก

สวัสดีค่ะ การที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจาก1. ยังไม่ถึงกำหนดเวลาที่ประจำเดือนจะมา เนื่องจากหากเคยมีรอบเดือนยาวถึง 39 วัน ประจำเดือนในรอบถัดไปอาจมาวันที่ 11 มิ.ย. ก็ได้2.การตั้งครรภ์ การใช้ถุงยางอนามัยนั้น แม้จะใช้อย่างถูกต้อง 100% แต่ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2% แต่หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว พบขึ้นเพียงขีดเดียว ก็ำม่น่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ3. มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นรวดเร็ว4. มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เช่น ไข้หวัด ท้องเสีย เป็นต้นแนะนำให้รอประจำเดือนไปจนถึงวันที่ 11 มิ.ย. หากประจำเดือนยังคงไม่มา อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์ซ้ำอีกครั้ง หากตรวจไม่พบ ก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น โดยน่าจะมีสาเหตุดังในข้อ 3-4 ที่กล่าวไปส่วนอาการปวดท้อง และเรอบ่อย อาจเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้ หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีท้องอืด ทัองผูก กระเพาะอาหาหารอักเสบ เป็นต้น

หลังมีเพศสัมพันธ์ 1 เดือนแล้ว ใส่ถุงยางและหลั่งนอกด้วย(เช็คแล้ว) ปจด.เลื่อนกำหนดมา 1 อาทิตย์ก็เลยตรวจตอนเช้า ขึ้น 1 ขีดไม่มีอาการอะไรเลย มีแค่เป็นไข้สูงยาวมาเป็นอาทิตย์จนตอนนี้อาการเหลือแค่ตัวลุมๆ มึนหัวบ้าง และ บางครั้งมีรู้สึกเหมือนปจด.จะมาแต่ก็ไม่มา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไม่มาหลายเดือนแล้ว แล้วก็ได้ไปตรวจผลคือคุณบอกว่าฮอร์โมนผิดปกติ เลยให้ยามากินช่วงหนึ่ง ก็กลับมาปกติแต่นั้นคือช่วงก่อนมีเพศสัมพันธ์หลังจากไม่มาหลายเดือนแต่ตอนนี้ก็กลับไม่มาอีกครั้ง อยากทราบว่าดิฉันมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ กังวลมากค่ะ

สวัสดีค่ะ ลองนับดูว่าประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาเมื่อไรนะคะ แล้วนับมาถึงตอนนี้ว่ามันขาดไปกี่วันแล้ว ถ้ารอบเดือนเกิน 35 วันถือว่าผิดปกติค่ะ และถ้าในระหว่างเดือนนั้นๆมีเพศสัมพันธ์ด้วยก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แนะนำให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจดูเองเบื้องต้นค่ะ อาการตั้งครรภ์จะไม่ทำให้มีไข้นะคะ การใส่ถุงยางถือเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดีแต่ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%ค่ะ

สวัสดีค่ะ ดิฉันอยากขอคำปรึกษา เนื่องจากวันที่ 4 เมษา 2563 ที่ผ่านมา ได้มีเพศสัมพันธุ์แบบป้องกันใส่ถุงอนามัย รอบเดือนของดิฉันที่ผ่านมา ช่วงเดือนมกราคม 11-14 และช่วงเดือนกุมภา 9-12 แต่เดือนนี้เมษา รอบเดือนที่ควรจะมากลับไม่มา ได้มีการตรวจหาการตั้งครรภ์ถึง 2 ครั้ง ตรวจครั้งทีร 1 วันที่ 14 และตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 17 ให้ผลลบทั้ง 2 ครั้ง ดิฉันควรรอจรวจครั้งที่ 3 ไหม เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น หรือควรไปหาเพื่อขอยาปรับฮอร์โมน ให้ประจำเดือนมาได้ไหมคะ คุณ กังวลมากๆ ตอนนี้รู้สึกอึดอัดตัว มีปวดท้องบ้าง แต่ก็ไม่มา อยากให้คุณให้คำแนะนำ

สวัสดีค่ะ หากมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 4 เม.ย. โดยใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยค่ะ นอกจากนี้ หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์แล้วในวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งเป็นระยะเวลา 13 วันหลังจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ไป แล้วผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ แนะนำให้รอประจำเดือนไปอีกซักระยะก่อน ประจำเดือนก็น่าจะมาในที่สุดค่ะ ยังไม่จำเป็นต้องรีบทานยาปรับฮอร์โมนไป ทั้งนี้ การที่ประจำเดือนมาช้า อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้ เช่น การมีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น หรือหากกังวลมากจริงๆ ก็อาจไปพบปแพทย์เพื่อตรวจหาการตั้งครรภ์ซ้ำดูอีกครั้งค่ะ

รู้สึกตัวเองคิดมากและกังวลมากเกินไปค่ะ บางเรื่องก็รู้สึกว่าคิดมากเกินไปหรือป่าว พอมันไม่ได้หาคำตอบก็จะกังวลจนกว่าจะได้คำตอบค่ะ มันผิดปกติมั้ย แบบบางทีก็เครียดจนปวดหัว

สวัสดีค่ะ จากที่เล่ามา คิดว่าเป็นภาวะทางอารมณ์ที่ไม่ปกติ แต่ยังสรุปไม่ได้ว่า เป็นโรคเครียด โรควิตกกังวล หรือเป็นภาวะทางอารมณ์อื่นๆนะคะโรคเครียด คือภาวะที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งมีผลให้ร่างกายและจิตใจตอบสนองต่อเหตุการณ์นั้นๆ โดยอาการมีตั้งแต่ นึกถึงเหตุการณ์นั้นซ้ำๆ, อารมณ์ขุ่นมัว, พฤติกรรมแปลกแยก, นอนหลับยาก, อ่อนเพลีย, ปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ, ปวดศีรษะ, ฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิ เป็นต้นในการดูแลตนเองเบื้องต้น แนะนำให้พูดคุยกับคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดเพื่อผ่อนคลายทางอารมณ์ หางานอดิเรก ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์หากไม่ดีขึ้น ควรไปพบจิตแพทย์ เพื่อพิจารณาการรักษามีตั้งแต่การบำบัดความคิดหรือพฤติกรรม และการใช้ยารักษา ค่ะขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

คุณครับ เป็นไปได้ไหมครับ พอดีวันนี้ ผมยืนห่างต้นไม้ 3เมตร ต้นไม้นั้นมีค้าง2 ตัว นอนอยู่ ตอนแรกผมไม่รู้ ผม ยืนดีๆ รู้สึกเหมือนมีฝุ่นเข้าตาผมหลายครั้ง ผมมองไป ก็ไม่เจออะไร ทีนนี้ฝุ่นเข้าตา ผมมองไปเจอค้างคาว2ตัว นอนอยู่น่าจะนอนนานแล้ว แต่ไม่ได้สังเกตตรงนั้น ทีนี้ผมรีบไปล้างตา ล้างจนแซบตา ปวดตา ทีนี้ตาผมก็แดง แดงเป็นเส้น แดงแถว ข้างบริเวณหางคิ้ว ตครับ พอมาถึงบ้านผมตาแดงก็หายไป ผมกังวล ว่าเป็นนํ้าลายของค้างคาว จะเป็นไปได้ไหมครับว่าคือนํ้าลายค้างคาว

สวัสดีค่ะ @จากที่ เล่ามา แนะนำว่าหากวันนี้ยังคงมีอาการตาแดง ระคายเคืองตา มีขี้ตามากขึ้น เป็นสีเหลืองหรือเขียว การมองเห็นลดลง @แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคนะคะ

