feat_title
stringlengths 5
119
| text
stringlengths 549
65.6k
| target
stringlengths 51
1.63k
| feat_type
stringlengths 0
62
| feat_tags
stringlengths 0
843
| feat_url
stringlengths 29
110
| evaluation_predictions
sequence |
---|---|---|---|---|---|---|
รับสั่งถึงนักปั่น แขกพระองค์ | ให้จัดคอนเสิร์ตบทเพลงของแม่ลานสนามเสือป่า,สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่จะร่วมขบวน Bike for mom ปั่นเพื่อแม่ ทรงมีรับสั่งใช้จักรยานประเภทใดก็ไม่จำเป็นต้องแพง ขอให้เป็นจักรยานคู่ใจ ปั่นแล้วสบาย ทรงห่วงประชาชนขี่ลำบากที่จุดสะพานข้ามแยกสุทธิสาร ซึ่งเป็นทางลาดชัน และในกิจกรรมดังกล่าวทรงโปรดเกล้าฯพระราชานุญาตให้จัดคอนเสิร์ต บทเพลงของแม่ หลังจากปั่นจักรยานเสร็จด้วย ขณะที่ประชาชนแห่รับเข็มกลัดพระราชทานกันเนืองแน่นและนำจักรยานไปตรวจเช็กที่ร้านจักรยานสุขสำราญ Healthy Person Bike Shop ในพื้นที่โครงการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กันเพียบ,พสกนิกรทั่วประเทศคึกคักเตรียมร่วมกิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ ทั้งนี้ ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ค. นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดงานกิจกรรมพิเศษ กิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดงานกิจกรรมพิเศษฯ ทหาร ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมเตรียมความพร้อมการซ้อมใหญ่ในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ วันที่ 2 ส.ค. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ร่วมซักซ้อมปั่นจักรยานเพื่อป้องกันความผิดพลาด และวางแผนแก้ปัญหาการจราจร,นายสุริยันกล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานเข็มกลัดแก่ประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จ 1 แสนอัน และลงทะเบียนด้วยตัวเองได้ทาง ,www.bikeformom2015.com, ในวันที่ 29 ก.ค.-5 ส.ค. ได้รับกระแสจากประชาชนให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม เมื่อเปิดให้ลงทะเบียนภายใน 15 นาที พบผู้ลงทะเบียนมากถึง 2,509 คน เฉลี่ยวินาทีละ 2 คน ทำให้ระบบล่มไปชั่วขณะ ส่วนตามสำนักงานเขตเส้นทางที่ขบวนปั่นเพื่อแม่จะผ่าน อาทิ เขตดุสิต พญาไท ดินแดง มีประชาชนต่อแถวรอลงทะเบียนกันเนืองแน่น แสดงให้เห็นถึงประชาชนที่มีหัวใจเดียวกัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และต้องการออกมาถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร,นายสุริยันกล่าวอีกว่า การซ้อมใหญ่กิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ จะเป็นการซ้อมเต็มรูปแบบเสมือนจริง เพื่อให้ทราบถึงปัญหาด้านต่างๆ ข้อบกพร่อง และผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประชาชนคนอื่น จากนั้นจะมีการประชุมสรุปปัญหาทั้งหมด เพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึงการตั้งจุดบริการน้ำดื่มให้กับผู้มารับเสด็จ ผู้ที่ร่วมขบวน จุดบริการสุขาให้เพียงพอ ทรงมีกระแสรับสั่งว่า ประชาชนร่วมขบวนกิจกรรมนี้ใช้รถจักรยานประเภทใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง หรือมียี่ห้อชื่อดัง ราคาเพียง 1,000 บาท ก็ร่วมขบวนได้ ขอให้เป็นจักรยานคู่ใจ ปั่นแล้วสบาย นอกจากนี้ ยังทรงห่วงจุดสะพานข้ามแยกสุทธิสารมีทางลาดชัน เกรงว่าเด็ก คนชรา จะปั่นจักรยานข้ามไม่ไหว รับสั่งว่า ใครขึ้นสะพานข้ามแยกไม่ได้ให้ปั่นถนนใต้สะพานข้ามแยกตามปกติ และไปเจอกันทางลงสะพาน เพราะทรงอยากให้ทุกคนมีโอกาสได้ถวายพระพรในการเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ให้ถือว่าบุคคลที่ออกมาเป็นแขกของพระองค์ที่ต้องดูแลอย่างดี เพื่อจะได้ไปด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข ด้วยกันในวันแห่งประวัติศาสตร์ ให้ทุกคนมีความสุขกับงานครั้งนี้ นอกจากนี้ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชานุญาตให้จัดคอนเสิร์ตบทเพลงของแม่หลังจากปั่นจักรยานเสร็จด้วย,ขณะที่ พล.ท.เทพพงษ์ ทิพย์จันทร์ แม่ทัพน้อยที่ 1 กองทัพบก ในฐานะคณะอนุกรรมการจัดงานกิจกรรมพิเศษ ฝ่ายจัดสถานที่กิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ กล่าวว่า การจัดคอนเสิร์ต บทเพลงของแม่ จะมีขึ้นที่สนามเสือป่า หลังขบวนปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 20.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา จะเสด็จด้วยรถกอล์ฟไฟฟ้า มาเป็นองค์ประธานทอด พระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตวงออเคสตราของ 3 เหล่าทัพ ใช้เวลาการแสดงประมาณ 2 ชม. ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้และเป็นสิริมงคลแก่ประชาชน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมสถานที่รองรับประชาชนได้ประมาณ 5,000 คน,ด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความพร้อมการจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ว่า ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมใน 76 จังหวัด มีทั้งสิ้นกว่า 2.7 แสนคน ที่กรุงเทพฯมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วม 4 หมื่นคน ขณะนี้ปิดรับการลงทะเบียนแล้ว สำหรับความพร้อมในการอำนวยความสะดวกการปั่นจักรยาน ในวันที่ 16 ส.ค. ที่กรุงเทพฯได้จัดน้ำดื่มและของว่างไว้บริการ 4 จุด คือสนามเสือป่า หน้าสโมสรทหารบก หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และเตรียมน้ำไว้กว่า 1 แสนขวด เตรียมรถพยาบาล เครื่องซ่อมบำรุงจักรยานที่อาจชำรุดระหว่างกิจกรรม โดยในวันที่ 16 ส.ค. จะปิดถนนตั้งแต่เวลา 12.00-23.00 น. ในเส้นทางปั่น ขอให้ห้างร้านและประชาชนที่อยู่ในเส้นทางพิจารณาการเดินทางออกจากที่พักและห้างร้านให้สอดคล้องกับการทำกิจกรรมด้วย,วันเดียวกันที่ร้านจักรยานสุขสำราญ Healthy Person Bike Shop พื้นที่โครงการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากร้านเปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00 น. มีผู้ที่ทราบข่าวนำจักรยานมาตรวจเช็กสภาพตลอดทั้งวัน โดยเป็นการตรวจเช็กฟรี อะไหล่คิดค่าบริการในราคาต้นทุน และไม่เกี่ยงว่าเป็นจักรยานที่ร่วมกิจกรรม ปั่นเพื่อแม่ สำหรับขั้นตอนการใช้บริการเพียงนำบัตรประชาชนพร้อมจักรยานมาแจ้ง กับเจ้าหน้าที่ประจำร้าน แต่สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมต้องนำหมายเลขทะเบียนมาแสดงด้วย จากนั้นทีมช่างจะตรวจเช็กสภาพจักรยานและตรวจเช็กความดันลมยางทุกประเภท,ช่างชุดจักรยานนายหนึ่งเปิดเผยว่า ทีมช่างทั้งหมดเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ส่งไปฝึกอบรมตามศูนย์จักรยานชั้นนำของประเทศ และนำโค้ชจักรยานทีมชาติไทย เจ้าหน้าที่เทคนิคจากสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยมาฝึกอบรมทำให้มีความเชี่ยวชาญสามารถให้บริการซ่อมบำรุงและให้ความรู้แก่ประชาชนในการเลือกใช้จักรยานเพื่อสุขภาพที่เหมาะสม สำหรับร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จักรยานครบวงจร ตั้งแต่จักรยานธรรมดาไปจนถึงจักรยานใช้แข่งขัน ราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน ตลอดจนอุปกรณ์การขี่จักรยานอย่างปลอดภัย เช่น เสื้อ, กางเกง, หมวกนิรภัย, แว่นตา และรองเท้า เป็นต้น ประชาชนที่จะร่วมกิจกรรม ไม่ว่าพื้นที่ไหน ควรนำจักรยานไปตรวจเช็กสภาพ โดยเฉพาะระบบเกียร์ จุดหมุน ระบบเบรก สภาพยาง เพื่อให้เกิดการขับขี่ได้ปลอดภัย ตลอดระยะทาง 43 กิโลเมตร ร้านจะจัดทีมช่างปั่นจักรยานร่วมขบวนไปด้วย เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับนักปั่นที่รถอาจประสบปัญหาระหว่างทาง | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่จะร่วมขบวน Bike for mom ปั่นเพื่อแม่ ทรงมีรับสั่งใช้จักรยานประเภทใดก็ไม่จำเป็นต้องแพง | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,Bike for mom,ปั่นเพื่อแม่,ปั่นจักรยาน,สนามเสือป่า,Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่,คอนเสิร์ตบทเพลงของแม่,ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ,สโมสรกองทัพบก,ร้านจักรยานสุขสำราญ,Healthy Person Bike Shop,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/news/local/515072 | [
0,
259,
203061,
2091,
77772,
89153,
233859,
194775,
41582,
51640,
150815,
12005,
35239,
259,
60284,
5490,
15334,
70851,
12066,
164907
] |
สถิติทำแท้ง 29% เป็นนักเรียน-นักศึกษา | 15-19 ปีท้องไม่พร้อมปีละ 16% กรมอนามัยรุกสกัดตั้งครรภ์ซ้ำในวัยรุ่น,นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการสำรวจโรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) 24 จังหวัดในปี 2558 พบข้อมูลการแท้ง โดยเป็นการแท้งเอง ร้อยละ 56.9 ขอทำแท้ง ร้อยละ 43.1 สาเหตุการทำแท้งมาจากเหตุผลด้านสุขภาพ ร้อยละ 37.4 และเหตุผลด้านเศรษฐกิจ สังคม ครอบครัว ร้อยละ 62.6 นอกจากนี้ผู้ที่ทำแท้งด้วยเหตุผลด้านเศรษฐกิจ สังคม ครอบครัว ร้อยละ 28.6 มีสถานภาพเป็นนักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 26.3 อายุต่ำกว่า 20 ปี และร้อยละ 53.1 อายุต่ำกว่า 25 ปี นอกจากนี้ ในกลุ่มของเด็กอายุ 15-19 ปี ใน 1,000 คน จะมีคนที่ตั้งครรภ์อยู่ถึง 44 คน คิดเป็นร้อยละ 16 ต่อการตั้งครรภ์ต่อปี ในจำนวนนี้ยังมีผู้ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี รวมอยู่ด้วย สาเหตุการท้องไม่พร้อมเป็นเพราะขาดความรู้ในเรื่องเพศศึกษาและเรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกวิธี มีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการร่วมเพศที่คิดว่าครั้งเดียวคงไม่ท้อง ไม่สวมถุงยางอนามัยเพราะรู้สึกว่าขัดขวางความรู้สึกทางเพศ คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รักปลอดภัยโดยไม่ป้องกัน,นพ.วชิระกล่าวอีกว่า การท้องไม่พร้อมมักนำไปสู่การตัดสินใจทำแท้ง ดังนั้น การคุมกำเนิดจึงจำเป็นสำหรับวัยเจริญพันธุ์ในระยะที่ไม่พร้อม ด้วยวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว ได้แก่ ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ห่วงยางอนามัย ถุงยางอนามัย และการคุมกำเนิดแบบถาวรคือการทำหมัน ที่ผ่านมากรมอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดทำโครงการป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำในวัยรุ่น โดยให้บริการยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัยในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปีที่อยู่ในภาวะหลังคลอดหรือแท้ง หรือต้องการคุมกำเนิดในทุกสิทธิสุขภาพฟรี ซึ่งสามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยลดปัญหาแม่วัยรุ่นและป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำครั้งที่ 2 และลดการทำแท้งจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม รวมทั้งมี พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 มีเป้าหมายลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดยให้เด็กและเยาวชนได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อรู้และเข้าใจถึงเพศวิถีศึกษา การเข้าถึงบริการอนามัย การเจริญพันธุ์และสวัสดิการสังคม. | นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการสำรวจโรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) 24 จังหวัดในปี 2558 พบข้อมูลการแท้ง โดยเป็นการแท้งเอง ร้อยละ 56.9 | ทำแท้ง,กรมอนามัย,วชิระ เพ็งจันทร์,ท้องไม่พร้อม,ตั้งครรภ์ | https://www.thairath.co.th/content/868386 | [
0,
259,
74425,
226518,
259,
27605,
231992,
3755,
234317,
2361,
205955,
259,
4728,
12002,
18604,
18841,
1,
0,
0,
0
] |
|
ความรักของแม่จนๆ อดทนปากกัดตีนถีบ ดูแลลูกสาวพิการนาน 18 ปี ไม่มีท้อ | วอนช่วย น้องจอย หญิงพิการวัย 32 ปี จ.สุโขทัย ประสบอุบัติเหตุรถชน เส้นประสาทไขสันหลังขาด ร่างกายหยุดการเจริญเติบโต นอนแน่นิ่งให้แม่ดูแลยาวนาน 18 ปี ไม่มีพ่อ อาศัยเงินคนพิการ แม่ทำงานเย็บผ้าเช็ดเท้าหาเงินจ่ายค่ารักษา-ดูแลลูก ลำพัง ,ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 181/21 ชุมชนวิเชียรจำนงค์ ม.4 ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย หลังทราบว่า มีแม่ซึ่งคอยดูแลลูกสาวที่พิการเป็นอัมพาตเนื่องจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนเส้นประสาทที่ไขสันหลังขาด ทำให้ร่างกายหยุดการเจริญเติบโต กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนแขนและขาทั้งสองข้างลีบหมด ไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบากผู้เป็นแม่ต้องไปรับเศษผ้าจากโรงงานมาทำพรมเช็ดเท้าทอมือออกขายหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ,พบกับ นางวาสนา ทรัพย์สิน อายุ 58 ปี กำลังใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดเนื้อตัวให้กับ น้องจอย น.ส.นภาภรณ์ ทรัพย์สิน อายุ 32 ปี บุตรสาว ซึ่งต้องนอนทนทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงคนไข้มานานถึง 18 ปี อย่างทะนุถนอมด้วยความรัก อีกทั้งยังพยายามพูดคุยกับบุตรสาวด้วยถ้อยคำอ่อนโยน สังเกตเห็นมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา นางวาสนาเล่าว่าน้องจอยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 ขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนอุดมดรุณี ในตัวเมือง ซึ่งมีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น,น้องจอย มีอาการกระดูกคอเคลื่อนจนทำให้เส้นประสาทที่ไขสันหลังขาด ร่างกายหยุดการเจริญเติบโต ผลที่ตามมาคือมีภาวะของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจนแขนและขาทั้งสองข้างลีบหมด ตนซึ่งเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวของครอบครัวเนื่องจากสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว พยายามหาทางรักษาบุตรสาวมาตลอดไม่ว่าจะต้องพาไปพบแพทย์แผนปัจจุบันหรือแผนโบราณ หวังเพียงว่าบุตรสาวจะหายกลับมาเหมือนเดิม แต่เมื่อคุณหมอบอกว่า หมดหวัง จึงต้องทำใจยอมรับความจริงพากลับมาที่บ้าน,ตลอดระยะเวลา 18 ปี ที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้นอกจากต้องไปรอรับยาที่ รพ.สุโขทัย ทุกเดือนแล้ว ยังต้องช่วยฝึกทำกายภาพบำบัดให้เค้าทุกวันอีกด้วย แม้จะเหนื่อยและลำบากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยท้อ เมื่อเห็นหน้าบุตรสาวซึ่งต้องประสบเคราะห์กรรมอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ กลับเป็นกำลังใจให้ตนสู้ต่อไป,ด้านสภาพความเป็นอยู่แม้จะค่อนข้างลำบาก อาศัยรายได้จากค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ของทางเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เดือนละ 600 บาท รวมกับเบี้ยคนพิการของบุตรสาวอีก 800 บาท คงไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายภายในบ้าน จึงต้องไปรับเศษผ้าจากโรงงาน มาทำพรมเช็ดเท้าทอมือออกขายหารายได้เสริมอีกทางหนึ่ง,สำหรับผู้มีจิตศรัทธาท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของ นางวาสนา ทรัพย์สิน แม่ผู้ไม่เคยย่อท้อต่อความลำบากเพื่อลูกสาวสุดที่รัก สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุโขทัย เลขที่ 536-229072-3 ชื่อบัญชี นางวาสนา ทรัพย์สิน. | วอนช่วย น้องจอย หญิงพิการวัย 32 ปี จ.สุโขทัย ประสบอุบัติเหตุรถชน เส้นประสาทไขสันหลังขาด ร่างกายหยุดการเจริญเติบโต นอนแน่นิ่งให้แม่ดูแลยาวนาน 18 ปี ไม่มีพ่อ อาศัยเงินคนพิการ แม่ทำงานเย็บผ้าเช็ดเท้าหาเงินจ่ายค่ารักษา-ดูแลลูก | ข่าว,ทั่วไทย | วอนช่วยน้องจอย,หญิงพิการ,เดินไม่ได้,เส้นประสาททับไขสันหลัง,นอนแน่นิ่ง,ร่างกายหยุดเติดโด,แม่ดูแล,ปากกัดตีนถีบ,วาสนา ทรัพย์สิน,ความรักของแม่,อุบัติเหตุ,วอนช่วย,ช่วยน้องจอย,ธานี,สุโขทัย,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ธารน้ำใจไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/news/local/685491 | [
0,
259,
35239,
1549,
72810,
232512,
1549,
48263,
37159,
818,
24250,
259,
98490,
20279,
9542,
34904,
4188,
18433,
1,
0
] |
ประวิตร ยันช็อปเรือดำน้ำจีน 3 ลำ 1.2 หมื่นล้าน ถือว่าไม่มาก รับประกันคุณภาพ | 1 ก.ค.2559 จากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา รายงานบทวิจารณ์ว่า กองทัพเรือ ยังไม่ละความพยายามเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่น Yuan Class S26T จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กันงบประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 จากนั้นจะทยอยจัดซื้อให้ครบจำนวน 3 ลำภายในระยะเวลา 12 ปี ตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ เพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ทางทะเล เสริมกำลังการรบ 3 มิติ คือ ผิวน้ำ ใต้น้ำ และในอากาศ ให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าในภูมิภาคบทวิจารณ์ของคมชัดลึกออนไลน์ ยังระบุว่าก่อนหน้านั้น กองทัพเรือเคยเสนอจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา จำนวน 3 ลำ ในวงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท แต่ได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากสังคม ที่มองว่าในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนเดือดร้อน แต่ทหารจะทุ่มเงินมหาศาลจัดซื้อเรือดำน้ำ แม้กองทัพเรือจะออกมายืนยันว่า เงินที่ใช้มาจากงบประมาณประจำปีของกองทัพเรือเองไม่ได้ขอเพิ่มจากรัฐบาล พร้อมทั้งแจกเอกสาร 9 หน้าชี้แจงถึงความจำเป็น แต่ไม่สามารถลดกระแสดังกล่าวได้ จนต้องชะลอการจัดซื้อออกไปในที่สุดล่าสุดวันนี้ (1 ก.ค.59) รายงาน ท่าทีของพล.อ.ประวิตร ถึงกรณีการแผนการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนจำนวน 3 ลำ ดังกล่าวด้วย โดย พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ ว่าแผนจัดซื้อเรือดำน้ำจำนวน 3 ลำ มูลค่าลำละ 1.2 หมื่นล้านบาทนั้น ถือว่าไม่มากเนื่องจากสามารถผ่อนชำระเป็นเวลาร่วม 10 ปี ทั้งยังสามารถใช้งานได้ยาวนาน ส่วนเรื่องเทคโนโลยีของจีนที่หลายฝ่ายยังมีข้อกังขาว่าสู้ชาติอื่นไม่ได้นั้น ตนรับรองว่ามันดีแล้ว ใช้ได้แน่นอน แล้วเป็นเทคโนโลยีใหม่เมื่อถามว่า กองทัพเรือเคยมีกองเรือดำน้ำ แต่ถูกยุบไป เนื่องจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ชายฝั่งทะเลไทยมีความลึกไม่มาก แต่ทำไมถึงยังมีแผนจัดซื้ออีกในยุคนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทรัพยากรธรรมชาติฝั่งอันดามันของเรามีจำนวนมาก อีกทั้ง ประเทศเพื่อนบ้านเราก็ล้วนแต่มีเรือดำน้ำทั้งหมด เมียนมายังมีตั้ง 10 ลำ ซึ่งไม่ได้ซื้อเรือเก่าเลยพล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า สื่อก็ต้องช่วยกัน กองทัพเรือเป็นเจ้าของเรื่องก็ต้องไปดู ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นทำความตกลงร่วมกัน อยู่ในขั้นดำเนินการ แต่ชั้นนี้กองทัพเรือได้ไปพิจารณารายละเอียดไว้หมดแล้ว แต่ยังต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน กองทัพเรือกำหนดแล้วว่าจะซื้อ เบื้องต้นจะใช้ประมาณปี 2560 จัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกก่อน ต้องค่อยๆทำ ไม่ใช่ใช้งบประมาณแบบเศรษฐีเสียเมื่อไหร่ ต้องใช้แบบคนยากคนจน ซึ่งเป็นแผนงานของกองทัพเรือตั้งแต่ปี 2551-2552 แต่ตอนนั้นตนขอให้ระงับไว้ก่อน | 1 ก.ค.2559 จากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา คมชัดลึกออนไลน์ รายงานบทวิจารณ์ว่า กองทัพเรือ ยังไม่ละความพยายามเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่น Yuan Class S26T จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ ภายหลัง | การเมือง,ความมั่นคง | จีน,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,เรือดำน้ำ | https://prachatai.com/journal/2016/07/66633 | [
0,
259,
204607,
76917,
259,
89804,
36233,
10062,
98490,
20118,
37801,
25534,
76917,
83361,
11699,
4348,
47187,
1,
0,
0
] |
ยกเลิกสกัดลื่นไหล พิจารณาใช้ แท่ง พงส. อีกครั้ง หลังปฏิรูป 2 ปี ไม่เวิร์ก | เดี๋ยวทุบ เดี๋ยวสร้างใหม่ ทำเอาตำรวจไทย ปวดหัวกับ แท่งพนักงานสอบสวน เจ้าปัญหา เพราะปีก่อนนู้น เหล่าพนักงานสอบสวนออกมาประท้วงโวยวาย เพื่อขอให้ผู้มีอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยเหลือพิจารณาปรานี ไม่ทุบแท่ง โครงสร้างพนักงานสอบสวน และเปลี่ยนแปลงเรื่องค่าตอบแทน สกัดการลื่นไหลของตำแหน่ง จนเกิดเรื่องราวใหญ่โต เป็นเหตุทำให้ตำรวจแขวนคอตายในบ้านพัก 1 ศพ ,ขณะเดียวกันยังมีพนักงานสอบสวนโรงพักต่างๆ ทั่วประเทศไทย สะท้อนเรื่องจริงการใช้ชีวิตที่แย่ลงไปกว่าเดิม ถูกตัดเงิน ไร้ขวัญกำลังใจ เงินค่าตอบแทนออกไม่ตรงเวลา ส่งผลกระทบถึงปัญหาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว และปัญหาการขับเคลื่อนงาน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งปวง ถูกลากยาวมาร่วม 2 ปีเต็ม,มาวันนี้ คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเห็นควรให้กลับมาใช้แท่งพนักงานสอบสวนเหมือนเดิม โดยระบุด้านการบังคับใช้กฎหมายและการสอบสวนคดีอาญา ให้มีโครงสร้างและตำแหน่งพนักงานสอบสวนระดับสถานีตำรวจ ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สามารถลื่นไหลได้ ภายหลัง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานฯ ได้ประชุมนัดสุดท้ายเมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดย พล.อ.บุญสร้าง แถลงผลการทำงาน 9 เดือน เสนอการปฏิรูปตำรวจ 3 ด้านไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย ,1. ด้านการบริหารงานบุคคล ได้แก่ การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจที่เป็นธรรม ให้ กตช.มีหน้าที่กำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ แต่ให้ ก.ตร.ที่มี ผบ.ตร.เป็นประธานเลือก ผบ.ตร. ให้ยึดระบบคุณธรรมและความรู้ความสามารถประกอบกัน พร้อมตั้ง คณะกรรมการร้องทุกข์ตำรวจ (ก.รท.) ให้ร้องเรียนเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย,2. ด้านอำนาจหน้าที่และภารกิจตำรวจ ต้องกระจายบูรณาการให้กองบัญชาการที่มีหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรมภายใน 1 ปี กองบัญชาการอื่นใน 3 ปี มีคณะกรรมการอิสระเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (กอ.ตร.) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อสาธารณะ,ลดภารกิจตำรวจที่เป็นภารกิจรอง เพิ่มอำนาจหน้าที่บังคับใช้กฎหมายให้ส่วนราชการอื่นภายในเวลา 3 ปี และ 5 ปี เตรียมความพร้อมการบังคับใช้กฎหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติร่วมกัน ความหมายชัดๆ คือ ต้องโอนย้ายตำรวจหลายหน่วยไปสังกัดกระทรวง ทบวงกรมอื่นๆ,และ 3. ด้านการบังคับใช้กฎหมายและการสอบสวนคดีอาญา ให้มีโครงสร้างและตำแหน่งพนักงานสอบสวนระดับสถานีตำรวจ ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สามารถลื่นไหลได้,ขณะที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ให้ข้อมูลว่า แผนการปฏิรูปตำรวจของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ | เดี๋ยวทุบ เดี๋ยวสร้างใหม่ ทำเอาตำรวจไทยปวดหัวกับ แท่งพนักงานสอบสวน เจ้าปัญหา เพราะปีก่อนนู้น เหล่าพนักงานสอบสวนออกมาประท้วงโวยวาย เพื่อขอให้ผู้มีอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | ข่าว,ทั่วไทย | พนักงานสอบสวน,ทุบแท่งพนักงานสอบสวน,ปฏิรูปตำรวจ,พงส.,ตำรวจ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1272981 | [
0,
259,
137738,
26036,
259,
134114,
3755,
184691,
30713,
100233,
381,
259,
28966,
259,
148082,
259,
261,
4490,
259,
28966
] |
ฟอร์บส์ยก ไคลี เจนเนอร์ รับทรัพย์มากสุดแห่งปี 2020 | นิตยสาร ฟอร์บส์ เผยผลการจัดอันดับเหล่าคนดังท็อป 100 ที่มีรายได้มากที่สุดในโลก ประจำปี 2020 รวมกันทั้งสิ้นก่อนหักภาษีและค่าธรรมเนียมให้กับผู้จัดการเป็นเงิน 6100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 193000 ล้านบาท) ลดจากปีกลาย 200 ล้านเหรียญ หรือราว 6300 ล้านบาท เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้หลายประเทศทั่วโลกต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดกิจกรรมการแสดง สนามกีฬา สถานบันเทิงต่างๆทั้งนี้ ไคลี เจนเนอร์ นักแสดงเรียลลิตี้ตระกูลคาร์เดเชียน วัย 22 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับคิม คาร์เดเชียน ถือเป็นบุคคลที่หาเงินเข้ากระเป๋าได้มากที่สุดในโลก ด้วยตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา รับทรัพย์ 590 ล้านเหรียญ หรือกว่า 18600 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากการขายหุ้นบริษัทเครื่องสำอาง ไคลี คอสเมติกส์ ของตัวเอง 51% ให้กับบริษัท โคตี้ เมื่อปีกลาย ทั้งที่ไคลีเพิ่งถูกฟอร์บส์ปลดจากตำแหน่งมหาเศรษฐีโลกอันดับ 2 ได้แก่ เคนเย เวสต์ สามีของคิม มีรายได้ประมาณ 170 ล้านเหรียญจากธุรกิจขายรองเท้าแบรนด์ Yeezy ร่วมกับอาดิดาส อันดับ 3 ได้แก่ โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ นักเทนนิสชาวสวิสฯ (106.3 ล้านเหรียญ) ขณะที่มหาเศรษฐีหน้าใหม่ปีนี้ รวมทั้งลิน-มานูเอล มิแรนดา ผู้สร้างสรรค์บทละครเพลง ฮามิลตัน (45.5 ล้านเหรียญ) และบิลลี ไอลิซ นักร้องนักแต่งเพลงสาวชาวอเมริกัน (53 ล้านเหรียญ) ซึ่งยังได้ชื่อว่าอายุน้อยที่สุดวัย 18 ปี ของท็อป 100 ปีนี้. | นิตยสาร ฟอร์บส์ เผยผลการจัดอันดับเหล่าคนดังท็อป 100 ที่มีรายได้มากที่สุดในโลก ประจำปี 2020 รวมกันทั้งสิ้นก่อนหักภาษีและค่าธรรมเนียมให้กับผู้จัดการเป็นเงิน 6100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | ข่าว,ต่างประเทศ | ฟอร์บส์,นิตยสารฟอร์บส์,ไคลี เจนเนอร์,คนดัง,คนดังที่มีรายได้มากที่สุดในโลก,เคนเย เวสต์,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1862308 | [
0,
259,
66146,
4215,
51100,
259,
163574,
142048,
259,
188596,
125577,
221512,
140684,
6196,
36595,
5405,
157631,
163750,
47820,
215069
] |
แจ้งจับอาจารย์สาว ตุ๋นไปนอก เสียหาย20ล้าน | หน.วิชาภาษาอังกฤษม.กรุงเทพ อ้างจะพานร.ไปติวภาคฤดูร้อน ล่าสุดต้นสังกัดสั่งให้ออกแล้ว,กลุ่มเหยื่อถูกตุ๋นโร่แจ้งกองปราบฯจับอาจารย์สาวหัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ผู้เสียหายเผยถูกหลอกลงทุนทำธุรกิจพานักเรียนมัธยม นักศึกษาไปเรียนพิเศษภาคฤดูร้อนหรือซัมเมอร์แคมป์ ที่ประเทศอังกฤษ รวมสูญกว่า 20 ล้านบาท แถมตุ๋นผู้ปกครองนักเรียน 30 คน โรงเรียนมัธยมชื่อดังย่านบึงกุ่ม โอนเงินให้อีกคนละ 9 หมื่นบาท แต่ไม่ได้เดินทางไปเรียน เตรียมรวมตัวแจ้งความ ขณะที่ต้นสังกัดไล่ออก หลังก่อเหตุฉาว ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แฉอาจารย์สาวบ้านมีฐานะดีเพิ่งรับมรดกเกือบ 20 ล้านบาท น่าจะติดหนี้พนัน รวมทั้งอาจเปิดโต๊ะรับพนันทำให้มีหนี้สินจำนวนมาก,แจ้งจับอาจารย์สาวตุ๋นจัดโครงการพานักเรียนไปเรียน ซัมเมอร์แคมป์ที่ประเทศอังกฤษ เปิดเผยขึ้นที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 พ.ย. นายสมบัติ สีหวงษ์ อายุ 44 ปี พร้อมกลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.มงคล พรมโสภา รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1. บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อัสมา ดำรงค์ผล อายุ 33 ปี หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ ม.กรุงเทพ หลังถูกหลอกลวงให้นำเงินมาลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการพานักเรียนมัธยม นักศึกษาไปเรียนพิเศษภาคฤดูร้อน หรือซัมเมอร์แคมป์ ที่ประเทศอังกฤษ เสียหายกว่า 20 ล้านบาท,นายสมบัติกล่าวว่า รู้จักกับ น.ส.อัสมา จากการนำที่ดินมาจำนองไว้กับตน ระหว่างมีการจำนอง น.ส.อัสมา จ่ายดอกเบี้ยให้ครบตามกำหนด และไถ่ถอนไปเป็นที่เรียบร้อย ต่อมาชักชวนร่วมลงทุนเปิดบริษัท แฮมเมอร์สมิท เอ็ดดูเคชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด จัดโครงการพานักเรียนมัธยม นักศึกษา ไปเรียนพิเศษภาคฤดูร้อน หรือซัมเมอร์แคมป์ ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยความเชื่อใจและความสนิทสนมจากการเคยทำธุรกิจร่วมกัน ร่วมลงทุนไปเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท เมื่อครบกำหนดที่จะได้รับเงินปันผลกลับไม่ได้ตามที่ตกลงไว้ ทวงถามก็ไม่ได้รับคำตอบ ต่อมาทราบว่ามีผู้ที่ถูก น.ส.อัสมาหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหลายสิบราย ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นทั้งกลุ่มลูกศิษย์ เพื่อนสมัยเรียนมัธยม เพื่อนมหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมงาน หลายคนหลงเชื่อนำเงินมาลงทุน ตั้งแต่ 6 แสนถึง 2 ล้านบาท,นายสมบัติเผยอีกว่า นอกจากนั้นยังพบว่า น.ส.อัสมา หลอกให้ผู้ปกครองของนักเรียน 30 คน ของโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 ย่านบึงกุ่ม โอนเงินค่าใช้จ่ายคนละ 9 หมื่นบาท เป็นค่าเดินทางไปเรียนพิเศษ 13-27 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีการเดินทางจริง สุดท้ายไม่สามารถติดต่ออาจารย์สาวรายนี้ได้ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายบางรายได้เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ต่างๆ ตามที่อยู่ของผู้เสียหายแต่ละคนที่โอนเงินให้อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีคำสั่งให้ น.ส.อัสมา พ้นสภาพของการเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยกรุงเทพแล้ว รวมทั้งระบุว่ามหาวิทยาลัยไม่มีส่วนในการรับผิดชอบของการกระทำดังกล่าว อย่างไรก็ดีทราบว่าวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) กลุ่มผู้ปกครองโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 จะรวมตัวกันเดินทางเข้าแจ้งความต่อไป เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ ก่อนจะสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายไว้ เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป,ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า สำหรับ น.ส.อัสมา จบการศึกษาปริญญาโท จากประเทศอังกฤษ ที่บ้านมีฐานะดี ที่ผ่านมาได้รับมรดกจากทางบ้านเกือบ 20 ล้านบาท เข้ามาเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประมาณ 2-3 ปี ก่อนจะขึ้นเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษในเวลาต่อมา ทั้งนี้กลุ่มผู้เสียหายพบ น.ส.อัสมา ครั้งสุดท้ายเพื่อทวงเงิน น.ส.อัสมา บอกว่าไม่มีตอนนี้หนีลูกปืนจากพวกทวงหนี้นอกระบบอยู่ จากการตามสืบของเพื่อนที่รู้จักคาดว่า น.ส.อัสมา น่าจะติดหนี้พนัน รวมทั้งอาจจะเปิดโต๊ะรับพนันด้วย ทำให้มีหนี้สินจำนวนมาก | กลุ่มเหยื่อถูกตุ๋นโร่แจ้งกองปราบฯจับอาจารย์สาวหัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ผู้เสียหายเผยถูกหลอกลงทุนทำธุรกิจพานักเรียนมัธยม | ข่าว,ทั่วไทย | จับอาจารย์,ตุ๋นไปนอก,ถูกหลอก,ซัมเมอร์แคมป์,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1419498 | [
0,
259,
169184,
30931,
117953,
78749,
259,
3945,
260,
152683,
259,
185969,
6494,
30305,
75194,
159844,
27987,
6200,
3945,
259
] |
ไฟไหม้4รายซ้อน ย่างสยองเฒ่า71 | โรงอาหารวิทยาลัย อีกแห่ง-โรงปั่นฝ้าย,สลดเฒ่ากระทุ่มแบนป่วยอัมพฤกษ์อยู่บ้านเพียงลำพัง ถูกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังแถมคลอกร่างย่างสดตายสยองคากองเพลิง อีกราย แม่ค้าขายขนมเครป ทำสายแก๊สหลุดจากขั้วต่อแล้วลามไปติดเปลวเพลิงในเตา จนลุกไหม้ร้านค้าหวิดเผาวอดโรงอาหารวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี ส่วนที่เมืองกรุงเก่า สาวเจ้าของโรงงานปั่นฝ้ายแทบช็อก ได้ยินเสียงดังพรึ่บจากแผงวงจรไฟฟ้า รีบวิ่งไปดูพบไฟลุกไหม้เครื่องจักรและวัสดุการผลิต เสียหายยับกว่า 5 ล้านบาท ขณะที่ 3 พ่อแม่ลูกหนีตายอลหม่าน หลังมีไฟไหม้ห้องเก็บของชั้นบน คาดสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรตามเคย,ย่างเข้าช่วงฤดูแล้งเกิดเพลิงไหม้ถี่ยิบภายในวันเดียว และมีผู้เสียชีวิตถูกย่างสดตายคากองเพลิงครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. พ.ต.ท.ไชยพัฒน์ เจริญวัย พนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รับแจ้งมีเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 37/183 หมู่ 9 ซอยผาสุก ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลสวนหลวงเข้าระงับเหตุ โดยบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อไปถึงพบว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำจนเพลิงสงบแล้ว แต่ภายในบ้านพบศพนายเกตุ แซ่อุ๊น อายุ 71 ปี เจ้าของบ้านถูกไฟคลอกไหม้เกรียม สอบสวนทราบว่าผู้ตายป่วยเป็นอัมพฤกษ์ มาราว 30 ปีแล้ว อาศัยอยู่เพียงลำพังและหุงข้าวกินเองทุกวัน สันนิษฐานว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร คาดว่าปลั๊กไฟมีสภาพเก่าและชำรุด ทำให้ไฟฟ้าช็อตจนประกายไฟกระเด็นตกใส่ที่นอนเกิดเพลิงลุกไหม้คลอกร่างนายเกตุที่หนีไม่ทัน นำศพส่งพิสูจน์สถาบันนิติเวช ก่อนให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศล,ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงสายวันเดียวกัน พ.ต.ท.สำราญ ดำคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งจากนายสมชาย ฟ้อนรำดี ผอ.วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี ว่าเกิดเพลิงไหม้ในโรงอาหารของวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี เลขที่ 121/9 ถนนรามเดโช ต.ทะเล–ชุบศร อ.เมืองลพบุรี จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองลพบุรี 3 คันไประงับเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ร้านค้าในโรงอาหาร มีนักศึกษาและนักการช่วยกันใช้ถังน้ำยาดับเพลิงสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรีบระดมฉีดน้ำ 20 นาที เพลิงสงบลง พบร้านต้นเพลิงเกิดจากร้านขายขนมเครป โดยสายแก๊สหุงต้มที่ต่อไว้กับหัวเตาเกิดหลุดจนไปติดกับเปลวเพลิงในเตาข้างเคียงลุกไหม้ทันที และไฟยังลวกแขนขวา นางชลธิชา ทองคำดี อายุ 39 ปี เจ้าของร้านบาดเจ็บเล็กน้อย เพลิงไหม้ครั้งนี้ยังทำให้ร้านใกล้เคียงมีทรัพย์สินได้รับความเสียหายอีก 2 ร้าน,รายต่อมา ร.ต.ท.พรภิมนต์ ดอกไม้ พนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้โรงงานกิตติพัฒน์เส้นใย เลขที่ 83/2 หมู่ 8 ต.ลำตาเสา จึงประสานรถดับเพลิงใกล้เคียงราว 10 คันไประดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงงานปั่นฝ้าย ภายในมีกองวัสดุอุปกรณ์พลาสติกเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี รถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ เส้นใยฝ้ายที่ผลิตแล้วถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด น.ส.จินตนา ไทยแก้ว อายุ 35 ปี เจ้าของโรงงานบอกว่า โรงงานผลิตเส้นใยฝ้ายส่งให้โรงงานทำที่นอน ขณะเกิดเหตุคนงานออกไปส่งของ เหลือคนงานอยู่ 2 คนยืนอยู่ด้านหน้าโรงงาน จู่ๆได้ยินเสียงดังพรึ่บคล้ายไฟฟ้าช็อตที่แผงวงจรไฟฟ้า รีบวิ่งเข้าไปดูเห็นกลุ่มควันและเปลวไฟลุกไหม้ไปยังเครื่องปั่นฝ้าย จำนวน 5 เครื่อง พยายามใช้ถังดับเพลิงฉีดสารเคมีดับเพลิงแต่ไม่สำเร็จ ค่าเสียหายกว่า 5 ล้านบาท สาเหตุสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร,ในเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.รัฐวัตต์ อยู่พิพัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 334 หมู่ 1 ซอยศรีสกุล 12 ต.สำโรงใต้ จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย 2 คันไประงับเหตุ ต้นเพลิงเกิดจากบ้านไม้ 2 ชั้น พบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากหน้าต่างชั้นบน ชาวบ้านเร่งขนข้าวของหนีตายอล หม่าน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรีบฉีดน้ำสกัดไฟอยู่ราว 30 นาที หลังเพลิงสงบพบบริเวณชั้นบนของบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท นางสมพร ทองนาค อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านให้การ ว่า ขณะที่ตน สามี และลูกสาวอยู่ในบ้านชั้นล่างจู่ๆได้ กลิ่นเหม็นไหม้โชยลงมาจากชั้นบน รีบขึ้นไปดูพบเพลิงลุกไหม้มาจากห้องเก็บของ และลุกลามไปไหม้ ห้องนอน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุเกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บริเวณชั้นบนที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามจะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป | สลดเฒ่ากระทุ่มแบนป่วยอัมพฤกษ์อยู่บ้านเพียงลำพัง ถูกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังแถมคลอกร่างย่างสดตายสยองคากองเพลิง อีกราย แม่ค้าขายขนมเครป ทำสายแก๊สหลุดจากขั้วต่อแล้วลามไปติดเปลวเพลิงในเตา จนลุกไหม้ร้านค้าหวิดเผาวอดโรงอาหาร | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,ไฟไหม้,สมุทรสาคร,โรงอาหาร,วิทยาลัย,ลพบุรี,อยุธยา,โรงงาน,สมุทรปราการ | https://www.thairath.co.th/news/local/468026 | [
0,
259,
103709,
76005,
150815,
227149,
6200,
259,
80267,
17858,
73765,
212378,
3682,
70663,
194550,
226403,
259,
4728,
139612,
733
] |
