text: ในที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กวันนี้ (27 ม.ค.) นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ผลเบื้องต้นของการพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ มีประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น การเสนอแผนปรับพื้นที่การประกาศใช้มาตรการ โฆษก ศบค. กล่าวว่า สธ. เสนอให้ใช้รูปแบบ "จังหวัดแนวกันชน" และจังหวัดที่มีความเสี่ยงกระจายโรค โดยยังมีการแบ่งพื้นที่ควบคุมเช่นเดิม แต่ให้จังหวัดปรับลดหรือเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการตามเกณฑ์รายอำเภอได้ สำหรับเกณฑ์การพิจารณาปรับพื้นที่ควบคุมนั้น จะพิจารณาจากสถานการณ์การติดเชื้อภายในจังหวัด ดูว่ามีแหล่งโรคที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง บ่อน สนามชนไก่หรือไม่ รวมถึงพื้นที่จังหวัดนั้นเสี่ยงต่อการลักลอบเดินทางเข้าประเทศหรือไม่ นพ. ทวีศิลป์ ชี้ว่า เบื้องต้น จากการทำแผนที่มาตรการผ่อนคลายจะทำให้มีเพียง จ. สมุทรสาคร ที่จะเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และจะมีพื้นที่ควบคุมสูงสุด 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี ส่วนจังหวัดอื่นมาตรการควบคุมก็จะลดหลั่นกันไป "เรื่องของการพนัน แน่นอนปิดทุกที่ทุกจังหวัด จะบอกว่าเป็นสีขาว สีเขียวเปิดได้ ไม่ได้นะครับ ปิดทุกที่" ส่วนการขยายระยะเวลาการใช้บริการรับประทานภายในร้านอาหาร ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเล่นดนตรีสดจากข้อเสนอในที่ประชุม โฆษก ศบค. กล่าวว่า พื้นที่ จ. สมุทรสาคร จะยังคงปิดสถานเหล่านี้ต่อเนื่อง คือ บริการผับ, บาร์, คาราโอเกะ, สนามมวย, สถานที่ออกกำลังกายในร่ม, สนามชนไก่, บ่อน, สนามพระเครื่อง, อาบอบนวด, สปา, แพทย์แผนไทย, สถานบันกวดวิชา, สถานศึกษา, สนามเด็กเล่น, สวนสนุก, ร้านเกม, งานเลี้ยง, และกิจกรรมประเพณี ทั้งนี้ จะมีการผ่อนคลายบางสถานที่ให้เปิดตามระยะเวลา เช่น ตลาดนัด ร้านอาหารห้ามนั่งทาน ศูนย์การค้า จำกัดเวลาเปิดไม่เกิน 21.00 น. สถานที่พักผู้สูงวัย สถานประกอบการโรงงาน (มีมาตรการเข้มงวด) สำหรับในพื้นที่ควบคุมจังหวัดอื่น ๆ มาตรการเบื้องต้นตามข้อเสนอนั้น ยังคงปิดบริการสถานบันเทิง แต่ผ่อนคลายให้เปิดร้านอาหาร และนั่งรับประทานในร้านแบบเว้นระยะห่าง โดยจำกัดเวลาจำหน่ายไม่เกิน 23.00 น. แสดงดนตรีได้ แต่งดการเต้นรำ รวมถึงสปา สนามกีฬา เปิดให้บริการได้แต่จะมีมาตรการปลีกย่อย เป็นต้น ด้านการเตรียมการเปิดการเรียนการสอน นพ. ทวีศิลป์ กล่าวว่า ให้เปิดได้เกือบทั้งหมด รวมถึงในพื้นที่กรุงเทพฯ ยกเว้นในสมุทรสาคร ติดเชื้อเพิ่ม 819 ราย ในการแถลงข่าวสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในรอบ 24 ชั่วโมง จากการรายงานของศบค. วันนี้ (27 ม.ค.) มีข้อมูลสำคัญดังนี้ คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อจากงานวันเกิด แฮชแท็กดีเจมะตูม กลับมาขึ้นอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์อีกครั้ง หลังวันนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพฯ ได้เปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีบางส่วนเกี่ยวเนื้องกับกรณีงานเลี้ยงวันเกิด แต่ในไทม์ไลน์ระบุว่า "ผู้ป่วยไม่ให้ข้อมูล" สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ของกรุงเทพฯ ที่พบว่ามีความเชื่อมโยงกรณีงานเลี้ยงในวันที่ 9 ม.ค. มี 3 ราย คือ ผู้ป่วยรายที่ 647 อาชีพนักร้อง นักแสดง, ผู้ป่วยรายที่ 657 อาชีพผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์, และรายที่ 658 เป็นเจ้าหน้าทีรัฐ ผู้ป่วยรายที่ 647 อาชีพนักร้อง นักแสดง ผู้ป่วยรายที่ 657 อาชีพผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ผู้ป่วยรายที่ 658 อาชีพเจ้าหน้าทีรัฐ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค. พญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า จุดเริ่มต้นจากการติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับงานเลี้ยง 2 งาน ในโรงแรมสอง 2 แห่งนั้น เกิดจากผู้ป่วยมีการเดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงใน จ. เชียงใหม ช่วงวันที่ 1-5 ม.ค. ก่อนในวันที่ 9 ม.ค. จะเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของ"ดีเจมะตูม" หรือ นายนายเตชินท์ พลอยเพชร ซึ่งปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่นั้นมาก็พบผู้ติดเชื้อจากผู้ที่ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดดังกล่าวต่อเนื่องมา พญ. อภิสมัย ชี้ว่าระยะของการแสดงอาการป่วยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยจากคลัสเตอร์นี้ก็มีการเชื่อมโยงไปยังผู้ป่วยอีก 2 คลัสเตอร์ คือ ร้านสูท และงานเลี้ยงอีกกลุ่มหนึ่ง หนึ่งในนั้นเป็นผู้ประกาศ NBT ซึ่งมีการยืนยันไปแล้ว "คนหนึ่งคนที่มีการติดเชื้อ และสามารถที่จะกลายเป็น super spreader ไปติดเชื้อยังผู้ที่สัมผัส... เวลาที่เราไปสัมผัสผู้ติดเชื้อจะมีระยะที่เราจะมีอาการ หรือเรียกว่าระยะฝักตัว สั้นที่สุดคือ 2 วัน เท่านั้นเอง" โดยจากตัวเลขการแถลงข่าวของ สธ. วันที่ 24 ม.ค. ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 กลุ่ม ที่เชื่อมโยงกับงานวัดเกิด มีจำนวนรวมแล้ว 19 ราย ขณะที่นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพฯ โพสต์ทางเฟซบุ๊กว่า สำนักงานอนามัย กทม. กำลังสอบสวนโรคเพิ่มเติม กรณีผู้ป่วยที่ปกปิดข้อมูล หากได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจะแจ้งไทม์ไลน์ต่อสาธารณะโดยทันที โดยหากยังปกปิด เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคจะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 9 พ.ร.ก ฉุกเฉิน ฉบับที่ 17 ที่ประกาศเมื่อ 6 ม.ค ว่าผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 เป็นความผิดซึ่งอาจต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยระบุไว้ว่า ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทาง หรือแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรค เป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็กเตรียมเสนอร่างผ่อนคลาย เหลือสมุทรสาครเพียงจังหวัดเดียวเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และให้อำนาจจังหวัดพิจารณามาตรการเป็นรายอำเภอ | |