สวัสดีค่ะ พอดีเมื่อวานไปมีพสพกับแฟนแบบไม่สอดใส่ค่ะ ตอนแรกก็แบบถูๆไถๆแล้วก็เกิดการหลั่งอสุจิออกมาใกล้ๆช่องคลอดของดิฉันค่ะแต่ไม่ใช่ตรงช่องคลอดนะคะ แล้วก็ไปล้างออก แล้วแฟนก็เอาไอ้จ้อนของเขามาแตะๆตรงช่องคลอดค่ะ(ไม่ได้สอดใส่)แล้วก็มีความรู้สึกว่าน้ำหล่อลื่นของเขา(ที่คาดว่าอาจจะมีอสุจิปนอยู่)โดนตรงช่องคลอดก็เลยเช็ดๆออกไม่มั่นใจว่าหมดรึป่าวค่ะแล้วก็มีการสอดใส่นิ้วเข้าไปค่ะ ในกรณีแบบนี้สามารถตั้งครรภ์ได้มั้ยคะ กังวลนิดนึงค่ะ เดือนนี้ปรระจำเดือนของฉันยังไม่มาจนจะหมดเดือนแล้วก็ยังไม่มาเลยค่ะเลยกังวลค่ะควรจะทำยังไงคะถ้าประจำเดือนมาก็คือไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้สอดใส่ แค่มีการถูไถกันภายนอก และไม่ได้มีการหลั่งน้ำอสุจิมาโดนปากช่องคลอด โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีส่วนหลังจากนั้น หากมีการนำอวัยวะเพศชายมาโดนช่องคลอด และมีน้ำหล่อลื่นไหลออกมา น้ำหล่อลื่นอาจมีอสุจิปนอยู่ได้ ซึ่งโอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นอาจมีได้ แต่ก็ถือว่าน้อยอย่างยิ่งค่ะ เพราะปริมาณอสุจิที่ปนออกมานั้นมีเพียงน้อยนิด อีกทั้งไม่ได้น้ำหล่อลื่นที่ไหลออกมา ก็ไม่ได้อยู่ในช่องคลอดโดยตรงสำหรับการที่ประจำเดือนยังไม่มา (หากถึงกำหนดที่ควรจะมาแล้ว) อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายมากไป อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว เป็นต้นหากกังวล อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูค่ะ หากตรวจไม่พบก็จะได้ไม่ต้องวิตก และให้รอประจำเดือนไปอีกซักระยะค่ะ

มีเพศสัมพันธ์ช่วงไข่ตก หลั่งข้างนอกนะคะ ต่อจากช่วงนั้นก็มีตกขาวลักษณะเหมือนไข่ขาวค่ะ แล้วก็มีตกขาวปกติเลย เป็นมูกๆเหนียวๆ เดือนนี้ประจำเดือนมาช้าจะครบ1อาทิตย์แล้วค่ะปกติรอบเดือนมาเร็วสุด26-27ช้าสุดก็31-32ค่ะแล้วช่วงที่ผ่านมาคือเครียดมากเพราะประจำเดือนไม่มาตรงรอบเดือน เพราะกังวลกลัวว่าจะตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้มีอาการปวดท้องน้อยนิดหน่อยค่ะ อยากรู้ว่าที่ประจำเดือนมาช้าเป็นเพราะความเครียดไหม หรือตั้งครรภ์คะ

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอกนั้น ยังมีโอกาสทำให้ตั้งครรภ์ได้อยู่ประมาณ 4-20% และหากเป็นเพศสัมพันธ์ในช่วงที่น่าจะมีไข่ตก คือประมาณ 14 วันนับจากวันแรกที่มีประจำเดือน ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงขึ้นค่ะการมีมูกขาวตามออกมาหลังจากนั้นไม่ได้่บ่งบอกว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่หากประจำเดือนมาช้ากว่า 35 วันนับจากรอบก่อน อาจจะมีการตั้งครรภ์ได้ แนะนำซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะมายืนยันเองเบื้องต้น ให้ผลบวกได้ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ หรือไปยืนยันอีกครั้งที่รพ.เพื่อหาสาเหตุอื่นๆเพิ่มเติมกรณีไม่ได้ตั้งครรภ์ เรื่องความเครียดนั้นทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้เช่นกัน แต่ต้องตัดสาเหตุทางกายทั้งหมดออกไปก่อนค่ะ

ขอเลล่านะครับ คือผมพึ่งมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนึงซึ่งตอนมีอะไรกันผมก็ป้องกัน พอเสร็จกิจก็แล้วกลับมาก็รู้สึกปกติ แต่พอหลังจากนั้นมา1-2วันผมเริ่มสงสัยเกี่ยวกับโรค Hiv ผมก็เลยค้นอาการดูว่ามีอาการอะไรบ้าง แต่พอมาเทียบกันแล้วกับอาการของHiv ไม่มีอะไรตรงเลยนอกจากเม็ดแดงๆ เล็กๆที่แขน แล้วก็ใต้คาง แต่ไม่มีอาการอย่างอื่นเลย ถึงจะเป็นอย่างงั้นผมก็ยังกังวลว่าจะเป็นรึปล่าว ตอนนี้ไม่มีไข้ ไม่มีอาการท้องเสีย ผ่านมา1อาทิตย์แล้วครับ วันที่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นคือวันที่ 29/มิ.ย/64 รบกวนช่วยตอบด้วยนะครับ ตอนนี้ผมกังวลมาก

สวัสดีค่ะ HIV คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เรียกว่าโรค HIV หรือเอดส์ในระยะที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องไปมากแล้ว เป็นโรคที่ถึงแก่ชีวิตได้โดยเป็นไวรัสที่ติดต่อกันผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย การสัมผัสสารคัดหลั่งจากเยื่อบุตา ปาก อวัยวะเพศของกันและกัน การใช้ของมีคมร่วมกัน หรือของใช้ส่วนตัวที่มีสารคัดหลั่งติดอยู่ร่วมกัน การที่สารคัดหลั่งหรือเลือดมาโดนแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ผิวหนัง เป็นต้นอาการเริ่มแรกของการติดเชื้อนั้น มักมีอาการประมาณ 2-6 สัปดาห์หลังรับเชื้อ อาการที่เกิดจะไม่ได้จำเพาะเจาะจง คล้ายกับการติดเชื้อไวรัสทั่วไปเช่น มีไข้ต่ำๆ มีต่อมน้ำเหลืองโต ผื่นแดงขึ้นตามตัวได้ ซึ่งจากที่กล่าวมา ยังค่อนข้างเร็วเกินไปที่จะมีอาการใดๆ หรือถ้ามีก็จะบอกไม่ได้ชัดเจนว่าเกิดจากการติดเชื้อ hiv หรือเปล่าหากไม่สบายใจ แนะนำการไปเจาะเลือดยืนยัน โดยการตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ hiv ให้ผลแน่นอนมากกว่า 99% ที่ 3 เดือน ถ้าตรวจที่ช่วง 1 เดือนในบางคนภูมิต่อเชื้ออาจจะยังไม่ขึ้น จะต้องตรวจทั้งภูมิคุ้มกัน hiv กับเชื้อไปร่วมกัน ซึ่งจะให้ผลที่แน่นอนที่ประมาณ 14-21 วันหลังมีความเสี่ยง

มี พสพ.กับแฟนวันที่ 26/2/63 ค่ะ ใส่ถุงยางอนามัย แต่มีช่วงนึงถอดออก แล้วเข้าออกนิดหน่อย แล้วนำถุงใหม่มาใส่ค่ะ. มี พสพ.กันอีกทีวันที่5/3/63 ใส่ถุงยางอนามัยและหลังในค่ะ จู่ๆมีอาการแปลกๆ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 24 วัน รู้สึกแปลกๆค่ะ ปกติประจำเดือนมาวันที่ 20 แต่ปนะจำเดือนไม่มาเลยค่ะ บวกกับมีอาการแปลกๆ เต้านมขยายใหญ่ขึ้น ปวดเต้านมเวลาที่โดน หน้ามืดบ่อยๆ เพลีย เหนื่อยง่าย. อารมณ์แปรปรวน มีตกขาว ไม่มากนัก กังวลว่าจะท้องค่ะ เครียดมากๆเลยค่ะ

สวัสดีครับ ถ้ามีการใช้ถุงยางอนามัยโดยที่ถุงยางไม่แตก ไม่รั่ว โอกาสการตั้งครรภ์ก็ไม่น่าเป็นไปได้นะครับ อย่างไรก็ดี หากประจำเดือนมาช้า หรือ ยังไม่มาตามกำหนด ก็ควรใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ดูเพื่อความแน่ใจครับส่วนเรื่องเต้านมคัด ก็อาจเกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงที่สูงขึ้นในรอบเดือนได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการตั้งครรภ์เสมอไป ในขณะที่ตกขาว หากมีสีขาวปกติ ไม่ได้มีกลิ่นเหม็น และไม่ได้มีปริมาณมากกว่าปกติ ก็ไม่น่ากังวลครับ เพราะร่างกายปกติก็สร้างตกขาวเพื่อมาสร้างความชุ่มชื้นให้ช่องคลอดทุกวันอยู่แล้วครับดังนั้น หากประจำเดือนยังไม่มา ขอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความแม่นยำดีกว่าครับ

หยุดฉีดยาคุมมา5เดือนแร้วค่ะแต่แระจำเดือนไม่มาเรยกังวลมากเรยไปตรวจที่โรงพยาบาลแต่ไม่พบการตั้งครรภ์แต่ทำไมประจำเดือนไม่มาบอกว่ายุในช่วงรังไข่พักตัวเรยไม่มีเลือดมาเกะที่มดลูกเรยทำให้ไม่มีประจำเดือนแต่ก็ยังกังวลยุค่ะเพราะว่าเจ็บท้องแปลกๆรู้สึกเหมือนมีเด็กดิ้นยุในท้องตลอดเวลาหน่วงๆกลัวค่ะกลัวว่าจะท้องนอกมดลูกเพราะพันธุกรรมมีพี่สาวท้องนอกมดลูกเรยกลัวตัวเองจะท้องนอกมดลูกเหมือนกันค่ะ