มนต์เสน่ห์ ไทเป-เกาสง บินไทยเบิกร่องแดนใต้ไต้หวัน โกยส่วนแบ่งตลาด 53% | เป็นอีกประเทศที่น่าท่องเที่ยวในราคาเบาๆ,ใครๆ ก็ว่าประเทศไต้หวัน คือ Little Japan แต่ถ้าใครยังไม่ได้สัมผัสด้วยตา ได้ก้าวเท้าลุยย่ำเที่ยวก็คงตอบได้ยากว่า จริงอย่างที่ปากว่าหรือไม่,และเป็นโอกาสดี ที่, อาสาม แห่งทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ได้รับคำเชิญพิเศษจาก ,การบินไทย, ในทริปโปรโมตเส้นทาง ไทเป-เกาสง พร้อมนั่งเครื่องบินใหญ่ใหม่ล่าสุดโบอิ้ง B787-9 ที่เพิ่งรับมอบมาใช้เมื่อปลายปีที่แล้ว แล้วนำมาใช้เสิร์ฟผู้โดยสารบินตรงกรุงเทพ-ไทเป ให้ได้สัมผัสความสบาย และบริการที่เต็มอิ่มจากการบินไทย,สำหรับการเดินทางในทริปนี้ เป็นเที่ยวบิน TG632 เมื่อได้ขึ้นเครื่องบินก็ได้รับความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีที่ใส่ไว้ในเครื่อง โดยเฉพาะจอภาพระบบสัมผัสพร้อมหูฟัง หมอน-ผ้าห่มไว้อย่างดี เรียกว่าเพียงแค่นั่งลงและเลือกชมสิ่งที่ชอบเท่านั้น ทั้งหนัง เพลง ความบันเทิงอื่นๆ เพียง 3 ชั่วโมง ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ถึงประเทศไต้หวัน ลงสนามบินไทเป เป็นที่เรียบร้อยแล้ว,เมื่อย่างก้าวเข้าสู่ไทเป แน่นอนสิ่งที่เราสัมผัสได้คือ อากาศ ช่วงที่เราไป (กลางเดือนมีนาคม) อากาศไม่ร้อน มีลมเย็นๆ โชยรอบตัวเราตลอดเวลา,จุดหมายแรกอนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiag Kai-Sheck Memorial Hall),อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมา เพราะเป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์ชาติไต้หวัน กว่าจะหลอมรวมมาเป็นชาติ,สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีวีรบุรุษของชาติ เป็นอาคารสีขาวทั้ง 4 ด้าน มีหลังคาทรง 8 เหลี่ยม โดยมีสถาปัตยกรรมแบบจีนตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางจตุรัสเสรีภาพ มีบันไดด้านหน้า 89 ขั้น (เท่าอายุ อดีต ปธน.เจียงไคเชก),ภายในจะมีห้องจัดแสดงประวัติ ภาพถ่าย ของใช้ส่วนตัวมากมาย แต่ไฮไลต์ของที่นี่ คือ จะมีพิธีเปลี่ยนเวรทหาร ซึ่งจะมีทุกๆ ต้นชั่วโมง, อาสาม, ก็โชคดีที่ได้ไปดูเช่นกัน ซึ่งเป็นช่วงที่เชิญธงชาติลงจากเสาพอดี,สิ่งที่สังเกตเห็นได้คือ ทำไมทหารแต่ละคนรู้สึกหล่อกันจังและก็ได้คำตอบจากคุณ Sarinee Cheng สาวสวยคนไทยที่เป็นกูรูไต้หวันที่ร่วมทริปไปกับเราด้วยบอกว่า ,วัดหลงซาน.,คือสถานที่ถัดมา ที่ได้มาเยือนขอพร ว่ากันว่า จริงๆ แล้วที่นี่น่าจะเป็นศาลเจ้ามากกว่า เพราะหากเป็นวัดก็ต้องมีพระจำวัดอยู่จริงไหม? ,ศาลเจ้าหลงซาน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1738 เดิมถูกสร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิม แต่ปัจจุบันได้มีพระพุทธรูป และเทพองค์อื่นๆ มาประดิษฐานนับร้อยองค์ ตามหลักความเชื่อพุทธ เต๋า และ ขงจื้อ,ทั้งนี้คุณไกด์ของเรา นาม ,อาเหลียง, บอกว่า คนไต้หวันนั้นมีความเชื่อเรื่องเทพที่หลากหลายมาก แต่หากให้บอกว่าเทพองค์ไหนที่คนไต้หวันนับถือมากที่สุด ก็คือ ,เจ้าแม่ทับทิม, เหตุเพราะคนที่นี่มีอาชีพส่วนใหญ่ คือ อาชีพประมง เจ้าแม่ทับทิม คือ เทพธิดาแห่งท้องทะเล ช่วยคุ้มครองผู้เดินทางทางเรือ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนไต้หวันให้การนับถือเป็นอย่างมากเรียกว่า ถ้ามีงานเกี่ยวกับเจ้าแม่ทับทิม คนไต้หวันก็พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กลับกันหากนักการเมืองจะทำกิจกรรม หรือ ปิดถนน ,ก็โดนด่าแล้ว,และที่โชคดีไปกว่านั้น ตอนที่เรามาจะเป็นช่วงเทศกาลโคมพอดี ภาพศาลเจ้าหลงซาน จึงถูกประดับด้วยโคมอย่างสวยงาม,หลังจากไหว้พระเจ้าขอพรกันแล้วคราวนี้ก็มาศึกษาสมบัติชาติของไต้หวันกันบ้าง ใน พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง (National Palace Museum) ในนี้ใครที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ ศิลปะ โบราณวัตถุ คงใช้เวลาเป็นวันๆ ก็ไม่พอ เพราะในนี้จะอุดมไปด้วยหนังสือหายาก สิ่งของหายาก ผลงานทองสำริด อาวุธ เครื่องประดับโบราณมากมาย โดยเฉพาะ, หยกผักกาดขาว หินรูปหมูสามชั้น และ กระถางสัมฤทธิ์เหมากง,หลังจากผ่านหมวดประวัติศาสตร์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วจากนั้นก็ขึ้นจุดชมวิวของไทเป ได้แก่ตึก 101 ชมทิวทัศน์รอบทิศแล้วก็ตามต่อด้วยตลาดผลาญเงิน,ตอนนี้ก็ถึงคิวเดินตลาด ซึ่งเราก็ได้เดินตลาดย่านซีเหมินติง ซึ่งเป็นเหมือนฮาราจูกุแห่งไทเป ซึ่งก็มีสินค้ามากมายให้เลือกสรรค์ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้เดิน ตลาดกลางคืนซื่นหลินด้วย ใครเตรียมเงินไต้หวันมาก็เตรียมมาละลายได้ใน 2 ตลาดนี้,หลังจากเดินทางทัศนาจรในไทเปจนหนำใจแล้ว ก็ถึงคิวเกาสง เราได้นั่งรถไฟความเร็วสูงมุ่งสู่เมืองเกาสง แค่อึดใจ ชั่วโมงกว่าๆ ก็พาพวกเรามาจากไทเป ตอนเหนือลงภาคใต้ที่เกาสง,เมื่อไปถึงเรามีโอกาสได้เข้าพักในอาณาจักร E-DA world ซึ่งภายในประกอบไปด้วยโรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย สวนสนุก Outlet สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และได้รับการต้อนรับจาก Ms. Tseng Tzu Wen Director-General of Kaohsiung City Government Tourism Bureau มากล่าวต้อนรับ และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเกาสงมากมาย,Ms.Tseng Tzu Wen Director-General of Kaohsiung City Government Tourism Bureau, กล่าวว่า เมืองเกาสง ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของไต้หวัน เดิมเป็นเมืองอุตสาหกรรม โดยมีโรงงานเหล็กจำนวนมาก แต่ต่อมามีการปรับสภาพเมืองให้เหมาะสมกับการท่องเที่ยว โดยมีการก่อสร้างสถานที่พักผ่อนอย่างครบวงจร มีสนามบิน สวนสนุก โรงแรม ภูเขา ทะเล และลำธารสวยงาม ของกินอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งบรรยากาศของเมืองเกาสงนั้น ก็ไม่หนาวเกินไปนัก หน้าหนาวจะอยู่ประมาณ 23 องศา มีประชากร 2.3 ล้านคน,ลักษณะนิสัยของชาวเมืองนั้น เป็นคนที่อัธยาศัยดี แลนด์มาร์กที่สำคัญคือ ที่บริเวณ แม่น้ำอ้ายเหอ (แม่น้ำแห่งความรัก) ซึ่งบรรยากาศยามค่ำคืนสวยงาม ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่ชาวไต้หวันมักมาแสดงความรักต่อกัน นอกจากนี้ ยังมีสะพานจุดชมวิวที่เพิ่งสร้างเสร็จไปเมื่อเร็วๆ นี้ (Kaosiung Sky walk park),Ms. Tseng Tzu Wen กล่าวอีกว่า ,ที่สำคัญคือ เมืองเกาสง และประเทศไต้หวันนั้น มีเทศกาลบ่อยๆ อาทิ ช่วงตรุษจีน จะมีการปล่อยโคมลอยที่สวยงาม พุทธอุทยานพระใหญ่ โฝ กวง ซาน ที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม เทียบเท่าพุทธมณฑล ส่วนเรื่องอาหารนั้น เชื่อว่าอาหารที่นี่มีรสชาติถูกปากคนไทยเป็นอย่างยิ่ง คนเมืองไทเปอาจจะกินจืด แต่สำหรับอาหารในเกาสงจะมีรสชาติจัดจ้านกว่า ส่วนอาหารหวาน ผลไม้ ที่จัดว่าเด็ดคือ ชานมไข่มุก ฝรั่ง สับปะรด มะม่วง ซึ่งมีให้กินทั้งปีเหมือนกับเมืองไทย,ดังนั้น หากจะให้สรุปสั้นๆ ว่า ทำไมคนไทยควรมาเที่ยวเกาสงนั้น ขอบอกเลยว่า ,เกาสง มีธรรมชาติที่สวยงาม คมนาคมสะดวก (นั่งรถไฟความเร็วสูงจากไทเป-มาเกาสง ไม่ถึง 2 ชม.) ผู้คนอัธยาศัยดีเป็นมิตร อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มีสวนสนุก เป็นเมืองที่มีการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง,หลังจากพูดคุยกันเสร็จสิ้นแล้ว เราได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเมืองเกาสง นำโดย เกาะฉีจิน เกาะท่องเที่ยวเล็กๆ ห่างจากฝั่งเมืองเกาสงเล็กน้อย หากเดินทางด้วยเรือใช้ระยะเวลาแค่เพียง 5 นาทีเท่านั้น (อารมณ์เหมือนนั่งเรือข้ามฟากไม่ไกลนัก แต่หากนั่งรถก็จะอ้อมโลกเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้มีจุดชมวิวที่งดงามนัก งามแค่ไหนดูภาพกันเอาเองเลย),นอกจากนี้ ยังได้เที่ยวชม พุทธอุทยานพระใหญ่ โฝ กวง ซาน (Fo Guang Shan Monastery) แลนด์มาร์กศาสนาพุทธ นิกายมหายาน มีพระพุทธองค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน เรียกว่าเทียบเท่า หรือใหญ่กว่า พุทธมณฑลของไทย เลยก็เป็นได้,แต่ภายในนั้นจะออกแนวหรูหรา อลังการ โดยมีเทคโนโลยีผสมทำให้รู้สึกไปอีกแบบในการมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระเขี้ยวของพระพุทธเจ้าแต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถนำรูปมาฝากได้ เพราะเขาห้ามถ่ายรูป,นอกจากนี้ เรายังได้เที่ยวชม, เจดีย์มังกรเสือ วัดฉือจี้ (Dragon Tiger Pagoda ), ซึ่งเป็นเจดีย์สูง 7 ชั้น โดยมีความเชื่อที่ว่า, เดินเข้าปากมังกรแล้วออกจากปากเสือ จะเป็นการขจัดปัดเป่าเอาสิ่งไม่ดีออกจากตัว,และก่อนจะกลับ เรายังได้เที่ยวชม ,โดมแห่งแสง (MRT Formosa Boulevard Station), เป็นสถานีจุดเชื่อมระหว่างรถไฟใต้ดิน 2 สถานี ที่ตกแต่งด้วยประติมากรรมกระจกสีกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโดมยาว 30 เมตร,ทั้งนี้ ,นายวิชญ์ กิจจาทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท การบินไทย ประจำประเทศไต้หวัน, พูดถึงภาพรวมทริปนี้ว่า ก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวประเทศไต้หวันนั้น เป็นเรื่องที่ยากกว่านี้เพราะต้องทำวีซ่า ฉะนั้นทำให้คนไทยท่องเที่ยวไต้หวันไม่สูงนัก ประมาณปีละ 190,000 คน แต่พอประเทศไต้หวันมีการเปลี่ยนแปลงในการเรื่องการทำวีซ่า ทำให้ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 50% คือ 290,000 คน/ปี,ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวนั้น จะเน้นเรื่องกิน เที่ยวชมธรรมชาติ นักท่องเที่ยวหลายแนวทั้งแบ็กแพ็กเกอร์ สปอร์ต ก็สามารถท่องเที่ยวที่นี่ได้อย่างสบายกระเป๋า,ผู้จัดการทั่วไป การบินไทยประจำประเทศไต้หวัน กล่าวว่า เมื่อเราเห็นโอกาสตรงนี้ จึงมีการปรับเปลี่ยนเครื่องบินในการให้บริการ จากเครื่องบินแอร์บัส A330 มาเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำใหม่กว่า และใหญ่กว่า มาใช้แข่งขันในตลาดไต้หวัน โดยเปลี่ยนเครื่องบินทั้ง 2 เที่ยวบิน/วัน,ที่เราต้องทำเพราะ 1. ปัจจุบันมีการแข่งขันกับโลว์คอสต์แอร์ไลน์ถึง 3 สายการบิน นอกจากนี้ ยังมีฟูลเซอร์วิส อีก 2 สายการบิน (Eva Air, China Airlines) ซึ่งด้านราคานั้นเรามีการแข่งขันกับ 2 การบินนี้ เราจึงต้องเร่งพัฒนาด้านบริการของเรา เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนได้รับการบริการที่ดีที่สุดจากการบินไทย,การปรับปรุงในครั้งนี้ได้ผลดีแค่ไหน นายวิชญ์ กล่าวว่า เพราะว่าเครื่อง 330 เป็นเครื่องที่ใช้มานานมากแล้ว เครื่องก็เป็นของเก่า แต่พอเราได้ โบอิ้ง 777 ทุกอย่างดีขึ้นทั้งหมด นอกจากนี้ ยังทำเลานจ์ใหม่ (เลานจ์ที่ใช้ร่วมกัน) เมื่อเปลี่ยนเครื่องบินก็เห็นผลทันที อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิน แฟ็กเตอร์) ก็เพิ่มขึ้นเป็น 87 เปอร์เซ็นต์ แค่นี้ยังไม่พอ เราจึงคิดจะเพิ่มขึ้นมา โดยเราได้โปรดักส์ใหม่ คือ 787-900 เรียกว่าลำใหม่เอี่ยมเลย เราจึงดึงเข้ามาบินตรงไต้หวันได้,อย่างที่ทราบกันว่า เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องบินที่ใช้วัสดุพิเศษ ทำให้เครื่องบินมีน้ำหนักเบา หากเป็นบิสสิเนสคลาส ก็จะมีการจัดพื้นให้เป็นคอกเพื่อความสะดวกสบาย ที่สำคัญเครื่องลำนี้จะเงียบกว่า (ยืนยันว่าเงียบมาก นั่งมาแล้ว เสียงเครื่องบินเบามาก),ส่วนการบริการเรามีการปรับปรุงเรื่องการเสิร์ฟอาหารในทุกชั้น ทั้งบิสสิเนสและอีโคโนมีคลาส โดยจะมีการนำเสนอเมนูใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ให้ถูกปากคนไทยและไต้หวัน อีกทั้งวงรอบของเมนูอาหารก็จะมีการปรับเปลี่ยนถึง 3 แบบ ทำให้ผู้โดยสารไม่รู้สึกเบื่อ ซึ่งจะไม่เหมือนกับสายการบินอื่นๆ,ส่วนเที่ยวบินสายอื่นๆ นั้น ตอนแรกเราคิดว่าจะเปิดบินตรงที่ ไทเป-เชียงใหม่ แต่เนื่องจากเรายังได้ช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสม เราจึงคิดว่ายังไม่ทำในตอนนี้ เราจะรอการเจรจาจนกว่าจะได้ช่วงเวลาที่ดีกว่านี้,กรุงเทพ-เกาสง เป็นอีก 1 เที่ยวบินใหม่ที่เราเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่ง เมืองเกาสง ถือเป็นเมืองใหญ่ทางใต้ของประเทศไต้หวัน ตอนนี้เราถือว่าเป็นผู้ริเริ่มเหมือนกับเส้นทาง กาฐมาณฑุ ที่เราเป็นผู้ริเริ่มบินเส้นทางนี้ก่อนจะบูมมากในปัจจุบัน,แต่สำหรับเกาสง ประเทศไต้หวันกำลังเดินหน้าโปรโมตการท่องเที่ยวพื้นที่ภาคใต้ การที่เราเข้ามาทำเส้นทางนี้ตั้งแต่เริ่มต้นนั้น จะทำให้นักท่องเที่ยวได้เริ่มสำรวจเมืองใหม่ ขณะเดียวกัน เมืองเกาสง เองก็ให้การรองรับการบินไทยเป็นอย่างดี โดยให้เราได้แลนดิ้งฟรี นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารต่างๆ เป็นอย่างดี,ช่วงท้าย นายวิชญ์ ได้กล่าวยอมรับว่าตั๋วของการบินไทยนั้น ไม่ใช่ราคาที่ถูกสุด แต่,สิ่งที่จะทำหลังจากนี้ คือ การทำยังไงก็ได้เพื่อดึงคนไต้หวันมาเที่ยวไทยให้มากขึ้น ที่ผ่านมาคนไต้หวันมาประเทศไทย เพียง 4% จากคนที่มีพาสปอร์ต 16 ล้านคน (ทั้งประเทศมี 23 ล้านคน) ซึ่งถือว่าน้อยมาก จะทำยังไงก็ได้ที่จะทำให้เขาเที่ยวบ้านเรามากกว่านี้ตอนนี้เราจึงคิดว่าควรจะทำอะไรก็ได้ให้เกิดความต้องการ,ทีแรกเรากะว่าจะทำละคร โดยวาง ,น้องนาย ณภัทร เสียงสมบุญ, ,ไว้ แต่กว่าจะทำ แล้วมันต้องใช้เงินพอสมควร แต่เมื่อตอนนี้มีกระแส บุพเพสันนิวาส, มาแล้ว ตอนนี้ไปจีน เวียดนาม และ ประเทศอื่นๆ แล้ว ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะนำละครเรื่องนี้ไปจุดกระแสที่ไต้หวันให้ได้ ถึงจะมีคนที่ไปตามรอยตอนนี้กำลังเดินหน้าดำเนินการ และได้ไฟเขียวกับ ททท.แล้ว เราเพียงให้ตั๋วเขาอย่างเดียว จากนั้น ททท.จะเป็นผู้จัดการทุกอย่าง หากเราเลือกสื่อ หรือบล็อกเกอร์ ที่สามารถจุดไฟตรงนี้ได้ ก็จะกลายเป็นกระแส เรียกนักท่องเที่ยวไต้หวันกลับเข้าประเทศเราได้,สำหรับทริปใช้เวลาเดินทางไป-กลับ รวม 5 วัน 4 คืน ซึ่งขากลับนั้น ทีมข่าวฯ ได้โอกาสนั่งสายการบิน ไทยสมายล์ เที่ยวบิน TG2689 และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เครื่องบินก็ร่อนลงจอด ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อย่างนิ่มนวลจบทริปอย่างสวยงามและมีความสุข หากใครที่สนใจอยากเที่ยวไต้หวัน ก็ลองหาข้อมูลกันดู รับรองไม่ยากอย่างที่คิด คนเดียวก็เที่ยวได้ | ใครๆ ก็ว่าประเทศไต้หวัน คือ Little Japan แต่ถ้าใครยังไม่ได้สัมผัสด้วยตา ได้ก้าวเท้าลุยย่ำเที่ยวก็คงตอบได้ยากว่า จริงอย่างที่ปากว่าหรือไม่ | สกู๊ปไทยรัฐ | การบินไทย,ไต้หวัน,ไทเป 101,เกาสง,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1244662 | [
0,
259,
51122,
60936,
39525,
5490,
260,
4215,
260,
259,
103015,
111923,
50175,
74590,
127860,
21961,
259,
136909,
4552,
179918
] |
ฝุ่นพิษ PM 2.5 เขาแก้ไขกันอย่างไร? | ปีนี้เป็นปีแรกที่ชาว กทม. เจอแจ๊คพ็อต เจอฝุ่นพิษ PM 2.5 ปกคลุมไปทั่ว มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของชาวกรุงไปทั้งเมืองPM 2.5 คืออะไร? PM หรือ Particulate Matter คืออนุภาคเขม่าขนาดเล็กมาก มีขนาดเพียง 2.5 ไมครอน เล็กขนาดที่ว่าสามารถผ่านเข้าสู่ปอดชั้นในและสู่ระบบเลือดไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ในที่สุดถามว่า PM 2.5 มาจากไหน? เกือบทั้งหมดมาจากกิจกรรมเผาไหม้ของมนุษย์ ในประเทศไทยเกินกว่าร้อยละ60 มาจากไอเสียของรถยนต์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล ส่วนอีกร้อยละ 40 มาจากไอเสียโรงงานอุตสาหกรรมและกิจกรรมอื่นๆ ของมนุษย์ ความจริงมลพิษจากไอเสียรถยนต์ไม่ได้มีเพียง PM 2.5 ยังมีมลพิษอีกหลายอย่าง กล่าวคือ นอกจากไอเสียที่เป็นเขม่าขนาดเล็กมากหรือ PM ของเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว ยังมีกำมะถันออกไซด์ (SOx) และไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ซึ่งเมื่อจับกับไอน้ำในอากาศจะเปลี่ยนสภาพเป็นกรด ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายอย่างรุนแรงเมื่อสูดดมเข้าไป ในกรณีที่ในวันนั้นๆ มีระดับมลพิษสูงและเกิดหมอกร่วมด้วย ทำให้ SOx และ NOx จับกับหยดน้ำขนาดเล็กในอากาศ เกิดเป็นหยดน้ำกรดเรียกว่า SMOGส่วนไอเสียของเครื่องยนต์เบนซินที่เป็นปัญหา ได้แก่ สารระเหยง่าย VOC (Valentine Organic Compound) ที่เหลือตกค้างจากการเผาไหม้ Aldehyde สำหรับประเทศไทยแล้ว น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอล ยังมีก๊าซโอโซนที่เป็นพิษอีกด้วยทำไมปัญหามลพิษทางอากาศจึงเกิดขึ้นเฉพาะช่วงหน้าหนาวในบางวันเท่านั้น ที่เป็นดังนี้เพราะในช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นจากประเทศจีนมีผลทำให้อากาศบนผิวพื้นดินของประเทศไทยตอนบนเย็นลง มีอุณหภูมิต่ำลง ขณะที่อากาศที่อยู่บนระดับสูงเกินกว่า 500 เมตรขึ้นไปกลับมีอุณหภูมิสูงกว่าอากาศบนพื้นดิน ทำให้มวลอากาศที่อยู่บนผิวดินไม่สามารถลอยขึ้นสูงได้ ส่งผลให้อากาศจากชั้นบนที่สะอาดกว่าไม่สามารถไหลเวียนเข้ามาแทนที่ได้ (เรียกปรากฏการณ์นี้ว่าอากาศปิดหรือ Inversion Lapse Rate) การเจือจางมลพิษที่เกิดขึ้นบนพื้นดินจึงเกิดขึ้นน้อยกว่าปกติ เกิดเป็นกับดักทำให้เกิดการสะสมสารมลพิษเข้มข้นในระดับสูง จนเป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร? เนื่องจากสาเหตุหลักของมลพิษเหล่านี้เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ไม่สมบูรณ์ และปัญหาของตัวเชื้อเพลิงเองในเครื่องยนต์จากการจราจรขนส่ง ดังนั้น มาตรการแก้ปัญหาจึงต้องมุ่งที่การลดไอเสียจากรถยนต์บนท้องถนนเป็นสำคัญ ซึ่งมีหลายมาตรการทั้งที่เป็นวิธีการเฉพาะหน้าระยะสั้นและระยะยาวมาตรการระยะสั้นและกลางหลักๆ ได้แก่ก. การเข้มงวดในเรื่องของตรวจมาตรฐานเครื่องยนต์และควันดำ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลข. การลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนให้น้อยลง เช่น ในวันที่อากาศปิด กำหนดให้รถที่มีป้ายทะเบียนเลขคี่เลขคู่วิ่งได้เฉพาะวันที่เป็นวันคี่วันคู่ (มาตรการนี้ทำได้ยาก แต่อาจจำเป็นในกรณีวิกฤต เพราะได้ผลเร็ว)ค. การเร่งรัดยกมาตรฐานของเชื้อเพลิงสะอาดให้สูงขึ้นกว่าเดิม เช่น กำหนดสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลมาตรฐานให้มีอัตราสูงขึ้น เช่น กำหนดให้เป็น B20 จากเดิมที่เป็น B7 โดยวิธีนี้จะช่วยให้ชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ประชาชนได้รับสวัสดิภาพที่ดีขึ้นง. ส่งเสริมและเร่งรัดให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แทนการใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปให้เร็วขึ้นส่วนมาตรการระยะยาวและถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุดและดีที่สุด และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกคือ การใช้นโยบายการจราจรที่ยั่งยืน(Sustainable Transport) นโยบายนี้จะเน้นให้ผู้เดินทางหันมาใช้การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้าและรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงการเดินทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ (Non-Motorized Mode) เช่น การขี่จักรยานและเดินเท้า ในกรณีที่เดินทางเป็นระยะทางสั้นๆเกี่ยวกับผู้เขียน: รศ.ดร. จำนง สรพิพัฒน์กรรมการสถาบันคลังปัญญาด้านยุทธศาสตร์ชาติและสมาคมวิจัยวิทยาการขนส่งแห่งเอเชีย(ATRANS)อดีตประธานสายวิชาพลังงาน บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี | ปีนี้เป็นปีแรกที่ชาว กทม. เจอแจ๊คพ็อต เจอฝุ่นพิษ PM 2.5 ปกคลุมไปทั่ว มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของชาวกรุงไปทั้งเมือง PM 2.5 คืออะไร? PM หรือ Particulate Matter คืออนุภาคเขม่าขนาดเล็กมาก มีขนาดเพียง | คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม | จำนง สรพิพัฒน์,ฝุ่นพิษ,PM 2.5,Particulate Matter | https://prachatai.com/journal/2019/01/80605 | [
0,
259,
180383,
157418,
4348,
42274,
37087,
1881,
178466,
8357,
128574,
259,
184599,
3755,
223091,
46519,
21779,
170457,
227124,
93838
] |
ฉกถุงเงิน 6ล้าน ลานจอดรถห้าง | บริษัทขนเงินชื่อดัง จี้สอบ2พนง.ไขคดี,ฉกถุงเงินจากรถขนเงินหายลอยนวล พนักงาน ขนเงินกับคนขับอ้างจอดรถขึ้นไปรับเงินบนห้าง กลับมาอีกทีพบประตูรถเปิดอ้าไว้ ตรวจสอบเงินสดหายไป 2 ถุงรวมทั้งหมด 6 ล้านบาทเลยรีบไปแจ้งความ ขณะที่ตำรวจนำตัวสอบเครียดทั้งคู่มั่นใจงานนี้มีเกลือเป็นหนอน,มือลึกลับแอบฉกเงินสด 6 ล้านบาทจากรถขนเงินบริษัท Brinks รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 พ.ย. ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ภานุภาคยณ์ จิตต์ประยูรดี ผกก.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สุวัฒน์ ตันติมาสน์ ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.มงคล อ่อนแก้ว รอง ผกก. (สส.) ภ.จ.นนทบุรี ร่วมกันประชุมสืบสวนเพื่อหาแนวทางคลี่คลายคดีคนร้ายก่อเหตุลักถุงใส่เงินของบริษัท Brinks จำกัด ไปจำนวน 2 ถุง บรรจุเงินสดถุงละ 3 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 6 ล้านบาทหลบหนีไปอย่างลอยนวล,ก่อนหน้านั้นช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองวิทยาการได้มาเก็บลายนิ้วมือที่รถขนเงิน เป็นรถยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน ณล 6453 กรุงเทพมหานคร ไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้แบ่งงานแกะรอยตามล่าคนร้ายทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ สอบปากคำนายนำชัย จีหนู เจ้าหน้าที่ขนเงินกับนายสมยศ คำอุ่น ทำหน้าที่ขับรถขนเงินที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และสอบพยานแวดล้อม จากนั้นได้คุมตัวพนักงานทั้งสองไปตรวจค้นบ้านพักเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปแยกสอบอย่างเคร่งเครียดอีกรอบ,คดีสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 พ.ย. พ.ต.ท.สงคราม บัวพันธ์ สว. (สอบสวน) สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์จากรถขนเงินภายในลานจอดรถห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต สาขาบางใหญ่ ถนนกาญจนาภิเษก ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้ถุงบรรจุเงินสดจำนวน 2 ถุง ภายในบรรจุเงินสดถุงละ 3 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 6 ล้านบาทหลบหนีไป,จากการสอบสวนนายนำชัย จีหนู เจ้าหน้าที่ขนเงิน กับนายสมยศ คำอุ่น ทำหน้าที่ขับรถให้การว่า ขับรถขนเงินมาจอดยังจุดเกิดเหตุเพื่อเข้าไปรับเงินจากร้านทรู ภายในห้างดังกล่าว หลังจากนั้นได้กลับมาที่รถพบว่าประตูรถถูกเปิดอ้าไว้ ด้วยความตกใจจึงเข้าไปสำรวจทรัพย์สินซึ่งเป็นถุงใส่เงินมีทั้งหมด 13 ถุง เป็นถุงเงินที่เพิ่งไปรับมาจากธนาคารไทยพาณิชย์ หลังตรวจสอบพบว่าถุงเงินหายไป 2 ถุง เหลือเพียง 11 ถุง ซึ่งเป็นเงินปลีกย่อยคนร้ายไม่แตะต้อง,พนักงานทั้งสองยืนยันด้วยว่า ระหว่างขึ้นไปรับเงินที่บริษัททรูได้ล็อกประตูรถขนเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ทราบว่าประตูรถเปิดอ้าได้อย่างไร ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้วไม่พบร่องรอยการงัดแงะแต่อย่างใด ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ พบรถกระบะต้องสงสัยยี่ห้ออีซูซุ ขับวนเวียนไปมาหลายรอบใกล้จุดที่รถขนเงินจอดอยู่ แต่กล้องไม่สามารถมองเห็นภาพระหว่างที่คนร้ายก่อเหตุหยิบถุงเงิน เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะมีเกลือเป็นหนอนคอยชี้เป้าให้คนร้ายลงมือก่อเหตุในครั้งนี้อย่างแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายต่อไป | ฉกถุงเงินจากรถขนเงินหายลอยนวล พนักงาน ขนเงินกับคนขับอ้างจอดรถขึ้นไปรับเงินบนห้าง กลับมาอีกทีพบประตูรถเปิดอ้าไว้ ตรวจสอบเงินสดหายไป 2 ถุงรวมทั้งหมด 6 ล้านบาทเลยรีบไปแจ้งความ | ข่าว,ทั่วไทย | รถขนเงิน,เงินหาย,สภ.บางใหญ่,นนทบุรี,ข่าวหน้า1,ข่าวเหตุ | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1120934 | [
0,
259,
85322,
112260,
134023,
3755,
49947,
28017,
11821,
127687,
2091,
85322,
96524,
15319,
259,
5269,
356,
259,
95084,
1
] |
สนามพระ 08/10/60 | พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ.๒๕๐๙ ของเอ๋ เมืองจันท์.,เข้าสู่ สนามพระวิภาวดี ด้วย ธรรมะพระราชา ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีพระราชดำรัสกับ ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม ๔ จังหวัดภาคใต้ ที่ปัตตานี เมื่อ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบ และการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นหลักสำคัญ ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบ และหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา เพราะสิ่งแรก เป็นปัจจัยสำคัญสําหรับใช้กระทําการทํางาน สิ่งหลัง เป็นปัจจัยสำคัญ สําหรับส่งเสริมความประพฤติและการปฏิบัติงานให้ชอบ คือให้ถูกต้องและเป็นธรรม,ต่อไป ไปดู พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ (ไม่มีหู) กรุเก่า วัดใหม่อมตรส ของเสี่ยศุภชัย สายัณห์,ช่วงนี้ มีภาพพระสมเด็จชั้นดี แชมป์องค์จริง หน้าใหม่ ไม่มีริ้วรอยสัมผัสใช้ มาให้ดูต่อเนื่อง เพราะแฟนคลับ นักนิยมพระเครื่องและนักสะสมพระพรีเมียม เริ่มเข้าใจว่า การเก็บพระดีมีคุณภาพไว้ดูคนเดียว สู้เอามาเผยแพร่แบ่งคนอื่นให้ได้ดูไม่ได้ เพราะจะรู้สึกปลื้มกับเสียงชื่นชม และเป็นประโยชน์แก่สังคมมากกว่าเก็บไว้ดูคนเดียว,และยังทำให้รู้ว่าพระในครอบครอง มีคุณค่าแค่ไหน อย่างองค์นี้ที่เป็น พระพิมพ์สังฆาฏิ ซึ่งแยกพิมพ์ ไว้ ๒ แบบ คือ มีหู กับ ไม่มีหู และยังมีการแยกพิมพ์ย่อยลงลึกถึงเอกลักษณ์รายละเอียด ที่แตกต่างได้เป็น ๔ แบบ คือ ๑.พิมพ์แขนกลม เข่าขีด ๒.พิมพ์แขนกลม เข่าหนา ๓.พิมพ์แขนกลม ฐานขาสิงห์ ๔.พิมพ์ชะลูด ฐานขาสิงห์,องค์นี้เป็นแบบที่ ๓.แขนกลม ฐานขาสิงห์ ที่มีจุดสังเกตสำคัญ เช่น ๑.พระพักตร์กลมเรียวเล็กตื้น ๒.พระเกศยาวจรดซุ้ม ๓.ฐานชั้นกลางเป็นแบบขาสิงห์ ๔.ฐานชั้นล่างสุดใหญ่หนา ด้านซ้ายมือเรามักสอบแคบ ๕.เส้นซุ้มครอบแก้วคมบาง ๖.ขอบรอบองค์พระปรากฏเส้นบังคับพิมพ์ ตั้งเป็นเส้นสันชัดเจน ฯลฯ,องค์ที่สอง เป็น พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ.๒๕๐๙ พระเครื่องฝีพระหัตถ์ หนึ่งเดียวของ ร.๙ ที่ได้ชื่อว่ามีมงคลสูงสุดของแผ่นดิน ดังที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ขนานนามว่า พระกำลังแผ่นดิน,หลังจากทรงกำหนด รูปทรง แบบพิมพ์ คัดสรรรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์มาเป็นส่วนผสมเนื้อพระ ก็ทรงกดพิมพ์ ถอดพิมพ์ ตกแต่ง โดยมี อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ หัวหน้ากองหัตถศิลป์ในพระองค์ เป็นที่ปรึกษา,แล้วพระราชทานพระทุกองค์ ด้วยพระหัตถ์ นับแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘-๒๕๑๓ ผู้ได้รับ มีทั้งข้าราชบริพาร ข้าราชการ ทุกระดับชั้น แต่ด้วยจำนวนพระที่มีไม่ถึง ๔,๐๐๐ องค์ ทำให้มีการแสวงหาด้วยราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 4-5 พันบาท จนปัจจุบันถึงหลักล้าน,และถึงหลายๆล้าน สำหรับองค์ ที่สร้างพระราชทานปี พ.ศ.๒๕๐๙ (ถือเอาเลข ๙ เป็นเลขมหามงคล ตรงเลข ลำดับรัชกาล) ซึ่งพิจารณา ได้จากพิมพ์พระที่มีความ คมชัด ความเรียบร้อยลงตัว ในการตกแต่ง เนื้อพระที่มีมวล สารมากและผิวเนื้อที่เป็นสีค่อนข้างดำ ยิ่งเป็นองค์ที่มีความสมบูรณ์งดงามสุดๆอย่างองค์นี้ เสี่ยเอ๋ เมืองจันท์ มั่นใจว่า อนาคตจะมีค่าทวีคูณ หลายเท่าตัว,ว้าว อีกองค์นานๆๆๆ ได้ดู คือ พระกริ่งเทพโมฬี พ.ศ.๒๔๔๑ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ฯ เพราะเป็น พระกริ่งรุ่นแรก ของ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ที่ทรงประกอบพิธีเททอง สร้างตามตำรับวิชาที่ได้รับมอบจากองค์พระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระวันรัต (แดง) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพโมฬี,จำนวนสร้างมีบันทึกว่า ๙ องค์ ทำพิธีเทหล่อแบบกริ่งในตัวเนื้อนวโลหะ เนื้อในสีเงินขาว ผิวนอกกลับดำ ทุกองค์มีหมายเลขไทยสลักกำกับใต้ฐาน,เมื่อปัจจุบัน ปรากฏมี พระกริ่งเทพโมฬี พิมพ์ชัด เนื้อใช่ แต่ไม่มีเลขกำกับ ออกมาในวงการ จึงมีความคิดเห็นเพิ่มเติม ว่าพระที่มี ตัวเลขกำกับ น่าจะเป็น พระส่วนพระองค์ ส่วนที่ ไม่มีหมายเลข น่าจะเป็นพระที่มีผู้ขออนุญาตร่วมสร้าง หรือสร้างเผื่อเหลือเผื่อขาด ซึ่งก็น่าจะ มีจำนวนน้อยกว่า ,สำหรับของ เสี่ยเพชรอิทธิ ชวลิตธำรง เป็นองค์ที่มีการตกแต่งสวยงาม ด้วยฝีมือช่างชั้นครู ส่วนเรื่องหมายเลข ถามไปก็บอกมาว่าเหมือนมี แต่ลบเลือนจนดูไม่ออกว่าเป็นเลขอะไร,ตามมาด้วย พระยอดขุนพล พิมพ์ใหญ่ เนื้อชินเงิน กรุวัดไก่ ลพบุรี ต้นตำรับพระยอดขุนพล เมืองลพบุรี ที่มีชื่อเสียง ค้นพบมาก่อนพระยอดขุนพล เมืองลพบุรีสกุลอื่นๆ,แบบว่าถ้าพูดถึง พระยอดขุนพล ต้องยกให้กรุวัดไก่ เป็นเบอร์ต้นด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ที่มีทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน และโภคทรัพย์,พิมพ์พระมีหลายแบบ เนื้อพระมีทั้ง ชินเงิน ชินตะกั่ว (สนิมแดง) และเนื้อดิน ทุกเนื้อทุกพิมพ์เป็นพระหายาก ราคาสูงถึงหลักแสน สภาพงามซึ้งสมบูรณ์สุด แบบองค์นี้ของเสี่ยยุทธนา วงศ์กนกศิลป์ ประเมินกันถึง หลักล้าน,ถัดไปดู พระบางกรุเก่า วัดพระคง ลำพูน ของ เสี่ยเพชรอิทธิ ซึ่งน่าปลื้ม เพราะพระดียี่ห้อนี้ เซียนใหญ่ที่รู้ลึกรู้จริงหลายราย ตามหาชั่วชีวิตยังไม่เจอ เพราะพิจารณาได้ว่า เป็นพระที่สร้างถึงยุคพระนางจามเทวี เช่นเดียวกับ พระรอด,มีจุดสังเกตเอกลักษณ์ ตรงองค์พระที่สมบูรณ์ ปีกเนื้อที่ปลิ้นบางรอบองค์ เนื้อพระละเอียดหนึกแน่น เหมือนเนื้อพระรอด หลังพระมีเนื้ออูมเต็ม แบบพระรอด ฯลฯ ถือได้เป็นพระแบบ ทู อิน วัน,ถึงองค์นี้จะไม่สวยสุดในตระกูล พระบาง แต่ก็สวยสุดในกรุวัดมหาวัน สัมผัสได้ถึงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ด้านเมตตามหานิยม คุ้มครองป้องกันภัย ดังภาษิตว่า พระลือ เลื่องชื่อลือลั่นปฐพี พระบางคุ้มภัยมี ดีเมตตามหาเสน่ห์,ต่อด้วย เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ข้างยันต์อุ เนื้อตะกั่ว หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท พระเครื่องทรงสี่เหลี่ยม ขนาดเล็ก เนื้อโลหะ ทองแดง สัมฤทธิ์ ตะกั่ว แบบพิมพ์มีมาก รายละเอียดแตกต่าง อย่าง พิมพ์ข้างรัศมี ข้างยันต์ ฯลฯ ด้านหลังเรียบ พบทั้งชนิดมีรอยจารอักขระลายมือ และไม่มี เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าเป็นพระหลวงปู่ศุข,อย่างองค์นี้ของ เสี่ยเพชร ที่วันนี้แทบจะเหมาสัมปทานสนามพระไปคนเดียวครึ่งหน้า เป็น พิมพ์นิยมข้างยันต์ เนื้อตะกั่ว ที่ยังมี ผิวปรอท ขาวสมบูรณ์ สภาพสวยเดิม--เก็บรักษามาอย่างดีเยี่ยมแบบนี้ ก็ต้องจ่ายเยอะกว่าปกติ,ตามมาด้วย พระเนื้อผงยาวาสนา พิมพ์ซุ้มรัศมี จุ่มรัก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม ของ เสี่ยพ๊อต นครชัยศรี,๔-๕ ปีก่อน พระเครื่องสกุลนี้ ทุกชนิด ทุกเนื้อทุกพิมพ์ ที่สร้างทันอายุท่าน ได้รับความนิยมสูงเยี่ยมเป็นกระแสร้อนจนเดือด ราคาขยับขึ้นวันต่อวัน แบบว่าใครมีพระสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทุกเวลา ยิ่งเป็นพระพิมพ์ นิยม เนื้อผงยา จุ่มรัก สภาพ สมบูรณ์อย่างองค์นี้ ยิ่งขายง่าย กำไรเยอะ,สุดท้ายคือ เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๙ หลวงพ่อพาน วัดเฉลิมราษฎร์ (โป่งกระสัง) อ.กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ของ เสี่ยพายุ บ้านวัชรสาร และบอกเป็นเหรียญพระเกจิมาแรงสุดของประจวบฯ,จากประวัติที่แนบมา จึงทราบว่าท่านเป็นชาวบ้านกล้วย ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย เพชรบุรี กำเนิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๔ อุปสมบทที่วัดหนองไม้เหลือง อ.บ้านลาด เพชรบุรี และเป็นศิษย์ หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง และพระเกจิเรืองนามในพื้นถิ่น,ถึงปี พ.ศ.๒๕๑๓ ท่านไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์บ้านโป่งกระสัง พัฒนาจนเจริญรุ่งเรืองจนมรณภาพเมื่อ ๒๕๓๙ รวมอายุ ๘๔ ปี,ตลอดอายุท่าน ใช้วิชาพุทธาคม สร้างความศรัทธาเลื่อมใส ด้วยตะกรุด ผ้ายันต์ ที่แสดงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ จนหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก พระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุค กล่าวยกย่องท่านเสมอ --เหรียญรุ่นแรกของท่านแบบนี้ หากันมาก ราคาเทียบได้กับเหรียญพระเกจิยุคเก่า,บอกลาวันนี้กันด้วยเรื่องคณะศิษย์ประชุมเตรียมจะ จัดงานทำบุญ หลวงปู่ สมภารวัดแห่งหนึ่งในนครพนม ซึ่งอายุครบ 7 รอบ และอยากขออนุญาตทำเหรียญที่ระลึก ,แต่ไม่มีใครกล้าขอ เพราะหลวงปู่ไม่เคยอนุญาตให้จัดงานใดๆเกี่ยวกับตัวท่านเลย เพราะสมถะและไม่เคยสร้างพระเครื่องวัตถุมงคล,สุดท้าย ชาวบ้านจึงรวมตัวทั้งหมู่บ้าน ไปกราบนมัสการ ขอจัดงาน แต่แค่กราบ ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลวงปู่ก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ว่าที่จะจัดงาน ก็ให้ทำได้ แต่อย่าเอิกเกริก ให้ทำตามกำลังเอาแค่คนในหมู่บ้าน สำหรับเหรียญ ข้าจะทำให้ ตามจำนวนที่ต้องการ ให้ลงชื่อบอกจำนวนไว้ จะทำดีที่สุด ทำครั้งเดียว ได้ไว้ต้องรักษา ต่อไปจะมีค่า หาไม่ได้,,แล้วให้นายเค็ม ลูกศิษย์ที่เป็นกำพร้า มาอยู่กับหลวงปู่ตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ถึงวันนี้อายุ ๔๐ จดชื่อและจำนวนเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ขอตามจำนวนคนในครอบครัว เฉลี่ยไม่เกินบ้านละ ๑๐ เหรียญ รวมแล้วราว ๔๐๐ เหรียญ,หลวงปู่ดูรายชื่อแล้วยิ้ม แต่ถาม นายเค็ม ว่า แล้วเอ็ง ไม่เห็นมีชื่อ ไม่อยากได้กับเขาบ้างหรือ ไม่มีลูกมีเมีย ก็เอาไว้ใช้ติดตัวเพื่อนึกถึงกัน,นายเค็ม ก้มกราบทันที แล้วบอกว่า เหรียญเดียวคงไม่พอ ตั้งใจจะขอหลวงปู่สัก ๑๐๐ เหรียญ คนอื่นเขาขอไว้ให้ลูกหลาน ส่วนผมตั้งใจขอไว้ทำทุน--เพราะเชื่อหลวงปู่ ที่บอกว่าต่อไปจะมีค่า หาไม่ได้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.,สีกาอ่าง | เข้าสู่ สนามพระวิภาวดี ด้วย ธรรมะพระราชา ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีพระราชดำรัสกับ ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม ๔ จังหวัดภาคใต้ ที่ปัตตานี | พระเครื่อง,พระสมเด็จบางขุนพรหม,พระเครื่องฝีพระหัตถ์,สนามพระ,สีกาอ่าง | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1092299 | [
0,
259,
141237,
216781,
21191,
118913,
47451,
47820,
142674,
16344,
234324,
7910,
44836,
259,
18095,
41076,
156778,
64877,
33555,
259
] |
|
มิ้นท์ ถวายตัวโนบราสุดสยิว เลิฟซีน โอม ร้อนฉ่าถึงใจใน ภูตรัตติกาล | แม้จะเป็นนางร้ายแต่ก็สวยไม่แพ้นางเอกละกัน สาว มิ้นท์–ณัฐวรา วงศ์วาสนาเข้าฉากถวายตัวให้พระเอก โอม–อัชชา ในละคร ภูตรัตติกาล ทุ่มสุดตัวถึงขนาดยอม โนบรา แบบว่าถ้าไม่ดูล่ะก็เสียดายแย่โดยเป็นตอนที่เจ้าหลวงคำเมือง (โอม) กำลังเมา ม่านฟ้า (มิ้นท์) ในชุดถวายตัวเดินมานั่งตรงหน้า เจ้าหลวง ก่อนที่จะเริ่มทอดสะพานโดยแกล้งก้มต่ำไปเป็นหยิบถ้วยเหล้า เจ้าหลวง เห็นร่องอกขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะเลยอดใจไม่ไหวคว้า ม่านฟ้า เข้าไปจูบอย่างหื่นกระหาย>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<ฉากนี้ถ่ายทำกันที่สตูดิโอกันตนา ศาลายา รังรักถูกประดับด้วยแสงเทียน มุ้งสีทอง และไฟสลัวๆสุดโรแมนติก ยิ่งเห็นเสื้อผ้าในชุดถวายตัวของ มิ้นท์ แล้วของขึ้นเลย ท่อนบนโนบราแล้วคลุมทับด้วยเสื้อซีทรู จึงเผยให้เห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่า ส่วนด้านหน้ามีผ้า 2 ชิ้นปิดบังหน้าอกเท่านั้น เรียกว่าใจกล้าสุดๆ ส่วนท่อนล้างก็นุ่งผ้าซิ่นสั้นอวดเรียวขายาวสุดเซ็กซี่ งานนี้ มิ้นท์ ทุ่มสุดตัวจริงๆ ขนาดเครื่องแต่งตัวยังยั่วขนาดนี้ ดังนั้นเรื่องแอ็กติ้งยิ่งไม่ต้องพูดถึง ลีลายั่วยวนมาเต็ม ก้มต่ำเผยให้เห็นร่องอก ส่งสายตายั่วๆ เจ้าหลวงโอม จะทนไหวได้ไง ดึง มิ้นท์ เข้ามากอดจูบทันที ก่อนจะล้มลงไปนอนนัวเนียบนเตียงด้วยกันเบื้องหลังเร่าร้อนขนาดนี้ หน้าจอจะเป็นอย่างไร ตามชมคืนนี้ 20.20 น. ทางช่อง 8. | แม้จะเป็นนางร้ายแต่ก็สวยไม่แพ้นางเอกละกัน สาว มิ้นท์–ณัฐวรา วงศ์วาสนา เข้าฉากถวายตัวให้พระเอก โอม–อัชชา ในละคร ภูตรัตติกาล ทุ่มสุดตัวถึงขนาดยอม โนบรา แบบว่าถ้าไม่ดูล่ะก็เสียดายแย่ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ภูตรัตติกาล,นิยาย,มิ้นท์ ณัฐวรา,โนบรา,ถวายตัว,โอม อัชชา,ฉากเลิฟซีน,ละคร | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1902091 | [
0,
259,
36247,
86204,
73758,
65290,
1326,
20390,
122572,
97264,
9074,
30007,
259,
159447,
220118,
20475,
17138,
177487,
191925,
8007
] |
ทหารฮีโร่ เห็นนักเรียน ม.5 โดดสะพานแม่น้ำน่าน รีบเข้าช่วยทันหวุดหวิด | ชื่นชม ทหาร มทบ.38 กระโดดน้ำเข้าช่วยเหลือ นักเรียนหญิง ชั้น ม.5 ป่วยซึมเศร้ากระโดดสะพานข้ามแม่น้ำน่าน รอดตายหวุดหวิด,เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 เวลาประมาณ 23.00 น. ร.ต.อ.ชวลิต เทรักสี พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนันทบุรีว่า มีคนโดดสะพานพัฒนาภาคเหนือข้ามแม่น้ำน่าน กลางสะพานข้ามระหว่างเขตติดต่อสำนักงานป่าไม้ อ.เมืองน่าน-บ้านท่าล้อ อ.ภูเพียง จ.น่าน,ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านและพลเมืองดีให้การช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าว ซึ่งเป็นนักเรียน ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.น่าน หลังจากช่วยเหลือได้แล้ว นักเรียนสาวเอาแต่ร่ำไห้ โดยไม่ยอมพูดจา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบรถจักรยานยนต์สีดำ พร้อมกระเป๋า จอดอยู่บนสะพาน จึงนำไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองน่าน,จากการสอบถาม พลทหาร นฤธรรณ์ พรมสิงคะ สังกัด มทบ.38 ผู้ให้ความช่วยเหลือ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนนั่งพักอยู่บนรถยนต์บริเวณใต้สะพานเห็นมีคนกระโดดลงมาจากสะพาน จึงกระโดดลงน้ำเข้าไปช่วยเหลือ ก่อนนำตัวขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัย และรถกู้ชีพกู้ภัย อบจ.น่าน นำตัวส่ง รพ.น่าน เพื่อตรวจอาการต่อไป,ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทาง ร.ต.อ.ชวลิต เทรักสี พงส.สภ.เมืองน่าน ทราบจากอาจารย์ของนักเรียนหญิง คาดว่าคงเกิดจากโรคซึมเศร้า และได้ประสานไปยังผู้ปกครองเด็กแล้ว. | ชื่นชม ทหาร มทบ.38 กระโดดน้ำเข้าช่วยเหลือ นักเรียนหญิง ชั้น ม.5 ป่วยซึมเศร้ากระโดดสะพานข้ามแม่น้ำน่าน รอดตายหวุดหวิด | ข่าว,สังคม | กระโดดสะพาน,ลาโลก,นักเรียน,ป่วยซึมเศร้า,ฮีโร่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1704086 | [
0,
259,
85322,
4188,
3755,
134212,
75194,
36247,
45015,
259,
3945,
260,
428,
259,
38058,
60708,
80327,
4348,
96629,
197067
] |
ภูมิใจไทยเสนอ พอเถอะ ทุกฝ่ายหยุดเคลื่อนมวลชน-กกต.จัดเลือกตั้ง-แล้วค่อยปฏิรูป | หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเสนอแนวทาง พอเถอะ ให้ทุกฝ่ายหยุดเคลื่อนไหวมวลชนเผชิญหน้า กกต.จัดเลือกตั้ง เมื่อได้รัฐบาลแล้วให้เร่งปฎิรูปประเทศ โดยทางพรรคของเสนอแนวทางปฏิรูปสวัสดิการสังคมต่อไป15 พ.ค. 2557 - รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการติดตั้งป้ายข้อความ พอเถอะ ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เพื่อให้ทุกฝ่ายหยุดเคลื่อนมวลชนเผชิญหน้า และร่วมหาคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ย สู่การจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ซึ่งวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน การท่องเที่ยวท่องเที่ยวลดลง ผลกระทบทางโครงสร้างพื้นฐานหยุดชะงัก ทำให้เกิดผลเสียโดยรวม โดยเฉพาะปี 2558 ที่จะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งมีแนวโน้มนักลงทุนจะย้ายฐานไปประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น และผลกระทบทางสังคม ทำให้คนเกลียดชังกันมากขึ้น ทั้งนี้ จากดัชนีความสุขคนในประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเบื่อหน่าย และมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตโดยตรงทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยเสนอแนวทางออกประเทศ พอเถอะ เพื่อให้ทุกฝ่ายหยุดคิด และยับยั้งการเคลื่อนไหวของมวลชน หันมาใช้วิถีทางสงบ สันติ สามัคคี หาคนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับมาเจรจาด้วยเหตุผล คำนึงถึงหลักนิติรัฐ-นิติธรรม พิจารณาแก้ไขปัญหาด้วยท่าทีอันดีต่อกันหัวหน้าพรรคพรรคภูมิใจไทยระบุว่า ขอเรียกร้องให้ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง นำทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าสู่การเจรจา เมื่อตกผลึกแล้วมอบให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดการเลือกตั้งต่อไป เมื่อได้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศ โดยพรรคภูมิใจไทย ขอร่วมเสนอแนวทางการปฏิรูปในการจัดสวัสดิการสังคม ตามแนวทางของพรรคต่อไป | หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเสนอแนวทาง พอเถอะ ให้ทุกฝ่ายหยุดเคลื่อนไหวมวลชนเผชิญหน้า กกต.จัดเลือกตั้ง เมื่อได้รัฐบาลแล้วให้เร่งปฎิรูปประเทศ โดยทางพรรคของเสนอแนวทางปฏิรูปสวัสดิการสังคมต่อไป 15 พ.ค. | การเมือง | การปฏิรูป,การเลือกตั้งทั่วไป 2557,พรรคภูมิใจไทย,พอเถอะ,สวัสดิการสังคม | https://prachatai.com/journal/2014/05/53242 | [
0,
259,
169184,
148601,
221156,
11984,
134114,
117697,
23045,
47414,
120633,
224233,
34351,
22065,
66806,
97388,
224251,
226113,
46694,
1
] |
สื่อนอกแฉ ตร.ไทยรีดไถนักท่องเที่ยวมากขึ้น-นักข่าว ไทม์ เคยโดนด้วย | นาย เอียน ลอยด์ นอยเบาเออร์ นักข่าวชาวออสเตรเลียของนิตยสาร ไทม์ เขียนบทความบอกเล่าเกี่ยวกับปัญหานักท่องเที่ยวในประเทศไทย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคามและรีดไถมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนนายนอยเบาเออร์ถึงกับเปรียบเทียบว่า ,บทความของนายนอยเบาเออร์ ซึ่งเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ของนิตยสาร ไทม์ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ระบุว่า เมื่อปี 2014 ข้อมูลจากดัชนีสุดยอดจุดหมายปลายทางโลก ซึ่งจัดทำโดยบริษัท มาสเตอร์การ์ด จัดอันดับให้กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นสถานที่ที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ,แต่หลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ปีที่แล้ว และมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกไปทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครจำนวนมาก ก็ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมมากขึ้น และได้รับความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย เมื่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะผู้กระทำก็คือตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง,นายนอยเบาเออร์ ได้อ้างคำพูดของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตผู้ประกอบการธุรกิจอาบอบนวด ผู้ผันตัวมาเป็นนักการเมืองต่อต้านการคอร์รัปชัน ว่า หากคุณไปที่ถนนสุขุมวิท คุณจะเห็นตำรวจมองหานักท่องเที่ยวที่สูบบุหรี่ หรือทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้น จากนั้นตำรวจก็จะเข้าไปขอตรวจหนังสือเดินทางและให้นักท่องเที่ยวจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 2,000 บาท ผมเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา นอกจากนี้ เมื่อคุณเดินออกจากซอยคาวบอย ตำรวจจะเข้าไปสอบถามคุณว่ามียาเสพติดหรือไม่ และให้ตรวจปัสสาวะ ที่ข้างถนน หากนักท่องเที่ยวไม่ยอมตรวจ พวกเขาจะต้องจ่ายเงินถึง 20,000 บาท,คำพูดของนายชูวิทย์ ยังสอดคล้องกับประสบการณ์ตรงของนักท่องเที่ยวหลายสิบหรือหลายร้อยคน ที่มีรายงานในสื่อท้องถิ่น รวมถึงการร้องเรียนตามสถานทูต, เว็บบล็อก และเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ บางส่วนเชื่อว่าการยึดอำนาจของทหาร เป็นการขัดขวางเส้นทางการคอร์รัปชันแบบดั้งเดิม ทำให้ตำรวจที่ประพฤติมิชอบต้องมองหาเป้าหมายใหม่,รายงานของนายนอยเบาเออร์ ระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2557 นายมาร์ก เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ทวีตข้อความลงบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า เขาได้เข้าพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทย และได้หารือปัญหาต่างๆ หลายเรื่อง รวมถึงปัญหาตำรวจเรียกตรวจค้นนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ,ขณะที่นาย โจ คัมมิงส์ อดีตนักเขียนคอลัมน์ของ โลนลี แพลเน็ต นิตยสารคู่มือท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์ชื่อดังของโลก ซึ่งมักเขียนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าแบ็กแพ็กเกอร์ ก็กังวลกับปัญหาตำรวจคุกคามนักท่องเที่ยวเช่นกัน โดยทวีตข้อความเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2557 ว่า การสุ่มตรวจค้นนักท่องเที่ยวของตำรวจในกรุงเทพฯ กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ และมีรายงานจำนวนมากที่ระบุว่านักท่องเที่ยวที่ไม่ได้กระทำผิดถูกบังคับให้ต้องจ่ายเงินสินบน,นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์ตรงของนักท่องเที่ยวชื่อว่า รีส วอล์คเกอร์ ซึ่งเขียนจดหมายวิพากษ์วิจารณ์ถึงบรรณาธิการของสำนักข่าว บางกอก โพสต์ และได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2557 โดยจดหมายของเขาระบุว่า ตำรวจเรียกให้หยุดและตรวจค้นร่างกาย เมื่อเราถามตำรวจถึงเหตุผลของการตรวจค้น ตำรวจเพียงแค่หัวเราะใส่เรา ตำรวจถึงกับขอให้คู่หมั้นของผมตรวจปัสสาวะที่ข้างถนน เขาระบุด้วยว่า เขาจะไม่ขอแนะนำให้คนอื่นๆ มาประเทศไทย เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ,นายนอยเบาเออร์เขียนในบทความว่า ข้อความในจดหมายของนายวอล์คเกอร์ ทำให้เขารู้สึกเหมือน เดจาวู เพราะเมื่อครั้งที่เขาเดินทางมากรุงเทพฯ เมื่อเดือน ธ.ค. เขาก็ตกเป็นเหยื่อการรีดไถของตำรวจเช่นกัน,เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันก่อนวันคริสต์มาส (24 ธ.ค.57) โดยนายนอยเบาเออร์ อยู่ที่ระเบียงชั้นบนของบาร์แห่งหนึ่งในย่านถนนสีลม เมื่อถึงเวลาประมาณ 02:00 น. เขาก็ตัดสินใจเดินทางกลับ แต่เมื่อเขาเดินลงมาชั้นล่าง เขาเห็นตำรวจ 6 นาย กำลังตรวจค้นบาร์แห่งนี้ และสอบปากคำบาร์เทนเดอร์ซึ่งถูกใส่กุญแจมือและนั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนาย ได้เข้ามาควบคุมตัวเขาทันที ทำให้เขาต้องถามออกไปว่าเกิดอะไรขึ้น และแจ้งกับตำรวจว่าเขาเป็นผู้สื่อข่าว แต่ตำรวจกลับทำท่าคุกคามเหมือนจะต่อยเขา ทำให้เขาต้องหยุดถามคำถาม,ราว 15 นาทีต่อมา ตำรวจอีกนายหยิบถุงที่มีผงสีขาวอยู่ภายในขึ้นมาเขย่าใกล้ใบหน้าของเขา และกล่าวหาว่าเขากำลังซื้อของสิ่งนี้ ซึ่งเขาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างเด็ดขาด ขณะที่ตำรวจคนอื่นๆ เดินไปหยิบเครื่องดื่มในร้านมาดื่ม เมื่อบาร์เทนเดอร์พยายามห้ามก็ถูกตำรวจเตะเข้าที่หน้าแข้ง,ในที่สุดตำรวจก็พานายนอยเบาเออร์ออกไปนอกร้าน ซึ่งเขาพบผู้หญิงชาวไทยคนหนึ่งเข้ามาบอกกับเขาว่า หากเขายอมจ่ายเงินซึ่งมีค่าเท่ากับ 15,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 494,760 บาท) เขาจะได้รับการปล่อยตัว แต่นอยเบาเออร์บอกกับผู้หญิงคนนี้ว่าตัวเขาไม่ได้ทำอะไรผิดและจะไม่จ่ายเงินแม้แต่เซนต์เดียว ทำให้เขาถูกพาตัวกลับเข้าไปภายในร้าน และเห็นตำรวจจับชาวตะวันตกที่อยู่ที่บาร์นั้นอีก 4 คน จากนั้นตำรวจจึงพาพวกเขาทั้ง 5 คน นั่งรถแท็กซี่ไปยังสถานีตำรวจโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น,ตลอด 4 ชั่วโมงหลังจากนั้น พวกเขาแต่ละคนถูกบังคับให้ตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจหาสารเสพติด ซึ่งตำรวจที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำพูดเยาะเย้ยเขาว่า แก โคเคน ทำให้เขานึกถึงหนังสือและทีวีซีรีส์ที่เกี่ยวกับเรือนจำบางขวางขึ้นมาทันที จากนั้นพวกเขาก็ถูกพาตัวเข้าไปที่ห้องแถลงข่าวซึ่งมีแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์จ้าไปหมด ผลจากความเหนื่อยล้าและผมที่กระเซอะกระเซิง, สภาพร่างกายที่ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน และผลตรวจปัสสาวะที่วางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าพวกเขา ทำให้พวกเขาถูกถ่ายรูปในสภาพที่จัดให้ดูเหมือนเป็นผู้กระทำความผิด,ต่อมา หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำเอกสารบางอย่างซึ่งเขียนเป็นภาษาไทยทั้งหมดมาให้เซ็นชื่อ ซึ่งเมื่อมาถึงตอนนี้ นายนอยเบาเออร์ ขอโทรศัพท์ถึงสถานทูตประเทศออสเตรเลีย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้ามาแจ้งกับพวกเขาว่า พวกเขาไม่มีสารเสพติดในปัสสาวะ และจะได้รับการปล่อยตัวหากเซ็นชื่อในเอกสารที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาก็ยอมเซ็นชื่อ แต่เขียนกำกับไว้ด้วยว่า นี่ไม่ใช่ลายเซ็นของผม และเดินออกจากโรงพักไปยังถนนของกรุงเทพมหานครในเวลา 08:00 น. ของวันคริสต์มาส,นายนอยเบาเออร์เผยด้วยว่า ในระหว่างที่เขาถูกควบคุมตัว เขาพยายามบอกกับตำรวจหลายครั้งว่าเขาเป็นนักข่าว และเรียกร้องขอคำอธิบาย แต่ไม่มีใครอธิบายเรื่องใดๆ แก่เขา หลังจากได้รับการปล่อยตัว เขาก็เขียนอีเมลถึงตำรวจใ นสน.นั้นเพื่อขอคำอธิบาย แต่อีเมลก็ถูกตีกลับมา เขาจึงส่งอีเมล์ยังหน่วยงานต่างๆ ที่คาดว่าจะมีช่องทางติดต่อประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เขาได้รับข้อความตอบจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ความว่า,รัฐบาลไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีนโยบายที่จะควบคุมตัว, คุกคาม, ฉุดคร่า, ข่มขู่ และตรวจหาสารเสพติดนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกในประเทศไทย ในทางกลับกัน รัฐบาลไทยเห็นคุณค่าถึงความสำคัญอย่างใหญ่หลวงของนักท่องเที่ยว และความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนเป็นเรื่องที่ประเทศนี้ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก | นาย เอียน ลอยด์ นอยเบาเออร์ นักข่าวชาวออสเตรเลียของนิตยสาร ไทม์ เขียนบทความบอกเล่าเกี่ยวกับปัญหานักท่องเที่ยวในประเทศไทยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคามและรีดไถมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา | เอียน ลอยด์ นอยเบาเออร์,นักข่าว,นิตยสาร,ไทม์,บทความ,นักท่องเที่ยว,ไทย,ตำรวจ,คุกคาม,รีดไถ,ยึดอำนาจ,กฎอัยการศึก,คอร์รัปชัน,ทุจริต,ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์,สินบน,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/476314 | [
0,
259,
116652,
1881,
51083,
4388,
88057,
143955,
30356,
47129,
259,
221409,
44270,
103015,
1549,
67864,
139891,
147287,
1,
0
] |
|
จับตา ถกโอนงบ 8.8 หมื่นล้าน สู้ โควิด ส่องรายกระทรวงคืนเท่าไร | สภาฯ เตรียมถกร่าง พ.ร.บ.โอนงบ 8.8 หมื่นล้านสู้พิษ โควิด 4 มิ.ย.นี้ กลาโหม คืนมากสุด กว่า 1.7 หมื่นล้าน ศธ. รั้งที่ 2 คืนกว่า 4 พันล้าน คมนาคม ตามมาที่ 3 คืนกว่า 3 พันล้าน ด้าน จับกัง คืนน้อยสุด เพียง 22 ล้านบาทเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ วงเงิน 88452 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอมีทั้ง 5 มาตรา โดยมีหลักการและเหตุผลให้โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ของหน่วยรับงบประมาณเป็นบางรายการ ไปตั้งไว้เป็นงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพิ่มเติม หลังวงเงิน 96000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ในงบประมาณปี 2563 นั้น ไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้จ่ายสนับสนุนในการแก้ไขปัญหา และเยียายาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 รวมไปถึงกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินจำเป็นจากสถานการณภัยแล้ง และสาธารณภัยอื่น ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณสำหรับรายละเอียดที่แต่ละหน่วยงานได้มีการโอนงบประมาณ 2563 คืนรัฐบาล เพื่อตั้งเป็นงบกลางไว้สำหรับแก้ไขปัญหาโควิด โดยเรียงตามลำดับกระทรวงที่โอนงบคืนสูงที่สุด ดังนี้1.กระทรวงกลาโหม (กห.) จำนวน 17700 ล้านบาท2.กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จำนวน 4746 ล้านบาท3.กระทรวงคมนาคม (คค.) จำนวน 3427 ล้านบาท4.กระทรวงมหาดไทย (มท.) จำนวน 2057 ล้านบาท5.กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 1356 ล้านบาท6.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม จำนวน 1254 ล้านบาท7.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) จำนวน 1153 ล้านบาท8.สำนักนายรัฐมนตรี (นร.) จำนวน 1065 ล้านบาท9.กระทรวงการคลัง (กค.) จำนวน 778 ล้านบาท10.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำนวน 641 ล้านบาท11.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จำนวน 571 ล้านบาท12.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รวม 506 ล้านบาท13.กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) จำนวน 384 ล้านบาท14.กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) จำนวน 277 ล้านบาท15.กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จำนวน 203 ล้านบาท16.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) จำนวน 192 ล้านบาท17.กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จำนวน 139 ล้านบาท18.กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จำนวน 62 ล้านบาท19.กระทรวงพลังงาน (พน.) จำนวน 37 ล้านบาท20.กระทรวงแรงงาน (รง.) จำนวน 22 ล้านบาทนอกจากนี้ ยังมีการโอนงบของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง รวม 775 ล้านบาท อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 544 ล้านบาท สำนักพระพุทธศาสนา จำนวน 177 ล้านบาท เป็นต้น รวมไปถึงงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จำนวน 2537 ล้านบาท งบประมาณจากแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้ง 15 ด้าน รวมกันทั้งสิ้น จำนวน 13256 ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ ซึ่งเป็นของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ จำนวน 35303 ล้านบาท | สภาฯ เตรียมถกร่าง พ.ร.บ.โอนงบ 8.8 หมื่นล้านสู้พิษ โควิด 4 มิ.ย.นี้ กลาโหม คืนมากสุด กว่า 1.7 หมื่นล้าน ศธ. รั้งที่ 2 คืนกว่า 4 พันล้าน คมนาคม ตามมาที่ 3 คืนกว่า 3 พันล้านด้านจับกัง | ข่าว,การเมือง | รัฐสภา,สภา,งบประมาณ,พ.ร.บ.โอนงบฯ,โควิด,กระทรวง,คืนงบประมาณ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1860746 | [
0,
259,
128181,
5405,
29669,
131129,
3945,
259,
208546,
15319,
259,
1130,
58177,
259,
127451,
259,
95201,
140133,
151861,
49012
] |
ศบค.แถลง มติที่ประชุม ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน 1-31 พ.ค.นี้ | ศบค.เผย มติที่ประชุม ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-31 พ.ค.2563 คุมโควิด-19 คง 4 มาตรเข้ม เคอร์ฟิว ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างสังคม ทำงานที่บ้านวันที่ 27 เม.ย. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ประจำวันที่ 27 เม.ย. 2563 กล่าวถึง การต่ออายุ พ.รก.ฉุกเฉิน 2548 ที่ประชุม ศบค. ในวันนี้ นายกฯ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทำงานทำงานได้ดีมากๆ ตั้งข้อกังวลผลกระทบเศรษฐกิจ ที่ต้องมีการแก้ไขกันต่อไป ยันไม่อยากให้เกิดการระบาดในระลอก 2 การต้ดสินใจต่างๆ ขึ้นอยู่กับตัวเลขผู้ติดเชื้อด้วยด้านปลัด สธ. รายงาน แสดงให้เห็นกรณีที่เกิดขึ้นหากมีการติดเชื้ออีก มี 3 กรณี 1.คุมได้ดี 15-30 คนต่อวัน2.ความเสี่ยงต่ำ อาจเปิดให้ธุรกิจบางที่เปิดดำเนินการได้ 40-70 รายต่อวัน อันนี้ สธ.พอรับไหว3.ควบคุมยาก ผู้ติดเชื้อพุ่งพรวด 500-2000 คน อันนี้ควบคุมยาก อาจมีผู้ป่วยพุ่งเกือบ 2 พันราย ตรงนี้ตรวจไปแล้ว 1.7 แสนคน ตรวจแบบเชิงรุกมากขึ้นฝ่ายความมั่นคง รายงานว่า ประชาชน ร้อยละ 70 สนับสนุนให้ ขยายระยะเวลาพ.ร.ก.ออกไป ที่ประชุม ศบค. จึงมีมติให้ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน 1-31 พ.ค. มี 4 มาตรการ ควบคุมห้ามบุคคลออกจากเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ชะลอเคลื่อนย้ายคนในต่างจังหวัด งดดำเนินกิจกรรมคนหมู่มาก ส่วนการผ่อนปรนมาตรการ ยังคงมาตรการทำงานที่บ้าน ร้อยละ 50 ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม มีการวัดอุณหภูมิในสถานที่ทำงาน การล้างมือ มีเจลบริการเพื่อฆ่าชื้อ จำกัดจำนวนคน และมีแอปพลิเคชันติดตามตัวภายหลัง ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในไทย ลดเหลือเลขหลักเดียว กทม.วันแรก ไม่พบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ วันนี้ 9 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 2931 ราย หายแล้วกลับบ้าน 2609 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม1 ราย รวมเสียชีวิต 52 ราย | ศบค. เผย มติที่ประชุม ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-31 พ.ค.2563 คุมโควิด-19 คง 4 มาตรเข้ม เคอร์ฟิว ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างสังคม ทำงานที่บ้าน | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ศบค.,ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1831388 | [
0,
259,
17958,
6581,
4215,
260,
259,
204042,
259,
207017,
84012,
227897,
963,
259,
65781,
419,
259,
4728,
53868,
157344
] |
การข้ามเพศ: การเดินทางจากเพศที่สามสู่โลกชายจริงหญิงแท้ | เพศที่สาม ถือว่าเป็นคำที่คนไทยแทบทุกคนคุ้นเคย และอาจใช้กันโดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน เพื่ออธิบายคนกลุ่มหนึ่งที่แตกต่างจากชายจริงหญิงแท้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเพศที่สามในสังคมไทย มีอิสระในการแสดงออกความเป็นตัวของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าสิทธิเสรีภาพทางด้านกฏหมายของไทยยังไม่เทียบเท่าประเทศพัฒนาบางประเทศก็ตาม ในปัจจุบันคนไทยบางส่วนอาจได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับคำศัพท์เพศจิปาถะ ศัพท์วิชาการ ศัพท์ใหม่ ศัพท์วัยรุ่น ที่นอกเหนือไปจาก กะเทย ทอม ตุ๊ด สาวประเภทสอง เช่น เชอร์รี่ อดัม ทอมเกย์ กะเทยเลสเบี้ยน ไปจนถึง ผู้หญิงข้ามเพศ และ ผู้ชายข้ามเพศ ถึงแม้ว่าบ่อยครั้งคำศัพท์เหล่านี้ยังคงถูกใช้ปะปนกันอยู่ เช่นในกรณีของ ตุ๊ดกับกะเทย หรือ ทอมกับผู้ชายข้ามเพศ แต่คำเรียกเพศแต่ละคำนั้น ต่างมีนัยยะสำคัญของตนเองประเด็นของที่มาของการเป็นเพศที่สาม กะเทย ตุ๊ด ทอม และเพศอื่นๆ ยังคงเป็นที่ถกเถียงและพูดคุยอยู่ว่า มันเกิดจากธรรมชาติ การขัดเกลาทางสังคม หรือ เวรกรรมในอดีตชาติ ซึ่งบทความของผมไม่ได้ต้องการจะหาคำตอบและชี้เจาะจงว่า ท้ายที่สุดแล้ว การข้ามเพศ มีที่มาจากปัจจัยอะไร ผมเชื่อว่าตัวตนของแต่ละคนนั้นมีองค์ประกอบและปัจจัยที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นไปได้ว่า ธรรมชาติ การขัดเกลาทางสังคม หรือแม้แต่เวรกรรม ก็อาจจะมีส่วนที่ทำให้เราเป็นสิ่งที่เราเป็นในทุกวันนี้ จุดที่ผมสนใจในบทความนี้มุ่งไปที่การเปลี่ยนแปลงของความรู้ ค่านิยม และวัฒนธรรมเกี่ยวกับการข้ามเพศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ความรู้ทางด้านจิตวิทยา และปรัชญาสังคมศาสตร์ทำให้ การข้ามเพศ ไม่ใช่หยุดอยู่ที่การกบฏต่อค่านิยมชายจริงหญิงแท้ แต่พัฒนาสู้การปรับเปลี่ยนตนเองเพื่ออยู่ในสังคมร่วมกับสังคมชายจริงหญิงแท้ได้มากขึ้น ซึ่งในบทความนี้ผมยกกรณีศึกษาของบุคคลข้ามเพศในไทยและญี่ปุ่น เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการข้ามเพศในบริบทของสังคมที่แตกต่าง แต่กลับมีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่คล้ายคลึงกันอย่างน่าสนใจผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าสังคมไทยได้ให้พื้นที่กับเพศที่สามอย่างกว้างขวาง เราเห็นกะเทย สาวประเภทสอง ตุ๊ด ทอม ได้อย่างทั่วไปบนพื้นที่สื่อ ตั้งแต่ภาพยนตร์ ซีรีย์ โฆษณา มิวสิควิดีโอ ไปจนถึงรายการโทรทัศน์อื่นๆ อย่าง The Face ที่ได้ขยายพื้นที่ให้สาวประเภทสองสามารถร่วมประกวดร่วมกับ หญิงแท้ ได้ ส่วนในระดับระหว่างประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อต้านการรักเพศเดียวกันและการข้ามเพศ ประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติจึงกลายเป็น ดินแดนแห่งกะเทย หรือ ladyboy ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง Hangover II ที่ใช้ฉากนางโชว์ กะเทยมีงู มาแสดงลักษณะพิเศษของประเทศไทย หรือแม้แต่มุขตลกในเว็บไซต์ 9gag ซึ่งหลายคนมักจะแซวว่าผู้หญิงไทยที่สวยและน่ารักอาจจะเป็นกับดัก (trap) เพราะ นางๆ ทั้งหลายอาจจะไม่ใช่หญิงแท้ก็ได้กะเทยไทยแม้ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่กะเทยก็อาจจะพ่ายแพ้ให้กับความไม่เท่าเทียมภายในบ้านของตนเอง ถึงแม้ว่าพื้นที่ในสังคมของกะเทยเหมือนจะมีอยู่กว้างขวาง แต่ในความเป็นจริงแล้วพื้นที่เหล่านั้นมีขอบเขตจำกัด ท้ายที่สุดบุคคลที่ไม่สามารถดำเนินชีวิตเยี่ยงกับชายจริงหญิงแท้ยังคงประสบอุปสรรคในการรับสิทธิเสรีภาพเท่ากับคนกลุ่มอื่น เช่นการถูกจำกัดโอกาสในการสมัครงาน และการไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิด้านอื่นๆ (UNDP & USAID 2014 pp. 7-9) ในทางสังคมแม้คนไทยจำนวนหนึ่งจะเอ็นดูกะเทย แต่ความเอ็นดูนั้นถูกตีกรอบด้วยความเชื่อที่ว่า กะเทยและเพศที่สามเป็นผู้สร้างเสียงหัวเราะ ตัวประหลาด และตัวตลก (Ünaldi 2011 p. 64) คุณนิติ ชัยชิตาทร (2559) หรือป๋อมแป๋ม ได้ตั้งข้อสังเกตบนเวที Ted Talk ไว้ว่า สังคมไทยมักเข้าใจ เด็กเนิร์ด คนอ้วน และกะเทย ในฐานะที่พวกเขาเป็น ตัวประกอบ ที่ขาดมิติความเป็นมนุษย์ ซึ่งในบางครั้ง พวกเขาอาจจะไม่ได้สนุกสนานตลอดเวลา ไม่ได้รู้สึกดีที่คนอื่นจะหัวเราะเยาะ และอาจจะไม่ได้พร้อมที่จะเป็นตัวตลกในสายตาใคร ส่วนในทางพุทธศาสนาหลายคนทราบดีว่า เพศที่สามเป็นตัวแทนของผู้กระทำผิดศีลข้อที่สาม คือ การเป็นชู้ การพรากผัวพรากเมียผู้อื่น (Jackson 1997 p. 64; Winter 2011 p. 253; Sinnott 2012 p. 466; นฤพล ด้วงวิเศษ 2557) ดังนั้นตามความเชื่อนี้ พวกเขาจึงเกิดมาอาภัพรัก ประสบอุปสรรคทางความรัก สังคมไทยได้ตีตราว่าเพศที่สามเป็นแค่ตัวสำรอง ท้ายที่สุดชายจริงหญิงแท้ที่เป็นคู่ของพวกเขา จะตัดสินใจเดินทางไปเพื่อสร้างครอบครัว มีลูก เช่นเดียวกับที่ชายหญิง ปกติ ทำกัน สังคมยังสร้างอคติว่าเพศที่สาม จะสามารถรักษาความรักได้ก็ต่อเมื่อมีเงินไว้เปย์คู่ของตัวเองเท่านั้น หรือไม่ก็ใช้เงินซื้อความสุขทางเพศชั่วครั้งชั่วคราว แต่จะไม่มีวันตามหารักแท้ได้เหมือนชายจริงหญิงแท้ข้อจำกัดทางด้านสิทธิ และการถูกตีกรอบให้มีตัวตนในฐานะประชากรชั้นสอง ทำให้คนที่ถูกจัดประเภทให้เป็นเพศที่สามเข้าใจว่าทางออกเดียวที่พวกเขาจะมีชีวิตที่ดีในสังคมได้ คือ ความพยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับบทบาทของชายจริงหญิงแท้ เช่นในกรณีของ กะเทย สาวประเภทสอง และผู้หญิงข้ามเพศ ความงามถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อรองเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากสังคม (นฤพล ด้วงวิเศษ 2557) ยิ่งสวยเท่าไหร่ ยิ่งเหมือนผู้หญิงมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะได้รับพื้นที่ในสังคมมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาเองจึงพยายามวิ่งหนีจากภาพของ กะเทยควาย ลามก ตลก แต่งตัวขาดๆ เกินๆ ให้ไกลมากที่สุด เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของการเคลื่อนไหวทางการเมืองของบุคคลข้ามเพศ เราคงมองข้ามความพยายามของคุณ ยลลดา สวนยศ และสมาชิกในสมาคมสตรีข้ามเพศแห่งประเทศไทย (ซึ่งภายหลังเป็นสมาคมบุคคลข้ามเพศแห่งประเทศไทย) ที่ทำให้คำว่า ข้ามเพศ เป็นที่รู้จักมากขึ้นในสังคมไทย จุดยืนของคุณยลลดายังชี้ให้เห็นว่านอกเหนือไปจากมุมมองเรื่อง ชายใจหญิง ที่ใช้อธิบายกะเทยในประเทศไทยนั้นยังมีความรู้อื่น คือ gender identity disorder (GID) หรือภาวะความไม่พอใจในเพศตัวเองในการอธิบายการข้ามเพศได้ GID ถูกยกขึ้นมาเป็นฐานในการต่อสู้ทางการเมืองของกลุ่มบุคคลข้ามเพศเพื่อต่อรองกับรัฐและสังคมว่า พวกเขาควรได้รับความช่วยเหลือ เพื่อให้พวกเขาได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกับบุคคลกลุ่มอื่นถึงแม้ว่าการนำเสนอแนวคิดเรื่องการข้ามเพศตามกรอบ GID ในช่วงแรกจะได้รับแรงต่อต้านอย่างมาก เพราะเป็นการยกให้ผู้หญิงข้ามเพศเท่าเทียมกับผู้หญิงซึ่งถือว่าขัดกับมุมมองดั้งเดิมในสังคมไทย แต่ถือได้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเสียงหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าสังคมไทยที่ถูกเชื่อว่า เปิดกว้างและยอมรับคนรักเพศเดียวกันหรือคนข้ามเพศ ไม่ได้เปิดกว้างและให้การยอมรับพวกเขาอย่างที่หลายคนคิด และทำให้กิดการถกเถียง พูดคุย เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของคนไทยที่มีต่อการข้ามเพศอีกครั้ง นอกเหนือไปจากผู้หญิงข้ามเพศ ในปัจจุบันสื่อไทยได้ขยายความสนใจไปถึงผู้ชายข้ามเพศมากขึ้น ถึงแม้ว่ายังคงมีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างทอมกับผู้ชายข้ามเพศได้ แต่สังคมไทยเริ่มมองเห็นการมีตัวตนของพวกเขามากขึ้น เช่นในกรณีล่าสุดของคุณนวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือเกรซ ตัดสินใจที่จะขอใส่ชุดรับปริญญาชาย ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญครั้งหนึ่งที่ดึงความสนใจจากสื่อได้ ทำให้คนในสังคมได้มีโอกาสคิดเกี่ยวกับประเด็นสิทธิในการแต่งตัวให้ตรงกับเพศสภาวะของตนเอง และยังเป็นการเพิ่มความตระหนักของกลุ่มชายข้ามเพศในสังคมไทยมากขึ้นด้วยจากสายตาคนนอก ญี่ปุ่นดูเหมือนเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่แหวกแนวในเรื่องเพศ ตั้งแต่ เซ็กส์ทอย ภาพยนตร์เอวี บาร์โฮสต์ บาร์สำหรับชายแต่งหญิง ไปจนถึงกระแสสาววาย หรือ ร็อคเกอร์ชายแนววิชัวร์ (Visual Style ヴィジュアル系) ที่ทั้งแต่งหน้าและแต่งหญิง อย่างไรก็ตามถ้าถามคนไทยที่ได้มีโอกาสอยู่ในสังคมญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานานจะพบว่า ในความเป็นจริงแล้วสังคมญี่ปุ่นมีระเบียบเคร่งครัด และไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนญี่ปุ่นจะใช้ชีวิตนอกค่านิยมชายจริงหญิงแท้ อันเนื่องมาจากว่าสังคมญี่ปุ่นไม่ได้มีแนวคิดเรื่องตัวตนที่ชัดเจน คนญี่ปุ่นถูกปลูกฝังให้มองตนเองเป็นอณูเล็กๆ ในสังคมมากกว่าที่จะปัจเจกบุคคลที่มีอิสระจากกันและกัน พวกเขาจะมีตัวตนในสังคมได้นั้น ก็ต่อเมื่อเขาสามารถทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากสังคมได้สำเร็จ ความหวาดกลัวหนึ่งของคนญี่ปุ่นคือ การถูกตัดขาดสายสัมพันธ์จากผู้อื่นและการไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม (Kelly 2001 p. 174; McLelland 2005 pp. 5-6; Lebra 2007 p. 111; Wieringa 2007 p. 25) ค่านิยมทางสังคมนี้จึงส่งผลให้ความล้มเหลวส่วนบุคคลเช่น การสอบไม่ติดมหาวิทยาลัยที่ดี การหางานไม่ได้ กลายเป็นปัญหาส่วมรวมที่จะทำลายรากฐานที่มั่นคงของสังคมญี่ปุ่นได้ ด้วยสาเหตุนี้คนญี่ปุ่นจึงต้องแบกรับความคาดหวังของสังคมไว้ที่ตัวเอง ความเครียดดังกล่าวถูกแสดงออกผ่านปัญหาทางสังคมในญี่ปุ่นจำนวนมาก เช่น ฮิคิโคะโมะริ (引きこもり) หรือผู้ที่ปลีกตัวออกจากสังคม อันเนื่องมาจากความละอายที่ตนเองไม่สามารถทำตามความคาดหวังของสังคมได้ (Cassegård 2013 pp. 181-182) ยังไม่รวมถึงอัตราการตายเพราะทำงานหนักเกินไป (คะโรชิ 過労死) หรือ อัตราการฆ่าตัวตายที่สูงอันเนื่องมาจากความล้มเหลวจากการเรียนและการทำงาน รวมไปถึงชนกลุ่มน้อยทางเพศที่ได้รับแรงกดดันจากสังคมรอบข้างให้ทำตามค่านิยมชายจริงหญิงแท้ (Inochi Respect White Ribbon Campaign 2014 p. 12) และเมื่อพวกเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ การฆ่าตัวตายกลายเป็นทางออกเดียวที่พวกเขานึกออกเพื่อหนีจากความเครียดเหล่านั้น เมื่อพูดถึงคนข้ามเพศแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพบกะเทยหรือทอมเดินปะปนกับคนกลุ่มอื่น อย่างที่เราเห็นในสังคมไทยญี่ปุ่นเองมีภาพลักษณ์ของกะเทย หรือ โอะคะมะ (オカマ) และ นิวฮาล์ฟ (ニューハーフ) ไม่ได้แตกต่างจากกะเทยของไทยมากนัก พวกเขาคือผู้ที่ให้ความบันเทิง สร้างเสียงหัวเราะ ความประหลาดใจ และให้ความสุขทางเพศกับลูกค้าบางกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศชอบชายแต่งหญิง หรือ ผู้หญิงมีงู ด้วยสาเหตุนี้กะเทย ทอม ชายแต่งหญิง หญิงแต่งชาย จึงมีอิสระที่จะเป็นตัวของตัวเองได้แค่ในวงการบันเทิงหรือในโลกกลางคืนเท่านั้น โลกของเพศที่สามจึงไม่ต่างจากโลกใต้ดินซึ่งจะครื้นเครงในเวลากลางคืนและเงียบเหงาในเวลากลางวัน กลายเป็นชุมชนที่ถูกแยกออกจากสังคมญี่ปุ่นอย่างชัดเจน และจนถึงทุกวันนี้ความรู้ความเข้าใจของคนญี่ปุ่นที่มีต่อการข้ามเพศนั้นยังถือว่าน้อยมาก อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สังคมญี่ปุ่นเข้าใจว่าการข้ามเพศคือการแสดงเพื่อความบันเทิงนั้นอาจจะต้องมองย้อนไปถึงรากฐานทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเอง ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า เกะ-อิ (芸 - げい) ซึ่งแปลว่า ศิลปะแขนงต่างๆ พ้องเสียงกับคำว่า เกะ-อิ (ゲイ) หรือ เกย์ ที่เป็นคำยืมจากภาษาอังกฤษในการเรียกชายรักชาย (McLelland 2003 p. 208 p. 212) ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งจึงมองว่าการเป็น เกย์ หรือการแต่งหญิง เลียนแบบกิริยาของผู้หญิง เป็นศาสตร์แสดงแขนงหนึ่ง ไม่ต่างจากการแสดงคาบุคิ (歌舞伎) ซึ่งผู้ชายแต่งตัวและแสดงบทบาทของผู้หญิงบนเวทีได้ เช่นเดียวกับการแสดงของคณะละครหญิงล้วนทะคะระซุคะ (宝塚歌劇団) ที่ผู้หญิงจะเล่นบทและแต่งตัวเป็นผู้ชายได้ การข้ามเพศจึงได้รับการยอมรับในฐานะการแสดงเป็นหลัก ในขณะที่ในพื้นที่จริงในสังคมคนข้ามเพศไม่ได้รับสิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่การผ่าตัดแปลงเพศเคยผิดกฏหมายในญี่ปุ่นตั้งแต่ ค.ศ. 1965 (McLelland 2003 p. 208 pp. 212-213) การผ่าตัดแปลงเพศถูกมองว่าเป็นการทำให้ผู้ชายหมดประสิทธิภาพในการสืบพันธุ์โดยไม่จำเป็น และถูกใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสาวประเภทสองหรือทอมที่ทำงานขายบริการทางเพศเท่านั้นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนข้ามเพศญี่ปุ่นได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญในก่อนที่จะเข้า ค.ศ. 2000 แนวคิดเรื่อง GID กระจายไปถึงญี่ปุ่นและทำให้บุคคลข้ามเพศหลายคนได้รับข้อมูลและความรู้ใหม่เกี่ยวกับการข้ามเพศที่แตกต่างจากความรู้ในอดีต ตอนนี้พวกเขารับรู้แล้วว่า พวกเขาไม่ใช่เพศที่สาม ไม่ใช่ชายใจหญิงหรือหญิงใจชาย แต่คือผู้ป่วยที่เกิดมาพร้อม สภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางเพศ (เซโดอิทซึเซ โชไก 性同一性障害) (McDemott 2013 p. 191) เมื่อญี่ปุ่นได้ยอมรับความรู้เกี่ยวกับ GID การผ่าตัดแปลงเพศจึงกลับมาถูกต้องตามกฏหมายอีกครั้งในฐานะขั้นตอนการรักษาให้กับผู้ป่วย GID ญี่ปุ่นจึงเป็นกรณีศึกษาพิเศษที่คนข้ามเพศในญี่ปุ่นยอมรับสถานะตัวเองในฐานะผู้ป่วยหรือผู้มีความผิดปกติ ในขณะที่คนข้ามเพศในประเทศอื่นๆ พยายามอธิบายว่าการข้ามเพศของตัวเองนั้นไม่ใช่ความผิดปกติทางจิต (Nakamura 2012 p. 6 pp. 12-14; McDemott 2013 p. 180) เช่น ในกรณีที่กะเทยและสาวประเภทสองบางส่วนไม่ยอมรับแนวคิดเรื่อง GID ของกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศ ความสำคัญของ GID ในญี่ปุ่นไม่ได้จำกัดอยู่ที่การทำให้การผ่าตัดแปลงเพศกลับมาถูกกฏหมายอีกครั้ง แต่มันยังทำให้คนข้ามเพศในญี่ปุ่นสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนกลุ่มอื่นในสังคมได้ จากการพูดคุยกับนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิในญี่ปุ่นบางส่วนพบว่า สังคมญี่ปุ่นยอมรับ สภาวะความผิดปกติ (โชไก) ได้มากกว่าการรักเพศเดียวกัน จึงทำให้สังคมญี่ปุ่นยอมรับผู้ป่วย GID ได้ดีกว่าชายรักชายหรือหญิงรักหญิง แนวคิด GID ได้สนับสนุนให้คนข้ามเพศบางส่วนสร้างความแตกต่างของพวกเขาจาก เกย์ สาวประเภทสอง และทอมที่ทำงานโลกกลางคืน (Mitsuhashi 2006 p. 202 p. 219; McDermott 2013 pp. 218-219) นอกจากนั้นกลุ่มการเคลื่อนไหวของคนข้ามเพศในญี่ปุ่นที่สนับสนุน GID ประสบความสำเร็จในการให้รัฐยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพศในทะเบียนครอบครัว (โคะเซะคิ 戸籍) ของคนข้ามเพศได้ (Nakamura 2012 p. 6 pp. 12-14; McDermott 2013 p. 180; Amnesty International 2017 p. 5)ถึงแม้พื้นฐานมุมมองต่อการข้ามเพศ และการตอบรับความรู้ใหม่เกี่ยวกับ GID ในไทยและญี่ปุ่นจะแตกต่างกัน การเคลื่อนไหวของคนข้ามเพศที่ต้องการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพให้กับตนเองนั้น ดูเหมือนจะดำเนินไปในทิศทางที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่านักเรียกร้องสิทธิของคนข้ามเพศในไทยและญี่ปุ่นจะอธิบาย GID ว่าเป็นสภาวะทางจิตที่เกิดตามธรรมชาติและน่าจะเกิดขึ้นได้กับประชากรทุกกลุ่ม แต่ดูเหมือนว่าอัตลักษณ์ของคนข้ามเพศจะถูกผูกโยงกับคุณสมบัติบางประการ คือ ความสมัยใหม่ ความเป็นตะวันตก และ ความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ ผมเคยมีโอกาสพูดคุยและสัมภาษณ์สมาชิกจำนวนหนึ่งของสมาคมสตรีข้ามเพศแห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า ผู้หญิงข้ามเพศไม่จำเป็นจะต้องสวยเหมือนผู้หญิงและมีกิริยามารยาทเหมือนผู้หญิงเสมอไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นมองตัวเองว่าเป็นเพศไหน ถ้าหากเขาคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงและรู้สึกกระอักกระอ่วมที่จะต้องใช้ชีวิตในร่างผู้ชาย แต่งตัวเป็นผู้ชาย เขาก็คือผู้หญิงข้ามเพศ เช่นเดียวกับกรณีของผู้ชายข้ามเพศที่แม้จะเกิดในร่างกายผู้หญิงแต่ถ้าหากเขาคิดว่าเขาเป็นผู้ชายมากกว่าที่จะเป็นแค่สาวหล่อ เขาก็คือผู้ชายข้ามเพศ อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับกะเทยและสาวประเภทสองบางส่วนเมื่อปี พ.