สวัสดีครับอาการแสดงของการท้องนอกมดลูกที่สำคัญพบได้สามอย่างคือตั้งครรภ์มีเลือดผิดปกติไหลออกจากช่องคลอดปวดท้องน้อยมากนอกจากนี้จะมีอาการอื่นๆเช่น หน้ามืด วิงเวียนศรีษะ วูบ ได้โดยปกติหลังจากหยุดยาคุมกำเนิดไป ต้องรอสักพักประจำเดือนถึงจะมาอย่างปกติแนะนำว่าขั้นตอนแรกควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองก่อน ถ้าหากพบว่าไม่ตั้งครรภ์ก็สามารถตัดสาเหตุท้องนอกมดลูกออกไปได้ถ้าหากพบว่าตั้งครรภ์ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและฝากครรภ์ทันที หรือถ้าหากมีอาการของการท้องนอกมดลูกที่กล่าวไปเบื้องต้น ควรรีบไป รพ.เพื่อทำการตรวจรักษาทันทีครับ

ปจด.ล่าสุดวันที่ 10 มิย มี พสพ วันที่ 17 มิย สวมถุงยางและหลั่งข้างนอก แต่ถุงยางแตกข้างนอกเลยกินยาคุมฉุกเฉินวันที่ 18 มิย จนถึงตอนนี้ผ่านมาประมาณ 15 วัน ปจด ยังไม่มา กังวลว่าจะท้องไหมคะ เครียดมาก

สวัสดีค่ะ การใช้ยาคุมฉุกเฉินกรณีที่มีถุงยางอนามัยขาดหรือรั่วนั้นสามารถทำได้ โดยควรกินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ กินให้ครบและตรงเวลาตามข้างฉลากกำหนด จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงไปได้ประมาณ 80-90%หลังใช้ยาอาจทำให้ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนไปได้ แต่ไม่ควรเกิน 7 วันจากครั้งก่อนค่ะ หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่านั้น ควรซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจเองเบื้องต้น ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ หากให้ผลลบ แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มาตามกำหนด ควรไปตรวจยืนยันที่รพ. และหาสาเหตุอื่นๆเช่นความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ที่เป็นไปได้ต่อไป

สวัสดีค่ะ คุณ คือพอดีหนูได้มีอะไรกับเเฟนไม่ถึงขั้นสอดใส่นะคะ เเต่เเฟนเอาน้องชายมาถูเเค่แปปเดี๋ยวค่ะ เเละเหมือนเอามือที่ช่วยตัวเอง(ยังไม่เสร็จ)เราได้ลองจับเเล้วน้องชายเเห้งมากค่ะยังไม่มีน้ำเลย เผลอช่วยเราค่ะ ตอนเเรกเราไม่กังวัล เเต่อยู่ๆเราได้ไปอ่านอาการคนท้องมา เเล้วเราค่อยข้างคล้ายมากๆ อยู่ก็ปวดหลังด้านล่างค่ะ เเต่อ่านจจะเพราะนั่งทำงานนานเราเลยไม่เเน่ใจ เเต่เราไม่เคยปวดมาก่อนค่ะ เริ่มมีอาการท้องผูก อืด เหมือนมีไข้ตอนเช้า คันที่หัวนมเเต่เหมือนคันประจำเดือนอันนี้ไม่เเน่ใจค่ะ เลยแอบกังวลเเละเครียดมากเลยค่ะ มีอาการท้องร้องดังมากค่ะ ประจำเดือนเราน่าจะมา 15นี้ค่ะ ขอบสำหรับคำตอบค่ะ

สวัสดีค่ะการมีเพศสัมพันธ์ถ้าไม่ได้มีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในอวัยวะเพศหญิงเลยนั้น แทบจะไม่มีโอกาสทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เลย เพราะน้ำอสุจิที่อยู่ภายนอกช่องคลอดไม่น่าจะสามารถผ่านช่องคลอดจากด้านนอกเข้าไปผสมกับไข่ได้อาการอื่นๆดังกล่าวมา ไม่ได้จำเพาะเจาะจงต่อการตั้งครรภ์แต่อย่างใดค่ะ หากยังไม่สบายใจ สามารถที่จะซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมายืนยันได้เองหลังจากนี้ ซึ่งชุดตรวจให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิแต่หากจะมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ แม้ไม่ลึก ไม่นาน ให้ใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันเอาไว้ทุกครั้ง หรือกินยาคุมแบบแผงรายเดือน ฉีดยาคุม ฝังยาคุมเพื่อป้องกันไว้ก่อน

คือก่อนหน้านี้ผชช่วยตัวเองแบบใช้มือขวา แต่ไม่แน่ใจว่าใช้มือซ้ายหรือป่าว แล้วไม่ได้ล้างมือแล้วมาช่วยผญ แต่เขายืนยันว่าใช้มือซ้าย ตอนนี้กังวลมากค่ะว่าจะท้อง เครียดมาตลอดเลยค่ะ ตอนนี้รู้สึกหายใจไม่สะดวกเลย แต่ตอนช่วยตัวเองผชก็ไม่เสร็จค่ะ แล้วก็เหมือนจะแค่เขี่ยๆของผญด้วย อยากได้คำตอบมากเลยค่ะเครียด

สวัสดีค่ะ หากฝ่ายชายได้ใช้มือจับอวัยวะเพศเพื่อช่วยตัวเอง แต่ยังไม่ได้มีการหลั่งน้ำอสุจิเกิดขึ้น นิ้วมือก็ย่อมจะไม่มีตัวอสุจิอยู่ ดังนั้น แม้จะใช้นิ้วมือข้างที่จับอวัยวะเพศชายมา สอดใส่เข้าสู่ช่องคลอด โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีค่ะ ไม่ต้องเครียดและกังวลไป หากเครียดมาก ก็ย่อมทำให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติต่างๆ โดยอาจทำให้อาการหายใจไม่สะดวกดังที่เป็นอยู่ และอาจมีผลทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ด้วยค่ะหลังจากนี้ หากจะมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ ไม่ว่าด้วยวิธีใด แล้วกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ ก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นต้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ค่ะ

หนูกับแฟนมีเพศสัมพันธ์กับแบบไม่สอดใส่ค่ะ แค่เอามาถูๆกัน แต่หลังจากทำเสร็จหนูเห็นของแฟนมีน้ำอยู่นิดๆแต่ตอนทำไม่ได้รู้สึกว่าโดนน้ำของแฟนเลย เลยกังวลว่าจะท้องค่ะ แล้วหนูมีโอกาสจะท้องไหมคะ

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์ โดยการแค่ถูไถอวัยวะเพศภายนอก ไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าเข้าไปในช่องคลอด โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ไม่มีค่ะ สำหรับน้ำที่ออกจากอวัยวะเพศชาย หากฝ่ายชายยังไม่ได้ถึงจุดสุดยอด น้ำที่ออกมาก็น่าจะเป็นหล่อลื่นค่ะ ซึ่งในน้ำหล่อลื่นนั้น ไม่ได้มีตัวอสุจิอยู่ จึงไม่ได้ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

สงัสดีค่ะ สอบถามเรื่องประจำเดือน อายุ 20 ค่ะ ตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกตอน13-14 ปกติเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วค่ะ ห่างกัน 2-3 เดือนบ้าง 1. มีความกังวลว่ามดลูกผิดปกติหรือไม่คะ ? และช่วงนี้มีแฟนค่ะ แต่มีอะไรกันล่าสุดคือก่อนประจำเดือนมา 3 เดือนก่อน จนตอนนี้ยังไม่มา ช่วงนี้มีอาการ เจ็บหน้าอกมากเหมือนขยาย อยากอาหาร อารมณ์เหวี่ยงง่าย ตกขาวแบบใสผสมกับสีขาวมามาก มีปวดท้องแบบแสบๆทางท้องล่างด้านซ้าย สลับขวาบ้าง 2. นี่คืออาการว่าประจำเดือนใกล้จะมาหรือเปล่าคะ? หรือว่า เป็นในทางอื่น จริงๆก็ตรวจครรภ์แล้วแต่ก็ขึ้นขีดเดียว พยายามไม่กังวลเพราะกลัวยิ่งเครียดยิ่งไม่มา รบกวนด้วยนะคะ ขอบค่ะ