ศ. 2559 พบว่า อัตลักษณ์ของ ผู้หญิงข้ามเพศ ถูกตีกรอบด้วยความงามบนบรรทัดฐานว่า คนๆนั้นจำเป็นจะต้องสวยเหมือนหญิงแท้ และสามารถใช้ชีวิตไม่แตกต่างจากผู้หญิง ซึ่งกะเทยและสาวประเภทสองบางส่วนเชื่อว่าพวกเขาแตกต่างจากทั้งชายจริงและหญิงแท้ จึงทำให้พวกเขาเชื่อว่า ผู้หญิงข้ามเพศ อธิบายตัวตนของพวกเขาไม่ได้ถึงแม้ว่าผู้หญิงข้ามเพศและผู้ชายข้ามเพศเชื่อว่าตัวตนของพวกเขาเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และปัจจัยทางด้านการศึกษาและเศรษฐกิจไม่ได้กำหนดตัวตนของพวกเขา อัตลักษณ์ของพวกเขาถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ใหม่และไม่คุ้นเคย เพราะคำศัพท์เหล่านี้เติบโตมาพร้อมกับความรู้ทางการแพทย์ จิตวิทยา และสังคมศาสตร์ของตะวันตก แนวคิดเรื่อง GID ให้คำอธิบายเรื่องการข้ามเพศแตกต่างไปจากความเชื่อเดิมๆ อย่างในกรณีของประเทศไทย เรื่องเวรกรรม เพศที่สาม กะเทย หญิงใจชาย ชายใจหญิงเป็นคำอธิบายที่คนไทยคุ้นเคยมาเป็นระยะเวลานานกว่า ด้วยความไม่คุ้นเคยนี้ทำให้คำว่า คนข้ามเพศ ถูกจำกัดในวงการของวิชาการและการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งโดยส่วนมากคือผู้ที่ได้รับโอกาสที่ดีทางการศึกษาหรือสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ จากตะวันตกได้ ข้อจำกัดในการเข้าถึงสังคมในวงกว้างของอัตลักษณ์ใหม่ทำให้เกิดคำถามว่า ถ้าไม่ใช่ชนชั้นกลาง ถ้าการศึกษาไม่สูง ถ้าไม่ได้ทำงานในวงการเฉพาะทางเกี่ยวกับ queer แล้ว คนๆนั้นจะเป็น หญิงข้ามเพศ หรือ ชายข้ามเพศ ได้หรือไม่? ผมเชื่อว่าผู้หญิงข้ามเพศและผู้ชายข้ามเพศยังประสบอุปสรรคอยู่มาก ที่จะให้คนในสังคมไทยทั้งชายจริงหญิงแท้และเพศที่สามยอมรับคำอธิบายใหม่เกี่ยวกับการข้ามเพศว่าเป็นเรื่องทั่วๆไป ส่วนหนึ่งเพราะข้อจำกัดทางการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเพศสภาวะในไทย ซึ่งทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับการข้ามเพศของไทยอาศัยสื่อกระแสหลักมากกว่า โดยที่สื่อกระแสหลักเองก็ไม่ได้เป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการข้ามเพศที่มีประสิทธิภาพเสมอไปในกรณีของญี่ปุ่น ความแตกต่างระหว่าง กะเทย ทอม และคนข้ามเพศนั้นมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้คนที่ผ่าตัดแปลงเพศอย่างสมบูรณ์เท่านั้นได้รับสิทธิในการเปลี่ยนเพศตนเองในทะเบียนครอบครัว และสามารถใช้ชีวิตตรงตามเพศของตนเองได้ นั่นหมายความว่าสิทธิทางกฏหมายนี้ไม่ได้กระจายไปสู่ผู้ที่มองว่าตัวเองว่าเป็น เพศที่สาม เช่น นิวฮาล์ฟ (ครึ่งชายครึ่งหญิง) ไม่ใช่ทั้งชายและหญิงอย่างเอ็กซ์เจนเดอร์ (x-gender) ในเวลาเดียวกันการใช้ชีวิตในฐานะคนข้ามเพศในญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์จึงต้องอาศัยเงินจำนวนมหาศาลเพื่อทำให้การแปลงเพศสมบูรณ์ก่อนที่จะสามารถเปลี่ยนเพศของตนเองตามกฏหมายได้ ในบางกรณีคนข้ามเพศในประเทศญี่ปุ่นต้องเดินทางมาทำการผ่าตัดแปลงเพศในประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งถือว่ามีเทคโนโลยีการผ่าตัดแปลงเพศที่พัฒนาและค่าใช้จ่ายไม่สูงจนเกินไป อย่างไรก็ตามการเดินทางเพื่อมาผ่าตัดแปลงเพศก็อาศัยค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าการเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายให้กับเอเจนซี่ที่ดูแลติดต่อเรื่องการเดินทาง (Yuen 2017) ดังนั้นอัตลักษณ์ของคนข้ามเพศ (transgender - トランスジェンダー) จึงถูกผูกโยงกับความสามารถทางเศรษฐกิจในการเข้าถึงเทคโนโลยีในการผ่าตัดแปลงเพศ การรักษาด้วยฮอร์โมน และองค์ความรู้ทางการแพทย์จากตะวันตกที่แตกต่างไปจากความเข้าใจเกี่ยวกับการข้ามเพศเดิมๆ ในประเทศญี่ปุ่นถ้าหากวิเคราะห์ในเชิงสังคมศาสตร์ วิวัฒนาการของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของความรู้เกี่ยวกับการข้ามเพศ ส่งผลให้อัตลักษณ์ทางเพศนั้นมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตไปตามบริบทสังคมในช่วงเวลาต่างๆ ทั้งในกรณีของไทยและญี่ปุ่นก่อนที่ทั้งสองประเทศจะได้รับความรู้เกี่ยวกับ GID การข้ามเพศคือการข้ามจากเพศชายและหญิงไปสู่เพศที่สามซึ่งไม่สามารถเป็นทั้งชายและหญิงได้ ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 2000 เป็นต้นไป การข้ามเพศถูกแสดงออกมาในสองมิติคือ 1) จากชายเป็นหญิง หรือจากหญิงเป็นชาย และ 2) จากเพศที่สามสู่ชายจริงหญิงแท้ ปฏิเสธไม่ได้วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีขยายขอบเขตการจินตนาการของเรามากขึ้น และทำให้เราค่อยๆ เห็นว่าในปัจจุบันการข้ามเพศจากเพศหนึ่งไปอีกเพศหนึ่งนั้นมีความเป็นไปได้ ดังนั้นสิทธิเสรีภาพสำหรับบุคคลที่ข้ามเพศไปแล้วจึงเป็นประเด็นที่มีความสำคัญมากขึ้น ด้านหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวทางด้านสิทธิของคนข้ามเพศในไทยและญี่ปุ่นมุ่งหวังให้คนข้ามเพศมีความแตกต่างจากประชากรส่วนใหญ่น้อยลง ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะเพิ่มความเท่าเทียมในสังคม อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งการที่คนข้ามเพศค่อยๆ ปรับตัวเองให้อยู่ในสังคมชายจริงหญิงแท้อย่างเต็มตัว และค่อยๆ ตีตัวออกห่างจากกลุ่มเพศที่สาม ความกำกวมทางเพศ อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าท้ายที่สุด ไม่ว่าเราจะเกิดมาในร่างใด หรือเราจะตัดสินใจที่จะข้ามไปอีกเพศหรือไม่ เราไม่สามารถเป็นอิสระจากกรอบค่านิยมชายจริงหญิงแท้ได้Amnesty International (2017). Human Rights Law and Discrimination Against LGBT People in Japan. Retrieved from https://www.amnesty.org/download/DocumentsASA2259552017ENGLISH.PDFCassegård C. (2013). Youth Movements Trauma and Alternative Space in Contemporary Japan. Brill.Inochi Respect White Ribbon Campaign. (2014). LGBTの学校生活に関する実態調 査 (2013) 結果報告書. Inochi Respect White Ribbon Campaign. Retrieved from http://endomameta.com/schoolreport.pdf.Jackson P.A. (1997). Thai Research on Male Homosexuality and Transgenderism and the Cultural Limits of Foucaultian Analysis. Journal of the History of Sexuality 8(1) 52-85.Jackson P. A. (2011). Capitalism LGBT Activism and Queer Autonomy in Thailand In P. A. Jackson (Ed.) Queer Bangkok - 21st Century Markets Media and Rights. (pp. 195-204). Hong Kong: Hong Kong University Press.Kelly V. E. (2001). Peer Culture and Interaction - How Japanese Children Express Their Internalization of the Cultural Norms of Group Life (Shudan Seikatsu). In H. Shimizu & R. A. LeVine (Eds.) Japanese Frames of Mind - Cultural Perspectives on Human Development. (pp. 170-201). Cambridge University Press.Lebra T. (2007). Identity Gender and Status in Japan. Global Oriental.McDermott N. (2013). Resistance and Assimilation - Medical and Legal Transgender Identities in Japan. In B. Steger & A. Koch (Eds.) Manga Girl Seeks Herbivore Boy: Studying Japanese Gender at Cambridge. (pp. 179-226). LIT Verlag Münster.McLelland M. J. (2003). Living More Like Oneself Journal of Bisexuality. 3(3/4) 203-230.McLelland M. J. (2005). Salarymen Doing Queer: Gay Men and the Heterosexual Public Sphere in Japan. In M. J. McLelland & R. Dagupta (Eds.) Genders Transgenders and Sexualities in Japan. (pp. 96-110). Routledge.Mitsuhashi J. (2006). The Transgender World in Contemporary Japan: the Male to Female Cross-dressers Community in Shinjuku (K. Hasegawa Trans.). Inter-Asia Cultural Studies. 7(2) 202-227.Nakamura K. (2012). Trans/Disability Queer Sexualities and Transsexuality from a Comparative Ethnographic Perspective. Retrieved from http://www.p.u-tokyo.ac.jp/cbfe/activity/doc/05_doc1_20120119.pdfSinnott M. (2012). Korean-Pop Tom Gay Kings Les Queens and the Capitalist Transformation of Sex/Gender Categories in Thailand. Asian Studies Review 36(4) 453-474.UNDP & USAID (2014). Being LGBT in Asia: Thailand Country Report. Bangkok. Retrieved from https://www.usaid.gov/sites/default/files/documents/1861/ Being_LGBT_in_Asia_Thailand_Country_Report.pdfÜnaldi S. (2011). Back In the Spotlight - The Cinematic Regime of Representation of Kathoeys and Gay Men In Thailand. In P. A. Jackson (Ed.) Queer Bangkok - 21st Century Markets Media and Rights. (pp. 59-80). Hong Kong: Hong Kong University Press.Wieringa S. E. (2007). Silence Sin and the System: Womens Same-Sex Practices in Japan. In S. E. Wieringa E. Blackwood & A. Bhaiya (Eds.) Womens Sexualities and Masculinities in Globalizing Asia. (pp. 23-45). New York: Palgrave Macmillan.Winter S. (2011). Transpeople (Khon kham-phet) in Thailand - Transprejudice Exclusion and the Presumption of Mental Illness. In P. A. Jackson (Ed.) Queer Bangkok - 21st Century Markets Media and Rights. (pp. 251-267). Hong Kong: Hong Kong University Press.Yuen S. M. (2017 July). Politics of Trans Mobility - Japanese Female-to-Male Transgender Medical Travellers in Thailand. Paper presented at the Inter-Asia Cultural Studies Conference 2017 Sungkonghoe University Seoul.นิติ ชัยชิตาทร. (2558 กันยายน 2). โปรดเรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง [ไฟล์วิดีโอ]. จาก https://www.youtube.com/watch?v=48A9SU6_bQ8นฤพล ด้วงวิเศษ. (2557). วิพากษ์ ความเป็นหญิง ของหญิงในร่างชาย. จาก http://www.sac.or.th/main/content_detail.php?content_id=782. นรุตม์ ศุภวรรธนะกุล เป็นนักศึกษาปริญญาเอก จาก University of Auckland ปัจจุบันกำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเพศวิถี วัฒนธรรม ความหลากหลายในสังคมผู้มีความหลากหลายทางเพศในไทยและญี่ปุ่น | เพศที่สาม ถือว่าเป็นคำที่คนไทยแทบทุกคนคุ้นเคย และอาจใช้กันโดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน เพื่ออธิบายคนกลุ่มหนึ่งที่แตกต่างจากชายจริงหญิงแท้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเพศที่สามในสังคมไทย | สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,สังคม | การข้ามเพศ,ชายจริงหญิงแท้,นรุตม์ ศุภวรรธนะกุล,เพศที่สาม,เพศวิถี | https://prachatai.com/journal/2018/01/74868 | [
0,
259,
116652,
4682,
107451,
138729,
3755,
12976,
6582,
170869,
1549,
60227,
259,
76809,
122657,
170869,
259,
184599,
76935,
12593
] |
ทุ่มงบกลางปี 1.9 แสนล้าน คลังเทหมดหน้าตักกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้า | ครม.เห็นชอบจัดทำงบประมาณกลางปี 2560 พุ่งแตะ 190,000 ล้านบาท มาจากการกู้เงินชดเชยขาดดุล 162,921 ล้านบาท ภาษีและรายได้อีก 27,078 ล้านบาท เพื่อให้กลุ่มจังหวัดใช้พัฒนาเศรษฐกิจภายใน 100,000 ล้านบาท และกองทุนหมู่บ้านกว่า 60,000 ล้านบาท ส่วนช็อปช่วยชาติรอเข้า ครม.สัปดาห์หน้า,นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2560 จำนวน 190,000 ล้านบาท โดยมีแหล่งที่มาจากภาษีและรายได้อื่น 27,078.30 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 162,921.69 ล้านบาท เพื่อให้มีงบประมาณรายจ่ายดำเนินการตามนโยบายที่จะสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง ส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมศักยภาพและเพื่อรักษาวินัยทางการคลังในการตั้งรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง,ทั้งนี้ กรอบวงเงินสูงสุดที่รัฐบาลกู้ได้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 จะมีจำนวนรวม 611,549.4 ล้านบาท แต่ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายขาดดุล 390,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงยังมีวงเงินกู้ที่สามารถกู้เพิ่มเติมเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณอีก 221,549.4 ล้านบาท สำหรับการตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังครั้งนี้ กระทรวงการคลังแจ้งว่า แหล่งที่มาของรายได้สำหรับชดใช้เงินคงคลังจะมาจากรายได้สภาพคล่องส่วนเกิน และกำไรสะสมของรัฐวิสาหกิจและส่วนราชการอื่น,งบประมาณที่จัดทำเพิ่มเติมจะนำไปสู่การปฏิรูปการจัดทำงบประมาณในรูปแบบกลุ่มจังหวัด และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จากเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลและแนวทางของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นงบวาย (Y) ตามสูตรการบริหารงบ XYZ ของ นายสมคิด โดยวงเงิน 190,000 ล้านบาทซึ่งเป็นงบ Y นี้ จะนำไปใช้ใน 3 ส่วนคือ การใช้จ่ายในโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดวงเงิน 100,000 ล้านบาท งบ ประมาณที่จัดสรรให้กับกองทุนหมู่บ้านหมู่บ้านละ 500,000 บาท รวมวงเงินประมาณกว่า 60,000 ล้านบาท และวงเงินเพื่อชดเชยเงินคงคลังของรายจ่ายงบประมาณในปีที่ผ่านมา 27,078.3 ล้านบาท,นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบในหลัก การให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการตามแนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการที่มีความสำคัญในการกลั่นกรองการจัดทำงบประมาณและโครงการสำหรับการลงทุนในกลุ่มจังหวัดทั้ง 18 จังหวัด โดยผู้แทนประกอบไปด้วยสำนักงบประมาณ ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตัวแทนจากภาคเอกชนที่เป็นตัวแทนของคณะ กรรมการร่วมรัฐและเอกชน (กรอ.) รวมทั้งตัวแทนจากภาคประชาชน,โดยคณะกรรมการชุดนี้ทำหน้าที่การกลั่นกรองโครงการต่างๆที่กลุ่มจังหวัดมีการเสนอเข้ามาภายในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอโครงการที่จะมีการทำการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) ร่วมกัน จากนั้นคณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะพิจารณาโครงการต่างๆให้แล้วเสร็จภายใน 5-7 วัน และนำเสนอ ครม.ภายในวันที่ 17 ม.ค.2560 และภายหลังจาก ครม.เห็นชอบจะได้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมปี 2560 มีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ.ปีหน้า,การจัดทำงบประมาณกลางปี เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนในครั้งนี้ การพิจารณาโครงการต่างๆ จะมีการพิจารณาได้รวดเร็วเนื่องจากในการคัดเลือกและเสนอโครงการคณะกรรมการกลั่นกรองจะลงไปทำงานกับกลุ่มจังหวัดตั้งแต่ในขั้นตอนคัดเลือกโครงการเพื่อเสนอมาให้สำนักงบประมาณพิจารณา,นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวหลังประชุม ครม.ว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้เสนอมาตรการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท หรือโครงการช็อปช่วยชาติที่จะนำมาใช้ระหว่างวันที่ 15-31 ธ.ค.นี้ เนื่องจากยังมีเวลาที่จะเสนอในสัปดาห์หน้าได้ เพราะตามหลักการของมาตรการที่เกี่ยวข้องกับภาษี หากอนุมัติแล้วจะต้องมีผลในทางปฏิบัติทันที เพราะถ้ามาตรการออกมาก่อน และยังไม่มีผลบังคับใช้ อาจส่งผลให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายในช่วงนี้ได้. | ครม.เห็นชอบจัดทำงบประมาณกลางปี 2560 พุ่งแตะ 190,000 ล้านบาท มาจาก การกู้เงินชดเชยขาดดุล 162,921 ล้านบาท ภาษีและรายได้อีก 27,078 ล้านบาท | สำนักงบประมาณ,งบประมาณรายจ่าย,กระทรวงการคลัง,ช็อปช่วยชาติ,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ | https://www.thairath.co.th/content/804957 | [
0,
259,
128181,
3755,
200753,
259,
33523,
43408,
3755,
169394,
151861,
49012,
59570,
12005,
12682,
6088,
12066,
15319,
65781,
200753
] |
|
ชัยชนะของแรงงานประชาธิปไตยเกาหลีใต้ในการขับไล่ประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ | และแล้วความเคลื่อนไหวของขบวนการภาคประชาชนก็มาถึงจุดขับไล่ประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ (Park Geun-hye) ลงจากตำแหน่ง รวมทั้งรัฐบาลของเธอ จำนวนผู้ประท้วงราว 1 ล้านคนบนท้องถนนถือได้ว่ามากที่สุดในรอบ 70 ปี โดยขบวนการที่มีบทบาทหลักเริ่มเรียกร้อง คือ ขบวนการแรงงาน นำโดยสมาพันธ์แรงงานเกาหลี (Korean Confederation of Trade Union-KCTU) ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2559 ตามมาด้วยนักศึกษา ชาวนา กลุ่มฝ่ายซ้ายต่างๆ รวมทั้งพลเมืองปัจเจก เข้าร่วมจุดเทียนซึ่งเป็นประเพณีประท้วงร่วมกัน และขยายเป็นครึ่งล้านในวันที่ 26 พ.ย. 59 ที่หน้าศาลากลางจังหวัด จนล่าสุดมีการนัดหยุดงานของสมาชิก KCTU กว่า 2 แสนคนในวันที่ 30 พ.ย.59 ส่งผลให้คะแนนนิยมของประธานาธิบดีลดลงเหลือ 4% กระนั้นก็ไม่มีการประกาศลาออกจากตำแหน่ง ท้ายสุดรัฐสภาได้ลงมติถอดถอนประธานาธิบดี (Impeachment vote) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.59 ฐานมีส่วนพัวพันกรณีเพื่อนสนิทเรียกรับเงินและผลประโยชน์ และให้นายกรัฐมนตรีรักษาการแทนเป็นเวลา 4 ปีที่รัฐบาลของประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ พยายามจะผลักดันการปฏิรูประบบการจ้างแรงงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น นายจ้างไล่ลูกจ้างออกง่ายขึ้น แต่ตอนนี้ถึงตาเราแล้วที่จะไล่คุณออก นักศึกษามหาวิทยาลัยกล่าวกับกลุ่มสมานฉันท์แรงงาน มี 2 ปัจจัย คือ 1) ความไม่พอใจของประชาชน และ 2) ความแตกแยกภายในชนชั้นนำความไม่พอใจของขบวนการแรงงาน กลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายต่างๆ มาจากการใช้แนวทางอนุรักษ์นิยม เสรีนิยมใหม่ในการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางของชนชั้นนำ (ฝ่ายขวา)ปาร์ก กึน-เฮ มาจากพรรคเซนูริ (พรรคพรมแดนใหม่ ซึ่งแยกตัวจากพรรคแกรนด์เนชั่นแนล) ลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีปาร์ก จุง ฮี (Park Chung-hee) ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในเดือน ก.พ.56 ภายใต้บริบทของการรื้อฟื้นประคับประคองเศรษฐกิจจากวิกฤตทุนนิยม ซึ่งเศรษฐกิจของเกาหลีซบเซาอันเนื่องจากวิกฤตการเงินโลกที่นำไปสู่การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจการเมืองมากขึ้น รวมถึงภาวะความตึงเครียดของจักรวรรดินิยมในเอเชียแปซิฟิก ความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ด้วยลักษณะเร่งด่วน ชนชั้นปกครองเกาหลีใต้จึงมีฉันทามติร่วมกันว่า รัฐบาลฝ่ายขวาต้องปกป้องผลประโยชน์และถ่ายโอนวิกฤตไปยังชนชั้นแรงงานให้แบกรับแทน สนับสนุนปาร์ก กึน-เฮขึ้นเป็นประธานาธิบดี เมื่อประธานาธิบดีขึ้นสู่อำนาจ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเสรีนิยมใหม่ ภายใต้คำขวัญ มหัศจรรย์บนฝั่งแม่นํ้าฮันครั้งที่สอง ซึ่งพัฒนานโยบายมาจากประธานาธิบดีคนก่อนคือ นายลี เมียง บัก จากพรรคแกรนด์เนชั่นแนล นั่นคือ การแปรรูปกิจการของรัฐ เช่น รถไฟ โรงพยาบาล น้ำ และให้สัญญาว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และเพิ่มสวัสดิการนโยบายเสรีนิยมใหม่ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายทุนแชโบล สื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม หน่วยงานราชการ เช่น หน่วยข่าวกรอง ตำรวจ อัยการ โดยต่างคาดหวังว่าเธอจะเป็นดั่งอดีตนายกรัฐมนตรีมากาเร็ต แธ็ชเชอร์แห่งสหราชอาณาจักร รัฐบาลของปาร์ก กึน-เฮ มาจากกลุ่มนายทุน สื่อใหญ่ ผู้นำทหาร และข้าราชการระดับสูง การผลักดันเศรษฐกิจจึงเอื้อให้แก่นายทุนมากกว่าแรงงาน ขณะที่โครงการที่จะพัฒนาสวัสดิการ ก็ไม่เกิดขึ้นจริง เพราะเจอปัญหาขาดแคลนงบประมาณ ต้องใช้เงินมาก แต่รัฐบาลไม่ต้องการเก็บภาษีรายได้นิติบุคคลจากคนรวยเพิ่มแต่อย่างใด โดยอ้างว่าต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีประธานาธิบดีได้มีนโยบายปฏิรูปประเทศ หลังจากที่เสื่อมความนิยมจากโศกนาฏกรรมเรือเซวอล ล่ม (Sewol Ferry) ที่ไม่สามารถจับกุมใครได้ แต่การปฏิรูปของเธอกลับเอาคนที่เคยมีประวัติคอรัปชั่นเข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาล กำหนดแผนแปรรูปกิจการของรัฐ ลดสวัสดิการของประชาชน เพื่อแสวงหากำไร และยังสนับสนุนพระราชบัญญัติความมั่นคงแห่งชาติอย่างมากเพื่อเป็นเครื่องมือในการรื้อฟื้นเศรษฐกิจ เนื่องจากถูกนำไปใช้ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของขบวนการแรงงานวิกฤตปัจจุบันทำให้เห็นธาตุแท้ของประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ ดังเห็นได้จากการต่อสู้ของประชาชนที่โดดเด่น ดังนี้1. การนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานรถไฟ (Korean Railway WorkersUnion –KRWU) เป็นเวลา 21 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-30 ธันวาคม 2556 สมาชิกจำนวน 15000 คนหรือ 45% ของพนักงานทั้งหมดเข้าร่วมหยุดงาน ซึ่งถือว่าเป็นการต่อสู้ที่สำคัญและแหลมคม เพราะสามารถท้าทายการบริหารงานของประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮได้ เนื่องจากรัฐบาลมีแผนเบื้องต้นที่จะขายกิจการรถไฟความเร็วสูง (Korail) ให้แก่เอกชน ซึ่งเคยริเริ่มในสมัยประธานาธิบดีลี เมียง บัค แต่ไม่สำเร็จ การแปรรูปนี้อยู่ในแผนที่เรียกว่า การปฏิรูป กิจการภาครัฐของประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ แต่ทว่า นอกจากจะถูกสหภาพแรงงานต่อต้านแล้ว ยังมีองค์กรประชาชนหนุนช่วย 900 แห่ง ร่วมกันรณรงค์นับปี ด้วยการล่ารายชื่อถึงกว่า 1 ล้านชื่อ ซึ่งนับเป็นชัยชนะเล็กๆการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์นี้ยังไม่ถือว่าได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด เพราะรัฐบาลยังไม่ล้มเลิกเพียงแต่หยุดชั่วขณะ การนัดหยุดงานและแรงสนับสนุนจากภาคประชาชนทำให้คะแนนเสียงของประธานาธิบดีลดลง เธอสร้างความไม่พอใจยิ่งขึ้น เมื่อสั่งให้ตำรวจบุกสำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์แรงงานเกาหลี เพื่อตามจับกุมแกนนำสหภาพแรงงานรถไฟ KCTU จึงประกาศนัดหยุดงานทั่วไปในวันที่ 28 ธ.ค. 56 และกลายเป็นการชุมนุมใหญ่ของสมาชิกกว่า 1 แสนคนรวมนักกิจกรรมผู้สนับสนุนด้วยปัจจุบันสหภาพแรงงานรถไฟยังคงรณรงค์เรื่องความปลอดภัย (Safe than money) ต่อต้านการแปรรูปรถไฟให้เป็นของเอกชน คำขวัญ Achieve the real safety ความปลอดภัยคือเป้าหมายของการให้บริการสาธารณะ2. โศกนาฏกรรมเรือเซวอลล่ม กรณีที่ก่อให้เกิดการสูญเสียคะแนนนิยม ส่งผลสะเทือนต่อที่นั่งของประธานาธิบดีมากที่สุด คือ มหันตภัยเรือแฟรี่เซวอลล่มเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 16 เม.ย.2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา เธอไม่ยอมปรากฎตัวหลังเกิดเหตุการณ์ถึง 7 ชั่วโมงในขณะที่ประชาชนเฝ้าดูเรือจมทางทีวีด้วยความกลัวและความเศร้าสลด แม้นายกรัฐมนตรีจะลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ช่วยให้เรื่องคลี่คลาย เพราะรัฐบาลยังปกปิดความจริง ดำเนินการสอบสวนสาเหตุช้า จนถึงบัดนี้ ครอบครัวของเหยื่อยังคงออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมอยู่3. การนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานโรงพยาบาลและการแพทย์ (KHMU) มีสมาชิกทั้งหมด 44000 คน มีสาขาจำนวน 150 สาขาทั่วประเทศ ในภูมิภาคต่างๆ 11 ภูมิภาค สมาชิกส่วนใหญ่เป็นพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และนักเทคนิคการแพทย์ ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีปาร์กประกาศแผนส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการบริการ เมื่อเดือนธ.ค. 56 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดทอนความรับผิดชอบของรัฐบาลและขับเคลื่อนการแปรรูปสาธารณสุข โดยยกเลิกกฎระเบียบต่างๆ ที่ไปจำกัดการหากำไรและการบริการเพื่อการค้า เพื่อทำให้การบริการทางการแพทย์นี้ทำกำไรมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชน แต่สร้างความมั่งคั่งให้แก่กลุ่มธุรกิจแชโบล (chaebols)สหภาพแรงงานจึงรณรงค์ Life before money ชีวิตคนมาก่อนเงิน ต่อต้านการแปรรูปให้เป็นของเอกชน สร้างระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการในราคาถูกและมีคุณภาพ คือ รัฐต้องลงทุนการบริการทางการแพทย์เพิ่ม ด้วยการเก็บภาษีจากคนรวย เพิ่มกำลังแรงงานเพราะจำนวนจำกัด ทำให้ต้องทำงานหนักเกินไป พร้อมกับรัฐต้องเพิ่มจำนวนสถานพยาบาลที่มีราคาถูก แม้จะมีกองทุนประกันสุขภาพ แต่ประชาชนต้องร่วมจ่าย 38% สหภาพแรงงานจึงเริ่มนัดหยุดงานครั้งแรกในวันที่ 24-30 มิถุนายน 2557 เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และครั้งที่สองในวันที่ 22 กรกฎาคม ทั้งนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากสหภาพแรงงานรถไฟด้วย4. สมาชิกสมาพันธ์แรงงานเกาหลีนัดหยุดงานทั่วไปในวันที่ 24 เม.ย.58 เพื่อคัดค้านนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะทำลายสภาพการจ้างงานและความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานทุกคน และมีข้อเรียกร้อง ดังนี้1) ยกเลิกแผนปฏิรูปตลาดแรงงานที่ล้าหลัง ใช้รูปแบบการจ้างงานชั่วคราวอย่างแพร่หลาย2) หยุดการตัดบำนาญของลูกจ้างรัฐ และปฏิรูประบบบำนาญแห่งชาติ3) เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 10000 วอนต่อชั่วโมง (ประมาณ 300 บาท/ช.ม. ในปี 58 ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 5580 วอนต่อชั่วโมง)4) สิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานบังคับใช้กับแรงงานทุกคน ทั้งนี้แรงงานในสถานที่ทำงานที่จ้างคนงานน้อยกว่า 5 คน มีอยู่ 3480000 คน หรือเท่ากับ 19.15% ของประชากรแรงงานทั้งหมด แต่ พ.ร.บ.มาตรฐานแรงงานยังไม่ครอบคลุมคนเหล่านี้ รวมถึงคนงานไม่ประจำ คนงานที่จ้างงานแฝงหรือจ้างงานทางอ้อม ไม่มีสิทธิที่จะจัดตั้งและเจรจาต่อรองกับนายจ้างคนงานเริ่มชุมนุมในเมืองต่างๆ 20 แห่งในวันดังกล่าว และในวันแรงงานสากล 2558 (May Day) คนงาน 1 แสนคนมารวมตัวกันที่กรุงโซลทั้งนี้ เกาหลีติดอันดับสี่ของความไม่เท่าเทียมของรายได้ในกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เนื่องจากอัตราการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริงได้ลดต่ำลง 6 ไตรมาส (อัตราการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริงเคยอยู่ที่ 3.4% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 และ 0.08% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2557) จำนวนคนตกงาน 4456000 คนหรือเท่ากับ 15.8% นั่นคือ อัตราความยากจนของคนวัยสูงอายุเท่ากับ 48% ซึ่งหมายถึง 1 ใน 2 ของคนอายุ 65 ปีขึ้นไปอยู่ในภาวะยากจน และมากกว่า 50% ของประชากรวัยทำงานทั้งหมดอยู่ในสภาพการทำงานที่ไม่มั่นคง ได้รับค่าจ้างครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยค่าจ้าง และไม่มีสิทธิได้รับประกันสังคมมีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ระหว่างลูกจ้างประจำและลูกจ้างไม่ประจำ คือ เงินเดือนโดยเฉลี่ยของลูกจ้างประจำสูงขึ้น 47% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จาก 1.9 ล้านวอน (57869.28 บาท) เป็น 2.79 ล้านวอน (84976.47 บาท) ในขณะที่ ค่าจ้างรายเดือนโดยเฉลี่ยของลูกจ้างไม่ประจำสูงขึ้นเพียง 25% (ราว 1.5 ล้านวอน หรือ 45686.27 บาทของปี 2559) (1000 วอนประมาณ 30.5 บาท ของปี 59)อีกทั้ง สิทธิในการนัดหยุดงานได้รับประกันจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ในทางปฏิบัติ ในแง่เป้าหมาย วิธีการ กระบวนการและผู้ที่จะนัดหยุดงานถูกกำหนดขีดเส้นมากเกินไป จึงเป็นไปได้ยากที่คนงานจะนัดหยุดงานถูกต้องตามกฎหมาย เราจึงเห็นกรณีผู้นำแรงงานและสมาชิกถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ถูกคุมขังและถูกเลิกจ้าง5. กรณีการประท้วงของขบวนการชาวนาเมื่อ 14 พ.ย.58 มีการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วง (ประท้วงนโยบายการนำเข้าข้าว และขอให้รัฐบาลแทรกแซงราคาข้าวที่กำลังตกต่ำ เนื่องจากข้าวผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก) ซึ่งยิ่งทำให้สถานการณ์เสื่อมทรามลง เมื่อเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่อย่างแรงจนทำให้นักกิจกรรมชาวนาอายุ 69 ปีหมดสติและเสียชีวิตในเดือน ก.ย.59 แต่รัฐบาลไม่รับผิดชอบใดๆ แม้แต่คำขอโทษจุดที่ประชาชนทนไม่ไหวเห็นได้จากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือน เม.ย.59 พรรคเซนูริ (พรรคพรมแดนใหม่) ของประธานาธิบดีปาร์กเสียที่นั่ง 30 ที่นั่งและฝ่ายค้านได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร กับการนัดหยุดงานของคนงานอู่ต่อเรือต่อต้านนโยบายปรับโครงสร้างของอุตสาหกรรมนี้ รวมทั้ง พนักงานภาครัฐต่อต้านการนำระบบจ่ายค่าจ้างตามผลการปฏิบัติงาน (performance-based wage system) มาใช้ จนนำไปสู่การนัดหยุดงานทั่วไปของสมาชิก KCTU ในวันที่ 30 พ.ย.59 ที่ผ่านมาบริบททางเศรษฐกิจการเมืองปัจจุบันของเกาหลี กำลังเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกที่ผ่านมา ล่าสุดการล้มละลายของบริษัท Hanjin Shipping ในอุตสาหกรรมต่อเรือซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นหลักของเศรษฐกิจเกาหลีแต่กำลังอ่อนแอ ทำให้กลุ่มก้อนชนชั้นนายทุนไม่พอใจการบริหารงานของประธานาธิบดี หนังสือพิมพ์แนวอนุรักษ์นิยมสุดขั้วที่ทรงอิทธิพลในเกาหลีคือ Chosun Ilbo ได้ติเตียนการทำงานของรัฐบาลประธานาธิบดี จนทำให้ประธานาธิบดีไม่พอใจ สอบสวนหัวหน้าบรรณาธิการข้อหาล็อบบี้บริษัทต่อเรืออย่างผิดกฎหมาย ความขัดแย้งนี้นำไปสู่คะแนนความนิยมตกต่ำประธานาธิบดีถูกอัยการฟ้องร้องก่อนหน้าด้วยข้อหาใช้อำนาจในทางที่ผิด เอื้อประโยชน์ให้แก่เพื่อนสนิทชื่อ ชัว ซุน-ซิล (Choi Soon-sil) ที่ไม่มีตำแหน่งทางการ แต่ให้คำปรึกษาด้านต่างๆ เช่น การนัดหมายรัฐมนตรี ไปจนถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น สีเสื้อผ้าที่ควรหลีกเลี่ยง และยังปล่อยให้เพื่อนสนิทอ้างอำนาจของตัวเองบังคับให้บริษัทใหญ่ 50 แห่ง เช่น LG Sumsung Hyundai บริจาคเงินให้แก่มูลนิธิ 2 แห่ง คือ The Mir and K Sport Foundations จำนวน 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมวัฒนธรรมเกาหลีและกีฬา การที่เพื่อนสนิทมีอิทธิพลต่อประธานาธิบดี เนื่องจากเป็นลูกสาวของเจ้าลัทธิทรงเจ้า (Shamanistic religious) คือ ชัว แต-มิน ที่เคยให้คำปรึกษาแก่ประธานาธิบดีมาก่อนจนกระทั่งเสียชีวิต นอกจากนี้ เลขานุการประจำที่ทำการของประธานาธิบดี หรือ Blue House ซึ่งเทียบเท่า White House ของสหรัฐอเมริกา และรัฐมนตรีบางคนคอยช่วยเหลือมูลนิธิของชัว ซุน-ซิลและพวกด้วยวิธีพิเศษผลประโยชน์ทางชนชั้นระหว่างชนชั้นนำกับชนชั้นแรงงานไม่สามารถไปด้วยกันได้ และจะปรากฏความขัดแย้งอย่างแหลมคมในช่วงวิกฤต ที่ฝ่ายรัฐและทุนใช้แนวทางเสรีนิยมใหม่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยปฏิรูปโครงสร้างแรงงาน ซึ่งไปลิดรอนผลประโยชน์ของแรงงาน ทำลายสวัสดิการสังคม และใช้อำนาจในทางที่ผิด เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องของตัวเอง ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นสิ่งที่ประชาชนยอมรับไม่ได้ รวมทั้ง ต้นทุนเดิมคือการเป็นลูกสาวของจอมเผด็จการ ปาร์ก จุง ฮี จึงไม่สามารถเป็นที่ไว้วางใจของขบวนการแรงงาน ขบวนการประชาธิปไตย ซึ่งมีประวัติศาสตร์การต่อสู้กับเผด็จการทหารมายาวนาน แม้จะได้น.ส.ปาร์ก กึน-เฮ มาเป็นประธานาธิบดี แต่ไม่ได้หมายความว่าประเทศจะถอยหลังไปสู่ระบอบอำนาจนิยมเสียทีเดียว เพราะยังมีขบวนการแรงงานและพรรคการเมืองของแรงงานที่เป็นผลผลิตของยุคสมัย 1987 คอยเป็นพลังคานอำนาจอยู่โปรดติดตามการต่อสู้ของขบวนการแรงงาน ขบวนการประชาธิปไตยเกาหลีใต้จนกว่าพวกเขาจะบรรลุข้อเรียกร้อง เพื่อเป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่อปลดแอกจากการปกครองระบอบเผด็จการ/อำนาจนิยม และเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงความล้มเหลวของการบริหารประเทศด้วยแนวทางทุนนิยมที่ทำลายความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนของประเทศใกล้เคียง เช่นประเทศไทย ต่อไป Yong-Chan Choi. . จากเว็บไซด์ . (9 December 2016). . From Workers Solidarity. . จากเว็บไซด์พรรคสังคมนิยมแรงงาน อังกฤษ Jiyun Jeon. Translated by CJ Park. (2014). . (Member of Workers Solidarity Group South Korea) เอกสารของสหภาพแรงงานโรงพยาบาลและการแพทย์ (Korean Health and Medical Workers Union-KHUM). 30 พฤษภาคม 2557. Korean Confederation of Trade Unions. (April 2015). แถลงการณ์นัดหยุดงาน แปลโดย พัชณีย์ คำหนัก. 18 เม.ย.58. สืบค้นจาก Kenichi Yamada Nikkei staff writer. (3 December 2016). : South Korean presidents flip-flop from workers to chaebol doomed her. From . (1 October 2016). From Yong-Chan Choi. จากเว็บไซด์ | และแล้วความเคลื่อนไหวของขบวนการภาคประชาชนก็มาถึงจุดขับไล่ประธานาธิบดีปาร์ก กึน-เฮ (Park Geun-hye) ลงจากตำแหน่ง รวมทั้งรัฐบาลของเธอ จำนวนผู้ประท้วงราว 1 ล้านคนบนท้องถนนถือได้ว่ามากที่สุดในรอบ 70 | การเมือง,ต่างประเทศ,แรงงาน | กลุ่มประชาธิปไตยแรงงาน,ปาร์ก กึน-เฮ,พจนา วลัย,เกาหลีใต้ | https://prachatai.com/journal/2016/12/69245 | [
0,
259,
212838,
3755,
181851,
259,
27605,
14785,
4552,
4728,
198732,
181851,
82967,
259,
50472,
113272,
39525,
102601,
50143,
259
] |
เสี่ยปาน เล่าชีวิตหลังถูกหวย 30 ล้าน ป่วยมะเร็ง เลิกเมีย เจอเรื่องทุกข์ | เรื่องเล่าจากคนเคยถูกหวย 30 ล้าน เสี่ยปาน เผยชีวิตหลังได้ลาภก้อนโต แต่ต้องเจอทุกขลาภ เลิกภรรยา ซ้ำป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะ 3 เอาชีวิตแทบไม่รอด จนต้องมุ่งหาธรรมะช่วยเยียวยาวันที่ 14 ม.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายยงยุทธ แก้วสวนจิก อายุ 42 ปี หรือ เสี่ยปาน ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังจากเคยถูกหวย งวดวันที่ 16 ก.ย. 2558 หมายเลข 743148 จำนวน 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาท เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผันชีวิตจากพนักงานโรงงานเป็นเศรษฐีในพริบตา โดยพบเสี่ยปานกำลังขับรถไถเพื่อไถกลบตอซังข้าวในที่ดินของตนเองเสี่ยปาน เผยอย่างอารมณ์ดีว่า หลังจากถูกหวย 30 ล้านเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปัญหากับอดีตภรรยาเรื่องเงินถูกหวย จนมีการไปฟ้องศาลสุดท้ายก็จบลงด้วยดี ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิด เงินที่ถูกหวยมาก็แบ่งให้ญาติพี่น้องๆ ทุกคน ซื้อที่ดินจำนวน 30 ไร่ แบ่งให้ภรรยา และส่งเงินให้ลูกชายคนเดียวเดือนละ 7000 บาท บางส่วนก็นำมาลงทุนซื้อรถไถขนาดใหญ่ รถเกี่ยวข้าวเอาไว้หารายได้ให้กับตนเองตอนนี้มีความสุขดี แม้ที่ผ่านมาจะป่วย เป็นมะเร็งระยะ 3 จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ตอนนี้รักษาหายแล้ว ส่วนเรื่องกับอดีตภรรยาก็ถือว่าจบแล้วหลังจากถูกหวยใหม่ๆ ยอมรับเป็นทุกข์มากเจอมาหลายเรื่องจนอยากจะบวชตลอดชีวิต แต่ช่วงบวชนั้น ไปพบหมอตรวจพบเป็นมะเร็งลำไส้ จึงจำเป็นต้องสึกออกมารักษาตัวเองจนหายขาดเสี่ยปาน เล่าต่อว่า การใช้ชีวิตแต่ละวันนั้น ปกติจะไม่ค่อยออกไปไหน จะมีก็ออกไปบ้างซื้อกับข้าว ซื้อต้นไม้มาปลูก ส่วนใหญ่จะทำไร่ทำสวน ปลูกผักหลายชนิด เช่น มะเขือเทศ พริก ดอกดาวเรือง เลี้ยงปลาในบ่อ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงมีงานรับจ้างรถไถก็จะออกไปรับจ้างไถที่นากับพี่ชายและหลาน หากถึงหน้าเกี่ยวข้าวก็จะไปรับจ้างเกี่ยวข้าวแม้จะมีเงิน แต่เราก็ต้องทำงานเหมือนเดิม ตอนนี้ที่ทำอยู่หลักๆ คือรับจ้างไถนาและรับจ้างเกี่ยวข้าวก็ได้ปีละหลายแสนบาท ย้อนถึงตอนถูกหวย 30 ล้าน ตอนนั้นก็เจอเรื่องราวทำให้ทุกข์ใจหลายเรื่อง ก็ใช้ธรรมะและสติเข้าข่มใจตนเอง ตอนนี้เลิกทุกอย่าง ทั้ง เหล้า บุหรี่ แม้กระทั่งเรื่องผู้หญิง ไม่มีอีกแล้วส่วนเรื่องอดีตภรรยาคงไปคืนดีกันไม่ได้ แต่ที่เป็นแก้วตาดวงใจคือลูกชาย น้องเกาลัด ตอนนี้อายุ 5 ขวบแล้ว ส่วนเรื่องหัวใจก็ใช่ว่าจะปิด เปิดรับอยู่หากมีคนเข้าใจเรา อยากได้คนที่เข้าธรรมะกับตนเองได้บ้าง แต่ไม่รู้ใครจะรับตนเองได้หรือเปล่าเพราะหน้าตาไม่หล่อและแต่งตัวไม่เป็น ส่วนเรื่องซื้อหวยตนเองเชื่อว่ายังมีโชคก็ซื้อลอตเตอรี่เอาไว้ทุกงวด เผื่อได้ลุ้นรางวัลที่ 1 รอบ 2 ก็เป็นได้สุดท้ายก็ขอให้กำลังใจ นายพิทักษ์ ไขแดง หรือ ลุงเขียว ที่เป็นข่าวถูกเมียทิ้งรายล่าสุด ยังไงก็ขอให้อยู่เพื่อลูกแล้วสู้ชีวิตกันต่อไป สำหรับชีวิตคนเรามันก็มีแค่นี้แหละ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้วก็จงปล่อยเขาไปตามทางที่เขาต้องการเถอะครับ จะเอาอะไรมากมายกับชีวิต แต่อยากจะฝากถึงคนหวยรวยโชคว่า ขอให้มีสติในการใช้ชีวิตเพราะเงินตัวเดียวอาจจะทำให้ญาติกลายเป็นศัตรู เมียรักเป็นของคนอื่นได้. | เรื่องเล่าจากคนเคยถูกหวย 30 ล้าน เสี่ยปาน เผยชีวิตหลังได้ลาภก้อนโต แต่ต้องเจอทุกขลาภ เลิกภรรยา ซ้ำป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะ 3 เอาชีวิตแทบไม่รอด จนต้องมุ่งหาธรรมะช่วยเยียวยา | ข่าว,สังคม | เสี่ยปาน,ถูกหวย 30 ล้าน,ยงยุทธ แก้วสวนจิก,หวยไทยรัฐ17-1-63,ตรวจหวย 17 มกราคม 2563,หวย | https://www.thairath.co.th/news/society/1747350 | [
0,
259,
51122,
6581,
228028,
22254,
159574,
6200,
237241,
259,
100694,
6582,
259,
51122,
73469,
159612,
16968,
15319,
21749,
129206
] |