สวัสดีค่ะ การที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ และนาน 2-3 เดือนมาสักครั้ง หากเป็นมาตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว มักเกิดจากการทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ที่ไม่ปกติ ซึ่งในบางรายอาจเกิดจากมีภาวะมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิวเยอะ และมีขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไปแต่หากเพิ่งมาเป็นไม่มาน ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ มีพังผืดเกิดขึ้นในมดลูก เป็นต้นอย่างไรก็ตาม หากได้มีเพศสัมพันธ์ไปเมื่อ 3 เดือนก่อน และในตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มา ก็อาจเกิดจากการตั้งครรภ์ได้ แต่หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว และพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะสำหรับอาการเจ็บหน้าอก หน้าอกขยาย อยากอาหาร อารมณ์แปรปรวน มีตกขาวมากขึ้น ปวดท้องน้อย อาจเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้ค่ะ ดังนั้น แนะนำควรอรอประจำเดือนไปอีกซัก 1-2 สัปดาห์ หากประจำเดือนยังไม่มา หรือยังคงมาห่างกัน 2-3 เดือน แนะนำควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ หากเกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ การรักษาคือการทานยาปรับฮอร์โมนหรืออาจทานยาคุมกำเนิดก็

สวัสดีครับวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมาไปบ้านเพื่อนซึ่งเก็บลูกสุนัขข้างทางมาเลี้ยง (ฉีดกันพิษสุนัขบ้าก่อนวันที่ 11) มาแทะข้อเท้าเนื่องจากฟันพึ่งขึ้น ตอนนั้นไม่ได้สังเกตุว่ามีแผลหรือเปล่า ซึ่งถ้ามีก็ไม่ได้เป็นแผลที่มีเลือดออก ต่อมาวันที่ 15 มี.ค. ถูกสุนัขเลี้ยง (ฉีดกันพิษสุนัขบ้าแล้วเช่นกัน)เลียบริเวณเดียวกับที่ลูกสุนัขแทะข้อเท้าไว้ แต่ไม่ได้ไปโรงพยาบาลทันที ซึ่งไปฉีดยาป้องกัน Post-exposure immunization วันนี้ (19 มี.ค.)หลังจากฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ ก็หลับไป 2-3 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาทานข้าวก็รู้สึกหิว แต่ทานได้ช้ากว่าปรกติเนื่องจากรู้สึกมีลมในท้อง และตอนนี้หน้าผากร้อน ไม่ทราบว่าเป็นอาการจากการฉีดยาหรือเปล่าครับ เพราะก่อนหน้านี้ทุกวันก็ทานอาหารได้ดีระหว่างอาทิตย์ที่ผ่านมาค่อยข้างมีความกังวลเรื่องติดเชื้อเนื่องจากอ่านข่าวและข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้วิตกไปเองและสะสมเป็นความเครียดมั้ยครับอยากสอบถามว่าต้องเฝ้าระวังต่อไปและมีโอกาสที่จะติดเชื้ออยู่มั้ยครับขอบครับ

สวัสดีค่ะ สรุปคือไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ามาแล้วนะค่ะ อาการหลังฉีดวัคซีนมักจะมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดค่ะ คือต้นแขน หรือ อาจจะมีอาการไข้ได้ค่ะ แต่อาการเบื่ออาหารไม่คิดว่าเกี่ยวค่ะ หรืออาการท้องอืดก็ไม่เกี่ยวค่ะ ไม่น่าจะเป็นผลจากวัคซีนค่ะเอาเป็นว่าลองรับประทานอาหารอ่อนๆ ก่อนนะค่ะ ดื่มน้ำให้มากๆ และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดค่ะยังต้องมีนัดฉีดยาอีกค่ะ ให้ไปฉีดตามนัดนะค่ะไม่ต้องกังวลค่ะ

สวัสดีคือหนูอายุ23ปีปกติเป็นคนหลับง่ายมาก แค่หัวถึงนก็หลับแล้วค่ะ แต่ตอนนี้นอนไม่หลับมา1เดือนเต็มแล้วค่ะ แรกที่เป็นนอนไม่หลับ2-3วันติดกันเช้ามาก็ไม่อยากทำอะไรเลย จนต้องหยุดงาน2วัน อาการแย่มากเศร้าเครียดหดหู่ไปหมด เครียดที่นอนไม่หลับ คิดมากคิดต่่างๆนาแต่ส่วนมากก็จะคิดเรื่องแฟนแบบเริ่มแรกเลยคือแฟนทำให้เราผิดหวังในบางเรื่องแต่มัน2-3ครั้งติดกัน จนครั้งล่าสุดทำให้เราเป็นแบบนี้ เป็นอยู่19วัน แล้วมันก็หายไปเองแบบนอนหลับดีขึ้นมีชีวิตชีวาขึ้นร่าเริงขึ้นดีขึ้นได้10วันก็กลับมาเป็นอีก แบบเรื่องนิดๆหน่อยๆเราก็เก็บมาคิดหมดที่เกี่ยวกับเรื่องแฟนค่ะ ครั้งนี้เลยไปหา ให้ยามากินมี haloperidol 0.5 mg, dipot clorazepate 5 mg, fluoxetine 20 mg พอกินแล้วรู้สึกอาการหนักกว่าเดิมอีกค่ะทั้งเศร้า หดหู่ ตื่นกลางดึกแล้วไม่หลับอีกเลยพยายามนอนก็ไม่หลับ ใจสั่นเต้นเร็ว มือสั่นด้วย อาการแย่กว่าเก่าอีกค่ะ กินไปได4วันแล้วค่ะ หนูควรหยุดกินยาใช่มั้ยคะ เพราะรู้สึกแบบไม่ใหวแล้วมันหนักกว่าตอนที่เป็นอีกค่ะ คุณช่วยแนะนำทีนะคะ แล้วมันมีโอกาสหายเองได้แบบไม่กินยามั้ยคะ

สวัสดีค่ะ อาการนอนไม่หลับ เศร้า เครียด หดหู่ อาจเป็นอาการของ1. โรคเครียด ทำให้รู้สึกมีความทุกข์ ไม่ร่าเริงแจ่มใส ไม่มีความสุข อารมณ์แปรปรวน ไม่มีสมาธิ และทำให้มีอาการต่างๆ ทางร่างกายด้วย เช่น ใจสั่น เหงื่อออกที่ฝ่ามือ มือเท้าเย็น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หายใจไม่สุด เจ็บหน้าอก นอนไม่หลับ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตัว ปวดท้อง อ่อนเพลีย เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อมีโรคเครียด ก็อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมาได้2. โรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นโรคที่ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ดังนี้- อารมณ์เศร้าสร้อย หดหู่ ไม่แจ่มใส เบื่อหน่าย สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย รู้สึกไม่มีความสุข บางคนอาจหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย อารมณ์ร้อนขึ้น- ความคิดเปลี่ยนไป มองอะไรก็รู้สึกแย่ไปหมด มองเห็นแต่ความผิดพลาดของตนเอง หมดหวัง ท้อแท้ รู้สึกตนเองไร้ค่า รู้สึกเป็นภาระกับคนอื่น คิดถึงเรื่องการตายอยู่บ่อยๆ หรืออาจถึงขั้นวางแผนการตายและทำร้ายตนเองได้- สมาธิความจำแย่ลง หลงลืมง่าย จิตใจเหม่อลอย ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำงานผิดๆถูกๆ- อาการทางกาย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า นอนหลับยาก หรือนอนมากไป เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดเมื่อยตัว ปวดหัว ท้องอืด ท้องผูก เป็นต้น- การเรียนหรือการงานแย่ลงทั้งนี้ หากได้ไปพบแพทย์ และได้ยามาทานแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น ยังคงมีอาการเศร้า และนอนไม่หลับ ก็ควรกลับไปพบแพทย์ โดยควรไปพบจิตแพทย์ เพื่อประเมินอาการ และปรับยาให้เหมาะสม รวมถึงใช้วิธีการรักษาอื่นๆ ร่วม เช่น การรักษาทางจิตบำบัด และพฤติกรรมบำบัดค่ะ ทั้งนี้ หากรู้สึกใจสั่นมาก อาจหยุดยาไปก่อนชั่วคราวได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ,ตั้งแต่อายุ 30 ถึงตอนนี้ 33 ปี ประจำเดือนมักจะมายาวนานค่ะ 6-14 วัน แล้วแต่เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ 4-5 วันปกติ, รอบเดือนก็ดูปกติที่ 29-30 วัน, ไม่มีอาการปวดท้องใดๆ, สีของประจำเดือนก็แดงปกติ, ปริมาณมากบ้าง น้อยบ้าง, รู้สึกผิดปกติที่มายาวนานเหลือเกินเคยไปปรึกษาแพทย์ บอกว่า ถ้ามาแบบนี้ตลอดก็ถือว่าปกติ +พร้อมกับตรวจภายใน ตรวจคลำกดเช็ค ก็ว่าปกติค่ะ ไม่มีก้อนเนื้ออะไร แต่ถ้าอยากตรวจละเอียดกว่านี้ ก็คือต้องขูดมดลูกไปตรวจคำถามคือ อาการตามด้านบน ควรเป็นที่น่ากังวลมั้ยค่ะ ควรจะไปขูดมดลูกตรวจไหม หรือควรตรวจอะไรเพิ่มเติมมั้ยค่ะขอบมากค่ะ

สวัสดีค่ะ เลือดออกผิดปกติมากทางช่องคลอดอาจเกิดจาก-เนื้องอกมดลูก ปากมดลูก หรือรังไข่-ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก-มีการติดเชื้อที่ช่องคลอดหรือปากมดลูกหรือมดลูก-มีบาดแผลบริเวณช่องคลอดหรืออวัยวะเพศภายนอก-อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานสตรีอักเสบ อาจมีไข้ ร่วมกับตกขาวผิดปกติด้วยในกรณีนี้แนะนำควรพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้ง เพราะการเลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือนเป็นภาวะผิดปกติ ต้องหาสาเหตุและแก้ไข หากประจำเดือนก็ยังมามากผิดปกติอยู่ และแพทย์แจ้งว่ามีความจำเป็นต้องขูดมดลูกก็ควรตรวจเพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอนค่ะ การอัลตราซาวน์หน้าท้องก็อาจจะพอช่วยบอกได้ว่ามีก้อนเนื้องอกที่ผิดปกติในมดลูกหรือไม่การดูแลตัวเองเบื้องต้น งดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมารับประทานเอง ถ้ามีอาการซีดอ่อนเพลียจากเสียเลือดมาก ไข้สูง ตกขาวผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์

คุณครับคือผมวิตกกังวลครับ หากที่ฝ้าบ้านของผมมีหนูอยู่แล้ววันนึงฝนตกแล้วรั่วลงมาบริเวณที่แช่ชามไว้ หลังจากนั้นผมไปล้างแล้วน้ำกระเด็นเข้าตาจะเป็นอะไรมั้ยครับผ่านมา5-6วันแล้ว แล้วก็อีกอย่างคือวันนี้ผมเดินผ่านตลาดสดพื้นเฉอะแฉะเดินตามหลังพ่อมาแล้วรู้สึกเหมือนมีน้ำเกาะที่มุมปาก คือผมมีอาการย้ำคิดย้ำทำแล้วกังวลกับโรคนี้มากๆครับ คุณช่วยยืนยันหรือแนะนำหน่อยครับว่าผมจะไม่เป็นโรคอะไรหรือผมควรทำยังไง

สวัสดีคะ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการติดเชื้อค่ะ หนูนำโรคได้แต่ไม่ได้ ติดแบบที่สัมผัสแบบนั้นค่ะแนะนำเรื่องการล้างจานซ้ำ และวางสูงบนชั้น ให้แห้งและเก็บเข้าที่ทางค่ะถ้ากังวลมากแนะนำฉีดวัคซีน สามเข็มก็ได้ค่ะ

ประจำเดือนในเดือนมีนามาวันที่ 24 (ก่อนหน้านี้กินยาคุมมาตลอดทุกเดือนแล้วเดือนเมษาหยุดกิน) วันที่3 มีเพศสัมพันธ์ ปล่อยข้างนอก แล้ววันที่8-11มีเลือดออกเล็กน้อยแค่กระปริบกระปอย วันที่12 มีเพศสัมพันกันอีกทีปล่อยข้างนอก แล้วพอถึงกำหนดประจำเดือนมาแต่ไม่มา และวันที่29 ก็มีเพศสัมพันธ์และมีการปล่อยข้างนอกเหมือนเดิม (ทุกครั้งที่ปล่อยข้างนอกค่อนข้างมั่นใจ) อยากทราบว่า เลือดออกเมื่อวันที่8 เป็นผลข้างเคียงจากการหยุดกินยาคุมหรือไม่ แล้วทำไมเมนถึงเลื่อนเกี่ยวกันกับเลือดออกวันที่8ไหม และตั้งแต่ประจำเดือนหายก็รู้สึกหน้ามืดเมื่อทำอะไรเร็วๆ หรือเดินอยู่แล้วหน้ามืด มันเกี่ยวกันไหม ที่ประจำเดือนเลื่อนมีโอกาสท้องไหม หรือยังไง ทั้งเดือนไม่ค่อยมีอาการเครียด อยากทราบจริงค่ะช่วยตอบที

สวัสดีค่ะ การมีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนที่ไม่ใช่ประจำเดือนนั้นอาจจะมีสาเหตุได้จากหลายๆอย่างค่ะ เช่นเป็นผลข้างเคียงจากการหยุดกินยาคุม ซึ่งมักเกิดแค่ในช่วงประมาณ 1 เดือนแรก และร่างกายควรจะกลับมาเป็นปกติ สาเหตุอื่นๆเช่นเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ ซึ่งหลังจากหยุดกินยาคุม อาจกลับมามีการตกไข่ได้ พอมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ถึงแม้จะหลั่งนอกนั้น ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงถึง 20% ค่ะสาเหตุอื่นๆด้านนรีเวชเช่นมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ ฮอร์โมนจากรังไข่ที่สร้างมาอย่างไม่สมดุล หรือมีการติดเชื้อของมดลูกหรือปากมดลูก เป็นต้นดังนั้นหากประจำเดือนเลื่อนไปไม่มาตามรอบเดือน เลื่อนไปเกิน 35 วัน ควรซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจยืนยัน ให้ผลบวกได้ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ หากให้ผลลบ แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มา และมีเลือดออกกระปริดกระปรอยเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมค่ะ

สวัสดีค่ะ..เดือนที่เเล้วมีประจำเดือนมาใกล้จะสิ้นเดือน เเล้วเจ้าตัวเป็นคนที่มีประจำเดือนมาไม่เเน่นอนเป็นคนที่ไม่เคยนับไม่จดเกี่ยวกับประจำเดือนเลยค่ะ รู้เเค่ช่วงที่เคยเป็นกับเวลาที่เป็นกี่วัน พอมาเดือนนี้พึ่งมีอะไรกับแฟน วันที่2ต้นเดือนแต่นานๆมากจะเจอกันทีเเต่ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์เรารู้สึกเจ็บนมไม่มากเท่าไหร่แต่ตรงจุกเจ็บเเค่จี๊ดถ้าไปโดน มีสิวขึ้น ละแฟนก็สวมถุงยางอนามัยพอแฟนถึงจุดยอดเสร็จในถุงยางเเต่ก็ยังอยู่ในช่องคลอด รู้สึกได้เลยว่าน้องชายเขาอ่อนตัวลงมีอุ่นๆอยู่ในถุงเเต่เรายังไม่เสร็จนะคะเเฟนเขารู้สึกผิดเลยยังไม่ได้เอาออกซักพักเเต่ไม่นานค่ะ เขาก็ดึงออกละมานั่งรู้สึกผิดโดยที่เขายังไม่ได้ถอดถุงยางโดยพักนึง เราเลยไล่ให้เขาไปถอดออกทิ้งถุงเเล้วให้ทำความสะอาดน้องชาย แต่ก่อนจะทิ้งเเฟนเอาน้ำใส่ในถุงยาง เขาบอกบีบถุงไม่รั่ว ไม่ซึม ไม่มีน้ำใกล้ๆตรงโคนรังไข่ เราก็นั่งล้างน้องสาวใกล้ๆเขาเเต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรได้เเค่ดูเฉยๆ มีช่วงที่เวียนหัวพะอืดพะอม อาจเพราะกลางคืนไม่ได้นอนมานอนเกือบเช้าติดกัน นอกนั้นก็ไม่มีอาการเเบบนี้เเล้ว พอวันศุกร์ที่ผ่านมาตอนเย็นรู้สึกปวดช่วงเอวไปยังต้นขาทั้งสองข้างเเทบเดินไม่ค่อยได้เเต่ยังพอเดินได้ปกติอยู่ อาการเจ็บนมไม่มีเเล้วค่ะ พอกลับมานอนตื่นมาอีกทีวันเสาร์ปวดเเค่ข้างขวาข้างเดียวก้มทีปวดหน่วงๆ มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย เช่น หงุดหงิดแค่กับเเฟน แต่กับคนอื่นไม่เป็น กินเยอะแต่อันนี้กินเยอะอยู่เเล้วเลยดูไม่ออกเลยค่ะ พอนอนตื่นมาวันอาทิตย์หายปวด ใกล้จะปลายเดือนเเล้วประจำเดือนยังไม่มา เครียดมาหลายวันแล้วคิดตลอดว่าท้องหรือป่าว เพราะโดยรวมทุกอย่างเรายังไม่พร้อมที่จะมีน้องอยากทำงานเก็บตังไปก่อนเลยกินสตรีเบนโลเพื่อให้ประจำเดือนมา พอกระดกกินเข้าไป3อึกรู้สึกเเสบเย็นๆในท้องทั้งที่ไม่ได้เเช่ตู้เย็นโดยปกติเทกินเเล้วไม่เเสบไม่เย็น กดท้องรู้สึกเเน่นจุกหน่วงในบางจุดค่ะ กินตั้งเเต่วันศุกร์ที่เเล้วจนถึงวันอาทิตย์กินทั้งเช้า-ก่อนนอน อยากสอบถามว่าจะท้องหรือป่าวคะ กลัวว่ามีน้ำอะไรเลตรอดเข้าไปเพราะส่วนตัวเราก็น้ำล่อลื่นเยอะอยู่เเล้วค่ะแต่ไม่มากถึงขั้นไหลออกมา แต่ต้องคอยเอาทิสชู่มาซับเวลาน้ำล่อลื่นเยอะ กังวลใจมากค่ะ ขอบล่วงหน้านะคะ!!