ดีเอสไอ พบหลักฐานสำคัญโยง บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เสียชีวิต | ไทยพีบีเอส รายงานดีเอสไอ พบหลักฐานสำคัญโยง บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เสียชีวิตหลังหายตัวไป 5 ปี โดยพบถังน้ำมัน 200 ลิตรภายในมีโครงกระดูกมนุษย์ ใกล้สะพานแขวนในอุทยานแก่งกระจานคาดว่าดีเอสไอเตรียมจะมีการแถลงข่าวการค้นพบในช่วงบ่าย วันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)2 ก.ย.2562 รายงานว่าวันนี้ (2 ก.ย.62) มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมแถลงข่าวด่วนที่เชื่อว่า บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เสียชีวิตแล้ว หลังหายตัวนาน 5 ปีไทยพีบีเอส รายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ยืนยันว่า จากการสอบสวนเรื่องนี้แบบเกาะติด ตั้งแต่ปี 2557 และล่าสุดเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พบหลักฐานสำคัญจนนำไปสู่การค้นหาหลักฐานบริเวณใกล้สะพานแขวน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนกระทั่งพบหลักฐาน หลักฐานที่พบประกอบด้วย ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่ในถังมีขิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ รวมถึงหลักฐานอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ คาดว่าจะเป็นของบิลลี่ และพยานจากบุคคลในพื้นที่ ทั้งนี้จากการตรวจ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ บิลลี่ และชิ้นส่วนทั้งหมดอยู่ระหว่างตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดเพื่อยืนยันเรื่องเอกลักษณ์บุคคลอีกครั้งคาดว่าดีเอสไอเตรียมจะมีการแถลงข่าวการค้นพบในช่วงบ่าย วันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)สำหรับคดี บิลลี่ หายตัวไปเมื่อวันที่17 เม.ย.2557พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้มีการไต่สวนการหายตัวไปของบิลลี่ แต่ต่อมาศาลยกคำร้อง โดยระบุว่าหลักฐานไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่27 ส.ค.ที่ผ่านมามึนอผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหญิงประติภา รักจงเจริญ (บุตรของบิลลี่)ร่วมกับ วราภรณ์ อุทัยรังสี หรือ แป๋ม ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน (สนส.) ได้เดินทางไปยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ พอละจี สามีของพิณนภาเป็นบุคคลสาบสูญศาลกำหนดนัดไต่สวนในวันที่ 28 ต.ค.นี้เวลา 09.00 น. ณ ศาลจังหวัดเพชรบุรี30 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องในวันผู้ถูกบังคับสูญหายสากล วงเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ ร่วมกับแอมเนสตี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน (OHCHR) จัดงานเสวนา คนก็หายกฎหมายก็ไม่มี มีการพูดถึงประเด็นนี้ โดย พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ ผอ.กองอำนวยการปฎิบัติการพิเศษภาค จากดีเอสไอในฐานะผู้ดูแลคดีการหายตัวไปบิลลี่ กล่าวว่าอยากให้ทุกท่านค่อยๆ นึกตามแล้วจะเข้าใจกับสิ่งที่ดีเอสไอทำ และกำลังจะมีผลใกล้ๆนี้ อย่างแรกคือเป้าหมายสุดท้ายของเคสบิลลี่พ.ต.ท.เชนกล่าวต่อว่า เชื่อว่าทุกคนอยากรู้ว่า บิลลี่ไปไหน อยากดำเนินคดีกับผู้ต้องหา อย่างแรกถ้าเราไม่ได้ตัวคุณบิลลี่ว่าไปที่ไหน อยู่ที่ไหน การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาก็คือการรับสารภาพว่าได้จับตัวคุณบิลลี่ และปล่อยไป โทษ 1-10 ปี และรับสารภาพโทษ 1 ปี ลดลงครึ่งหนึ่งรอลงอาญา 6 เดือนคงไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เราจึงต้องกลับมาถ้าเจอตัวบิลลี่ว่าไปไหน ตอนนี้มีพยานหลักฐานสำคัญดีเอสไอ ได้พยานหลักฐานสำคัญแล้วว่าบิลลี่ไปไหนข้อหาก็จะแตกต่างถ้ารู้ว่าเขาไปไหน ข้อหาก็จะแตกต่าง อาจเป็นการฆาตกรรมโดยวางแผนโทษคือประหารชีวิต สุดท้ายเราต้องดูเป้าหมายสุดท้ายพ.ต.ท.เชน ยืนยันว่ามีของดีแน่นอน แต่การแถลงข่าวหรือการดำเนินการต้องขอให้เป็นผู้บังคับบัญชา อธิบดีหรือรองอธิบดี เป็นผู้อำนวยการกองดูแลคดีเรื่องนี้คดีทุกอย่างจะกลับมาที่ดีเอสไอ ใช้เวลานิดหนึ่งไม่ต้องห่วงออกมาทางบวก ให้ทุกท่านสบายใจได้เรื่องนี้จบ | ไทยพีบีเอส รายงาน ดีเอสไอ พบหลักฐานสำคัญโยง บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เสียชีวิตหลังหายตัวไป 5 ปี โดยพบถังน้ำมัน 200 ลิตรภายในมีโครงกระดูกมนุษย์ ใกล้สะพานแขวนในอุทยานแก่งกระจาน | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | เชน กาญจนาปัจจ์,บิลลี่,พอละจี รักจงเจริญ,ดีเอสไอ,การบังคับบุคลสูญหาย | https://prachatai.com/journal/2019/09/84146 | [
0,
259,
3945,
105130,
4388,
11740,
259,
148210,
6582,
259,
213202,
151450,
259,
38058,
36903,
135174,
4188,
106726,
70851,
4188
] |
ศึกมวยไทย 7 สี ชาละวัน ส.ธนาเพชร พบ สินสมุทร ศิษย์นายกโมทย์ | ช่อง 7: ดาร์กี้-ชาละวัน-โจโจ้-ต้องลุ้น,เวทีมวยบลูอารีน่า จ.สมุทรปราการ–สนามมวยช่อง 7 สี และ เวทีราชดำเนิน วันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. (วันนี้) มีมวยให้ชมกันทั้ง 3 แห่ง ชัย ศิษย์ อ.บี้ ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้,ศึกมวยดีวิถีไทย ช่อง 28 เอสดี ถ่ายสด 12.00น.,เพชรเดินชน ศิษย์ช่างระ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงกว่า จะชนะ พันมงคล ศิษย์แก๊ปตาอ่อง 100 ป.,อาเธอร์ สิงห์ป่าตอง นักชกชาวฝรั่งเศสเตะต่อยหมัดเข่าศอกรุนแรงจิตใจสู้มีลุ้นตลอด จะชนะ เสนาน้อย ศิษย์แก๊ปตาอ่อง 134 ป.,เพียงพอ (เอกมงคล ไก่ย่างห้าดาวยิม) ว.วังพรม มวยเก่าทรหดเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงเก๋าเกมกว่า จะชนะ อภิวัฒน์ ส.สมนึก มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่เสียดสีกระดูกเป็นรองท้ายๆ 128 ป.,สามพยัคฆ์ เกียรติธีระพงษ์ จะชนะ นฤนาท ศูนย์กีฬาบ้านตรัง 118 ป.,ศึกมวยไทย 7 สี ช่อง 7 ถ่ายทอดสดเวลา 14.30น.,เด่นศักดิ์ ลูกพุ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงฟอร์มสดมีลุ้นตลอด จะชนะ นาคา (ท็อตมวยไทย) พุ่มพันธ์ม่วง 120 ป.,โจโจ้ แป๊ะมีนบุรี มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดฟิตซ้อมเตรียมตัวมาแก้มือ จะชนะ จ้าวจ๋อ ดาบสงค์ทางหลวง 115 ป.,ชาละวัน ส.ธนาเพชร มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงฉลาดหลักเหลี่ยมดีกว่า จะชนะ สินสมุทร ศิษย์นายกโมทย์ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่เหลี่ยมเป็นรองช้ากว่า 120 ป.,ปิ่นเพชร ศิษย์เจ๊แดง มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดแต่เสียดสียืดเยื้อมียุบ จะแพ้ ดาร์กี้ สวรรค์สร้างมัญจา มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่าชนิดสนุกอีกครั้ง 134 ป.,ศึกมวยไทย ททบ.5 ถ่ายทอดสด 16.40 น.,เจริญเพชร ช.เพชรเมืองคอน มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงกว่า จะชนะ คมเข้ม มวยไทยไฟต้ายิมส์ 128 ป.,โอโรโน่ ช.เพชรเมืองคอน มวยแข็งแกร่งเตะแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอด จะชนะ ยอดเหลี่ยมเพชร (ต.แสลงพันธ์) ดร.น็อตมวยไทย 107 ป.,รุ่งรัตน์ พุ่มพันธ์ม่วง มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงเก๋าเกมผ่านกระดูกมาโชกโชนกว่า จะชนะ เพชรอุบล ศิษย์เชฟบุญธรรม มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่กระดูกเสียดสีเป็นรองท้ายๆ 150 ต่อ 152 ป.,กรเพชร ซูจีบะหมี่เกี๊ยว จะชนะ ทับหลวง ป.ปู่เจ้า 100 ป.,ศึกเพชรวิทยา เวทีราชดำเนิน 18.30 น.,ปิรันย่า เพชรสี่หมื่น จะชนะ ดาวเหนือ ว.อรัญญา 110 ป.,เจมส์บอนด์ เพชรสี่หมื่น จะชนะ มเหศวร เมืองสีมา 120 ป.,เพชรวังวัว ช.เพชรนรินทร์ จะแพ้ อนุรักษ์เล็ก เกียรติชัยวัฒน์ ชนิดสนุกพลิกไปมาอีกครั้ง 120 ป.,เพชรกัมปนาท ศิษย์จ่าชาติ จะชนะ ปกรณ์ พ.เพชรมากคง 118 ป.,น้องแบงค์ ศิษย์จ่าบน จะชนะ พรสยาม ส.ภูมิภัทร 117 ป.,นาเซีย เกียรติกำธร (ฝรั่งเศส) จะแพ้ ซุปเปอร์ เกียรตินครชล ชนิดสนุกอีกครั้ง 154 ป.,เพชรคีรี ช.เพชรมากคง จะชนะ หยกศิลา ส.เทียนโพธิ์ 123 ป.,เด่นทุ่งทอง เอ็นนี่มวยไทย จะชนะ ชัยวัฒน์-เล็ก เกียรติชัยวัฒน์ 100 ป.,สตาร์วอร์ เพชรสี่หมื่น จะชนะ ซุปเปอร์เชฟ เกียรติวิพัฒน์ 100 ป.,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ | ชาละวัน ส.ธนาเพชร มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงฉลาดหลักเหลี่ยมดีกว่า จะชนะ สินสมุทร ศิษย์นายกโมทย์ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่เหลี่ยมเป็นรองช้ากว่า 120 ป. | มวย,มวยวันนี้,มวยคู่เด็ด,ศึกมวยไทย 7 สี,ชี้มวยเด็ด | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1361865 | [
0,
259,
134028,
146559,
8357,
230575,
11984,
122369,
617,
259,
132150,
27968,
259,
143703,
4388,
260,
261,
87838,
48161,
46694
] |
|
สนช. รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ฉบับใหม่ | ที่ประชุม สนช. มีมติ 153 เสียง รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ฉบับใหม่ ให้จัดทำแผนระดับชาติ รองรับภัยคุกคามทุกรูปแบบ,เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 59 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดย พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า สถานการณ์ความมั่นคงและแนวโน้มภัยคุกคามต่อความมั่นคงในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยมีความเชื่อมโยงกับมิติด้านต่างๆ และมีความรุนแรงและสลับซับซ้อนมากขึ้น โดยที่กลไกความมั่นคงที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2502 ยังไม่เอื้อต่อการปฏิบัติภารกิจ และการบริหารนโยบาย ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงให้ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งติดตาม ประเมิน วิเคราะห์ แจ้งเตือนสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคาม หรือประกาศสถานการณ์ภัยคุกคาม จึงต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้,พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับบี้ มีการกำหนดนิยามคำว่า ความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติและภัยคุกคาม เพื่อกำหนดขอบเขต วัตถุประสงค์และกิจการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาความมั่นคง ปรับปรุงองค์ประกอบของ คณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติ จากเดิม 9 คน เป็น 11 คน โดยเพิ่ม รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที และ รมว.กระทรวงยุติธรรม เนื่องจาก ทั้ง 2 กระทรวง มีความเกี่ยวข้องเรื่องภัยคุกคามด้านไซเบอร์และความยุติธรรม และกำหนดให้สภาความมั่นคงแห่งชาติจัดทำแผนนโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาในกิจการด้านความมั่นคงให้กับคณะรัฐมนตรี จากนั้นที่ประชุมได้เปิดให้สมาชิกได้อภิปราย ซึ่งสมาชิกเห็นด้วยกับการเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว,โดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ และ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการโยกย้ายแต่งตั้ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มักจะถูกแทรกแซง และใช้อำนาจทางการเมืองโยกย้าย โดยยกตัวอย่างกรณีการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ว่าจะมีมาตรการใดๆ ในการป้องกันการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม,ขณะที่ นางสุรางคณา วายุภาพ ได้สอบถามเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันภัยคุกคามความมั่นคงทางด้านไซเบอร์ ที่นับวันจะมีความรุนแรงซับซ้อนมากขึ้น แต่ประเทศยังไม่มีการบูรณาการด้านการควบคุมป้องกัน ไม่มีหน่วยงานที่ดูแลเฉพาะ แม้ว่าขณะนี้กำลังมีการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็อยากให้มีเขียนให้ครอบคลุมทุกมิติ,ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช ได้รับข้อสังเกตของสมาชิกไปปรับปรุงแก้ไข ในชั้นกรรมาธิการฯ ต่อไป ภายหลังอภิปรายเสร็จสิ้นที่ประชุมได้มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้พิจารณา ด้วยคะแนน 153 ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 3 ตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณา 15 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 15 วัน ระยะเวลาดำเนินงาน 60 วัน | สนช. รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ฉบับใหม่ ให้จัดทำแผนระดับชาติ รองรับภัยคุกคามทุกรูปแบบ | พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ,สนช.,สนช.รับหลักการ ก.ม.,สมช.,สถานการณ์ความมั่นคง,ภัยคุกคาม,ความรุนแรง,ยุทธศาสตร์ความมั่นคง,ออกฏหมาย,อำนาจสภาความมั่นคง,อุดมเดช สีตะบุตร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/603126 | [
0,
259,
195634,
260,
46611,
6196,
75466,
259,
237326,
10228,
27987,
30007,
229936,
259,
126493,
106885,
5095,
6582,
259,
133173
] |
|
โสภณ ชี้ 6 ปัจจัยจีนสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเป็นอันดับหนึ่งในโลก | โสภณ พรโชคชัย ชี้ 6 ปัจจัย หลังJuwai สำหรวจพบคนจีนนิยมซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากที่สุดในโลกระบุข้อดีคือธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มีตลาดกว้างมากขึ้น ในขณะที่คนไทยไม่มีกำลังซื้อกระทั่งห้องชุดราคาถูก29 ม.ค.2562 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) กล่าวถึงผลการสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2561 ของ Juwai เว็บไซต์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของจีนพบว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา คนจีนนิยมซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากที่สุดในโลก () จากที่เมื่อปี 2559 คนจีนนิยมซื้อในไทยเป็นอันดับที่6 () และขยับขึ้นมาเป็นที่ 3 ในปี 2560 () ทั้งนี้ลำดับที่ 1-10 ในปี 2561 เป็นดังนี้อันดับที่ 1 คือ ไทย อันดับที่ 2-10 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ อังกฤษ เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์สำหรับสาเหตุที่ไทยขยับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งนั้น ดร.โสภณ ระบุว่า เพราะ 1. ไทยไม่มีการจำกัดราคาขั้นต่ำในการซื้อ ต่างจากมาเลเซียที่ต้องซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 8-16 ล้านบาท แล้วแต่บริเวณ ราคาบ้าน-ที่ดินและห้องชุดในไทยราคาถูกกว่ามาก 2. สามารถได้กรรมสิทธิ์ ไม่ใช่การเช่าระยะยาวเช่นในจีนหรือเวียดนาม 3. ไม่มีการเก็บภาษีซื้อ อย่างในสิงคโปร์ ต่างชาติมาซื้อต้องเสียภาษี 20% ฮ่องกงเก็บ 30% เป็นต้น แต่ในไทย โดยเฉพาะในอีอีซี ยังไม่ต้องเสียภาษีอีกต่างหาก4. ไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและภาษีมรดก แต่ไทยมีการตราพระราชบัญญัติของภาษีทั้งสองนี้ แต่แทบไม่มีผลบังคับใช้จริง 5. ไม่มีข้อห้ามให้ต่างชาติซื้อได้แต่บ้านมือหนึ่งเยี่ยงในออสเตรเลีย เพราะหากจีนหรือต่างชาติใดซื้อบ้านมือสองได้ด้วย ก็อาจทำให้ราคาบ้านขึ้นกระฉูด 6. ไม่มีข้อห้ามต่างชาติซื้อบ้านเยี่ยงนิวซีแลนด์ ซึ่งแม้คนจีนจะชอบนิวซีแลนด์ แต่ปัจจุบันนี้มีข้อห้ามมากมาย ทำให้คนจีนไม่สามารถซื้อบ้านได้อีกต่อไปด้วยเหตุนี้คนจีนจึงเบนเข็มมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยและทำให้ไทยติดอันดับหนึ่งของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของจีน ผลดีที่เกิดขึ้นประการหนึ่งก็คือบริษัทพัฒนาที่ดินไทยมีตลาดกว้างมากขึ้น ในขณะที่คนไทยไม่มีกำลังซื้อกระทั่งห้องชุดราคาถูก จน บมจ.แอลพีเอ็นดีเวลลอปเมนท์ หันไปสร้างห้องชุดราคาปานกลางแทน แต่ได้คนจีนมาซื้อ ทำให้สัดส่วนผู้ซื้อของบริษัทมหาชนบางแห่งสูงขึ้นถึง 40% บริษัทมหาชนหลายแห่งจีงมีกำไรสุทธิหลักหักค่าใช้จ่ายสูงถึง 20-30% หรือบางแห่งสูงกว่านั้นแต่ผลลบ ดร.โสภณ ระบุว่า ประการหนึ่งก็คือ ประชาชนทั่วไปจะต้องซื้อบ้านในราคาแพงขึ้นจากผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน เพราะกำลังซื้อที่เพิ่มเข้ามาจากประเทศจีนและประเทศอื่น จนวันหนึ่งอาจเกิดภาวะที่ราคาบ้านแพงเกินกว่ากำลังซื้อของประชาชนทั่วไปเช่นที่เคยเกิดขึ้นในไต้หวันเมื่อสิบกว่าปีก่อน อีกอย่างการซื้อขายทรัพย์สินในประเทศไทยโดยคนต่างชาติ ไม่ต้องเสียภาษีซื้อ แทบไม่ต้องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือภาษีมรดก ทำให้ประเทศไทยไมได้อะไรเท่าที่ควรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนต่างชาติผู้ที่มีความสุขกับการซื้อทรัพย์ของคนจีนก็คือบริษัทพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน บริษัทปูน บริษัทเหล็ก แต่ประชาชนแทบไม่ได้อะไรมากนักดร.โสภณ ระบุตอนท้าย | โสภณ พรโชคชัย ชี้ 6 ปัจจัย หลัง Juwai สำหรวจพบคนจีนนิยมซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากที่สุดในโลก ระบุข้อดีคือธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มีตลาดกว้างมากขึ้น | เศรษฐกิจ,คุณภาพชีวิต | โสภณ พรโชคชัย,จีน,อสังหาริมทรัพย์ | https://prachatai.com/journal/2019/01/80765 | [
0,
259,
93927,
259,
37672,
34545,
47187,
117203,
25534,
161879,
202673,
12659,
237919,
1,
0,
0,
0,
0,
0,
0
] |
ร่วมพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกส่วนต่อขยาย | ผ่าน 4 ช่องทาง เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ มาร์เก็ต,ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคม และร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ควรได้รับ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ ได้ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ชวนสมทบทุนพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกส่วนต่อขยาย กับโครงการ 20 บาท เพื่อศิริราช-กาญจนา เพื่อขยายโอกาสการรักษาให้เข้าถึงประชาชน และเพิ่มโอกาสการฝึกฝนให้นักศึกษาแพทย์ ซึ่ง ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2549 เป็นโรงพยาบาลหนึ่งภายใต้สังกัดมหาวิทยาลัยมหิดล และในปี 2560,ได้ย้ายเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งมียุทธศาสตร์ในการรองรับและขยายการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน ในพื้นที่เขต 5 โดยรอบ จำนวน 8 จังหวัด คือ ราชบุรี, นครปฐม, กาญจนบุรี, สุพรรณบุรี, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งยังเป็นที่ทำการเรียนการสอนแก่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2-6 ระดับปริญญาตรี เนื่องจากคนไข้ที่มารักษามีอาการเจ็บไข้ขั้นพื้นฐานทั่วไป เหมาะแก่การเรียนรู้ศึกษาวิธีรักษาขั้นพื้นฐานที่นักศึกษาแพทย์ควรทราบ ต่างจากคนไข้ที่ศิริราชที่ส่วนใหญ่จะเป็นโรคซับซ้อน รุนแรง ,รศ.นพ.ธีระ กลลดาเรืองไกร ผอ.ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก กล่าวเสริมว่า ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก จะรองรับผู้ป่วยโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทางที่ไม่ซับซ้อนในเขตพื้นที่นี้ได้มากขึ้นกว่าเดิม จากปกติมีเพียง 60 เตียง วางแผนจะเพิ่มเป็น 200 เตียง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยมารับบริการ 350,000 คนต่อปี หลังจากก่อสร้างเสร็จ สามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มเป็น 700,000 คนต่อปี ซึ่งต้องใช้งบประมาณการก่อสร้างและจัดหาครุภัณฑ์ทั้งหมด 850 ล้านบาท,โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนส่วนหนึ่งจากภาครัฐ และอีกส่วนหนึ่งจะต้องระดมทุนเพิ่มเติมโอกาสนี้ มร.อลิสเตอร์ เทย์เลอร์ ผู้บริหารบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ซึ่งมีส่วนในการจัดหาเงินบริจาคสมทบทุนพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกส่วนต่อขยาย กับโครงการ 20 บาท เพื่อศิริราช-กาญจนา ได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมเป็นหนึ่งแห่งความภูมิใจ ในการพัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โดยสามารถบริจาคผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ ผ่านบาร์โค้ด เริ่มต้น 20 บาทที่จุดแคชเชียร์, กล่องบริจาค ที่เคาน์เตอร์บริการลูกค้า, บริจาคผ่านคะแนน The 1 จำนวน 160 คะแนน เท่ากับ 20 บาท และสแกน QR code ผ่าน Mobile Banking ตั้งแต่วันนี้-30 เม.ย. 62 ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ ออนไลน์และเซกาเฟรโด ทุกสาขาทั่วประเทศ. | ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคม และร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ควรได้รับ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ ได้ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ประสิทธิ์ วัฒนาภา,พัฒนาศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกส่วนต่อขยาย,ยุทธศาสตร์,ธีระ กลลดาเรืองไกร,เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1446435 | [
0,
259,
38860,
628,
20043,
28495,
95580,
222065,
13094,
208274,
22254,
97652,
5405,
259,
38058,
150741,
75263,
38389,
4348,
20921
] |
สุดยอดแข้งตำนานโลก ประชันฝีเท้าศึก GLS เทิดพระเกียรติ 5 ธ.ค. | พบ 28 สุดยอดอดีตนักเตะซุเปอร์สตาร์โลก ยกทีมดวลแข้งกัน ในศึกลูกหนัง จีแอลเอส นัดปฐมฤกษ์ ครั้งแรกในโลก โดยเตรียมร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. ฝ่ายจัดการแข่งขันยืนยัน ไม่ใช่แมตช์เตะโชว์ แต่เป็นการดวลแข้งแย่งชิงความเป็นแชมป์ โดยเตะแบบซีรีส์ 4 ประเทศในทวีปเอเชีย เพื่อหาสุดยอดแชมป์ทีมเดียว เป็นโอกาสเดียวที่จะได้ชมสุดยอดนักเตะตำนานโลกครบเครื่องและสมบูรณ์แบบเต็มทีมที่สุด นอกจาก จะเปิดขายบัตรเข้าชมให้แฟนบอลทั่วไปแล้ว ยังเปิดโอกาสให้เด็กไทย 5 พันคนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นแรงบันดาลใจ พร้อมเปิดคลินิกสอนบอลให้อะคาเดมี่ของสโมสรในลีกอาชีพไทยได้ฝึกวิทยายุทธ์ กันอย่างใกล้ชิด, ,วันที่ 4 พ.ย. ณ แกลอรี แอเทรียม โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ ถนนวิทยุ ได้จัดงานแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลสุดยอดตำนานนักเตะระดับโลก โกลเบิ้ล เลเจนส์ ซีรีส์ หรือ จีแอลเอส (Global Legends Series - GLS) การแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษที่ระดมสุดยอดตำนานนักเตะระดับแถวหน้าของโลกมาร่วมปะทะแข้งกันแบบซีรีส์ โดยแข่งกัน 4 ประเทศในทวีปเอเชีย ได้แก่ ประเทศไทย, จีน, ญี่ปุ่น และมาเลเซีย โดยประเทศไทยได้รับเกียรติให้จัดนัดปฐมฤกษ์ของโลก โดยมี นายบี เตชะอุบล ซีอีโอ บริษัท ไทย ไพร์ม จำกัด และผู้ร่วมก่อตั้ง โกลเบิ้ล เลเจนด์ ซีรีส์ มร.เจมส์ เดวี่ส์-ยานเดล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง โกลเบิ้ล เลเจนด์ ซีรีส์ และนายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ร่วมแถลงข่าว, ,การแข่งขันฟุตบอลสุดยอดตำนานนักเตะระดับโลก รายการ จีแอลเอส บริษัท ไทย ไพร์ม จำกัด ได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดการแข่งขัน โดยเริ่มที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก,นายบี เตชะอุบล ซีอีโอ บริษัท ไทย ไพร์ม จำกัด และผู้ร่วมก่อตั้งจีแอลเอส เปิดเผยว่า การแข่งขันในแมตช์นี้ ได้เลือกวันแข่งขันเป็นวันที่ 5 ธ.ค. เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยสุดยอดนักเตะโลกที่มาร่วมแข่งขันทุกคน จะร่วมกันสวมเสื้อที่ออกแบบพิเศษที่มีสัญลักษณ์ ๙ คาดหน้าอก และบรรดาดาวดังตำนานโลกจะร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรร่วมกับแฟนฟุตบอลไทยในสนามและคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้เตรียมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย โดยมอบโอกาสการเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมบัตรเข้าแข่งขันจำนวน 5,000 ใบ ให้แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมทั้งช่วยพัฒนานักฟุตบอลไทย ในอีกทาง คือ การจัดฟุตบอลคลินิกให้กับนักเตะเยาวชนของสโมสรต่างๆ กว่า 100 คนได้มาฝึกทักษะฟุตบอลกับ ดาวเตะระดับโลกอีกด้วย, ,ในส่วนของนักเตะที่จะมาโชว์ฝีเท้านั้น มร.เจมส์ เดวี่ส์ ยานเดล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง โกลเบิ้ล เลเจนด์ ซีรีส์ ร่วมกับ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ อดีตดาวดังทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก ได้ระบุว่า นักเตะทั้งสองทีมที่จะมาร่วมประชันแข้ง ได้รับเชิญ โดยต้องมีผลงานระดับโลกที่จับต้องได้ อาทิ การเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก, แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หรือเคยได้รางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งเป็นรางวัลที่ประกาศความเป็นสุดยอดนักเตะของโลก หรือเคยติดทีมชาติมาไม่ต่ำกว่า 50 นัด ซึ่งนอกจากดาวเตะระดับโลกเหล่านี้แล้ว ฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้เชิญ 2 นักเตะไทยที่ดีที่สุดของประเทศและยังคงไว้ด้วยฝีเท้าระดับแนวหน้า คือ เทิดศักดิ์ ใจมั่น และ ดัสกร ทองเหลา มาร่วมโชว์ฝีเท้าด้วย, ,ขณะที่ นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กล่าวว่า กกท.ยินดีที่มีรายการแข่งขันระดับโลกอย่าง จีแอลเอส จัดนัดปฐมฤกษ์ขึ้นที่ประเทศไทย และนักฟุตบอลไทยระดับแนวหน้าได้มีโอกาสร่วมลงแข่ง นับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ต้องจารึกไว้ของวงการฟุตบอลไทย เพราะแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในศูนย์กลางกีฬาฟุตบอลประจำทวีปเอเชียในอนาคต,สำหรับ สองทีมที่จะร่วมดวลแข้ง ประกอบด้วย ทีมคันนาวาโร ที่มี ฟาบิโอ คันนาวาโร ที่เคยชูถ้วยแชมป์โลกกับอิตาลี เป็นกัปตันทีม มีลูกทีมประกอบด้วย เจอร์ซี ดูเด็ค, มาร์โก มาเตรัซซี, มิเชล ซัลกาโด, บิเซนเต ลิซาราซู, คริสติยอง การอมเบอ, ชูเลียโน เบเล็ตติ, ฮิโดเตชิ นากาตะ, สตีฟ แม็คมานามาน, ไมเคิล โอเวน, แพทริค ไคลเวิร์ต, แพทริค แบร์เกอร์, ไร โอลิเวียรา และยารี ลิตมาเนน, ,ส่วนอีกทีมคือ ทีมฟิโก้ ซึ่งมี หลุย ฟิโก้ ตำนานลูกหนังโลกที่เคยเล่นให้สุดยอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา เป็นกัปตันทีม ส่วนลูกทีมประกอบด้วย เยนส์ เลห์มันน์, อเลสซานโดร เนสต้า, คาฟู, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, จิอันลูกา ซามบร็อตตา, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, ยูริ จอร์เกฟฟ์, เดโก, อังเดร เชฟเชนโก, ดาวอร์ ซูเคอร์, คาร์ลไฮน์ ริดเลย์, วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ และ โรนัล เดอ บัวร์ ขณะที่ผู้ตัดสินแมตช์แรกที่ประเทศไทย ได้แก่ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ อดีตเปาชี้ขาดชื่อดังจากศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ,ในส่วนของบัตรเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษนี้ จะเปิดจำหน่ายที่ ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.นี้เป็นต้นไป โดยบัตรมีจำหน่ายในราคา 500, 800, 1,000, 2,000, 2,500 และ 3,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ซื้อบัตร 100 คนแรกที่ถ่ายรูปบัตรที่ซื้อและนำไปโพสต์บนเฟซบุ๊ก www.facebook.com/glsbangkok จะได้ร่วมกิจกรรม Meet & Greet กับซุปเปอร์สตาร์ตำนานนักเตะโลกอย่างใกล้ชิดอีกด้วย , ,แฟนฟุตบอลผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ www.glsfootball.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/glsbangkok | 28 สุดยอดอดีตนักเตะซุปเปอร์สตาร์โลก ยกทีมดวลแข้งกันในศึกลูกหนัง จีแอลเอส นัดปฐมฤกษ์ ครั้งแรกในโลก โดยเตรียมร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. | จีแอลเอส,ข่าวกีฬา,โกลเบิ้ล เลเจนด์ ซีรีส์,ฟุตบอลสุดยอดตำนานนักเตะระดับโลก | https://www.thairath.co.th/content/461261 | [
0,
259,
87168,
259,
66571,
206777,
95434,
259,
238250,
1549,
94117,
2091,
207514,
1,
0,
0,
0,
0,
0,
0
] |
|
หลักการที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน | วันนี้เป็นอย่าง พรุ่งนี้อีกอย่าง,ครับการเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อไปหลังเลือกตั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจำนวนตัวเลขที่แต่ละพรรคจะได้จากการลงคะแนนของประชาชน,จำนวน ส.ส.คือตัวแปรสำคัญที่จะชี้ผลอย่างเป็นรูปธรรม,นักการเมืองพูด ณ วันนี้ทำนองว่า เป็นหลักการสำคัญของแต่ละพรรค นักการเมืองแต่ละคนล้วนเป็นวิธีการอย่างหนึ่งในทางการเมือง,เพื่อเรียกคะแนนเสียง เรียกคะแนนนิยมให้พรรคและตัวเอง,ที่ว่าเพื่อตัวเองนั้น เนื่องจากในทางการเมืองแม้จะสังกัดพรรคอยู่แล้ว แต่ละคนยังต้องการคะแนนและสร้างความโดดเด่นเพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งในทางการเมือง,การเมืองในลักษณะปัจจุบันมีเงื่อนไขที่ต่างออกไปจากการเมืองปกติในระบอบประชาธิปไตย เพราะมี คสช.เข้ามาคั่นกลางถึง 5 ปี และทำท่าว่าจะขออยู่ต่อยาวออกไปภายใต้การเลือกตั้ง,จึงเป็นจุดหนึ่งที่นักการเมืองอ้างหลักประชาธิปไตย ที่เห็นว่าไม่ควรจะให้เป็นไปเช่นนั้น เพราะถือว่าเป็นการต่อท่ออำนาจของเผด็จการ,ว่าไปแล้ว พรรคการเมืองที่ถือว่าอยู่ขั้วตรงข้าม คสช. คือ เพื่อไทย นั้นต่างก็รู้กันดีทั้ง 2 ฝ่ายว่า ไม่มีทางร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกันได้,ทางหนึ่งจึงประกาศว่าจะเป็นฝ่ายค้าน,ทางหนึ่งบอกว่าทุกพรรคการเมืองจะต้องรวมหัวกัน ด้วยการไม่ยอมรับ ทหาร ไม่ให้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศอีก,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องถูกดีดตกเก้าอี้อย่างถาวร,การเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จึงต้องต่อสู้กันทางการเมืองทุกรูปแบบ มีอะไรควักมาเล่นควักมาทำลายกันอย่างถึงที่สุด,อีกพรรคที่น่าสนใจก็คือประชาธิปัตย์ เวลานี้มีปัญหาป่วนภายในพอสมควร เนื่องจากจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ และกรรมการบริหารชุดใหม่,ท่าทีของพรรคนี้วางไว้ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคและพร้อมที่จะสู้เพื่อกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป,ปรากฏว่า มีแรงกระเพื่อมอยู่บ้าง เนื่องจากจะมีการช่วงชิงเก้าอี้สำคัญทั้งคนในและคนนอก แถมยังมีความขัดแย้งภายใน โดยเฉพาะพวกที่เห็นว่า อภิสิทธิ์ น่าจะพอได้แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นบ้างในการเข้ามาเปลี่ยนแปลงภายในพรรค,แต่เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์เคยประกาศแล้วว่าจะขอสู้ในสนามการเมืองอีกครั้ง หลังจากที่พ่ายแพ้เพื่อไทยมาตลอด,ซึ่งดูแล้วหากได้เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมที่จะสู้การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ทว่าโอกาสคงเป็นไปได้ยาก,ที่สู้ต่อก็คือ จากนี้ไปถึงหลังการเลือกตั้ง,ในเกมการเมืองอย่างที่บอกเอาไว้ว่า พูดวันนี้แต่หาใช่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นไปอย่างที่เคยพูดเอาไว้,ก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ประกาศต่อต้าน คสช. การต่อท่ออำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ มีการแสดงตัวตนชัดเจน,หมายความว่าไม่ยอมรับด้วยหลักการและความเป็นไป,อีกทั้งประกาศอีกข้อด้วยว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับเพื่อไทย,ล่าสุด นายอภิสิทธิ์บอกว่า ถ้าจะร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ มีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่งว่าหากเสียงสนับสนุนเป็นเสียงข้างมาก,นั่นแหละ ถึงจะกอดคอไปด้วยกันได้,บน หลักการ ที่แยกยลจนลืมอะไรไปบางอย่างหรือเปล่า?,สายล่อฟ้า | การเมืองที่จะเกิดขึ้นต่อไปหลังเลือกตั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจำนวนตัวเลขที่แต่ละพรรคจะได้จากการลงคะแนนของประชาชน จำนวน ส.ส.คือตัวแปรสำคัญที่จะชี้ผลอย่างเป็นรูปธรรม | เลือกตั้ง,หาเสียง,ประชาธิปัตย์,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า | https://www.thairath.co.th/news/politic/1374511 | [
0,
259,
148601,
192537,
1549,
135647,
34538,
4728,
6494,
11103,
11723,
60769,
88757,
2361,
156417,
1,
0,
0,
0,
0
] |
|
15 บาท น้อยไปฟรีก็ได้ถ้ารัฐหนุนเงิน | อัศวินสวนค่าโดยสารรถไฟฟ้า-ย้อนลดค่าทางด่วนให้ได้ก่อน,ที่ศาลาว่าการ กทม. เมื่อวันที่ 22 ก.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าในส่วนที่ กทม.ดูแลรับผิดชอบเหลือ 15 บาทตลอดสายว่า ต้องรอดูกระทรวงคมนาคมก่อน ซึ่งการกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 15 บาทตลอดสาย มีความเป็นไปได้ถ้ารัฐบาลช่วยสนับสนุนงบประมาณ ฟรียังได้เลยถ้ารัฐบาลช่วยสนับสนุน แต่ค่าทางด่วนเก็บให้ถูกกว่านี้ให้ได้ก่อน,พล.ต.อ.อัศวินได้กล่าวถึงการอนุญาตให้สุนัขนำทางพาเจ้าของซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาเข้าถึงพื้นที่ส่วนราชการของ กทม. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่ผู้พิการทางสายตาซึ่งจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา และได้เดินทางกลับ ประเทศไทยพร้อมนำสุนัขนำทางของเขากลับมาด้วย เพื่อช่วยในการดำเนินชีวิตประจำวันในประเทศไทย โดยสุนัขได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดีจากสหรัฐอเมริกาสำหรับการนำทาง โดยเฉพาะ และเมื่อเร็วๆนี้บีทีเอสได้อำนวยความสะดวก อนุญาตให้สุนัขนำทางนี้นำเจ้าของขึ้นรถไฟฟ้าได้ ขณะที่ กฎหมายได้กำหนดเรื่องความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันในสังคม ตนจึงมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย และส่วนที่เกี่ยวข้องศึกษาขอบเขตการอนุญาตให้สุนัขนำทางนำเจ้าของ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาเข้าถึงพื้นที่ส่วนราชการของ กทม. โดยให้รายงานผลการศึกษาภายในวันที่ 5 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม เราต้องหาทางช่วย และให้สิทธิเขาเต็มที่ สุนัขนำทางเปรียบเสมือนไม้นำทางของเขา เบื้องต้นได้อนุญาตให้นำสุนัขนำทางเข้าพื้นที่สวนสาธารณะของ กทม.ได้ ส่วนสถานที่ราชการอื่นๆ เช่น สำนักงานเขต โรงพยาบาล ต้องมีการจัดพื้นที่สำหรับให้สุนัขพักคอย ระหว่างรอพบแพทย์ โดยพยาบาลจะเป็นผู้พาไปพบแพทย์เอง. | พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าในส่วนที่ กทม.ดูแลรับผิดชอบเหลือ 15 บาทตลอดสายว่า ต้องรอดูกระทรวงคมนาคมก่อน | ข่าว,ทั่วไทย | อัศวิน ขวัญเมือง,ลดค่าทางด่วน,ค่ารถไฟฟ้า,งบประมาณ,ผู้พิการสายตา,สหรัฐอเมริกา,สุนัขนำทาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1620728 | [
0,
259,
70663,
17958,
131830,
66191,
31421,
218606,
226524,
259,
223590,
111173,
22985,
230023,
1,
0,
0,
0,
0,
0
] |
ดาวเหนือ ร่วมชมศึกกำปั้นเวิลด์บ็อกซิ่ง ก่อนลุ้นชิงแชมป์โลก IBF | ส่งเทียบเชิญ เจ้านัน ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก เดินทางไปร่วมรายการ เวิลด์บ็อกซิ่ง ซุปเปอร์ซีรีส์ ศึกชิงแชมป์โลก IBF บารันซีสเทย์เลอร์ ในวันเสาร์ 18 พ.ค.นี้ ที่เดอะ เอสเอสอีไฮโดร เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ เพื่อลุ้นสวมสิทธิ์ชิงแชมป์โลก IBF รุ่น 140 ปอนด์ ในฐานะรองแชมป์อันดับ 1 ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ถือโอกาสศึกษาฟอร์มการชกคู่ชิงเพื่อเขย่าบัลลังก์โลกในอนาคตตามเป้าที่วางเอาไว้,ดร.จิมมี่ เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์เกียรติกรีรินทร์ เผยว่า ตนได้รับการติดต่อจากโปรโมเตอร์ผู้จัดศึก เวิลด์บ็อกซิ่ง ซุปเปอร์ซีรีส์ เพื่อทาบทามให้ เจ้านัน ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก รองแชมป์โลกอันดับ 1 รุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวท IBF บินไปสวมสิทธิ์แทนนักชกรายใดรายหนึ่งที่อาจไม่พร้อมขึ้นประหมัดตามโปรแกรมได้ในการชิงแชมป์โลกรุ่น 140 ปอนด์ ระหว่าง อีวาน บารันซีส เจ้าของตำแหน่งชาวเบลารุส กับ จอช เทย์เลอร์ ผู้ท้าชิงรองแชมป์อันดับ 3 ชาวสกอตแลนด์ ในวันเสาร์ 18 พ.ค.นี้สังเวียนเดอะเอสเอสอีไฮโดร เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร,โปรโมเตอร์เอกรัฐกล่าวว่า ตนได้ปรึกษากับผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุน พล.ต.ท.ดร.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว บิ๊กชาย สมชาย พูลสวัสดิ์ ดร.ปิยะ โรจนเพียรสถิต ประธานบริษัทปุ๋ยไข่มุกตราเรือใบไข่มุก และ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ประธานบริษัทจีพีพีอินเตอร์เนชั่นแนล โดยตกลงให้ดาวเหนือเดินทางไปร่วมรายการนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว หากใครไม่พร้อมก็ถือว่าดาวเหนือส้มหล่นได้ก้าวขึ้นชิงแชมป์โลกแทนทันที แต่ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดาวเหนือก็ไม่เสียเที่ยวอะไร จะถือโอกาสนี้ติดขอบเวทีนั่งชมและศึกษาสไตล์การชกของทั้งคู่ไปในตัวอีกด้วย,สำหรับการชกครั้งนี้คู่ชิงแชมป์โลก บารันซีสเทย์เลอร์ จะต้องผ่านการชั่งน้ำหนักอย่างเป็นทางการเรียบร้อยเสียก่อน ขณะที่ดาวเหนือเองก็ต้องชั่งผ่านพิกัด 140 ปอนด์เตรียมเอาไว้เช่นกัน หากนักชกรายใดไม่พร้อมชก ทางโปรโมเตอร์ผู้จัดก็จะให้ดาวเหนือซึ่งเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) สวมสิทธิ์ขึ้นชิงแชมป์โลกได้ทันที หากบารันซีสไม่พร้อมชกดาวเหนือก็จะขึ้นชิงแชมป์โลกที่ว่างกับเทย์เลอร์ ตรงกันข้ามหากเทย์เลอร์ไม่พร้อมชกดาวเหนือก็จะได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลกไฟต์บังคับ,ไม่ว่ากรณีใดเกิดขึ้นในวันเสาร์ 18 พ.ค.นี้ ผมคิดว่าเป็นโอกาสทองของดาวเหนือ ขณะเดียวกันยังได้เดินทางไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการใช้ชีวิตต่างแดนที่สกอตแลนด์ ซึ่งผมและทีมงานผู้สนับสนุนตอบรับข้อเสนอของโปรโมเตอร์ชาวอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว โปรโมเตอร์ ดร.จิมมี่ กล่าวย้ำ | ส่งเทียบเชิญ เจ้านัน ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก เดินทางไปร่วมรายการ เวิลด์บ็อกซิ่ง ซุปเปอร์ซีรีส์ ศึกชิงแชมป์โลก IBF บารันซีสเทย์เลอร์ ในวันเสาร์ 18 พ.ค.นี้ ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ | กีฬา,มวย/MMA | ดร.จิมมี่,เอกรัฐ ไชยโชติช่วง,เวิลด์บ็อกซิ่ง ซุปเปอร์ซีรีส์,ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก,แชมป์โลก IBF | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1566471 | [
0,
259,
33559,
231265,
129647,
97410,
259,
76917,
42634,
109297,
206045,
259,
73863,
23043,
3755,
12682,
133409,
113341,
177570,
198177
] |