สวัสดีค่ะ หากใส่ถุงยางอนามัยตลอดการมีเพศสัมพันธ์ ถุงยางไม่ขาด ไม่รั่ว มีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยมากๆ แต่จริงๆแล้วควรจะถอดถุงยางอนามัยออกขณะที่อวัยวะเพศยังแข็งตัวอยู่ เพื่อไม่ให้มีน้ำหล่อลื่นหรือน้ำอสุจิเล็ดลอดออกจากถุงยางเข้ามาในช่องคลอดได้ดังนั้นในกรณีหากอวัยวะเพศอ่อนตัวตอนใส่ถุงยาง ก็มีโอกาสที่น้ำอสุจิจะออกมา แม้จะน้อยมากก็ตามถ้าเป็นเพศสัมพันธ์ภายใน 72 ชั่วโมง และรู้สึกไม่สบายใจมาก อาจมีข้อบ่งชี้ในการใช้ยาคุมฉุกเฉินด้วยแนะนำให้สังเกตประจำเดือนในรอบถัดไปว่ามาตามปกติหรือไม่ หากมาช้ากว่า 35 วัน ควรไปพบสูตินรีแพทย์หรือลองซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเองเบื้องต้นอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน

ประจำเดือนหมดวันที่ 10 มี.ค แล้วมี พสพ. กับแฟนวันที่ 12 มี.ค. แต่ทานยาคุมฉุกเฉินทันที..ตามกำหนดประจำเดือนน่าจะมาประมาณวันที่ 1 เม.ย. แต่ ณ.วันนี้ (8เม.ย) ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะกังวลใจกลัวว่าจะท้อง..เป็นไปได้ไม๊ว่าทานยาคุมฉุกเฉินแล้วทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนมาล่าช้า...กังวลใจมากค่ะ..เครียดด้วย

สวัสดีค่ะ หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินทันทีหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ ยาคุมฉุกเฉินจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95% ค่ะสำหรับการที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจาก- การตั้งครรภ์ แต่โอกาสก็ถือว่าไม่มากนัก- ผลของยาคุมฉุกเฉิน ที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าได้- การมีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วหากกังวล ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อน หากตรวจไม่พบ จะได้ไม่ต้องเครียด และให้รอประจำเดือนไปอีกซักระยะ ประจำเดือนก็น่าจะมาในที่สุดค่ะ

มีอะไรกับแฟนวันที่27มีนาคมเค้าใส่ถุงยาง แต่ตอนเค้าเสร็จเรารู้สึกเปียกๆ ต้องขาเราเลยดึงตัวออกเลอะเต็มขาเรา เรากังวลเลบไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน ตอน08.00น แล้วกินอีกที่19.00น จากที่อ่านในเน็ตมาคือ หลังจากกินยาคุมฉุกเฉิน7วันจะมีเลือดออก แต่ของเราไม่มี ประจำเดือนเราจะมาประมาณช่วงวันที่14-15-16เมษา วันที่14-15 เรามีอาการปวดท้องน้อยแต่ไม่มีประจำเดือนวันที่16มีอาการปวดท้องน้อยและมีเลือดสีน้ำตาลออกมานิดหน่อย วันที่17มีอาการปวดท้องและมีเลือดสีน้ำตาลออกมา ตอนกลางคืนเลยใส่ผ้าอนามัยตอนไม่ไม่มีอะไรเลย วันที่18 เหมือนวันที17 เเต่ตอนกลางคืนมีเลือดสีน้ำตาลเข้มปนแดง วันที่19 มีประจำเดือนมาทั้งเช้าและเย็นแต่เป็นสีน้ำตาลเข้มปนแดง วันที่20เรารู้สึกเหมือนมีอะไรออกมา คลายปจดไหล ไม่คิดอะไรมาก เราจะเข้าไปเปลี่ยนผ้าอนามัย เจอก้อนเลือดเป็นสีน้ำตาลเข้ม เลยหยิบมาดู เเละเขี่ยๆดูออกมาเป็นเเผน เราตกใจ ตอนนี้เปจดเรากลับมาเป็นสีแดงปกติแล้ว เลยส่งสัยว่าทั้งหมดนี้เกิดจากอะไรมีอะไรผิดปกติหรือไหม ช่วยอธิบายด้วยค่ะ เราเครียดตั้งแต่ประจำเดือนไม่มาแล้ว

สวัสดีค่ะ การทานยาคุมฉุกเฉิน หากได้ทานภายในไม่เกิน 12 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมฉุกเฉิน ก็จัช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประทาณ 95% ดังนั้นโอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็ถือว่าน้อยอยู่หลังจากทานยาไปประมาณ 7 วัน อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของการทานยาได้ แต่บางรายอาจไม่มีก็ได้ และการไม่มีเลือดออก ไม่ได้เป็นการบอกว่าจะต้องมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นส่วนเลือดที่ออกในวันที่ 16-20 เม.ย. นั้น น่าจะเป็นประจำเดือนได้ แม้จะมีปริมาณน้อยกว่าปกติ ซึ่งเลือดประจำเดือนที่มีปริมาณน้อย ก็จะกลายเป็นสีน้ำตาลได้ ส่วนเลือดที่เป็นก้อน ก็เป็นสิ่งที่สามารถพบได้ หากเลือดเกิดการแข็งตัวและเกาะตัวเป็นลิ่มก้อนเลือดขึ้นมาค่ะหากเลือดออกมาไม่เกิน 7 วันและไม่มีอาการปวดท้องน้อยอีก เลือดดังกล่าวก็น่าจะเป็นประจำเดือนค่ะหากเป็นการแท้งจะเห็นชิ้นส่วนคล้ายไส้ปลาหลุดออกมาพร้อมกับก้อนเลือดค่ะ

ขอโทษด้วนะคะถ้าคำถามยาวไป คือตอนนี้เรียนอยู่ 3 ค่ะ อายุ22 มีอาการกังวลมากกว่าปกติตอนเรียนอยู่ปี3ค่ะ ที่เราเรียนหนักงานเยอะแต่เวลาน้อยเลยทำให้ต้องปั่นงานส่ง รู้สึกเคลียดมาก สมมติว่าพรุ่งนี้ส่งแผน วันต่อไปนำเสนอวิจัย วันถัดไปส่งเล่มรายงาย แบบนี้อ่ะค่ะ งานใหญ่แต่เวลาน้อยทำให้ไม่ได้นอนติดต่อกันหลายวัน ข้าวก็ไม่ได้กินเพราะมัวแต่ทำงาน จนครั้งหนึ่งเราเข้าเรียนช้าไปชั่วโมงครึ่งค่ะ เพราะทำงารส่งอาจารย์ไม่เสร็จ ทำงานทั้งคืนยัน13นาฬิกา ไม่ไกินข้าวเลย เลยเข้าเรียนตอน14.30น.พอกลัยมาหอเรารู้สึกเพลียเหมือนจะเป็นลม แต่สภาพจิตใจแย่มากค่ะ เราเคลียดจนร้องไห้ ทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ใจลอยมันคิดต่างๆนาๆไปว่าทำไมต้องอดหลับอดนอนขนาดนี้ เหนื่อย เพราะงานก็ยังจ่อรอให้ทำอีกเยอะช่วงนั้นเดินไปเรียนยังนึกถึงแต่งาน เวลานอนไม่เคยหลับสนิทเลยค่ะคิดแต่ว่าจะทำยังใงดี เคลียดนอนดึกไม่ต่ำกว่าตี3เกือบทุกคืนจนเวลานอนแขนขาจะชาเเละเกร็งค่ะเหมือนผีอำ เราเป็นแบบนั้นนานกว่า2อาทิตย์ค่ะ พองานเริ่มเบาลงเราก็นึกว่าอาการกังวลจะหายเปล่าค่ะ พอสักพักงานวิจัย โครงงาน โครงการเริ่มมา เราก็มีอาการแบบเดิมค่ะ กังวลใจเต้น มันคิดอยู่ตลอดว่างานมันจะออกมาไม่ดี มันไม่ความสุขกับสิ่งที่เรียนที่ทำเลยค่ะ กังวลร้องไห้ ทำไมคนอื่นทำได้เรากลับทำไม่ได้ เริ่มเป็นหนักจนทางบ้านไม่เข้าใจค่ะยอกว่าเราไม่เอาไหน เราไม่มีความสุขเลยค่ะตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เดินๆไปกับเพื่อนพอนึกถึงงานที่ต้องทำส่งเช่นวิจัยโครงการที่ยากๆ เราจะร้องให้ค่ะ เหมือนคนอื่นมีความสุขแก้ไขปัญหาได้เรากับสัมผัสความสุขไม่ได้เลย บางทีนอกไปก็ไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้อยากหลับแล้วไม่ต้องตื่น เหนื่อยเเละเคลียดกับงานมากๆเลยค่ะ ต้องทำยังใงค่ะ มีแนวนางแก้ไขอะไรไหมคะ