ชำแหละปมครูข่มขืนใต้วงจรอำนาจ แนะวางกลไกตรวจสอบ-ประเมินโดยชุมชนและ อปท. มีส่วนร่วม | ชำแหละปมครูข่มขืนใต้วงจรอำนาจ แนะวางกลไกตรวจสอบ-ประเมินครูโดยชุมชนมีส่วนร่วม พร้อมกระจายอำนาจในการบริหารจัดการโรงเรียนไปสู่ท้องถิ่นเผยเด็กเตรียมเข้าสู่การดูแลทีมคุ้มครองสิทธิ์ เร่งสร้างพลังใจกู้ศักดิ์ศรี องค์กรสตรี ชี้วัฒนธรรมความรุนแรงทางเพศฝังรากลึกในสังคมไทย จี้ รมว.ศธ.ลงพื้นที่ ขันน็อต โรงเรียนทั่วประเทศต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย15 พ.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า วันนี้(15 พ.ค.63) เวลา13.00 น. มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัวร่วมกับ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา จัดเสวนาผ่านช่องทางไลฟ์สด หัวข้อ ข่มขืน ใต้วงจรแห่งอำนาจและทางออกจากวังวนปัญหาโดยยกกรณีครูและศิษย์เก่า รวม7คน ข่มขืน นักเรียนหญิงชั้น ม.2 และ ม.4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดมุกดาหาร เพื่อวิเคราะห์ปัญหา สะท้อนมุมมองหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ก่อนเริ่มเสวนา ได้นำจดหมายของเด็กหญิงเหยื่อรุมโทรมกรณีเกาะแรด พังงา ที่เขียนถึงเพื่อนนักเรียน มุกดาหารที่ถูกกระทำส่งกำลังใจและปลุกพลังให้เชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง ลุกขึ้นสู้เพื่อความยุติธรรมสู่ชีวิตใหม่ทิชา ณ นครผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน ที่ปรึกษามูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัวกล่าวว่าหลังจากที่ทางตนและทีมงานได้ลงพื้นที่ที่จังหวัดมุกดาหาร สิ่งแรกที่พวกเราได้ทำคือการโอบกอด ได้ขอโทษและขอบคุณในความกล้าหาญของเด็กทั้งสองคนที่กล้าออกมาพูดความจริง ลูกหลานของเราทั้งสองถูกล่วงละเมิดทางเพศมาอย่างยาวนาน เสมือนบ้านเมืองไร้กฎหมาย ไม่มีผู้ใหญ่นำทางที่พึ่งพิงได้ ยิ่งไปกว่านั้นพบว่าครูมีความพยายามที่จะเจรจา ยอมจ่ายเงินผ่านทางคนที่เด็กควรจะพึ่งได้ ในเบื้องต้นเด็กทั้งสองได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว และกำลังจะเข้าสู่การคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อความปลอดภัย การต่อสู้ในครั้งนี้จะมีเวลาทำกระบวนการเสริมพลังใจ กอบกู้คุณค่าและศักดิ์ศรีของเด็ก และต้องเอาคนผิดมาลงโทษ นั่นคือภารกิจร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ใช่เรื่องที่เด็กและครอบครัวต้องแบกรับตามลำพัง รวมถึงคนนอกวงการอย่างพวกเราพร้อมเสมอ เมื่อเด็กๆเด็ดเดี่ยว เด็กๆต้องไม่โดดเดี่ยวต้องย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าโรงเรียนไม่ใช่ซ่อง คุณคือครู เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามกฎหมาย หากคุณรู้ว่าเด็กเดินหลงทาง ต้องช่วยเขาออกมาจากเส้นทางสายมืดนั้น เด็กยิ่งมืด ครูยิ่งต้องสว่าง ครูจะเล่นกับด้านมืดของเด็กไม่ได้โดยเด็ดขาด ต่อให้เด็กหลงทางสู่การขายบริการทางเพศ หน้าที่ครูคือ ต้องดึงเด็กออกจากมุมมืดไม่ใช่ทำร้ายเด็ก หรืออาศัยอำนาจที่เหนือกว่าหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ครูต้องมีสำนึกมากกว่าคนสอนหนังสือ ทิชา กล่าวทิชา กล่าวว่า การต่อสู้ในครั้งนี้เราต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง เชิงระบบ ด้วยการช่วยกันชี้เป้า ช่วยกันสื่อสารปัญหาคู่ขนาน ไปกับการจัดการกับพฤติกรรมเชิงปัจเจกที่หลุดโผล่ ออกมา แบบทุ่มเท อย่างเต็มที่ ไม่ออมมือ ต้องจัดการครู 5 คน รุ่นพี่ 2 คน ที่หลุดออกมาให้ไม่มีที่ยืนแต่ ภายใต้โครงสร้าง ระบบ อำนาจนิยมที่แข็งแรงเดือนหน้า ปีหน้า พฤติกรรมเชิงปัจเจกแบบครู 5 คน ก็จะโผล่มาอีกถ้าปัญหาเชิงโครงสร้าง เชิงระบบ ยังไม่ถูกขับเคลื่อนจะเด็จเชาวน์วิไลผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลกล่าว จากข้อมูลศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในรอบ 4 ปี (พ.ศ.2556-2560) พบว่า มีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศสูงถึง 727 ราย ในจำนวนนี้เป็นครูบุคลากรทางการศึกษา 53 ราย นอกจากนี้มูลนิธิฯยังได้เก็บข้อมูลปี2560 จากข่าวหนังสือพิมพ์ พบว่า มีข่าวล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า10 ปี กว่า 42 ข่าว อายุ 11-20 ปี 145 ข่าว ในจำนวนนี้มี 17 ข่าว ที่ก่อเหตุในโรงเรียน ส่วนอาชีพครูที่เป็นผู้กระทำ มี 13 ข่าวผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า หากวิเคราะห์สาเหตุการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน พบว่า 1.เกิดจากระบบอำนาจนิยมในสถานศึกษา เป็นความสัมพันธ์เชิงอำนาจเหนือ กำหนด ออกคำสั่ง ใช้อำนาจบังคับหรือหลอกล่อ 2.ระบบอุปถัมภ์ ต่างตอบแทน ครูมักจะช่วยเหลือกันอีกทั้งครูเป็นผู้ที่เคารพนับถือจากคนในชุมชน มีความสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น นักการเมือง ตำรวจ 3.ระบบคิดชายเป็นใหญ่ ถูกปลูกฝังจนขาดความยับยั้งชั่งใจ อีกทั้ง มาพร้อมกับค่านิยม กินเหล้า เคล้านารี 4.มายาคติ กล่าวโทษผู้ถูกกระทำ ตีตรา เช่น เป็นเด็กเกเร แต่งตัวโป๊ ทำตัวไม่เหมาะสม ต้องการเงิน และ5.กระบวนการยุติธรรม เมื่อเกิดเหตุ มักจะถูกไกล่เกลี่ยยอมความอีกทั้งทัศนคติผู้ปฏิบัติงาน ยังขาดความเข้าใจประเด็นทางเพศ และขาดความละเอียดอ่อน ทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกว่าถูกกระทำซ้ำผ่านกระบวนการทางกฎหมายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากฝากเป็นข้อเสนอ คือ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องสร้างกลไกคุ้มครองและเยียวยาเด็ก มีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ให้คำปรึกษาที่เป็นมิตรมีกลไกตรวจสอบจริยธรรมครูโดยการประเมินผลจากผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วม และต้องกระจายอำนาจในการบริหารจัดการโรงเรียนไปสู่ท้องถิ่น โรงเรียนต้องมีหลักสูตรเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เพื่อให้เด็กรู้ว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ จะปกป้องตัวเองอย่างไร และเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมต้องตระหนักว่าคดีล่วงละเมิดทางเพศนั้นไกล่เกลี่ยไม่ได้ จะเด็จ กล่าววราภรณ์แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษากล่าวว่า เหตุการณ์ครูข่มขืนนักเรียน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว ประกอบกับการที่มีครูบางคนออกมาแสดงความเห็นในทำนองให้กำลังใจครูผู้ต้องหาและกล่าวโทษนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อ สะท้อนว่าวัฒนธรรมความรุนแรงทางเพศเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกอยู่ในระบบการศึกษาของไทย ขณะเดียวกัน ครูจำนวนมากไม่ได้ถูกหล่อหลอมมาให้เคารพสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของนักเรียน มีการฉ้อฉลใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อแสวงหาประโยชน์และกระทำความรุนแรงต่อเด็ก ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนก็ย่อหย่อนในสำนึกและหน้าที่ด้านการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และแม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ จะออกมาให้ข่าวว่าจะจัดการกรณีนี้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังเป็นแค่งานเชิงตั้งรับ คือรอให้เกิดเหตุแล้วจึงจะมาตามแก้ ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่สาเหตุรากเหง้าข้อสำคัญตอนนี้เด็กในโรงเรียนและครูคนอื่นๆเสียขวัญการลงพื้นที่เพื่อยืนยันในการเอาผิดอย่างจริงจังและปลุกขวัญเด็กๆ ผู้ปกครอง และครูน้ำดีของเจ้ากระทรวงเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำเด็กยังไงก็คือเด็ก ยิ่งเด็กที่มีความเปราะบางทางสังคม กระทรวงศึกษาฯและโรงเรียนยิ่งต้องปกป้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้เด็กเหล่านี้เติบโตได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ปัญหาระดับบุคคลของครูที่กระทำผิดบางคน แต่เป็นปัญหาของระบบการศึกษาไทยทั้งระบบ ถ้าจะแก้ปัญหาที่รากเหง้า กระทรวงศึกษาฯ ต้องมีนโยบายและมาตรการเชิงรุก โดยเริ่มตั้งแต่สถาบันที่ผลิตและรับรองวิทยฐานะของครูต้องเข้มงวด ปลูกฝังจิตสำนึกการเคารพสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักเรียน และสำนึกในหน้าที่ด้านการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ขณะเดียวกัน กระทรวงต้องมีนโยบายและแนวทางที่จะประกันว่าโรงเรียนทุกแห่งในประเทศไทยจะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยจากความรุนแรงทางเพศ นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาในฐานะหน่วยงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กต้องร่วมเป็นเจ้าทุกข์ในการดำเนินคดีทางอาญากับผู้กระทำผิด รวมทั้งให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและจัดการให้เด็กได้รับการเยียวยาทางจิตใจและครูที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริงต้องถูกลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด รวมถึงการถอนใบประกอบวิชาชีพครู ต้องไม่อนุญาตให้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนโดยตรงอย่างเด็ดขาด เพื่อลดโอกาสการกระทำผิดซ้ำ โดยเครือข่ายมีแผนในการเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาในสัปดาห์หน้า เพื่อยื่นข้อเสนออย่างเป็นระบบ ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา กล่าว | ชำแหละปมครูข่มขืนใต้วงจรอำนาจ แนะวางกลไกตรวจสอบ-ประเมินครูโดยชุมชนมีส่วนร่วม พร้อมกระจายอำนาจในการบริหารจัดการโรงเรียนไปสู่ท้องถิ่น เผยเด็กเตรียมเข้าสู่การดูแลทีมคุ้มครองสิทธิ์ | สังคม,การศึกษา,สิทธิมนุษยชน | ทิชา ณ นคร,ครู,ข่มขืน,จะเด็จ เชาวน์วิไล,วราภรณ์ แช่มสนิท,โรงเรียน | https://prachatai.com/journal/2020/05/87662 | [
0,
259,
224968,
22397,
201554,
2091,
73722,
259,
27605,
100182,
1881,
61913,
2091,
73722,
4728,
19895,
124576,
1,
0,
0
] |
จีดีพีปีนี้กู่ไม่กลับเหลือโตแค่ 2.8% อุตตม เล็งอัดมาตรการกระตุ้นเพิ่มถ้าจำเป็น | สศค.ลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 2.8% เหตุสงครามการค้าทำเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอ และส่งออกไทยเดี้ยง ส่วนครึ่งปีหลัง คาดขยายตัว 3.1% หลังรัฐอัดมาตรการกระตุ้น ทำเงินลงสู่ระบบ 60,000 ล้านบาท อุตตม ยันเติบโต 2.8% น่าพอใจแล้ว ย้ำช่วงที่เหลือของปี ถ้าต้องออกมาตรการกระตุ้นอีก ก็พร้อมดำเนินการ,นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ปรับลดประมาณการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 62 เหลือ 2.8% จากเดิม 3% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่เติบโต 4.1% เพราะเศรษฐกิจคู่ค้า เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น ชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และยังทำให้มูลค่าส่งออกสินค้าไทยปีนี้เติบโตเพียง 2.5% จากเดิม 2.7%,อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ถึง 3.1% มากกว่าครึ่งปีแรกที่ขยายตัว 2.6% เพราะรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายโครงการ ทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ 60,000 ล้านบาท เช่น โครงการชิม ช้อป ใช้ ระยะที่ 1 และ 2 ที่ขณะนี้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบแล้วกว่า 9,000 ล้านบาท, มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, มาตรการบรรเทาค่าครองชีพเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง, มาตรการประกันรายได้เกษตรกร, มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), มาตรการลดค่าธรรมเนียมการจดและจำนองให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยเหลือ 0.01% เป็นต้น,เศรษฐกิจปีนี้ชะลอตัวลงจากปัจจัยภายนอกทำให้การเติบโตมีปัญหา ส่วนการที่สหรัฐฯตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลกากร (จีเอสพี) กระทบกับเศรษฐกิจไทยปีนี้ไม่มาก แต่จะกระทบกับการส่งออกไทยในปี 63 มากกว่า และกระทรวงพาณิชย์ยังมีเวลาอีก 6 เดือนในการเจรจา สิ่งที่ควรทำตอนนี้ คือรักษาส่วนแบ่งตลาดของไทยในสหรัฐฯไว้ให้ดี,สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 63 สศค.มองว่าจะขยายตัว 3.3% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 63 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท และการลงทุนในโครงการสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ รวมทั้งคาดว่าการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น,ด้านนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย.62 และไตรมาส 3/62 มีสัญญาณชะลอตัวจากการส่งออกที่ลดลง เพราะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่ในด้านการผลิตกลับเพิ่มขึ้น โดยเดือน ก.ย.62 ภาคการท่องเที่ยวจากต่างประเทศขยายตัว 10.1% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.61 สูงสุดในรอบ 15 เดือน จากนักท่องเที่ยวชาวจีนขยายตัว 31.6% และภาคการเกษตรขยายตัว 1.3%,ส่วนนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ขยายตัว 2.9% ถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 และ 2 คาดว่าไตรมาส 4 จะขยายตัว 3.1-3.2% ส่งผลให้ตลอดปีนี้ เติบโตได้ 2.8% ถือว่าน่าพอใจ ซึ่งเป็นผลจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น ชิม ช้อป ใช้ ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าในช่วงที่เหลือของปีนี้จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอีก ก็พร้อมออกมาตรการเพิ่มเติม,ขณะที่นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก ไตรมาส 3/62 ว่า ดัชนีอยู่ที่ 44.9 เพิ่มจาก 42.4 ในไตรมาส 2/62 เพราะประชาชนปรับตัวให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจ โดยระมัดระวังใช้จ่ายมากขึ้น, ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น และค่าจ้างทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรมสูงขึ้น. | สศค.ลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 2.8% เหตุสงครามการค้าทำเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอ และส่งออกไทยเดี้ยง ส่วนครึ่งปีหลัง คาดขยายตัว 3.1% หลังรัฐอัดมาตรการกระตุ้น ทำเงินลงสู่ระบบ 60,000 ล้านบาท | ข่าว,เศรษฐกิจ | จีดีพี,เศรษฐกิจคู่ค้า,ส่งออกไทย,อุตตม สาวนายน,ลวรณ แสงสนิท,พิสิทธิ์ พัวพันธ์,ชาติชาย พยุหนาวีชัย | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1692113 | [
0,
259,
97003,
6494,
62793,
43790,
127515,
3755,
141111,
1881,
45488,
226113,
37513,
161499,
259,
101621,
356,
1448,
259,
150285
] |
มนุษยชาติสูญเสียอะไรไปในเปลวเพลิงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิล | จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในเมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (3 ก.ย.) นั้นสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อวัตถุโบราณ นิเวศวัตถุ ผลงานวิจัยด้านประวัติศาสตร์ธรรมชาติ มานุษยวิทยา และโบราณคดีที่จัดแสดงและเก็บรักษาอยู่กว่า 20 ล้านชิ้น อันมีค่าเกินกว่าจะสามารถประเมินได้ นอกจากจะเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่แล้ว เหตุการณ์นี้ยังถือเป็นความวอดวายของแหล่งความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกTHE STANDARD พาคุณไปรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ครั้งนี้ รวมไปถึงคำถามที่ว่า ในความร้อนระอุของเปลวเพลิง มนุษยชาติสูญเสียอะไรไปบ้างงบจากภาครัฐที่ขาดแคลนและความทรุดโทรมของพิพิธภัณฑ์ผู้ที่ติดตามข่าวอยู่เนืองๆ จะพบว่า ข่าวทางด้านเศรษฐกิจของประเทศในแถบอเมริกาใต้ ไม่ว่าจะเป็นเวเนซุเอลาหรือบราซิลเองก็ดี กำลังประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจกันยกแผง ซึ่งเกิดจากปัญหาของการคอร์รัปชัน โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่มีตัวเลขของการก่อหนี้สาธารณะเป็นจำนวนมหาศาลหลังสิ้นสุดงานกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิกไปเมื่อปี 2016 ซึ่งนั่นคือเหตุผลทางอ้อมที่ส่งผลกระทบมาจนถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ อันหมายถึงการไม่สามารถจัดการกระจายงบประมาณหรือขาดแคลนงบประมาณที่จะมาสนับสนุนงานของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้โดยภายหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นและเปลวเพลิงได้สงบลง พบว่ามีกลุ่มผู้ประท้วงออกมาเดินแสดงความเสียใจและประท้วงต่อรัฐบาลที่ละเลยการดูแลอาคารดังกล่าว และสิ่งหนึ่งที่ มาร์ซิโอ มาร์ติน (Marcio Martin) โฆษกประจำพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิลได้ออกมากล่าวคือ งบประมาณที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุนแก่พิพิธภัณฑ์นั้นน้อยลงทุกๆ ปี ตั้งแต่ปี 2013 ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนที่ราว 130000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.25 ล้านบาทไทย ลดเหลือเพียง 84000 เหรียญสหรัฐ ในปี 2017 ที่ผ่านมา แสดงถึงสภาพคล่องที่ฝืดเคืองของพิพิธภัณฑ์นี้ได้อย่างชัดเจนหรือแม้แต่ครั้งหนึ่งในช่วงปีก่อน ห้องแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์เกิดปลวกกิน เนื่องจากอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารเก่าและมีไม้เป็นส่วนประกอบของโครงสร้าง พิพิธภัณฑ์ จึงจำเป็นต้องปิดห้องนั้นและนำเสนอหนทางที่ให้ผู้คนเข้ามาร่วมระดมเงินเพื่อกำจัดปลวกและเปิดห้องให้ชมใหม่อีกครั้ง และความน่าเศร้าใจที่สุดคือก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ทางพิพิธภัณฑ์มีแผนจะรีโนเวตอาคารใหม่พร้อมทั้งติดตั้งและปรับปรุงระบบป้องกันเพลิงไหม้อีกด้วย เหมือนประชดกัน ดูสิ เงินเราก็พร้อม แต่เราไม่เหลือเวลาแล้ว ผู้จัดการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิลอย่าง อเล็กซานเดอร์ แคลเนอร์ (Alexander Kellner) กล่าวกับนิตยสาร Timeสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิลจัดแสดงโบราณวัตถุ เอกสาร และสิ่งของมากมายกว่า 20 ล้านชิ้น ซึ่งรวบรวมตั้งแต่งานทางด้านสัตววิทยา โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา ชีววิทยา ธรณีวิทยา และมานุษยวิทยา โดยแต่ละหัวข้อเรื่องราวล้วนแล้วแต่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนับเป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่ใหญ่โตที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ภายในยังมีส่วนจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ วัฒนธรรม และสังคมของชาวเมดิเตอร์เรเนียน อียิปต์โบราณ หรือโบราณคดียุคก่อนโคลัมเบียน โบราณคดีในบราซิล และอื่นๆ อีกมากมายสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้และมีรายงานระบุแล้วว่าเราไม่สามารถปกป้องไว้ได้ อาทิ กะโหลกของลูเซีย (Luzia) โครงกระดูกที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกค้นพบในทวีปอเมริกา ซึ่งมีอายุกว่า 11500 ปี และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปรียบเสมือนบ้านของเธอด้วยซ้ำ เพราะเธอถูกค้นพบที่ประเทศบราซิล และเป็นเสมือนสัญลักษณ์สำคัญของการย้ายถิ่นฐาน เพราะตามหลักฐานของการค้นคว้าและเปรียบเทียบ กะโหลกของลูเซียนั้นมีความคล้ายคลึงกับโครงกระดูกที่ค้นพบในทวีปเอเชียอย่างมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการจัดแสดงมัมมี่จากชนเผ่าจิวาโร (Jivaro) ในลุ่มน้ำแอมะซอน ซึ่งเป็นเทคนิคที่แตกต่างจากการนำศพลงใส่โลงเช่นของอียิปต์ เพราะมัมมี่จากชนเผ่าในลุ่มน้ำแอมะซอนนี้จะมีเทคนิคที่สามารถคงอยู่ได้โดยไม่เน่านานหลายปี ถึงแม้อากาศแถบนั้นจะมีความร้อนชื้นสูง เทคนิคที่ว่าคือการนำกะโหลกออกจากผิวหนัง ทิ้งเส้นผมไว้บนหนังศีรษะ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และนักโบราณคดีต่างให้ความสนใจอย่างมาก และศึกษาข้อมูลและเทคนิคดังกล่าวอย่างจริงจังในช่วงศตวรรษที่ 19 (ซ้าย) เครื่องประดับสำหรับงานแต่งงานของชาวอินคาและกีปู เครื่องนับเลขเครื่องแรกของโลกในส่วนของวัตถุโบราณที่จัดแสดงเองก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะในบรรดาโบราณวัตถุกว่า 100000 ชิ้นนั้น เป็นการรวบรวมนำเอาสิ่งประดิษฐ์หรือข้าวของเครื่องใช้ในยุคพรีโคลัมเบียน ซึ่งรวบรวมมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 19 ซึ่งวัตถุโบราณบางส่วนนั้นเป็นของจักรพรรดิเปโดรที่ 2 ของบราซิล และร่องรอยของอารยธรรมอินคาที่ยังหลงเหลืออยู่อีกด้วย อาทิ กีปู (Quipu) อันเป็นเครื่องมือการบันทึกตัวเลขแบบฐานสิบของชาวอินคาที่ใช้เชือกมัดเป็นปมๆ รวมไปถึงคอลเล็กชันโบราณวัตถุที่ได้มาจากยุคเมดิเตอร์เรเนียนที่โดดเด่นในเรื่องของงานสำริด หรือการรวบรวมหลักฐานของสัมพันธไมตรีระหว่างบราซิลและชาติมหาอำนาจต่างๆ ในยุคล่าอาณานิคมอย่างโปรตุเกสหรืออังกฤษจิตรกรรมฝาผนังโรมันโบราณที่เก็บสะสมมาจากเมืองโบราณเลื่องชื่อในอิตาลีอย่าง ปอมเปอี ก็จัดแสดงอยู่ที่นี่เช่นกัน ซึ่งนับว่าเป็นเสมือนงานชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์นี้ที่จัดแสดงความสวยงามของศิลปะในรูปแบบเกรโก-โรมัน ซึ่งจิตรกรรมฝาผนังชิ้นนี้มีชีวิตรอดมาตั้งแต่ในคริสต์ศักราช 79 นับจากการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียสที่คร่าชีวิตผู้คนในเมืองปอมเปอี นี่คือชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ส่วนเท่านั้นที่ยังเหลือให้คนรุ่นหลังได้รับชมแม้แต่ตัวอาคารเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่สามารถประเมินราคาได้ ซึ่งอาคารของพิพิธภัณฑ์นี้เองเดิมทีเป็นพระราชวังเก่าของกษัตริย์โปรตุเกสครั้งยุคล่าอาณานิคม ซึ่งเป็นอาคารที่มีการออกแบบในรูปแบบศิลปะนีโอคลาสสิกที่สวยงามและทรงคุณค่า ซึ่งหลังจากที่ดัดแปลงพระราชวังเก่านี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1892 ไม่ใช่แค่เรื่องของบราซิล แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่เรากล่าวเช่นนั้นอาจไม่หนีเกินความจริงแต่อย่างใด เพราะปริมาณชิ้นงานจัดแสดง และโบราณวัตถุมากมายที่จัดแสดงอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นชิ้นงานสำคัญของประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และไม่สามารถประเมินค่าได้ ความสำคัญของชิ้นงานเหล่านี้คือการยืนยันตัวตนและระบุที่มาของความเป็นมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิวัฒนาการทั้งทางกายภาพ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งยังส่งผลต่อการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแขนงอื่นๆ ได้อีกมากมายเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเสมือนการเปรียบเปรยกลายๆ ถึงสภาพสังคมของประเทศบราซิลที่กำลังล่มสลายด้วยการคอร์รัปชันและสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งต่างมองข้ามและไม่คำนึงถึงความสำคัญของโบราณสถานและเรื่องราวที่สำคัญต่อมวลมนุษย์ ไร้ซึ่งการใส่ใจถึงความงดงามและคุณค่าของประวัติศาสตร์ไปอย่างไม่ไยดี นั่นอาจเป็นเพราะรัฐบาลต่างมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มทุนหรือไม่จำเป็นต่อการลงทุน ดังเช่นการตัดทอนงบประมาณลงในทุกๆ ปีเราภาวนาขออย่าได้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับพิพิธภัณฑ์แห่งไหนอีกเลยPhoto: พิสูจน์อักษร: อ้างอิง: | สิ่งหนึ่งที่ มาร์ซิโอ มาร์ติน โฆษกประจำพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิลได้ออกมากล่าวคือ งบประมาณที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุนแก่พิพิธภัณฑ์นั้นน้อยลงทุกๆ ปี ตั้งแต่ปี 2013 ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนที่ราว 130000 เหรียญสหรัฐ ลดเหลือเพียง 84000 เหรียญสหรัฐ ในปี 2017 ที่ผ่านมาความน่าเศร้าใจที่สุดคือก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ทางพิพิธภัณฑ์มีแผนที่จะรีโนเวตอาคารใหม่พร้อมทั้งติดตั้งและปรับปรุงระบบป้องกันเพลิงไหม้อีกด้วยสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้และมีรายงานระบุแล้วว่า เราไม่สามารถปกป้องไว้ได้ อาทิ กะโหลกของลูเซีย อันเป็นโครงกระดูกที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกค้นพบในทวีปอเมริกา ซึ่งมีอายุกว่า 11500 ปี ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญของวิวัฒนาการมนุษย์ถึงเรื่องของการย้ายถิ่นฐาน | https://thestandard.co/brazils-national-museum-what-could-be-lost-in-the-fire/ | [
0,
259,
137147,
40494,
46519,
21779,
75301,
25889,
29443,
82551,
236489,
15319,
4348,
97003,
1,
0,
0,
0,
0,
0
] |
||
แห่ขอ เลขเด็ด ตะเคียน แม่ขันทอง หลังงวดที่แล้วถูกหวย 35 ทั้งหมู่บ้าน | แม่ขันทอง ต้นตะเคียน อายุ 419 ปี มาเข้าฝันชาวบ้าน ขอไปอยู่วัดเพื่อสร้างโบสถ์ หลังงวดที่ผ่านมาถูก เลขเด็ด กันทั้งหมู่บ้าน พร้อมเผย งวดนี้ทุกคนจะถูกหวยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปที่ ม.4 (บ้านท่าคร้อ) ต.วังบัว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร มีชาวบ้านหลายร้อยคนมารอชมการทำพิธีขอเลขเด็ด จากเจ้าแม่ตะเคียนทองชื่อว่า แม่ขันทอง อายุ 419 ปี ขนาดความยาว 15.50 เมตร ความกว้าง 2.47 เมตร โดยต้นตะเคียนทองแห่งนี้ถูกพบในแม่น้ำปิง บนพื้นที่ของ นายเฉลิม มากเมือง อายุ 75 ปี โดยได้ขุดพบมาแล้วกว่า 1 เดือน ในพื้นที่หน้าท่าน้ำที่ทำไร่ข้าวโพดของตนเอง และได้นำรถแบ็กโฮลากมาไว้ฝั่งตรงข้ามบริเวณหาดทรายในพื้นที่ทั้งนี้ เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวก็เดินทางมาขอโชคลาภในงวดที่ผ่านมา โดยมีร่างทรงในพื้นที่มาทำพิธีขอโชคลาภได้เลข 35 ถูกกันทั้งหมู่บ้านไปแล้ว แต่งวดนี้ เจ้าแม่ขันทองมาเข้าฝันชาวบ้านหากถูกงวดนี้กันอีกค่อยขุดขึ้นมาไว้วัดในพื้นที่ และวันนี้ร่างทรงก็ได้ทำการหยดเทียนน้ำมนต์และเขียนเลขลงในกระดาษเพื่อให้ชาวบ้านได้นำไปเสี่ยงโชคงวดนี้ และบอกว่างวดนี้ทุกคนจะถูกหวยนายรุ่ง เกตุนิน อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่ฝันเห็นแม่ตะเคียนทอง และมีโชคงวดที่ผ่านมา กล่าวว่า ตนเองและภรรยาได้ฝันเห็น แม่ขันทอง ใส่ชุดไทยสีน้ำเงินสไบแดง มาสื่อว่าจะขอขึ้นมาเพื่อสร้างโบสถ์ที่วัดท่าคร้อ พร้อมบอกว่าให้นำผ้าไตรมาวางถวายพร้อมบายศรี และบอกอีกว่าจะให้โชคงวดนี้เป็นงวดที่ 2 หากมีโชคแล้ว ทุกคนจะต้องนำเงินมาจ้างรถแบ็กโฮและรถลากนำแม่ตะเคียนไปไว้ที่วัดดังกล่าว เพื่อสร้างโบสถ์ให้เสร็จขณะที่ ร่างทรงกำลังทำพิธีขอเลขอยู่นั้น ก็ได้มีอาการเหมือนถูกเข้าสิง บอกว่าตนเองคือ แม่ขันทอง ทำท่าทางร่ายรำแสดงความดีใจที่ทุกคนมาขอโชคครั้งนี้ พร้อมทั้งได้เขียนเลขลงในกระดาษคือเลข 910 80 ส่วนขันน้ำมนต์ก็มีเลขที่คล้ายกันกับที่ร่างทรงเขียน ส่วนชาวบ้านที่มาขอโชคลาภก็พากันมุ่งดูและนำโทรศัพท์มาถ่ายเลขในขันน้ำมนต์และกระดาษเพื่อนำเลขไปเสี่ยงกัน ส่วนเลขที่ชาวบ้านลูบแป้งและเห็นกันคือเลข 1 3 4 7 แล้วแต่โชคของแต่ละบุคคล.อ่านโค้งสุดท้ายหวย เลขเด็ด งวด 01/08/63 ลุ้นได้ที่ไทยรัฐทีวี-ไทยรัฐออนไลน์ส่องอ่างน้ำมนต์ พ่อขุนช้าง วัดไผ่แขก คอหวยยิ้มหวานได้ เลขเด็ด ลุ้นโชคเลขเด็ด หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ในเปิดสูตรคำนวณ หนังสือหวย ถูกจริงหรืออุปโลกน์ เผยที่มา เลขเด็ด ไม่กั๊กมหากาพย์หวยไทย เปิดเบื้องหลัง ฉายความจริง บางเรื่องไม่มีใครเคยรู้มาก่อน | แม่ขันทอง ต้นตะเคียน อายุ 419 ปี มาเข้าฝันชาวบ้าน ขอไปอยู่วัดเพื่อสร้างโบสถ์ หลังงวดที่ผ่านมาถูก เลขเด็ด กันทั้งหมู่บ้าน พร้อมเผย งวดนี้ทุกคนจะถูกหวย | ข่าว,ทั่วไทย | หวยไทยรัฐ1-8-63,เลขเด็ด,ตรวจหวย,สลากกินแบ่งรัฐบาล 1 สิงหาคม 2563,เลขเด็ด1-8-63,เลขเด็ด 1 ส.ค. 63,หวย | https://www.thairath.co.th/news/local/1901313 | [
0,
259,
35239,
223326,
39945,
259,
4728,
17138,
104083,
174811,
2091,
27605,
48388,
185924,
10228,
4728,
26116,
44076,
1,
0
] |
ล็อกดาวน์อยู่บ้านสู้โควิด-19 ดันสตรีมมิ่งคาราโอเกะพุ่ง | ทั่วโลกกำลังสู้กับโควิด-19 ต้องล็อกดาวน์ประเทศ ห้ามผู้คนเดินทาง และหลายคนต้องทำงานที่บ้าน และบางคนเริ่มเบื่อ ทำให้มีการใช้บริการความบันเทิงทางออนไลน์มากขึ้น อย่างล่าสุด JOOXมีผู้ใช้บริการคาราโอเกะพุ่งสูงถึง 30-50%เรื่องนี้ผู้บริหารของ Tencent เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า มีผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลง JOOX พุ่งสูงถึง 30-50% เพราะคนอยู่บ้านในช่วงเวลานี้ที่ทุกคนต้องช่วยกันอยู่บ้าน หยุดแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้มีการฟังเพลง เล่นเกมกันเพิ่มขึ้น ความนิยมคาราโอเกะก็มากขึ้น และ JOOX เองก็เพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้บริการ ใช้เหรียญแลกสถานะเป็น VIP สามารถส่ง Gifts ให้เพื่อน เพื่อทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกัน อย่างคาราโอเกะ จัดงาน หรือไลฟ์นอกจากนี้ค่ายนี้ยังเปิดตัวบริการประชุมผ่านทางออนไลน์ VooV Meeting ใน 100 ประเทศ เมื่อเดือนที่แล้วอีกด้วยบริษัท Tencent ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน เปิดตัว JOOX เมื่อปี 2558 เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงรายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และแอฟริกาใต้ มีคู่แข่งสำคัญคือ Youtube Music และ Spotifyอย่างไรก็ตามใช่ว่าคู่แข่งจะอยู่เฉย มีอีกรายที่น่าจับตามองอย่าง TikTok ก็เพิ่งเปิดตัวแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งเพลง Resso ในอินโดนีเซีย เมื่อเดือนที่แล้ว. | ทั่วโลกกำลังสู้กับโควิด-19 ต้องล็อกดาวน์ประเทศ และหลายคนต้องทำงานที่บ้าน และบางคนเริ่มเบื่อ ทำให้มีการใช้บริการอย่างล่าสุด JOOX มีผู้ใช้บริการคาราโอเกะพุ่งสูงถึง 30-50% | ข่าว,ไอที | คาราโอเกะ,JOOX,Tencent,ล็อกดาวน์,โควิด-19,สตรีมมิ่ง | https://www.thairath.co.th/news/tech/1813294 | [
0,
259,
171475,
4682,
107226,
45584,
153851,
154733,
17375,
1,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0
] |
จะช่วยแก้เรื่องท้องในวัยใส มารีญา อึ้ง โซเชียลมูฟเมนต์ 3 วัน | ครั้งแรกเปิดใจทุกเรื่องราว กลับไทยดึกดื่นหน่อย แต่ก็มีแฟนนางงามแห่มาต้อนรับอย่างอบอุ่น มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เดินทางสวยๆ กลับจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ได้เปิดใจทุกเรื่องราวที่ผ่านมา บริเวณเวทีต้อนรับ อาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,มารีญาให้สัมภาษณ์อย่างยิ้มแย้มสดชื่น พอลงจากเครื่อง ก็ได้ยินเสียงแฟนคลับชัดมากเลยค่ะ รู้สึกอบอุ่นมาก ขอบคุณมากค่ะที่มา อย่างแรกเลยมารีญาอยากขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนมารีญามาตลอด รวมถึงพระองค์หญิง (พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์) ขอบคุณมากเลยค่ะที่เชื่อมั่นมารีญา เป็นมงคลสุดๆ ที่ทำให้มารีญามีกำลังใจ และก็พี่ๆ ในวงการทุกคน พี่ๆ สื่อมวลชนทุกคน และในที่สุดเลยค่ะแฟนคลับทุกคนที่สนับสนุน,ตั้งแต่มารีญาได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มารีญารู้สึกถึงความรักความอบอุ่นของทุกคนเลย สิ่งนี้ทำให้มารีญาทำงานหนักขึ้น ผลักดันให้ตื่นขึ้นมาทำให้เต็มที่ กลับมาครั้งนี้มารีญารู้สึกถึงความรักจริงๆ เลยของชาวไทย และรู้สึกว่าใกล้ชิดกับเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายของมารีญาค่ะ คืออยากจะทำให้คนไทยมีความสุขมากจริงๆ,มารีญาได้รับท็อป 5 นะคะ รู้สึกว่าการประกวดต้องเป็นตัวของตัวเอง มารีญาทำเต็มที่ ก็ภูมิใจมากๆ เลย ตอนที่ลงจากเวทีก็ผิดหวังนิดหน่อย เพราะทุกคนหวังว่าเราจะได้ที่ 1 แต่ได้ท็อป 5 รู้สึกว่านี่คือช่องทางของเราเป็นเวลาของเรา เพราะมารีญาได้กลับมาที่เมืองไทย ตอนนี้ก็สามารถทำสิ่งต่างๆ ที่ตั้งเป้าหมายไว้เร็วขึ้น ทำให้คนไทยได้เต็มที่,ตอนอยู่บนเวทีได้ยินคำถาม (what do you think has been the most important social movement of your generation? คุณคิดว่าเหตุการณ์ขับเคลื่อนทางสังคมสำคัญที่สุด ที่เกิดในยุคคุณคืออะไร?) ,มารีญาก็อึ้งเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) แล้วผ่านไปสองสามวัน ยังอึ้งอยู่เลยค่ะกับคำถามนี้ (ยิ้ม) มารีญาได้คิดแล้วค่ะ ว่าทำไมเราอึ้ง เพราะเขาถามเกี่ยวกับโซเชียลมูฟเมนต์ในยุคของมารีญา แล้วมารีญาคิดว่าการที่เราไม่สามารถตอบได้ในแบบที่คนอาจจะคาดหวัง อาจจะเพราะเราขาดโซเชียลมูฟเมนต์อันหนึ่ง เราขาดอะไรสักอย่างในยุคเรา ยิ่งทำให้มารีญาอยากจะทำทุกอย่างให้เต็มที่มากกว่านี้ เพราะว่าเราอาจจะเป็นคนที่ขับเคลื่อนโซเชียลมูฟเมนต์ในเรื่องการท้องก่อนวัยอันควร,อย่างที่มารีญาเคยพูดเอาไว้ตั้งแต่แรก อยากจะให้คนขยับมาฟังในเรื่องนี้ มาลงมือทำให้ด้านนี้ อยากให้คนมาลงทุนในเยาวชน ลงทุนในการศึกษา อยากให้คนเคารพนับถือตัวเอง รู้จักเคารพนับถือคนอื่น ตรงนี้จะช่วยลดการท้องก่อนวัยอันควร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มารีญาอยากจะตั้งใจทำ,พอลงจากเวทีประกวดร้องไห้เลย? ใช่ค่ะ พอลงจากเวทีร้องไห้เลย รู้ว่าคนไทยคาดหวังว่าเราจะได้มงคนที่ 3 แต่มารีญาทำไม่ได้ ไม่สามารถเอามงที่ 3 กลับมาได้ แต่คิดว่าเราทำอย่างอื่นได้ ที่จะทำให้คนไทยมีความสุข จริงๆ บนเวทีมารีญาไม่ได้คิดว่าทำอะไรผิด เราทำเต็มที่และเป็นตัวของตัวเอง ที่ขึ้นไปเป็นท็อป 5 ได้เพราะเป็นตัวของตัวเอง เราทำเต็มที่แล้ว ดีใจมากที่เราได้ทำมากขนาดนี้ หลังการประกวดมีอะไรหลายอย่างมาก ตอนที่พูดออกมามีน้ำตาเลยเพราะคนไทยเชียร์เต็มที่ หวังกับเราแต่เราไม่ได้ก็รู้สึกเศร้าค่ะ,ดราม่าเรื่องชุดราตรีรอบ 5 คนสุดท้ายของอาซาว่า ที่ใส่แล้วไม่รู้สึกมั่นใจ? ไม่ค่ะ รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากค่ะ ตอนอยู่บนเวทีและก็ทำเต็มที่อยู่แล้ว ดราม่าที่เกิดขึ้นแค่คิดว่า เกิดจากพูดคุยของคนที่ไม่อยู่บนเวทีค่ะ ได้ยินข่าวดราม่าเรื่องชุด? ได้ยินบ้างค่ะ มารีญารู้สึกหนักใจเหมือนกันค่ะ ตอนนี้มีเวลาคิดแล้วและมีเวลาดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้กำลังใจพี่หมู (พลพัฒน์ อัศวะประภา) เพราะช่วยมารีญาตั้งแต่แรกเลยค่ะ,ดราม่าเรื่องการพูดถึงชื่อพิธีกร สตีฟ ฮาร์วี่ย์? ถ้าใครมาติเราเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่เป็นไร ขำไปแล้วเราก็จะดีขึ้น เรื่องคอมเมนต์คิดว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะทุกคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน ก็คิดว่าเราอ่านไปคิดสักพัก แล้วเราก็ต้องวาง,ก้าวต่อไปของมารีญา? ,ตอนนี้ได้กลับมาไทยแล้ว รู้สึกว่ามีคนฟังมารีญามากขึ้น มารีญามีเวทียิ่งใหญ่มากตอนนี้ อยากจะรวมพลังของทุกคนมาช่วยมารีญาในเรื่องการท้องก่อนวัยอันควร เพราะเคยพูดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้เป้าหมายของมารีญาคือโครงการนี้ อยากทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนี้เร็วขึ้น ดีใจที่จะได้ทำและหวังว่าทุกคนจะสนับสนุนมารีญาในเรื่องนี้,วางแผนชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไร? มารีญาเป็นนางแบบตั้งแต่อายุ 13 แล้วก็เรียนไปด้วย ก็หวังว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงได้ตลอด แต่อยากจะโฟกัสไปถึงเรื่องโครงการท้องก่อนวัยของมารีญาค่ะ จะกลับมาเป็นนักร้องอีกมั้ย? คิดว่าร้องเพลงในบ้านตัวเองก่อนค่ะ (หัวเราะ),หลังจากนี้นางงามไทยจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ในการไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส? มารีญาก็คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ เราต้องเตรียมตัวโฟกัส เราต้องรู้เกี่ยวกับการตอบคำถามมากขึ้นค่ะ เราต้องรู้อะไรหลายๆ อย่างในโลกนี้ ไม่ว่าเขาจะถามอะไร เราต้องสามารถตอบได้ในเชิงบวก ก็แค่คิดว่าเราต้องฝึกตรงนี้มากขึ้น อย่างอื่นคิดว่าไม่สำคัญมาก เราแค่มั่นใจในตัวเองตรงนี้สำคัญที่สุดเลย.,
,
| ครั้งแรกเปิดใจทุกเรื่องราว กลับไทยดึกดื่นหน่อย แต่ก็มีแฟนนางงามแห่มาต้อนรับอย่างอบอุ่น มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เดินทางกลับจาก | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | มารีญา กลับไทย,มารีญา มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2017,มารีญา miss universethailand2017,มารีญา ท็อป5,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1148422 | [
0,
259,
4728,
51646,
112202,
74058,
16485,
115934,
2091,
152410,
12002,
118233,
4188,
230023,
1,
0,
0,
0,
0,
0
] |
สคบ.จับลวดดัดฟันแฟชั่นอันตราย | พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ สคบ.ตรวจสอบการลักลอบขายสินค้าและบริการทุกประเภท ที่ สคบ.ได้ออกประกาศห้ามขาย ทั้งลวดดัดฟันแฟชั่น ของเล่นที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตสำหรับแกล้งคน ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ เครื่องเล่นฉีดน้ำที่มีลักษณะเป็นกระบอกสูบ และใช้แรงอัดกระแทกน้ำในกระบอกสูบโดยตรง และการให้บริการบารากู่ หลังพบยังมีการลักลอบขายสินค้าดังกล่าวหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการขายผ่านอินเตอร์เน็ต หากตรวจพบถือว่ามีความผิด ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย,สำหรับสินค้าที่ยังพบมีการลักลอบขาย หรือให้บริการอยู่มาก นอกจากบารากู่ ที่ลักลอบขายในสถานบันเทิงแล้ว ยังมีสินค้าลวดดัดฟันแฟชั่น ที่พบลักลอบขายทางอินเตอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ ซึ่งสินค้านี้เป็นลวดสเตนเลสใส่ลูกปัดสี หรือพลาสติก ที่ทำเลียนแบบการจัดฟันโดยทันตแพทย์ ซึ่งผู้ขายจะโฆษณาขายสินค้า และจัดส่งสินค้าให้ผู้ซื้อ พร้อมสาธิตขั้นตอนการติดลวดดัดฟันแฟชั่นด้วยตนเอง หรืออาจนัดผู้ซื้อมาพิมพ์ฟันก่อนแล้วนัดมาใส่ในภายหลัง โดยสินค้านี้อันตรายมาก เพราะผู้ขายไม่ใช่ทันตแพทย์ ไม่มีความรู้ทางด้านทันตกรรม แม้อุปกรณ์ที่ใช้ดัดฟันแฟชั่นจะคล้ายกับที่ทันตแพทย์ใช้ แต่ไม่ปลอดภัย ไม่ถูกสุขอนามัย อีกทั้ง สคบ.เคยส่งตัวอย่างลวดดัดฟันแฟชั่นไปทดสอบอันตราย พบว่า ตรวจพบสารปนเปื้อน ซึ่งเป็นโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว พลวง ซีลีเนียม โครเมียม และสารหนู,ขณะที่วัสดุที่ใช้ก็ไม่ได้มาตรฐาน ส่วนการนำมาคล้องที่ฟัน ก็มีโอกาสทำให้หลุดลงคอ และทำให้ผู้บริโภคมีอันตรายหรือเสียชีวิตได้ เมื่อเกิดการอักเสบของเหงือก และติดเชื้อในกระแสเลือด ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากการดัดฟันแฟชั่นแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้าตรวจพบว่าลักลอบขายหรือให้บริการใส่ลวดดัดฟันแฟชั่น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นผู้ผลิต หรือนำเข้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแนวทางควบคุมสินค้าที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคว่า ที่ประชุม คคบ. เห็นชอบ,ให้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาสินค้าอันตรายหากพิจารณาว่าอันตรายจริงจะส่งให้ คคบ.ออกคำสั่งห้ามขายทันที. | ที่พบลักลอบขายทางอินเตอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ ซึ่งสินค้านี้เป็นลวดสเตนเลสใส่ลูกปัดสี หรือพลาสติก ที่ทำเลียนแบบการจัดฟันโดยทันตแพทย์ ซึ่งผู้ขายจะโฆษณาขายสินค้า และจัดส่งสินค้าให้ผู้ซื้อ พร้อมสาธิตขั้นตอนการติดลวด | ลวดดัดฟันแฟชั่น,สคบ.,ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์,ออกประกาศห้ามขาย,บารากู่ | https://www.thairath.co.th/content/836570 | [