สวัสดีค่ะ การเรียนในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะ ปี สาม ปี สี่ จะเป็นปีที่ต้องมีงานให้ทำค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องงานวิจัย หรือ การทำรายงานนอกเวลา และยังต้องเรียนเต็มเวลาอีกด้วยค่ะ ซึ่งเข้าใจความเหนื่อยล้า ซึ่งยิ่งล้า ก็ยิ่งทำให้ท้อมาขึ้นเรื่อยๆ ค่ะปกติแล้วจะแนะนำให้ปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ หรือ วิจัยก่อนค่ะ ว่ามีโอกาสที่จะให้ส่งงานความถี่น้อยลงเพื่อให้เราสามารถที่จะพอมีเวลาพักบ้างค่ะ และที่สำคัญการจัดสรรค์เวลาเป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับนักศึกษาค่ะพยายามพักผ่อนและหากิจกรรมเบาสมองทำบ้างค่ะ งานต้องให้เสร็จตามเวลาแต่เราก็สามารถผ่อนคลายได้ค่ะอีกอย่างแนะนำเรื่องการคุยกับนักจิตวิทยาค่ะปรึกษาจิตแพทย์ถ้าไม่ไหว และมีความจำเป็นต้องกินยาต้านเศร้าค่ะ

หนูกังวลกับเสียงดังมากๆ เสียงพุเสียงประทัดเสียงฟ้าร้องอันนี้ไม่กลัวค่ะแต่จะกลัวพวก เสียงล้างจานแล้วเซรามิคกระทบกัน เสียงตำครก เสียงแม่คุยโทรศัพท์ เสียงคนถกเถียง และเสียงกระตุ้นเล็กน้อยอื่นๆ แรกๆจะรำคาญค่ะพอเกิดขึ้นบ่อยๆหนูเริ่มกลัว เริ่มกังวลจนกระทบกับชีวิตประจำวันด้วยค่ะ (หนูเป็นคนเครียด คิดมาก ขี้กังวลด้วยน่ะค่ะ)

สวัสดีค่ะ dareamอาการกลัวและกังวลกับเสียงกระตุ้นต่างๆดังกล่าวมานั้น อาจจะเกิดจาก ภาวะการกลัวต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป การมีความวิตกกังวลทั่วไป ส่วนภาวะแพนิคนั้นมักทำให้มีอาการรู้สึกเหมือนจะตาย เหงื่อแตก ใจสั่นมากร่วมด้วยได้จากที่กล่าวมายังบอกไม่ได้ชัดเจนมากนัก อาจจะเป็นภาวะวิตกกังวลหรือกลัวกับสิ่งเร้าใดสิ่งเร้าหนึ่งมากเกินไป ซึ่งอาจจะรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้ยากดประสาทอ่อนๆหรือการทำจิตบำบัดภายใต้การดูแลของจิตแพทย์หากมีความกังวลใจกับอาการที่เป็นมาก อาการเป็นเยอะจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะรู้สึกกังวลเหมือนตัวเองเป็นโรคแพนิคค่ะลองไปศึกษาโรคนี้ดูตรงมากค่แบ้วก็โรควิตกกังวลชอบคิดว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนู้นนี้กลัวทุกอย่างรู้สึกหายใจไม่เต็มอิ่มใจเต้นแรงรู้สึกกลัวว่าตัวเองจะติดโควิดรู้สึกแย่ๆมากๆค่ะใช้ขีวิตด้วยความกังวลแพนิคไปหมดมีอาการไอค่ะแต่ไม่ได้หนักเป็นมา2วันแล้เวก็ไม่ไออีกไม่มีไข้แต่รู้สึกหายใจไม่เต็มอิ่มหรือติดขัดค่ะหายใจสั้นๆใจเต้นเร็วมาประจำเดือนด้วยคะเลยกังวลพอรู้สึกแบบนี้ก็กลัวค่ะอยากทราบว่าเป็นแพนิคหรือโควิดคะ

สวัสดีค่ะ โรคแพนิค เป็นโรคที่มีการตื่นตกใจต่อเหตุการณ์ใดๆมากจนเกินไป ทำให้มีอาการทางกายจากการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่มากผิดปกติ อาการของโรคแพนิคที่พบได้บ่อยเช่นหัวใจเต้นเร็ว แน่นอก หายใจไม่ออก ขยับร่างกายไม่ได้ชั่วคราว เหงื่ออกมาก ร้อนวูบวาบ วิตกกังวลมากเหมือนตัวเองกำลังจะตาย เป็นต้นซึ่งการเผชิญกับสถานการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เรากังวล เช่นการอ่านข่าวเรื่องการติดเชื้อไวรัสมากเกินไป อาจจะกระตุ้นให้มีอาการดังกล่าวได้จึงควรตั้งสติ ถ้าเราไม่ได้ออกนอกบ้าน ไปสัมผัสกับผู้คนภายนอก ความเสี่ยงในการติดเชื้อก็มีน้อยมากๆ เมื่อรู้สึกเหมือนจะมีอาการดังกล่าว ให้ลองพุ่งความสนใจไปยังเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เช่นที่ที่เราชอบไป เป็นต้น อาการหายใจสั้นๆติดขัด ไม่ใช่อาการที่จำเพาะเจาะจงต่อโรคโควิด 19 ค่ะ อาการมักจะต้องมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยหากมีอาการเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สัมพันธ์กับอารมณ์ความรู้สึก และมีใจสัน่ เจ็บแน่นอกร่วมด้วย อาจมีสาเหตุทางกายเช่นโรคปอดหรือโรคหัวใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม

แค่กังวลค่ะ แบบเคยเป็นวัณโรคปอด แต่เรากินยาครบ6เดือนปฎิบัตรตามแพทย์สั่งทุกประการ ตอนนี้สามารถทำงานได้ปกติแล้วค่ะ แต่อยากสอบถามว่า การที่เรากินน้ำตอนเช้าแล้ว รู้สึกแสบช่วงอกตอนน้ำผ่าน ปกติก็เคยทานแบบนี้แล้วเคยเป็นเมื่อหลายปีก่อนช่วงที่เป็นปอดอักเสบ กังวลว่าเกี่ยวข้องกันไหมคะ ไม่มีอาการอื่นร่วม ค่ะ

สวัสดีค่ะ หากได้ทานยารักษาวัณโรคจนครบ 6 เดือน และในตอนนี้ ไม่มีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย น้ำหนักลด เป็นต้น ก็แสดงว่าได้หายจากโรคแล้วค่ะสำหรับอาการดื่มน้ำตอนเช้าแล้วรู้สึกแสบช่วงอก ก็ไม่ใช่ลักษณะอาการของโรควัณโรคปอดค่ะ โดยอาจเกิดจากสาเหตุ เช่น- เป็นกรดไหลย้อน โดยจะทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอกหรือแน่นหน้าอก หรือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ คลื่นไส้ ไอ เป็นต้น- การดื่มน้ำที่ร้อนจัดเกินไป หรือเย็นจัดเกินไป- การมีแผลในหลอดอาหาร มีเนื้อเยื่อยื่นออกในหลอดอาหาร (esophageal ring) มีการโป่งพองของหลอดอาหารออกเป็นกระเปาะ หรือมีพีงผืดเกิดขึ้นในหลอดอาหาร เป็นต้นแต่ก็น่าจะต้องมีอาการตลอดเวลา ไม่ใช่แต่เฉพาะช่วงการดื่มน้ำตอนเช้าหากอาการเป็นแค่เฉพาะช่วงเช้า แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อน และควรดื่มน้ำธรรมดา ไม่เย็นจัดหรือร้อนจัด ค่อยๆ ดื่มช้า ไม่ควรดื่มรวดเดียว เพราะกล้ามเนื้อหลอดอาหารอาจเกิดการหดเกร็ง และทำให้เจ็บหน้าอกได้ค่ะ แต่หากอาการแสบหน้าอก เกิดขึ้นในช่วงเวลาอื่นๆ อีก หรือเป็นตลอดเวลา หรือมีอากการผิดปกติอื่นๆ เช่น เจ็บหน้าอก ปวดบริเวณลิ้นปี่ คลื่นไส้ กลืนแล้วติด เป็นต้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะส่วนปอดอักเสบจากวัณโรค อาจกลับมาเป็นซ้ำได้ แต่ก็น่าจะมีอาการต่างๆ ได้แก่ ไข้ ไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย น้ำหนักลด เป็นต้น