0,
259,
4215,
235149,
260,
6494,
70851,
3755,
121153,
30571,
15981,
1549,
221257,
3682,
32087,
44109,
218817,
1,
0,
0
] |
|
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: สามัคคีวิจารณ์ ส.ศิวลักษณ์ | สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2475 ตามระบบปฏิทินเก่าซึ่งขึ้นปีใหม่เมื่อวันที่ 1 เมษายน ดังนั้น เมื่อถืงเดือนมีนาคม ปีนี้ จึงเป็นปีอายุ 80 ปีพอดี และได้มีการจัดปาฐกถาเพื่อเป็นเกียรติเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดย คุณสุลักษณ์ปาฐกถาในเรื่อง สังคมสยามตามทัศนะของปัญญาชนไทยหมายเลข 10 แต่ในบทความนี้ จะลองสามัคคีวิจารณ์บทบาทของ ส.ศิวลักษณ์ ในสังคมไทยในระยะเวลาที่ผ่านมาก่อนอื่นคงต้องอธิบายว่า ส.ศิวลักษ์นั้นเป็นปัญญาชนสยาม ที่มีความโดดเด่นมาก เป็นนักคิด นักเขียน นักพูด และนักวิชาการ มีผลงานที่เป็นงานเขียนมากกว่า 200 เล่ม และที่ไม่ค่อยทราบกัน คือ มีงานเขียนที่เป็นวิชาการจริง เช่น ประวัติศาสตร์จีน ปรัชญาการเมืองฝรั่ง นโยบายสหรัฐอเมริกาในเอเชียอาคเนย์ เรื่องพระเจ้าอโศก ฯลฯ ซึ่งถือเป็นงานวิชาการที่มีคุณภาพ แต่ผลงานจำนวนที่มากกว่า มาจากการแสดงข้อคิดเห็นในเชิงวิพากษ์ ศาสนา การเมือง และสังคมไทยส.ศิวรักษ์ได้เล่าประวัติของตัวเองช่วงแรกในหนังสือเล่มหนา ชื่อ เล่าว่า จบการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญและได้ผ่านการบวชเป็นสามเณรที่วัดทองนพคุณในช่วงสงครามเอเชียบูรพา ทำให้มีความสนใจอย่างลึกซึ้งมากในเรื่องศาสนา ต่อมา หลัง พ.ศ.2495 ได้เดินทางไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ จบปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์และวรรณคดีมหาวิทยาลัยเซนต์เดวิด ที่เมืองแลมปีเตอร์ในแคว้นเวลส์ จากนั้น ก็กลับมาประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2504 .ในระหว่างนี้ได้เริมมีผลงานทางวิชาการแล้ว จากเรื่องแรกที่มีหลักฐานคือ เรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนาในยุโรป (2501)พ.ศ.2505 ส.ศิวลักษณ์ ได้เข้ารับตำแหน่งบรรณาธิการคนแรกของวารสาร วารสารนี้จะมีส่วนสำคัญมากในทางประวัติศาสตร์ความคิดที่จะปูทางมาสู่กรณี 14 ตุลาคม ส.ศิวรักษ์เองก็เริ่มแสดงบทบาทในฐานะปัญญาชนคนสำคัญที่ต่อต้านระบบทหาร แต่ข้อที่น่าสังเกตคือ การต่อต้านเผด็จการของ ส.ศิวลักษณ์ มาจากจุดยืนอนุรักษ์นิยม ส.ศิวลักษณ์แสดงบทบาทชัดเจนในฐานะผู้ชื่นชมชนชั้นเจ้า-ขุนนาง ชื่นชมแบบแผนเก่า ประเพณีเก่า และนุ่งผ้าม่วง รวมถึงการต่อต้านปรีดี พนมยงค์ และคณะราษฎร เพราะเชื่อมโยงคณะราษฎรเข้ากับเผด็จการทหาร ซึ่งเป็นกระแสความคิดในขณะนั้น สอดคล้องกับข้อเท็จจริงว่า กระแสประชาธิปไตย 14 ตุลาด้านหนึ่งมาจากกระแสอนุรักษ์นิยมในอีกด้านหนึ่ง ผลงานของส.ศิวรักษ์ยังชี้ให้เห็นถึงความสนใจในด้านศาสนาอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ พ.ศ.2507 เขาน่าจะเป็นคนแรกที่เขียนเรื่อง ทะไลลามะ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการแสดงความสนใจในพุทธศาสนาแบบอื่น แต่ก็ทำให้ ส.ศิวลักษณ์ มีแนวคิดที่ต่อต้านจีนและต่อต้านคอมมิวนิสต์ ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมในสมัยนั้นเช่นกันหลังกรณี 14 ตุลาคม ปรากฏว่า ส.ศิวรักษ์ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของขบวนการนักศึกษา ซึ่งมาจากหลายเหตุผล เช่น ส.ศิวรักษ์ ไม่มีท่าทีที่ชัดเจนต่อกระแสสังคมนิยมที่เป็นกระแสสำคัญของขบวนการนักศึกษา ยังแสดงท่าทีแบบอนุรักษ์นิยมนุ่งผ้าม่วง และผลักดันกระแสอหิงสา ซึ่งไม่ตรงกับกระแสชนบทล้อมเมือง และยังมีข้อมูลว่า ขบวนการนักศึกษาไม่ค่อยไว้ใจ ส.ศิวลักษณ์ ว่าอาจจะติดต่อกับซีไอเอ. และมีเป้าหมายทำลายขบวนการประชาชนกรณี 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนทางความคิดที่สำคัญทีสุดของ ส.ศิวรักษ์ จะเห็นได้ชัดจากการเปลี่ยนความคิดในเรื่อง ปรีดี พนมยงค์ และนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงแนวคิดต่อคณะราษฎร และขบวนการประชาธิปไตยทั้งหมด โดย ส.ศิวรักษ์ยอมรับว่า การประเมินปรีดี พนมยงค์ในอดีตนั้นเป็นเรื่องผิดพลาด ปรีดี พยมยงค์ เป็นคนดี และทำเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคตรัชกาลที่ 8 ในบทความชื่อ ปรีดี พนมยงค์ ที่ข้าพเจ้ารู้จัก (2526) ส.ศิวรักษ์วิพากษ์ความคิดตัวเองอย่างเป็นระบบ วิจารณ์รากฐานความคิดอนุรักษ์นิยม และเปลี่ยนมาสนับสนุนประชาธิปไตยและการต่อสู้ของชนชั้นล่าง ซึ่งต้องถือว่าเป็นกระบวนการอันยิ่งใหญ่มาก การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก่อให้เกิดผลอันสำคัญที่พอสรุปได้คือประการแรก การเติบโตขององค์กรพัฒนาเอกชน เพราะ ศ.ศิวลักษณ์จะกลายเป็นเอ็นจีโอ หรือ ผู้สนับสนุนเอ็นจีโอที่ชัดเจน ดังนั้น ตั้งแต่หลัง พ.ศ.2525 ส.ศิวลักษณ์ต่อสู้ร่วมกับเอ็นจีโอทั้งหลายในแทบกรณี เช่น สนับสนุนตั้งแต่เรื่อง ต่อต้านเขื่อนนำโจน สนับสนุนชาวบ้านบ่อนอกหินกูด สนับสนุนสมัชชาคนจนในเรื่องปากมูล และปัญหาอื่น ต่อมา ได้กลายเป็นผู้นำต่อต้านกรณีท่อแก้สเมืองกาญจนบุรี การสนับสนุนเอ็นจีโอ.นำมาผลสำคัญประการหนึ่ง นั่นคือการรังเกียจนักการเมือง เห็นว่านักการเมืองทั้งหลายจะต้องทุจริต ทำลายบ้านเมืองอยู่เสมอประการต่อมา คือ การเปลี่ยนท่าทีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ส.ศิวรักษ์จะเริ่มมีท่าทีในเชิงวิพากษ์มากขึ้น และทำให้ ส.ศิวรักษ์ เริ่มถูกจับดำเนินคดีตามมาตรา 112 เริ่มจากการเขียนหนังสือเรื่อง ลอกคราบสังคมไทย ทำให้ถูกดำเนินคดีครั้งแรก ต่อมา หลังกรณีรัฐประหาร พ.ศ.2534 ได้ปาฐกถาเรื่อง วิพากษ์ รสช.และลอกคราบนายอานันท์ ปัณยารชุน ก็ได้ถูก พล.อ.สุจินดา คราประยูร ฟ้องในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานาภาพ จนต้องลี้ภัยต่างประเทศระยะหนึ่ง จนหลังกรณีพฤษภา 2535 จึงได้กลับประเทศในระยะนี้ ส.ศิวรักษ์ก็ยังแสดงตนเป็นนักคิด และนักวิพากษ์สังคมอย่างสม่ำเสมอ แนวคิดที่น่าสนใจ เช่น การโจมตีการคลานเขาและหมอบกราบ การปฏิเสธ บทบาทของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ วิพากษ์ พรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 การโจมตีความไม่เสมอภาคทางชนชั้นและยกย่องประชาชนระดับล่าง โดยเฉพาะการวิพากษ์ศักดินา ศ.ศิวลักษณ์ มีข้อมูล และคำสัมภาษ์จำนวนมาก ที่สะท้อนถึงแนวคิดและพฤติกรรมอันเลวร้ายของชนชั้นสูงอย่างชัดเจนมาก ที่ยากจะหาผู้อื่นมาทำลักษณะเดียวกันได้ เช่นเรื่อง ลอกคราบเสด็จพ่อ ร.5 ก็เป็นหนังสือดี ที่เสนอภาพของรัชกาลที่ 5 ในแง่มุมที่ไม่เคยปรากฏในหนังสืออื่นมาก่อนตั้งแต่ พ.ศ.2547 เอ็นจีโอทั้งหลายก็เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส.ศิวรักษ์ เป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มขบวนการ โดยปาฐกถาเรื่อง ขจัดทักษิณ : ธนาธิปไตย แสดงทัศนะนี้ได้ดี ในระยะแรก เขาเสนอภาพในฐานะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวิตร นั้นเป็นศัตรูของประชาธิปไตย จึงเสนอคำขวัญว่า เอาทักษิณคืนไป เอาประชาธิปไตยคืนมาต่อมา เมื่อกระแสการต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณรุนแรงมากขึ้น และนำไปสู่การต่อต้านรัฐประหาร ส.ศิวรักษ์ ก็ยังคงสนับสนุนการต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เช่น ทักษิณเป็นเครื่องมือของโลกาภิวัตน์ รับใช้ต่างชาติ ทักษิณทำลายพุทธศาสนา และในขั้นสุดท้าย ก็คือ โจมตีว่า ทักษิณเป็นศัตรู และต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ความเกลียดชังที่มีต่อผีทักษิณ กลายเป็นการเกลียดฝังใจ และกลายเป็นที่มาของสองมาตรฐานแบบของ ส.ศิวรักษ์ในขณะนี้ จนถึงล่าสุด ที่ ส.ศิวรักษ์ ออกมาสนับสนุนให้เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร จากเหตุผลว่า ทักษิณเลวกว่าประชาธิปัตย์ ก็เพียงพอโดยไม่ต้องพิจารณาในเรื่องอื่น เช่น นโยบายที่ดีกว่า และความเหมาะสมของบุคคลของฝ่ายพรรคเพื่อไทย หรือ ความล้มเหลวในการบริหารของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ในอดีตกล่าวโดยสรุปแล้ว เห็นได้ว่า ในระยะที่ผ่านมา บทบาทของ ส.ศิวรักษ์ได้สร้างคุณูปการให้กับสังคมไทยหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องการวิพากษ์ศักดินา แต่กระนั้น อคติที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้การพัฒนาความคิดหยุดชะงัก ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า การวิพากษ์วิจารณ์คุณทักษิณจะกระทำมิได้ แต่ควรที่จะวิพากษ์วิจารณ์ด้วยหลักฐานและข้อมูล แต่การใช้อคติ ใส่ร้ายป้ายสี วาดภาพเกินจริง ย่อมไม่ถูกต้อง และยิ่งใช้ข้อหาล้มเจ้าไปโจมตี ยิ่งไม่ถูกต้องนี่เป็นการสามัคคีวิจารณ์อย่างเป็นจริง | สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2475 ตามระบบปฏิทินเก่าซึ่งขึ้นปีใหม่เมื่อวันที่ 1 เมษายน ดังนั้น เมื่อถืงเดือนมีนาคม ปีนี้ จึงเป็นปีอายุ 80 ปีพอดี | การเมือง,วัฒนธรรม | มาตรา112,รัฐประหาร,สถาบันกษัตริย์กับประชาธิปไตย,สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ,สุลักษณ์ ศิวรักษ์,ส.ศิวรักษ์ | https://prachatai.com/journal/2013/03/45934 | [
0,
259,
17958,
138504,
137828,
259,
100694,
6582,
259,
66848,
48208,
4348,
57345,
70663,
4552,
181905,
12682,
141944,
2091,
2752
] |
#saveบุคลากรทางการแพทย์ หลัง อนุทิน สื่อสารผิด ไม่พอใจ ติดโควิด-19 | โซเชียลผุด แฮชแท็ก#saveบุคลากรทางการแพทย์ หลัง อนุทิน บอกสื่อสารผิด ไม่พอใจ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ไม่เซฟตัวเอง ทำเสียกำลังใจจากกรณี การตอบคำถามเกี่ยวกับมาตรการป้องกันความเสี่ยงโควิด-19 ของแพทย์ เนื่องจากมีแพทย์ติดไปแล้วหลายคน ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขณะเป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ CLEAN Together : คนไทยรวมพลังป้องกันโรค ที่ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานการติดเชื้อของแพทย์ จากการปฏิบัติหน้าที่รักษาโควิด-19 พวกเราก็ไม่พอใจ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ไม่เฝ้าระวังตัวเอง ซึ่งควรต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง ช่วงนี้มีสถานการณ์ระบาดของโรค เราต้องเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด ซึ่งต่อมา นายอนุทินออกมาระบุว่าตนตำหนิบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อจากการสังสรรค์แล้วมาทำงาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นโดยในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก อย่างเช่นนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า มีเสียงที่ดังก้องในหัวของเรา ท่านรู้ไหมแทบทุกวันของแพทย์โรงพยาบาลจะนะ มีการทำ swab ตรวจหาเชื้อโควิดในกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง ชีวิตเรากำลังเปลี่ยนไปมาสองสัปดาห์แล้ว ต้องใส่ชุด PPE เต็มยศเพื่อป้องกันไวรัสที่เรามองไม่เห็น นี่คือหน้าที่ที่เราเรียนหมอมา ทุกคนถ้าอยู่ในเวรที่ต้องทำ swab ก็ลงมือทำ ไม่มีเกี่ยงงาน เราทำเต็มที่เพราะเราคือหมอ เราคือพยาบาลแต่สำหรับพวกเราแล้ว เรารู้ว่าเราต้องป้องกันตนเอง เรามีครอบครัว มีพ่อแม่ที่เรารักรออยู่ที่บ้าน เมื่อใส่ชุดนี้ เราก็มั่นใจว่าเรามีโอกาสได้รับเชื้อโรคน้อยลงมาก เพราะเราป้องกันอย่างดี และจะได้ทำให้เชื้อไม่แพร่กระจายสู่คนอื่นๆ ในโรงพยาบาล อันนี้เรามั่นใจว่าเราทำได้ดีแต่จุดที่เสี่ยงกว่าของแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกลับเป็นห้องฉุกเฉิน ห้องตรวจโรคทั่วไป ห้องผู้ป่วยใน เพราะเราป้องกันตนเองเพียงหน้ากากอนามัย หมวกคลุมผม faceshield และถุงมือ ด้วยคนไข้ที่หลากหลายและปริมาณงานที่มาก ทำให้เราไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด คำถามประจำวันของแพทย์พยาบาลจึงมีในหัวเสมอว่า เราติดเชื้อแล้วยังว่ะเป็นการยากครับที่จะบอกว่าการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์นั้นติดมาจากงานหรือจากชีวิตส่วนตัว อาจพอบอกได้ แต่จะติดจากไหนก็เถอะ ก็ควรให้กำลังใจกัน ไม่ไป bully เขาประกันชีวิตตายได้หลักล้านนั้นไม่ค่อยมีประโยชน์นัก สิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์อยากได้มากกว่าคือ การมีอุปกรณ์ป้องกันไวรัสที่เพียงพอ มากกว่าแค่หน้ากากอนามัยที่ยังขาดแคลนอยู่แม้จะดีขึ้นบ้าง นอกจากนี้คือขวัญกำลังใจ รวมทั้งการออกแบบระบบหรือนโยบายที่เข้าท่า ที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดให้ช้าลงได้ไม่เคยใส่ชุดนี้ต่อหน้าคนไข้จริงๆ ไม่มีทางรู้หรอกว่า มันลุ้นขนาดไหนเราติดเชื้อแล้วยังว่ะ มันดังในหัวของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนแหละครับ ท่านรู้ไหมขณะที่ในโลกทวิตเตอร์ นอกจาก #อนุทิน แล้ว ก็ยังมี #saveบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งคนในโลกโซเชียล ได้ทวีตแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ที่ถือเป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับวิกฤติในครั้งนี้ แต่จะเห็นได้ว่ามีหลายโรงพยาบาลออกมาเปิดขอรับบริจาค จัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันสำหรับใช้รักษาผู้ป่วย เนื่องจากในบางโรงพยาบาลเริ่มขาดแคลน ไม่พอใช้ และบุคลากรทางการแพทย์ต้องออกมานั่งทำอุปกรณ์ป้องกัน แบบ D.I.Y. กันเอง | โซเชียลผุด แฮชแท็ก #saveบุคลากรทางการแพทย์ หลัง อนุทิน บอกสื่อสารผิด ไม่พอใจ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ไม่เซฟตัวเอง ทำเสียกำลังใจ | ข่าว,สังคม | อนุทิน ชาญวีรกูล,โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,หวดหมอ,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1804988 | [
0,
259,
95580,
182800,
2091,
85322,
118349,
6494,
31916,
259,
80267,
51523,
36801,
31542,
259,
143576,
259,
63583,
234348,
12005
] |
ศูนย์พิษวิทยารามาฯ เผยพบแนวโน้มผู้ผิดปกติจากการใช้กัญชามากขึ้น แนะใช้ให้ถูกต้องตามข้อบ่งชี้ | สื่อ Hfocus รายงานระบุศูนย์พิษวิทยา รพ.รามาฯ เผยตั้งแต่ ม.ค. 2561-พ.ค. 2562 มีจำนวนผู้บาดเจ็บจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาปรึกษาศูนย์ฯกว่า 302 ราย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนะใช้ให้ถูกต้องตามข้อบ่งชี้ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น15 ก.ย. 2562 รายงานว่าศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เผยแพร่เอกสารเรื่อง ข้อระวังการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 โดยมีสาระสำคัญว่า การใช้กัญชาทางการแพทย์ที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยนั้น ควรใช้ด้วยความเข้าใจ ถูกข้อบ่งใช้ และมีการดูแลแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างเหมาะสมนอกจากนี้ ผู้ป่วยและญาติควรต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโรคและยาที่ใช้เป็นอย่างดี ผลิตภัณฑ์ที่ใช้จะต้องมีมาตรฐาน มีข้อมูลการตรวจสอบความปลอดภัยและปริมาณเนื้อสารที่ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการรักษาพยาบาลที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และลดการบาดเจ็บจากการใช้ผลติภัณฑ์กัญชาที่ไม่เหมาะสมเอกสาร ระบุอีกว่าจากข้อมูลของศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีที่ได้ให้คำปรึกษากรณีผู้ป่วยหรือผู้ที่บาดเจ็บจากพิษต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง พบว่าตั้งแต่ ม.ค. 2561 จนถึง พ.ค. 2562 มีจำนวนผู้บาดเจ็บจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา ปรึกษามายังศูนย์พิษวิทยาฯ ทั้งหมด 302 ราย โดยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นการเจ็บป่วยจากการสัมผัสผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาผู้ป่วยทั้งหมด 302 ราย อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยจากผลิตภัณฑ์กัญชาได้แก่ ใจเต้นเร็ว 133 ราย ใจสั่น 110 ราย ความดันโลหิตสูง 110 ราย มึนศีรษะ 106 ราย คลื่นไส้ 76 ราย อาเจียน 75 ราย กระวนกระวาย 49 ราย ซึม 43 ราย ในจานวนนี้มีผู้ป่วยที่ชัก 4 ราย และโคม่า 4 ราย เอกสาร ระบุนอกจากนี้ ในกลุ่มผู้ป่วยที่สัมผัสผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชา 240 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำกัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ตรงกับข้อบ่งชี้ของกรมการแพทย์ เช่น ช่วยการนอนหลับ (45 ราย) ทดลองใช้โดยไม่ได้จะรักษาหรือบรรเทาอาการใด (32 ราย) ลดอาการปวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาการปวดประสาท (28 ราย) รักษาโรคมะเร็ง (20 ราย) ป้องกันโรคมะเร็ง (12 ราย) รักษาเบาหวาน (12 ราย) บำรุงร่างกาย (12 ราย) รักษาความดันโลหิตสูง (10 ราย) และคลายเครียด (6 ราย)อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกข้อบ่งชี้ที่สามารถใช้กัญชาในการรักษา 4 ข้อ ประกอบด้วย 1. ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 2. โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา 3. ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (multiple sclerosis) และ 4. ภาวะปวดประสาท (neuropathic pain) เพื่อให้การใช้กัญชามีประโยชน์สูงสุดและเกิดความปลอดภัยมากที่สุด ข้อบ่งชี้ทั้ง 4 ข้อนี้ จะต้องสั่งจ่ายโดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรกัญชาทางการแพทย์ของกรมการแพทย์เท่านั้น และไม่ให้ใช้เป็นยาเริ่มต้นอนึ่ง กรมการแพทย์ได้ประกาศข้อห้ามการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี THC เป็นส่วนประกอบ 4 ข้อได้แก่ 1.ผู้ที่มีประวัติแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการสกัดกัญชา 2.ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการยังไม่คงที่รุนแรงของ (unstable cardio-pulmonary disease เช่น angina peripheral vascular disease cerebrovascular disease และ arrhythmia) หรือ มีปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอด เลือดหัวใจ 3.ผู้ที่เป็นโรคจิตมาก่อน หรือมีอาการของโรคอารมณ์แปรปรวน (concurrent active mood disorder) หรือ โรควิตกกังวล (anxiety disorder) และ 4.หลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร รวมถึงสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่ได้คุมกำเนิด หรือสตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์ เนื่องจากมีรายงานการศึกษาพบว่ามีทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักตัวน้อย รวมถึงพบ cannabinoids ในน้ำนมแม่ได้ | สื่อ Hfocus รายงานระบุศูนย์พิษวิทยา รพ.รามาฯ เผยตั้งแต่ ม.ค. 2561-พ.ค. 2562 มีจำนวนผู้บาดเจ็บจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาปรึกษาศูนย์ฯ กว่า 302 ราย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง | สังคม,คุณภาพชีวิต | ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี,กัญชา,กัญชาทางการแพทย์,สุขภาพ | https://prachatai.com/journal/2019/09/84332 | [
0,
259,
41853,
182925,
68755,
45488,
5405,
141944,
57741,
259,
121406,
152093,
100747,
12066,
45488,
5405,
141944,
57741,
12005,
228232
] |
ศูนย์ข่าวข้ามพรมแดน: ลดงบกองทุนสุขภาพคนไร้สถานะ บทพิสูจน์ความจริงใจกระทรวงสาธารณสุข | บาทจากที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ สปสช. ได้เสนอให้ ครม.พิจารณาคือ 2067 บาทต่อหัวผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2553 สำนักงบประมาณได้ทำหนังสือถึงปลัด สธ. ที่ นร 0713/22862 เรื่อง ขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามมติคณะรัฐมนตรี โดยเนื้อความในหนังสือกล่าวถึง การที่สำนักงบประมาณได้อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเบิกจ่ายงบประมาณได้จำนวน 348044795 บาท (สามร้อยสี่สิบแปดล้านสี่หมื่นสี่พันเจ็ดร้อยเก้าสิบห้าบาทถ้วน) เพื่อใช้ในการจัดบริการขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้แก่บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ในอัตราเหมาจ่ายรายหัวไม่เกิน 1521.81 บาท/คน/ปี ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 ไปแล้วนั้นทั้งนี้บุคคลที่เข้าข่ายจะได้รับการคืนสิทธิการรักษาพยาบาลภายใต้กองทุนนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 457409 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.บุคคลที่ครม.รับรองให้อยู่ในประเทศไทยถาวร ประมาณ 90000 คน 2.บุคคลที่ครม.ผ่อนผันให้อยู่ชั่วคราวเพื่อรอพิสูจน์สถานะและมีแนวโน้มที่จะได้สัญชาติไทย 296863 คน และ 3. นักเรียนที่ได้รับสิทธิเรียนฟรีตามนโยบายของรัฐบาล มีการทำทะเบียนและประวัติที่ชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับบริการด้านการรักษา 70513 คนอย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มติครม.วันที่ 23 มีนาคม 2553 ได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขจำนวน 472823683.30 บาท (สี่ร้อยเจ็ดสิบสองล้านแปดแสนสองหมื่นสามพันหกร้อยแปดสิบสามบาทสามสิบสตางค์) ในอัตราเหมาจ่ายรายหัวไม่เกิน 2067 บาท/คน/ปี จึงเห็นได้ชัดว่ามีงบประมาณหายไปถึง 124778888.30 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นแปดพันแปดร้อยแปดสิบแปดบทสามสิบสตางค์)แหล่งข่าวคนหนึ่งให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า การที่สำนักงบประมาณลดงบรายหัวเพื่อใช้ในการบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้กลุ่มบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 นั้น ได้ก่อให้เกิดปัญหาและผลกระทบต่อการจัดบริการสุขภาพอย่างมาก ทั้งนี้เพราะเดิมนั้น ตัวเลขงบรายหัวที่ สปสช. (สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ได้เสนอให้ครม.พิจารณาคือ 2067 บาทต่อประชากรนั้นก็น้อยกว่างบรายหัวของบุคคลสัญชาติไทยในปี 2553 อยู่แล้ว เพียงแต่สปสช.คำนวณจากหลักการ เฉลี่ยความเสี่ยงร่วมกับกลุ่มประชากร 47.7 ล้านคน ที่ สปสช. ให้การดูแลอยู่ ซึ่งเป็นการยึดตามหลักการประกันสุขภาพที่ว่า รวมความเสี่ยงและเฉลี่ยความเสี่ยง (Pooling risk sharing risk) ดังนั้นตัวเลข 2067 บาทต่อประชากร แม้จะน้อยกว่างบรายหัวของประชากร 47.7 ล้านคน แต่สามารถบริหารจัดการได้ เพราะไปเฉลี่ยความเสี่ยงกับประชากร 47.7 ล้านคน แต่เมื่อมติ ครม.ให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นจัดการงบกองทุนนี้ ระยะแรกได้มีการท้วงติงไปว่า ในระยะยาวจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณไม่พอ เพราะมีประชากรจะเฉลี่ยความเสี่ยงในอัตราที่ต่ำ คือ 4.7 แสนคน ทั้งยังเป็นกลุ่มประชากรที่ยากจน สุขภาพไม่แข็งแรง ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดสิทธิสุขภาพก่อนหน้านี้แต่เมื่อสำนักงบลดงบประมาณลงเหลือเพียง 1521.81 บาทต่อประชากร ซึ่งลดลงกว่าเดิมถึง 545.19 บาท ปัญหาก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีก นั่นคือ มีงบประมาณไม่พอสำหรับการรักษาผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ดังนั้นจึงไม่สามารถทำในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค รวมถึงการดูแลโรคค่าใช้จ่ายสูงได้ เท่ากับว่า บุคคลกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการดูแลเหมือนกับคนไทยที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น โรคไตวายเรื้อรัง โรคเอดส์ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง การรักษาจะเป็นไปยถากรรม มีเท่าไหร่ก็รักษาเท่านั้น ใครที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ ก็จะถูกปล่อยทิ้งเช่นนั้น และกลายเป็นภาระโรคที่สร้างปัญหาต่อไปอีกขณะเดียวกันการที่มีมติคณะรัฐมนตรีออกมาเช่นนี้ ส่วนหนึ่งคือสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชนและประชาชนจะเกิดความคาดหวัง ซึ่งจะส่งผลถึงจำนวนผู้มารับบริการจะมีมากขึ้น เพราะทราบว่าได้สิทธิ แต่งบประมาณที่ได้รับลดลงเป็นจำนวนกว่า 124 ล้านบาทนั้น ขณะที่รูปแบบการบริหารจัดการก็ยังมีปัญหา เท่ากับว่าปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึงการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อตามแนวชายแดนก็ไม่สามารถทำได้ ท้ายที่สุดโรงพยาบาลจะแบกรับภาระเหมือนเดิม เพราะงบประมาณมีไม่เพียงพอทั้งนี้ตามขั้นตอนนั้นแม้สำนักงบประมาณจะปรับลดงบตรงส่วนนี้ลง ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องยืนยันในตัวเลขเดิม เพราะนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลประชาธิปัตย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสนใจและผลักดันนโยบายนี้มาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งและสามารถผลักดันจนสำเร็จในระยะเวลาไม่นาน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขต้องทำหนังสือชี้แจงและยืนยันตัวเลขงบรายหัวเดิมที่ สปสช.เสนอ จึงจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ และนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่าให้ความสนใจ และตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องการคืนสิทธิสุขภาพให้กลุ่มคนไร้สถานะอย่างแท้จริงหรือไม่ | เมื่อสำนักงบประมาณลดงบประมาณด้านบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้กลุ่มบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ เหลือเพียง 1521.81 บาทต่อหัว ซึ่งลดลงกว่าเดิมถึง 545.19 | คุณภาพชีวิต | คนไร้สัญชาติ,บุคคลไร้สถานะ,ศูนย์ข่าวข้ามพรมแดน (Cross Border News Agency),สาธารณสุข,สำนักงานหลักประกันสาธารณสุขแห่งชาติ | https://prachatai.com/journal/2010/06/30148 | [
0,
259,
161438,
151861,
2752,
223728,
4188,
71013,
9964,
167499,
128181,
80927,
177566,
10228,
20390,
98833,
59603,
419,
38456,
198789
] |
ม.ล.ปนัดดา ชวนดูหนังสั้น ไทยนิยม ตามหลักค่านิยม 12 ประการ ฟรี 6 ธ.ค.นี้ เมเจอร์ทั่วประเทศ | ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล พอใจภาพรวมการทำงานของศูนย์บริการประชาชน ชวนชมภาพยนตร์ ไทยนิยม ตามหลักค่านิยม 12 ประการของนายกฯ 6 ธ.ค.นี้ ที่โรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์ทั่วประเทศ ชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย3 ธ.ค.2557 ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศชมภาพยนตร์ เรื่อง ไทยนิยม ที่เป็นเรื่องการประพฤติตนตามหลักค่านิยม 12 ประการของนายกรัฐมนตรี โดยจะออกฉายในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ที่โรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์ทั่วประเทศ ชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายนอกจากนี้ยังได้ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการประชาชน ที่ฝั่งสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ถนนพิษณุโลก หลังนำเจ้าหน้าที่จาก 20 กระทรวงมาประจำเพื่อรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน โดย ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า พอใจภาพรวมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละกระทรวงที่มารับเรื่องร้องทุกข์ และแก้ไขปัญหาโดยตรง ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้การบูรณาการแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งแก้ไขปัญหาให้ประชาชนรวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับโครงการภาพยนตร์สั้น ไทยนิยม นั้น เป็นการร่วมมือกันของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหน่วยงานภาคเอกชน ซึ่งบทภาพยนตร์ในแต่ละเรื่องได้ถูกสร้างโดยผู้กำกับภาพยนตร์จากสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย 12 คน ได้แก่ บัณฑิต ทองดี ปราโมทย์ แสงศร มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล อรรถพร ธีมากร บงกช คงมาลัย วรเวช ดานุวงศ์ กัลป์ กัลย์จาฤก ก้องเกียรติ โขมศิริ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ภาคภูมิ วงษ์จินดา ต้องปอง จันทรางกูร และ หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล โดยมีหม่อมหลวง พันธ์เทวนพ เทวกุล ในฐานะที่ปรึกษาโครงการฯรวมทั้งสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ได้สนับสนุนดารานักแสดงนำ เช่น นก สินจัย พิสมัย วิไลศักดิ์ อุทุมพร ศิลาพันธ์ เวียร์ ศุกลรัตน์ ออม สุชาร์ ขวัญ อุษามณี เจมส์ มาร์ เต้ย พงศกร เจสซี่ เมฆวัฒนา อเล็กซ์ เรนเดล แต้ว ณฐพร สายป่าน อภิญญา ปีเตอร์ นพชัย เป็นต้นโดยภาพยนตร์สั้นทั้ง 12 เรื่อง จะเป็นการถ่ายทอดแนวคิดค่านิยมหลัก 12 ประการ ในแง่มุมต่างๆ ที่มีความหลากหลาย มีเนื้อหาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการจัดฉายนั้น จะมีการจัดฉายพร้อมกัน ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ จำนวน 2 รอบ รอบเวลา 11.00 น. และ รอบเวลา 17.00 น. ที่ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทั่วประเทศ รวม 73 สาขา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย | ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล พอใจภาพรวมการทำงานของศูนย์บริการประชาชน ชวนชมภาพยนตร์ ไทยนิยม ตามหลักค่านิยม 12 ประการของนายกฯ 6 ธ.ค.นี้ ที่โรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์ทั่วประเทศ ชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย 3 ธ.ค.2557 | วัฒนธรรม | ค่านิยม 12 ประการ,ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล,หนังสั้น,ไทยนิยม | https://prachatai.com/journal/2014/12/56815 | [
0,
259,
3945,
260,
7910,
260,
9964,
83645,
44836,
259,
81125,
17958,
167934,
259,
189263,
17117,
37513,
212551,
85322,
1
] |
ก.อุดมฯ ส่อแววแท้ง-รอลุ้นปาฏิหาริย์ | ตามที่มีการคาดการณ์ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 ต.ค.จะมีการนำร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ และร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าสู่การพิจารณา ซึ่งล่าสุดได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วและนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจเกี่ยวกับหน่วยงานวิจัยต่างๆจะอยู่ในสังกัดกระทรวงใหม่ หรือแยกเป็นอิสระนั้น,เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ ศ.นพ. อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งตนก็ไม่ทราบ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดถึงไม่ได้มีการพิจารณาใน ครม. และคงต้องรอลุ้นสัปดาห์หน้าอีกครั้งว่า จะนำเข้าพิจารณาในการประชุม ครม.วันที่ 16 ต.ค.หรือไม่ โดยขณะนี้หากพิจารณาตามกำหนดระยะเวลาถือว่าเลยไปมากพอสมควร เพราะไม่มีการนำเข้าพิจารณาใน ครม.มาสองสัปดาห์แล้ว ดังนั้น หากสัปดาห์หน้าไม่มีการพิจารณากฎหมายตั้งกระทรวงอุดมศึกษาฯอีก ตนคิดว่ากระทรวงอุดมศึกษาฯ อาจจะตั้งไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนก็หวังแต่จะมีปาฏิหาริย์ เช่น มีการมอบหมายให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น. | ที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งตนก็ไม่ทราบ | ข่าว,ทั่วไทย | กระทรวงอุดมศึกษา,ประชุม ครม.,สนช.,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ,ตั้งกระทรวงใหม่,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1394506 | [
0,
259,
104582,
12682,
260,
63066,
135570,
3755,
259,
80267,
259,
128181,
204504,
63066,
26036,
259,
63380,
48429,
9112,
106324
] |
ป่าไม้ตรวจต่อ ที่ดิน แม่ธนาธร หลัง ปารีณา ร้องกมธ.ปราบทุจริต | เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ ไร่พรพัฒนา 2 ราชบุรี อ.จอมบึง ตรวจที่ดินนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นวันที่ 2 หลังจากวันแรกตรวจไปแล้วประมาณ 1 พันไร่ เผย ส.ส.ปารีณาเป็นผู้ร้องกมธ.ฯ ภายหลังตัวเองถูกตรวจยึดที่ดินเขาสนฟาร์ม จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ร้องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน (กมธ.) ให้มีการตรวจสอบที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในพื้นที่หมู่ 14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากเขาสนฟาร์ม น.ส.ปารีณา ที่ถูกตรวจยึดพื้นที่ไปแล้วประมาณ 10 กิโลเมตร โดย น.ส.ปารีณา อ้างว่า ที่ดินของตนเองเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว แต่ที่ดินของมารดานายธนาธรยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ประธานกรรมาธิการจึงเห็นว่าควรนำเรื่องนี้เข้าสู่การตรวจสอบของคณะกรรมาธิการเช่นเดียวกันจากนั้น วันที่ 20 ก.พ.63 ที่ห้องประชุม อบต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นายพัฒนะ ศิริมัย ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จ.ราชบุรี อบต.รางบัว และผู้นำชุมชน ได้ร่วมประชุมวางแผนเข้าตรวจสอบที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีตัวแทนของนางสมพรเป็นผู้มานำชี้แนวเขตในการตรวจสอบ พร้อมทั้งนำเอกสารสิทธิที่ดิน ไร่พรพัฒนา 2 ราชบุรี มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เอกสารที่ดิน จำนวน 77 แปลง เนื้อที่ 3098 - 1- 27 ไร่ แบ่งเป็น โฉนด จำนวน 1 แปลง นส.3 ก จำนวน 55 แปลง นส.3 จำนวน 14 แปลง และ นส.2 จำนวน 7 แปลง เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ทั้งหมด จากนั้นจะนำมาขึ้นรูปแปลงเพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่นั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี เขตป่าไม้ถาวร และเขต ส.ป.ก. ทั้งหมดกี่ไร่ต่อมาเวลา 10.30 น. ผอ.ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จ.ราชบุรี อบต.รางบัว ผู้นำชุมชน และตัวแทนของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้มานำชี้แนวเขตในการเข้าตรวจสอบที่ดิน ไร่พรพัฒนา 2 ราชบุรี ตามเอกสารสิทธิที่ดินของนางสมพร ตามที่ น.ส.ปารีณา ร้องขอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ให้ตรวจสอบที่ดินของนางสมพรอย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบการถือครองที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 77 แปลง เนื้อที่ 3098 - 1- 27 ไร่ วันที่ 20 ก.พ. จนถึงเวลา 18.45 น. เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบพื้นที่ไปแล้วได้ประมาณ 1000 ไร่ คงเหลืออีก 2000 กว่าไร่ จึงมีการนัดหมายผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบส่วนที่เหลือในวันที่ 21 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ซึ่งทางกรมป่าไม้ โดยศูนย์ป่าไม้ราชบุรี ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานไว้ในการกำหนดขอบเขตพื้นที่ซึ่งผู้ถือครองอ้างว่า มีเอกสารตามกฎหมายที่ดิน และขอบเขตพื้นที่ซึ่งยังไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน ซึ่งจะทำการตรวจสอบเอกสารตามกฎหมายที่ดิน กรณีเป็นเอกสารออกโดยชอบ ให้กันออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรณีเป็นเอกสารออกโดยมิชอบ จะยกเลิกเพิกถอนเอกสาร และจะดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเอกสาร พร้อมสั่งการให้ผู้ถือครองออกจากพื้นที่ หากฝ่าฝืนจะแจ้งความดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั้งนี้ ที่ผ่านมา นางสมพร ถูกชาวบ้านร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.จอมบึง เพื่อขอให้นางสมพรคืนที่ดินที่เป็นป่าชุมชนให้กับชาวบ้าน ต่อมาได้มีการเข้าตรวจสอบ และนางสมพรยินที่จะคืนที่ดินให้กับชาวบ้านรวมกว่า 450 ไร่ โดยปัญหาเรื่องที่ดินของนางสมพรเกิดขึ้นมาก่อน แต่เมื่อมีการคืนพื้นที่ป่าชุมชนให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์แล้ว แต่ไม่มีการดำเนินคดีส่วนปัญหาเรื่องการถือครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา บริเวณเขาสนฟาร์ม หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง เกิดขึ้นภายหลัง และจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ปารีณา บุกรุกพื้นที่ป่าจริง ทำให้ถูกกรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดี จึงเป็นที่มาให้ น.ส.ปารีณา ร้องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ให้ดำเนินการตรวจสอบที่ดินของนางสมพรไปในแนวทางเดียวกัน. | เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ ไร่พรพัฒนา 2 ราชบุรี อ.จอมบึง ตรวจที่ดินนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นวันที่ 2 หลังจากวันแรกตรวจไปแล้วประมาณ 1 พันไร่ เผย ส.ส.ปารีณาเป็นผู้ร้องกมธ.ฯ ภายหลังตัวเอง | ข่าว,ทั่วไทย | ที่ดินแม่ธนาธร,ที่ดินนางสมพร,สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ,แม่ธนาธรรุกป่า,ไร่พรพัฒนา ราชบุรี,ที่ดิน ราชบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1776805 | [