ตอนนั้นเป็นเป็นวันที่4 พ.ค 64หลังจากประจำเดือน1วันค่ะ เราช่วยแฟนเสร็จจากนั้นก็มาจับอวัยวะเพศตัวเอง แต่ไม่ได้สอดเข้าไปจากนั้นก็ล้างอวัยวะเพศตัวเองแล้วก็อาบน้ำ ตั้งแต่วันนั้นเราก็กังวลมาตลอดค่ะ พอวันนี้15 พ.ค 64 ตื่นเช้ามาก็ปวดหัวรู้สึกอยากจะอ้วก แต่ก็อ้วกไม่ออก พอตอนบ่ายเราก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวจากนั้นก็ดื่มน้ำเผือกใส่ไข่มุก พอกลับมาบ้านก็กินยาพาราเซตามอล2เม็ด จากนั้นก็อ้วกออกมาค่ะ อยากทราบว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ไหมค่ะ ตอนนี้กังวลมากเลยค่ะ แล้วก็ปวดหัวด่วย

สวัสดีค่ะ Ausara Khiriratcharoenการที่มือที่อาจจะปนเปื้อนน้ำอสุจิแล้วเอามาล้างอวัยวะเพศตนเองแค่ภายนอก ไม่ได้สอดใส่เข้าไปนั้น มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้น้อยมาก เพราะตัวอสุจิไม่สามารถมีชีวิตอยู่ที่นิ้วในระหว่างนั้นได้ และถ้าโดนแค่อวัยวะเพศภายนอก ไม่สามารถที่จะผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้อาการอื่นๆดังกล่าวมา ไม่จำเพาะเจาะจงต่อการตั้งครรภ์แต่อย่างใด ถ้ายังไม่สบายใจ สามารถซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจได้เองเบื้องต้น ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ

ทำหมันแล้วค่ะ ประจำเดือนมาเมื่อวันที่ 9 พฤศภา วันที่ 14 พฤศภา อ้ะค่ะ แต่นี้ก็จะสองเดือนแร้วนะค่ะที่ประจำเดือนขาดหาย รู้สึกหน้าท้องแข้งๆบางครั้งก็รุ้สึกจี๊ดๆ แต่ไม่ปวดท้องนะค่ะ มีโอกาศท้องอีกไหมค่ะ คือกังวลมากเลยค่ะไม่อยากท้องอีก #ถ้าซื้อที่ตรวจมาตรวจดูเลยได้ไหมค่ะ

สวัสดีค่ะ การที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจาก1.มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว2. มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เช่น เป็นไข้หวัด ท้องเสีย เป็นต้นส่วนการตั้งครรภ์นั้น แม้จะทำหมันแล้ว ก็มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ก็น้อยมาก โดยมีโอกาสได้ประมาณ 0.2%-0.5%หากกังวลว่าจะเกิดการตั้งครรภ์หรือไม่ สามารถที่จะตรวจหาการตั้งครรภ์ดูได้เลยในวันนี้ หากตรวจไม่พบ ก็แสดงว่าไม่น่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ

ครับ คนในบ้าน มีอาการเป็นไข้ ตอนกลางคืนลุกขึ้นมาบอกว่าจะไปอาบน้ำ พาไปห้องครัว บอกว่ามันแคบ รู้สึกกลัว ทำไงดีครับ กังวลเรื่องพิษสุนัขเพราะไม่รู้ว่าเคยโดนอะไรไหม

สวัสดีค่ะ โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสจากถูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่น หมา แมว หนู กัดหรือข่วน หรือสัตว์มาเลียที่เยื่อบุปากหรือแผล หรือมีประวัติสัมผัสหรือกินเนื้อดิบของสัตว์ที่ติดเชื้ออาการของโรคพิษสุนัขบ้าได้แก่-กลัวน้ำ-ไม่สามารถกลืนน้ำลายได้-มีการหลั่งน้ำลายมากกว่าปกติ ทำให้มีน้ำลายฟูมปาก-การเกร็งของกล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอ-พูดไม่ชัด-สมองอักเสบ ทำให้ประสาทหลอน หวาดระแวง คุ้มคลั่งจากอาการที่กล่าวมายังไม่ได้เข้ากับอาการที่พบได้บ่อยในโรคพิษสุนัขบ้าค่ะการดูแลตัวเองเบื้องต้น ให้สังเกตอาการดังที่กล่าวไป แต่โรคนี้เป็นโรคที่อันตรายมาก ถ้ามีอาการแล้ว มักถึงแก่ชีวิต จึงแนะนำให้ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงเคยสัมผัสสัตว์ดังที่กล่าวไป ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าทุกราย โดยในกรณีไม่เคยฉีดวัคซีนมาเลยก็จะต้องฉีดทั้งหมด 5 เข็มภายใน 1 เดือน ถ้าเคยฉีดมาแล้วก็อาจแค่ฉีดกระตุ้น 1 หรือ 2 เข็ม ถ้าต้องการจะป้องกันไว้ก่อนถูกกัด จะฉีดวัคซีน 2 เข็มเข้ากล้ามเนื้อห่างกัน 7 วันค่ะ

ค่ะ หนูมีอาการกังวล คือกลัวตายมากค่ะ วันๆคิดแต่เรื่องความตาย จนชีวิตไม่มีความสุขเลย ตั้งแต่หนูมีอาการนี้มารู้สึกว่า หายใจไม่อิ่ม เหมือนจะขาดใจ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หนูเป็นเกือบเดื่อนล้ะ หนูควรทำใงดีค่ะ

สวัสดีค่ะอาการหายใจเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม หรือหายใจลำบากเกิดได้จากหลายสาเหตุมากมาย เช่น สาเหตุเกี่ยวกับทางเดินหายใจ อย่างเยื่อบุจมูกบวมทำให้คัดจมูก เป็นภูมิแพ้อากาศหรือภูมิแพ้จมูก เป็นหอบหืด หลอดลมอักเสบเรื้อรัง สาเหตุเกี่ยวกับหัวใจ ซึ่งอาจมีอาการเจ็บบริเวณหน้าอก หรืออาการบวมร่วมด้วย สาเหตุอื่น ๆ อย่างอารมณ์ จิตใจ อย่างความวิตกกังวล หรือแพนิค(panic) หรือการออกกำลังกายใช้แรงอย่างหนัก ก็สามารถทำให้การหายใจติดขัดได้ เป็นต้นในกรณีนี้มีอาการวิตกกังวลอย่างมาก และกลัวตายร่วมด้วย อาจทำให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้แนะนำว่า ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจร่างกาย และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่น แล้วจึงให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ

กัดกระพุ้งแก้มตัวเองเป็นแผล แต่ไม่ได้เป็นบ่อยนานๆครั้งที่จะกัด ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความเครียด อยู่ๆก็กัดโดนเอง เป็นประมาณ1อาทิตย์ที่กัดโดน เกิดความรู้สึกรำคาญมาก เจ็บแก้มจนกินอะไรลำยากไปหมด มีวิธีแก้มั้ยคะ

สวัสดีค่ะ อาการมีแผลในช่องปากจากการไปกัดโดนเองนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ โดยมักจะทำให้เกิดเป็นแผลตื้นๆที่อาจจะเป็นกลุ่มแผลร้อนใน ในบางรายถ้าเป็นลุกลามอาจเป็นฝีหนองขนาดใหญ่ได้ซึ่งแผลร้อนในเป็นภาวะที่จะค่อยๆดีขึ้นได้เองในคนส่วนใหญ่ ในระหว่างนี้คือรักษาแบบประคับประคอง อาจรับประทานอาหารอ่อนๆที่ไม่ต้องเคี้ยวหรือไม่ระคายใน่ช่องปากมาก ทำความสะอาดด้วยการบ้วนปากและแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับอาจใช้ยาทาสเตียรอยด์ที่คล้ายผงของยาสีฟันที่เรียกว่า paste ทาตรงบริเวณที่เป็นได้แต่หากแผลร้อนในเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นบ่อยๆ แม้ไม่ได้ไปกัดโดน เป็นมากจนกินอาหารต่างๆไม่ได้เลย ควรไปพบแพทย์