0,
259,
137738,
56215,
236041,
3755,
259,
193353,
63015,
161879,
1881,
259,
54741,
47451,
56705,
73175,
192759,
208716,
165279,
1
] |
อนุมัติ 3.2 พันล้านให้ วท.กระตุ้นเศรษฐกิจ | ปั้นนักรบเศรษฐกิจ-ยกระดับสมุนไพรกับโอทอป ดัน 1 ตำบล 1 นวัตกรรม,ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ก.พ. อนุมัติโครงการ Big Rock หรือโครงการส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ ตามที่ วท.เสนอ จำนวน 3,292 ล้านบาท โดยมีโครงการต่างๆ อาทิ โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนโดยการกำกับดูแลมหาวิทยาลัย (โครงการ วมว.) ระยะที่ 2 จำนวนกว่า 112 ล้านบาท เพื่อขยายฐานกำลังคนนักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ รวมทั้งสนับสนุนการจัดหลักสูตรและจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และขยายฐานการศึกษาโดยเฉพาะภูมิภาค โครงการพัฒนา Tech-based สตาร์ตอัพด้วยอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคและเครือข่าย จำนวนกว่า 174 ล้านบาท เพื่อสร้างนักรบใหม่ทางเศรษฐกิจ โครงการโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจร สำหรับการให้บริการเอกชนในการผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบด้านอาหารและเครื่องดื่ม การแปรรูปและการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูง จำนวนกว่า 169 ล้านบาททั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน ปลัด วท.,รมว.วท.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กว่า 1,815 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสื่อการสอนโปรแกรมมิ่งในโรงเรียน เพื่อพัฒนากำลังคนให้เกิดความคิดเชิงระบบ โครงการโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรมเพื่อพัฒนาทักษะความเป็นนวัตกร เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา โครงการจัดตั้งธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติเพื่ออนุรักษ์ วิจัยและใช้ประโยชน์ โครงการนวัตกรรมเทคโนโลยีก้าวหน้าเพื่อการผลิตสมุนไพร โดยใช้ วทน.ยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพรของประเทศให้เกิดเป็นนวัตกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีในส่วนขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จำนวนกว่า 492 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ โครงการคาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช.สายอาชีพ โครงการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์สิ่งประดิษฐ์ เป็นต้น รวมทั้งในส่วนของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กว่า 527 ล้านบาท เพื่อผลักดันโครงการ 1 ตำบล 1 นวัตกรรมและโครงการยกระดับโอทอปใน 10 จังหวัดยากจนที่สุดในประเทศไทย โดยจะใช้งบเฉพาะโครงการเดียวกว่า 439 ล้านบาท. | สำหรับการให้บริการเอกชนในการผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบด้านอาหารและเครื่องดื่ม การแปรรูปและการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูง | ข่าว,สังคม | Big Rock,Tech-based,ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน,สุวิทย์ เมษินทรีย์,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1209527 | [
0,
259,
38860,
7083,
8022,
259,
38860,
50018,
27935,
43202,
206002,
2091,
96834,
45488,
27308,
138813,
31190,
1,
0,
0
] |
หงส์แดง เซ็ง สเตอร์ริดจ์ เดี้ยงตอนซ้อม รีบส่งหมอสแกน | ไม่รู้จะเจ็บซ้ำซากไปถึงไหน สำหรับ เดเนียล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงของลิเวอร์พูล ล่าสุด มีอาการบาดเจ็บที่เท้าระหว่างฝึกซ้อม จนต้องถูกถอดชื่อออกจากเกมยูโรปา ลีก นัดที่พบกับ บอร์กโดซ์ เมื่อคืนที่ผ่านมา และต้องถูกส่งตัวไปเข้ารับการสแกนอย่างละเอียดทันที ว่าหนักหนามากแค่ไหน,สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 16 ก.พ. ว่า เดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีอาการบาดเจ็บที่เท้าระหว่างฝึกซ้อม ก่อนเกม ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี ที่เปิดบ้านเจอกับบอร์กโดซ์ จนต้องถูกส่งตัวไปเข้ารับการสแกน เพื่อดูว่าหนักหนามากแค่ไหน,สเตอร์ริดจ์ วัย 26 ปี โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ยังไม่ได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในฤดูกาลนี้เลย แต่เมื่อวันอาทิตย์เขามีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมลีกนัดที่ ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 4-1 และคาดกันว่าเขาจะได้ลงเล่นบางส่วนของเกมที่พบกับบอร์กโดซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวกลับมีอาการบาดเจ็บที่เท้าตอนซ้อม จนทำให้ เจอร์เกน คล็อปป์ ต้องถอดชื่อเขาจากทีมในเกมดังกล่าว พร้อมส่งตัวไปสแกนโดยด่วน,ผมไม่สามารถพูดอะไรได้มากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรามีการฝึกซ้อมในตอนเช้า แต่แล้วเขาก็ต้องออกจากการฝึกซ้อมไป และตอนนี้เขาต้องเข้ารับการสแกน แต่ในขณะนี้ผมไม่สามารถพูดอะไรได้ เราต้องรอผลการแสกน คล็อปป์ กล่าวก่อนนำทีมลงสนามแข่งกับบอร์กโดซ์ | ไม่รู้จะเจ็บซ้ำซากไปถึงไหน สำหรับ เดเนียล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงของลิเวอร์พูล ล่าสุด มีอาการบาดเจ็บที่เท้าระหว่างฝึกซ้อม จนต้องถูกถอดชื่อออกจากเกมยูโรปาลีกนัดที่พบกับบอร์กโดซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา และต้องถูกส่งตัวไปเข้ารับการสแกน | พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เดเนียล สเตอร์ริดจ์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/542271 | [
0,
259,
223817,
216992,
1549,
64694,
61896,
238440,
1,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0,
0
] |
|
ยำตำรวจ : ผบ.ตร. สั่งจัดการเด็ดขาดกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ห้องฉุกเฉินก่อเหตุวิวาท | โอม อมฤต เข้าเวรคอลัมน์ ยำตำรวจ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย.2562,โลกหมุนเร็วเพียงกะพริบตาทุกอย่างเปลี่ยน สังคมไทยจึงอยู่ในทางสองแพร่งหันรีหันขวาง ศีลธรรมความดีความชั่วถูกละเลย คดีความที่ไม่เคยเกิดก็ได้เห็นกันในยุคไร้พรมแดนนี้,อุทาหรณ์คดี, พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์, วัย 67 ปี อดีตผู้การหลายจังหวัดตำแหน่งสุดท้าย รองจเรตำรวจ,สบ 7 ตัดสินปัญหาคดีที่ดินด้วยอาวุธปืน ดับดิ้นหน้าบัลลังก์ศาลจังหวัดจันทบุรีไป 3 ศพ โคม่าอีก 1 คน,กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญสะเทือนอารมณ์ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์หลายแง่หลายมุม,แต่ที่เป็นบทเรียนสำคัญคือความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้มีคนพกอาวุธปืนเข้าไปในห้องพิจารณาคดีได้อย่างง่ายดาย ระบบรักษาความปลอดภัยในศาลเสียหายร้ายแรง,บทเรียนอีกบทคือการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประจำศาลแทบทุกท้องที่ ผู้บังคับบัญชามักจะส่งตำรวจแก่ใกล้เกษียณมาประจำตามการร้องขอของศาล เสมือนมาทำงานเบาๆเพราะปกติแล้วที่ศาลมักไม่มีใครกล้ากระทำความผิด แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว เหตุอุกฉกรรจ์ขวัญแขวนเกิดขึ้นได้เสมอ ,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา, ผบ.ตร. รับทราบปัญหาแล้วสั่งการด่วน,อีกคดีหวั่นตกม้าตาย ฆ่าเผากะเหรี่ยงบิลลี่ที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รื้อคดีกว่า 5 ปีขึ้นมาทำความจริงให้ปรากฏ ขอศาลออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน กับลูกน้องรวม 4 คน ทั้ง 4 คนมอบตัวสู้คดีศาลให้ประกันตัว,พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง, อธิบดีดีเอสไอยืนยันจับตามพยานหลักฐานที่ดีเอสไอทำมานานจนพบจุดทิ้งศพที่เหลือแค่กระดูกบางส่วน เปรียบเทียบดีเอ็นเอแล้วตรงกับนายบิลลี่ และวงจรปิดระบุชัด กลุ่มของนายชัยวัฒน์อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย แต่กลุ่มผู้ต้องหาปฏิเสธ อ้างปล่อยตัวนายบิลลี่ไปแล้ว เหลือหลักฐานสำคัญ จยย.ของนายบิลลี่หายไปไหน,เป็นคดีครึกโครมอีกคดีที่มีข่าวตอนแรกว่าดีเอสไอจะใช้สำนวนของ ป.ป.ท.ฟ้องต่อศาลเองโดยไม่ผ่านขั้นตอนของอัยการ แต่ยืนยันจากปาก พ.ต.อ.ไพสิฐจะส่งสำนวนให้อัยการใน 84 วันตามอำนาจหน้าที่,โลกโซเชียลมันน่ากลัว, พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก, ผกก.สน.คลองตัน เกือบไปแล้ว ถูก น.ส.น้ำเพชร เน็ตไอดอลนางแบบโพสต์ข้อความไปเที่ยวผับย่านเอกมัยแล้วถูกลวนลาม รปภ.บอกคนกระทำเป็นผู้การคลองตัน คนเลยเข้าใจเป็น ผกก. แต่เห็นหน้าตาแล้วไม่ใช่เลย จึงต้องมาขอขมายกมือไหว้ขอโทษ ผกก.ถึง สน.คลองตัน อุทาหรณ์โพสต์ไวไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนอาจติดคุกได้ ดีที่ ผกก.ไม่เอาเรื่องเลยรอดตัวไปได้ แต่คนที่ลวนลามเขาตำรวจก็ต้องเอาตัวมาดำเนินคดี,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., สั่งจัดการเด็ดขาดทุกข้อหาหนักกับกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลก่อเหตุวิวาท แต่ถ้าเกิดเหตุตำรวจท้องที่ต้องเข้าระงับเหตุให้ทันท่วงทีไม่ให้บานปลาย โรงพยาบาลคือที่ปลอดภัยสูงสุด ไอ้พวกนี้ต้องเอาเข้าคุกให้หมดครับ,มีแต่เพิ่มขึ้น, พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์, รอง ผบ.ตร.ปป.แถลงจับยาไอซ์ทะลัก 1,000 กก.ผ่านด่านตำรวจ บช.ปส.และท้องที่ จ.พิจิตร ได้ผู้ต้องหา 2 คน ถือว่ายาไอซ์ทะลักเข้าประเทศไทยจำนวนมาก เป็นทางผ่านไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ขบวนการนี้ไม่ได้ทำเฉพาะยาบ้าแล้วน่ากลัวจริงๆ ต้องตัดวงจรอุบาทว์นี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นทั่วโลกประณามไทยแน่,สังคมข่าว, ร.ต.อ.ธรรมรัตน์ บุญโญ, รอง สว.กก.2 บก.ป. ประธานรุ่น นัดเลี้ยงรุ่น กดต.53/2จอหอ 2556 (อบรมนายร้อย) ที่ระยองชาเลต์ อ.แกลง จ.ระยอง วันที่ 23 พ.ย.2562 เวลา 18.00 น.,โอม อมฤต | พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งจัดการเด็ดขาดทุกข้อหาหนักกับกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลก่อเหตุวิวาท แต่ถ้าเกิดเหตุตำรวจท้องที่ต้องเข้าระงับเหตุให้ทันท่วงทีไม่ให้บานปลาย | จักรทิพย์ ชัยจินดา,ไพสิฐ วงศ์เมือง,สุชาติ ธีระสวัสดิ์,ยำตำรวจ,โอม อมฤต | https://www.thairath.co.th/news/crime/1705601 | [
0,
259,
104338,
161879,
8084,
218592,
148383,
259,
104338,
1549,
135647,
34538,
4728,
21746,
106726,
67395,
87838,
76527,
259,
58296
] |
|
ควานหาช่องทางล้างหนี้รถไฟ | ธนารักษ์ พร้อมเจรจาเช่าที่ดินมักกะสันสัญญา 99 ปี,นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมกรมธนารักษ์ว่า ได้มอบนโยบายให้กรมธนารักษ์ไปเร่งเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ขาดทุนสะสม ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีหนี้สินอยู่ราว 110,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นหนี้จากการบริหารของ ร.ฟ.ท.ตามนโยบายรัฐบาล 50,000 ล้านบาท อีก 30,000 ล้านบาท หนี้สินจากการบริหารงานที่ขาดทุนสะสมของ ร.ฟ.ท. ดังนั้น รัฐบาลจึงมอบนโยบายให้กระทรวง การคลังเข้าไปเจรจาเพื่อแก้ไขหนี้สินให้แก่ ร.ฟ.ท. และที่เหลือ 30,000 ล้านบาท เป็นลูกหนี้ทางการค้าที่ ร.ฟ.ท.จะต้องสะสางเอง,วันที่ 8 เม.ย.นี้ กรมธนารักษ์จะเจรจากับ ร.ฟ.ท.เพื่อรับโอน การบริหารที่ดินที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ร.ฟ.ท. มาตีเป็นมูลค่า เบื้องต้นหนี้สิน ร.ฟ.ท.ราว 50,000 ล้านบาท กระทรวงการคลังจะร่วมรับผิดชอบ โดย ร.ฟ.ท.จะนำที่ดิน 1-2 แปลง มาให้กระทรวงการคลังเช่า เพื่อนำที่ดินดังกล่าวไปบริหารและเพิ่มมูลค่า ซึ่งขณะนี้ จะนำที่ดินย่านมักกะสัน 490 ไร่ มาตีมูลค่าที่แท้จริงก่อนเป็นแปลงแรก หลังจากนั้นก็จะคำนวณค่าเช่าหักล้างกับหนี้สิน แต่หากที่ดินแปลงนี้มีมูลค่าไม่เพียงพอ 50,000 ล้านบาท ก็จะเพิ่ม ที่ดินแปลงอื่นๆ เช่น ที่ดินของสถานีรถไฟแม่น้ำ เป็นต้น,นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ก่อนหน้ารัฐบาลมีนโยบายขายที่ดินของ ร.ฟ.ท.ให้แก่กระทรวงการคลัง แต่นโยบายใหม่ของรัฐบาล ให้เปลี่ยนจากการขายเป็นการเช่าแทน ซึ่งจะทำให้กรรมสิทธิ์ที่ดินยังอยู่ที่ ร.ฟ.ท.ต่อไป ในส่วนกระทรวงการคลังจะมอบให้กรมธนารักษ์เข้าไปบริหารและพัฒนาที่ดินในฐานะผู้เช่า นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบายในการบริหารที่ดินตรงบริเวณมักกะสันให้เกิดประโยชน์แก่สังคม เช่น สวนสาธารณะ เป็นต้น การพัฒนาที่ดินเพื่อให้เป็นแก้มลิงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ หลังจากนั้นจะพิจารณาถึงการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ,การพัฒนาที่ดินโดยไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องผลกำไร สัญญาเช่าที่ดินเพื่อหักล้างกับหนี้ 50,000 ล้านบาท อาจไม่ใช่สัญญาเช่า 20-25 ปี แต่อาจยาวนานถึง 99 ปี หรือมากกว่านั้น เพราะพื้นที่ ที่ใหญ่มากๆไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ เช่น สวน สาธารณะ และแก้มลิง เป็นต้น ทำให้อัตราผลตอบแทนหรือกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมีน้อย ส่งผลให้การชำระหนี้ต้องใช้เวลาที่ยาวนานมากขึ้น. | นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมกรมธนารักษ์ว่า ได้มอบนโยบายให้กรมธนารักษ์ไปเร่งเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ขาดทุนสะสม | วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ,กรมธนารักษ์,ลูกหนี้,ที่ดิน,รัฐบาล,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/490799 | [
0,
259,
97003,
6494,
84281,
115167,
4188,
74425,
27987,
20475,
219881,
5269,
123955,
161879,
12005,
43790,
199703,
188964,
1,
0
] |
|
ตร.บางสะพาน ประจวบฯ รวบหนุ่มพม่าฆ่าสาวเสิร์ฟ หมกโรงแรม | ตำรวจรวบหนุ่มพม่าฆ่าสาวคาโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สารภาพฉุนมีหนุ่มอีกคนโทรหา จึงทะเลาะมีปากเสียงกัน แล้วบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีแล้วถูกตร.ตามจับตัวได้ แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่งดำเนินคดี,วันที่ 29 ต.ค.59 พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.กำเนิด ประสบผล สารวัตรสอบสวน สภ.บางสะพาน ร.ต.อ.วรพงษ์ ชาวแพะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางสะพาน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อม สวนยางพาราในหมู่บ้านหินกอง หมู่ที่ 2 ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมตัว นายแว ไม่มีนามสกุล อายุ 45 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามคดีอาญาที่ 468/59 ฆ่า น.ส.ประการักษ์ พรมโคตร อายุ 22 ปี ที่อยู่ 71 ม.14 ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่าน อ.บางสะพาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2559,โดยสามารถจับกุมตัว นายแว ผู้ต้องหา ได้ในสวนยางพารา จากนั้นได้นำรูปภาพวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ให้ผู้ต้องหาดู ทำให้ผู้ต้องหารับว่า เป็นบุคคลดังกล่าว จึงพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นที่พักอาศัย ได้ตรวจยึด รถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่คนร้ายใช้ไปในวันที่ก่อเหตุ ตรวจยึดเสื้อผ้ารองเท้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ อีกทั้งตรวจพบร่องรอยบาดแผลถูกปลายเล็บข่วนตามร่างกายหลายแห่ง และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการจัดเก็บดีเอ็นเอตรวจเปรียบเทียบกับของกลาง และเนื้อเยื่อที่เล็บมือของผู้ตาย,นายแว ไม่มีนามสกุล ชาวพม่า ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุไปสั่งเบียร์ดื่ม จนเมาได้ที่จึงแอบชวนเด็กเสิร์ฟ ไปที่โรงแรมซึ่งอยู่ติดกัน ในขณะที่อยู่ภายในห้อง ได้มีเสียงโทรศัพท์ของ น.ส.ประการักษ์ เป็นเสียงผู้ชายที่ปลายสาย และได้บอกกับตนว่า จะออกไปข้างนอก ตนจึงเกิดความไม่พอใจ และทะเลาะกัน ทำร้ายร่างกาย จึงได้ใช้มือบีบคอจนเสียชีวิต จากนั้นตนจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่สวนยาง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่งตัวดำเนินคดี,ต่อมา เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ต.ค.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายแว ชาวพม่า ผู้ต้องหาเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตำรวจ นปพ.จังหวัดประจวบฯ รวมกำลังกว่า 80 นาย บล็อกพื้นที่ทางเข้าไว้และควบคุมรักษาความสงบ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก ที่ทราบข่าวทยอยเดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อดูตัวผู้ต้องหา และตะโกนด่าทออยู่ตลอดเวลา,โดยผู้ต้องหาได้พาเจ้าหน้าที่ไปที่ร้านอาหารหน้าโรงแรม รับสารภาพว่า มานั่งดื่มจนเมา ก่อนที่จะพาเจ้าหน้าที่เดินขึ้นบันไดโรงแรม ไปยังชั้นสองที่ห้องพักเลขที่ 16 ห้องที่ก่อเหตุ โดยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเกิดโต้เถียงกันจนทำให้บันดาลโทสะจึงเกิดการทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งผู้ตายได้พยายามวิ่งออกมานอกห้อง แต่ตนได้คว้าข้อมือไว้ได้และดึงกลับเข้าไปในห้องใช้มือทุบใบหน้าและบีบคอจนเสียชีวิต จากนั้นดันตัวขึ้นไปนอนที่หัวเตียงให้เหมือนคนนอนหลับและตัวเองก็หลบหนีไป,หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ให้ญาตินำรูปภาพของผู้ตายไปวางภายในห้อง ให้ผู้ต้องหาได้ขอขมาและได้ขอขมาต่อญาติที่เดินทางมาดูในขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยญาติได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คอยดูแล และทำงานไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันทั้ง 2 วัน หลังจากเกิดเหตุและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้,พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.บางสะพาน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุของโรงแรม และตามถนนสายต่างๆ ในเขต อ.บางสะพาน จนทราบใบหน้าและรูปร่างของผู้ต้องหาและรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการหลบหนี หลังจากการก่อเหตุจนกระทั่งมาสิ้นสุดที่กล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายที่ร้านรับซื้อยางพาราปากทางเข้าวัดหินกอง ม.2 ต.พงศ์ประศาสน์ นำข้อมูลมากำหนดทิศทางและความน่าจะเป็นเกี่ยวกับที่อยู่ของคนร้าย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำภาพที่ปรากฏออกสืบสวนหาข่าวให้คนในละแวกดังกล่าวดู จนกระทั่งได้ข้อมูลว่า ชายในภาพดังกล่าวมารับจ้างกรีดยางพารา จึงได้วางกำลังเข้าซุ่มจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หลายอย่าง | ตำรวจรวบหนุ่มพม่าฆ่าสาวคาโรงแรมย่านบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สารภาพฉุนมีหนุ่มอีกคนโทรหา จึงทะเลาะมีปากเสียงกัน แล้วบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีแล้วถูกตร.ตามจับตัวได้ แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา | หนุ่มพม่า,ฆ่าสาว,หมกโรงแรม,บางสะพาน,ตร.บางสะพาน,ประจวบคีรีขันธ์,ประการักษ์ พรมโคตร,เสียชีวิต,บีบคอ,ทะเลาะกัน,ทำร้ายร่างกาย,เด็กเสิร์ฟ | https://www.thairath.co.th/content/768031 | [
0,
259,
100233,
10228,
141086,
97354,
209977,
161949,
36247,
43112,
43156,
34797,
31870,
259,
173919,
31879,
198635,
61246,
260,
225536
] |
|
5 เดือนระทมทุกข์ สาวเหยื่อปาแก้วปากเบี้ยว กับชีวิตใหม่ไม่ต้องเร้นกายหลบตาใคร | วันหนึ่งตื่นเช้ามาส่องกระจกพบว่าใบหน้าบูดเบี้ยว ผิดปกติไปจากเดิม คุณจะรู้สึกอย่างไร จะทำอย่างไร ยิ่งถ้าคุณเป็นผู้หญิงซึ่งเป็นเพศที่รักสวยรักงามอยู่แล้ว ความทุกข์ระทมใจย่อมเกิดขึ้นทันทีแน่นอน,น้องทราย นฤดี จอดสันเทียะ, เด็กนักเรียนสาววัย 18 ปี ที่ถูกครูพละปาแก้วใส่กกหูซ้ายอย่างรุนแรง ทำให้เส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ, ส่งผลให้ปากเบี้ยว ตาซ้ายหลับไม่สนิท และยิ้มมุมปากได้ข้างเดียว, ที่ตกเป็นข่าวครึกโครมเมื่อ ก.ย. 59 ก็ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกายและใจเช่นกัน,ยอมตาย หากรักษาไม่หาย,น้องทรายเผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า วินาทีแรกที่เห็นความผิดปกติบนหน้า หลังถูกปาแก้วเมื่อ 8 ส.ค. 59 ,ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เครียดและทุกข์ใจมาก ความมั่นใจในตัวเองสิ้นสลายทันที เคยคิดฆ่าตัวตาย หากรักษาไม่หาย,ผู้สื่อข่าวฟังแล้วรู้สึกเศร้าใจตาม,ไม่มีเงินรักษา จึงโทร.หามูลนิธิปวีณาฯ,ร่วมเดือนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์ระทมใจ น้องทรายกลัวหน้าไม่หายจึงตระเวนรักษากับโรงพยาบาลหลายแห่ง โดยนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพละที่ก่อเหตุให้เงินช่วยเหลือเกือบ 4 หมื่นบาท แต่อาการไม่ดีขึ้น และหากรักษาไม่ถูกวิธีอาจพิการที่หน้าไปตลอดชีวิต แพทย์แนะว่าทางเดียวที่จะหายเป็นปกติอาจต้องรักษาโดยผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เงินรักษาสูงถึง 3 แสน,เมื่อตกลงกับครูพละที่ก่อเหตุเพื่อให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ได้ น้องทรายจึงโทร.ขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) รุ่งขึ้นจึงเดินทางมาที่มูลนิธิฯ เมื่อ 13 ก.ย. 59,มูลนิธิปวีณาฯ จึงช่วยประสานงาน กับ รพ. ยันฮี ซึ่งร่วมงานกันมาเกือบ 20 ปี, เพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีเด็กยากจนที่ต้องเข้ารับการรักษา ทาง รพ. ก็ยินดีช่วยรักษาให้ฟรี กรณีของน้องทรายนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้ว,ยันฮีระดมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 4 สาขา รักษา,กว่าใบหน้าน้องทรายจะหายปกติ รพ.ยันฮี ต้องระดมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันรักษาหลายส่วน คือ ,นพ.สุธน พิศูทธินุศาสตร์, ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ดูเรื่องกายภาพบำบัด, ,นพ.นเรศศักดิ์ เหล่าสงวนเอก, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมประสาท, ,นพ.อภิชัย ชัยดรุณ, อายุรแพทย์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม, ,พญ.ปาริฉัตร หวานฉ่ำ, แพทย์ประจำศูนย์ไฮเปอร์แบริค,มีการนัดมา Admit เพื่อรักษา ดังนี้,Admit ครั้งที่ 1 ,(16 ก.ย. – 9 ต.ค. 59) รวม 24 วัน,ได้ให้ยาเพรดนิโซโลนรับประทานเป็นเวลา 10 วัน, วิตามินบีทางเส้นเลือด ได้แก่ ไทอะมีน, ไรโบฟลาวิน, ไนอะซิน, ไพริด็อกซิน และปรับเป็นวิตามินบีชนิดรับประทาน ได้แก่ ไทอะมีน, ไพริด็อกซิน, โคบาลามิน ร่วมกับกายภาพบำบัด, การฝังเข็ม และให้ออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% (ไฮเปอร์แบริค) ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 59 อาการหลับตาข้างซ้ายค่อยๆ ดีขึ้น มุมปากซ้ายเริ่มขยับได้ , ,Admit ครั้งที่ 2 ,(17 ต.ค. - 25 ธ.ค. 59) รวม 70 วัน,ได้ให้วิตามินบีรับประทาน ได้แก่ ไทอะมีน, ไพริด็อกซิน, โคบาลามิน ร่วมกับกายภาพบำบัด, การฝังเข็ม และการให้ออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% (ไฮเปอร์แบริค) อาการหลับตาข้างซ้ายดีขึ้น มุมปากซ้ายขยับได้มากขึ้น , ,Admit ครั้งที่ 3 ,(16 ม.ค. 60 - 10 มี.ค. 60) รวม 54 วัน, ,ได้ให้วิตามินบีรับประทาน ได้แก่ ไทอะมีน, ไพริด็อกซิน, โคบาลามิน, ร่วมกับกายภาพบำบัด, การฝังเข็ม และการให้ออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% (ไฮเปอร์แบริค) แพทย์ตรวจร่างกายพบว่า น้องทรายหลับตาข้างซ้ายได้สนิทขึ้น มุมปากซ้ายขยับได้ดีขึ้นมาก,รักษาไม่ยาก แต่ต้องรักษานาน,นพ. สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) รพ.ยันฮี ยืนยันกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า อาการน้องทรายหาย 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว เคสนี้รักษาไม่ยาก แต่ใช้เวลารักษานานสุดถึง 5 เดือนเพราะต้องช่วยกระตุ้นเส้นประสาทคู่ที่ 7 ให้กลับฟื้นตัวและกลับมาใช้งานได้ปกติ,ไฮเปอร์แบริค เครื่องรักษาสารพัดโรค,วิธีรักษาโดยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ ไฮเปอร์แบริค เป็นเครื่องที่ช่วยรักษาโรคเด็กออทิสติกที่สมาธิสั้น อัมพฤกษ์ อัมพาต แผลอักเสบเรื้อรัง เช่น แผลเบาหวาน หรือแผลหลังผ่าตัด และโรคยอดฮิตของคนยุคนี้คือ ไมเกรน คุณหมอชี้แนะด้วยความห่วงใยอีกว่า ,หากเรา หรือญาติหน้าเบี้ยวต้องรีบพาไปหาหมอทันที เพราะยิ่งรักษาช้าก็หายช้า หรือถ้าไม่รักษาก็อาจพิการไปตลอดชีวิต,เจ็บเจียนตาย เบื่อสุดชีวิตก็ต้องทน เพราะอยากหาย,จากเด็กนักเรียนที่สนุกสนานกับเพื่อนยามว่างจากเรียน ออกไปไหนมาไหนได้ตามสบาย กลายมาเป็นคนไข้ จับเจ่าอยู่แต่ในโรงพยาบาล ไม่ได้ออกไปไหน ใช้ชีวิตวนเวียนกับการรักษาที่ต้องเจ็บตัวทุกวัน น้องทรายยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเศร้าและเหงาบ้าง แต่ต้องอดทนเพื่อให้หน้ากลับมาปกติเหมือนเดิม, , ,ลูกเสียโอกาสเรียน แม่สูญเสียรายได้ ,นับเป็นข่าวดีที่วันนี้น้องทรายหาย 90 เปอร์เซ็นต์ ปากหายเบี้ยวจนยิ้มอย่างสุขใจ หลับตาซ้ายได้สนิท ไม่แสบตาเพราะน้ำเข้าตาเวลาล้างหน้าอีกต่อไป กลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติสุข และกลับไปช่วยพ่อแม่ทำสวน ทำไร่มันสำปะหลังที่ จ.นครราชสีมา,เครียดหนัก หมดกำลังใจอย่างแรง กว่าจะย้ายโรงเรียนได้,กระทรวงศึกษาธิการรับเรื่องจากมูลนิธิปวีณาฯ และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 (สพม.31) ช่วยประสานงานเรื่องขอย้ายจากโรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย ไปเรียนที่โรงเรียนหนองบุญมากประสงค์วิทยา อ.หนองบุญมาก แต่น้องทรายต้องผิดหวัง และคิดหนักจนเครียด เพราะต้องเริ่มต้นเรียน ม.4 ใหม่,น้องทรายจึงเลือกโรงเรียนแห่งใหม่โดยยึดมั่นว่าต้องเข้าเรียนต่อ ม.5 เท่านั้น และโชคดีที่โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ อยู่ห่างจากบ้านน้องทราย 18 กิโลเมตร รับเข้าเรียนต่อ ม.5 เมื่อ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา นัดมอบตัว 7 เม.ย. และเปิดเทอม 15 พ.ค.นี้ ซึ่ง,คุณไพบูลย์ สนิทรัมย์, ครูชำนาญการพิเศษรับเรื่องแทน ผอ. โดยมี,คุณพรปวีณ์ ปิยากูล, ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา และ ,คุณไพลิน หวังกลุ่มกลาง, นักวิชาการศึกษาชำนาญการ สพม.31 พาไปติดต่อ,เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเลือกเรียนสายศิลป์อังกฤษหรือจีน น้องทรายตอบด้วยน้ำเสียงดีใจว่า,ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดี น้องทรายบอกว่าให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป กับครูพละที่ปาแก้วก็ไม่เคยโทร.มาคุย หรือมาเยี่ยมเลย,ผู้สื่อข่าวจึงโทร.หาครูพละ ผู้ก่อเหตุ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พบว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนของอัยการ ขออนุญาตไม่ให้รายละเอียด เพราะยังทำใจอยู่ และรีบวางสายทันที,ชีวิตคนหนึ่งหลุดพ้นจากความเศร้าโศกา นั่นเป็นเพราะความร่วมมือกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งหาก น้องทราย ได้รับการรักษาช้า จะพิการทางใบหน้าไปตลอดชีวิต,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน | วินาทีแรกที่เห็นความผิดปกติบนหน้า หลังถูกปาแก้วจนปากเบี้ยว ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เครียดและทุกข์ใจมาก ความมั่นใจในตัวเองสิ้นสลายทันที เคยคิดฆ่าตัวตาย หากรักษาไม่หาย | สกู๊ปไทยรัฐ | ข่าวครูพละปาแก้ว,น้องทราย ปาแก้ว ล่าสุด,ข่าวน้องทราย ปาแก้ว,น้องทราย เหยื่อครูปาแก้ว,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/902011 | [
0,
259,
52973,
184193,
259,
100694,
6582,
18394,
35749,
44270,
1549,
184599,
61913,
9211,
36233,
1549,
168936,
80327,
4188,
15319
] |
สามเณร 15 ฆ่าอดีตเณรวัย 19 แทงยับ 13 แผล อ้างโมโหถูกคนตายขอตุ๋ย | (ภาพจาก ผกก.สภ.สันกำแพง),สามเณรวัย 15 ปี ฆ่าอดีตสามเณรวัย 19 เคยอยู่วัดเดียวกัน แต่สึกไปเรียนหนังสือ โผล่มาเคาะห้องกลางดึกขอนอนด้วย ผู้ต้องหาอ้างคนตายขอร่วมเพศทางประตูหลัง ไม่ยอมเลยทะเลาะกัน โมโหสุดขีดคว้ามีดแทงยับ 13 แผล,วันที่ 7 ก.ค. ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ เชื้อเมืองพาน รอง.สว.(สอบสวน) สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันมีผู้ถึงแก่ความตาย ที่กุฏิพระภายในวัดแห่งหนึ่งที่บ้านสันก้างปลา หมู่ 6 ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นนำเจ้าหน้าที่รุดไปสอบสวน,ที่เกิดเหตุมี พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิต รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.สันกำแพง พ.ต.อ.ปกรณ์ ผาทอง ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.ท.มนตรี ยศบุตร รอง.ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ธงชัย กรรณิกา รอง ผกก.ป.สภ.สันกำแพง ร่วมตรวจสอบ,พบศพชายวัยรุ่น ทราบชื่อ นายเอก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี บ้านเดิมอยู่ อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณด้านหน้าห้องเลขที่ 8 กุฏิชั้นเดียว สภาพนอนตะแคงมีร่องรอยถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมหลายแผล เลือดไหลเปียกโชกกางเกงกีฬาสีดำแถบสีส้ม เสื้อยืดสีฟ้าที่สวมใส่อยู่,ส่วนในกุฏิพบมีรอยเลือดเป็นทางยาวออกมาด้านนอกห้อง และพบถุงยางอนามัยสภาพใช้แล้ว 1 ถุงตกอยู่ด้านล่างใต้เตียงนอนในห้อง โดยมีสามเณรเหน่ง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาวบ้านป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตามร่างกายและจีวรมีร่องรอยเปื้อนเลือด นั่งอยู่ที่ขอบเตียง,ต่อมา ทาง พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.สันกำแพง ได้นำตัวสามเณรเหน่งไปทำการสอบปากคำต่อหน้าพระปกครองของวัดและพระรูปอื่นอีกหลายรูป ซึ่งสามเณรเหน่งให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตาย โดยใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทง พร้อมพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดทิ้งอาวุธที่ใต้กุฏิ เป็นมีดพับปลายแหลมยาวประมาณ 10 นิ้วรวมด้าม แตกหักเป็น 2 ชิ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง,ต่อมา จากการพลิกศพผู้ตายร่วมกับแพทย์เวร รพ.สันกำแพง พบบาดแผลถูกแทงจำนวน 13 แผล ตั้งแต่กลางลำคอ หัวไหล่ ไล่ลงมาถึงหน้าอก ลำตัว ช่องท้อง ส่วนสาเหตุ ผู้ต้องหาให้การว่า ผู้ตายเคยบวช และจำวัดอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 8 ดังกล่าวนานหลายปี และได้สึกไปเมื่อเดือน มี.ค. 59 ที่ผ่านมา เพื่อไปสอบเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ แต่ยังเข้าหอพักไม่ได้เพราะทางมหาวิทยาลัยยังไม่เปิดเรียน จนเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้ตายได้มาที่กุฏิเคาะประตูห้องจึงเปิดให้ เห็นว่าเป็นคนรู้จักกัน แต่ผู้ตายจะขอมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย ตนไม่ยอม จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง,สามเณรวัย 15 ปี ผู้ต้องหา ให้การด้วยว่า ด้วยความโมโหจึงใช้อาวุธมีดที่เก็บในกุฏิแทงที่คอก่อน ผู้ตายวิ่งไปล้มลงที่หน้ากุฏิเลขที่ 9 จึงตามไปจ้วงแทงอีกหลายครั้ง จากนั้นนำมีดไปทิ้งที่ใต้ถุนกุฏิกลางหมายเลข 14 แล้วไปทำความสะอาดล้างคราบเลือด,หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสามเฌรเหน่ง ไปให้พระฝ่ายปกครองทำการสึก พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน จึงแจ้งปกครองและแจ้งไปยังสหวิชาชีพให้มาร่วมสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งตัวเข้าควบคุมยังสถานพินิจฯ ต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามพระในวัดทราบว่า คู่กรณี ทั้งผู้ต้องหาและผู้ตาย บวชเรียนมานานหลายปีตั้งแต่ยังเล็ก อยู่จำวัดที่วัดเกิดเหตุด้วยกัน ซึ่งปัจบุบันยังมีสามเณรอยู่อีก 9 รูป และส่วนหนึ่งสึกไปเรียนหนังสือ ศึกษาต่อทางโลก. | สามเณรวัย 15 ปี ฆ่าอดีตสามเณรวัย19 เคยอยู่วัดเดียวกัน แต่สึกไปเรียนหนังสือ โผล่มาเคาะห้องกลางดึกขอนอนด้วย ผู้ต้องหาอ้างคนตายขอร่วมเพศทางประตูหลัง ไม่ยอมเลยทะเลาะกัน โมโหสุดขีดคว้ามีดแทงยับ 13 แผล | ข่าว,ทั่วไทย | จับสามเณร,เณรฆ่าอดีตเณร,แทง13แผล,ขอร่วมเพศ,ขอตุ๋ย,เณรวัย15ปี,สันกำแพง,ฆาตกรรม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/657254 | [
0,
259,
60227,
22254,
20390,
10228,
79160,
670,
24250,
259,
161949,
135776,
60227,
22254,
20390,
10228,
79160,
963,
259,
57937
] |
จัดเวทีร่วมปกป้องนักพิทักษ์สิทธิมนุษยชนหญิง | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-4 มี.ค.48ที่ศูนย์สตรีศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ มูลนิธิผู้หญิง กฎหมายและการพัฒนา(ผกฎ.) ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง ร่วมปกป้องสังคมจากความรุนแรง ร่วมปกป้องนักพิทักษ์สิทธิมนุษยชนหญิง เนื่องในวันสตรีสากล โดยเชิญตัวแทนแกนนำหญิงจากทุกภาคเข้าร่วมแลกเปลี่ยนและหาแนวทางต่อสู้ในสิทธิความชอบธรรมของสตรีและชุมชน นางไฮ ขันจันทา บ.โนนตาล ต.นาตาล กิ่งอ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยละห้า กล่าวว่า ได้ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมจากรัฐมา 27 ปี ได้ใช้จอบ เสียม ขุดเจาะ เพื่อระบายน้ำที่ท่วมผืนนาของตนเอง แต่กลับถูกรัฐกล่าวหาว่าทำลายทรัพย์สินของหลวง ฉันไม่รู้กฎหมาย แต่รู้ว่าสิทธิก็คือสิทธิ ความจริงก็คือความจริง เพราะฉันกำลังต่อสู้สิทธิที่ครอบครัวได้ปกครองที่ดินผืนนั้นมานานกว่า 200 ปี ฉันเรียนรู้มาจากชีวิต จากการต่อสู้ ไม่มีใครจ้าง ล่าสุด รัฐคืนแต่ที่นา แต่ค่าชดเชยเรียกร้องสิทธิการสูญเสียโอกาสในการทำกินยังไม่ได้รับแต่อย่างใดเลย ซึ่งก็ต้องต่อสู้เรียกร้องกันต่อไป นางใฮ กล่าว ในขณะที่ นางนาแส ยะป่า ผู้ใหญ่บ้าน บ.กองผักปิ้ง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้เป็นผู้นำมาตั้งแต่ปี 2536 แต่ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม เข้าไปตรวจค้นบ้าน พร้อมกับมีการยัดยาบ้าและจับกุม จนทำให้ต้องมีการต่อสู้เรียกร้องสิทธิมานานหลายปี ล่าสุด เพิ่งไปขึ้นศาลกลับมา คนอื่นอาจจะกลัว แต่ฉันไม่กลัว เพราะเป็นสิทธิของเราที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ยื่นฟ้องได้ ก็ประกันตัวได้ อุทธรณ์ได้ นางนาแส กล่าว นางจินตนา แก้วขาว แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สังคมยังมองว่าผู้ชายเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้นำ ทำให้ถูกต้านมากในระยะแรก ซึ่งเป็นการต่อสู้แบบหมาจนตรอก เพราะหันไปทางไหนก็เจอแต่ศัตรู และยังถูกข่มขู่มากที่สุด แต่ก็ต้องสู้ เพราะนี่เป็นสิทธิของชุมชน และเรื่องทุกเรื่องล้วนเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ทั้งสิ้น ที่มาพูดในวันนี้ ไม่ได้บอกว่าผู้หญิงดีกว่าผู้ชาย ผู้ชายดีๆ ที่ต่อสู้กับชุมชนก็มีอีกมาก ไม่ว่า เจริญ วัดอักษร แกนนำบ่อนอก ที่ถูกยิงเสียชีวิต หรือ สมชาย นีละไพจิตร ทนายความที่ถูกลักพาตัวไป นางจินตนา กล่าว ทางด้าน นางดาวัลย์ จันทรหัสดี แกนนำการคัดค้านโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทร ปราการ กล่าวว่า ก่อนนั้น ได้ทำการเรียกร้องต่อสู้ด้วยความนุ่มนวลอ่อนหวาน ด้วยความเป็นผู้หญิง ยื่นหนังสือคัดค้าน แต่ไม่ได้รับการยอมรับ กลับโดนข่มขู่ สุดท้ายจึงกลับมาต่อสู้กันด้วยความแข็งกร้าว จนสุดท้ายรัฐต้องระงับโครงการนั้นไป เมื่อพูดถึงเรื่องการเป็นผู้หญิง ที่ต้องมาเป็นแกนนำเรียกร้องสิทธิ จำเป็นต้องสู้แบบเคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวบ้าน และบางครั้งอาจอ่อนแอ อ่อนไหว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามวลชนชาวบ้าน ต้องไม่แสดงอาการท้อ แต่บางครั้งเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็ร้องไห้ระบายความอัดอั้น ดังนั้น คู่ชีวิต ครอบครัว มีส่วนสำคัญในการให้กำลังใจเรามาก นางดาวัลย์ กล่าว ทั้งนี้ ในวงเสวนา ยังได้เสนอให้มีการรวมตัวกันจัดตั้งองค์กรพิทักษ์มนุษยชนหญิงขึ้นมา เพื่อร่วมกันคุ้มครองดูแล ในด้านสิทธิ หน้าที่ และทางกฎหมาย | ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-4 มี.ค.48 ที่ศูนย์สตรีศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ มูลนิธิผู้หญิง กฎหมายและการพัฒนา(ผกฎ.) ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง ร่วมปกป้องสังคมจากความรุนแรง | สิ่งแวดล้อม | https://prachatai.com/journal/2005/03/2999 | [
0,
259,
54741,
20475,
197963,
259,
177001,
73008,
259,
175179,
27605,
36999,
234428,
76935,
2091,
159036,
13999,
58384,
200364,
61246
] |
|
หมอสมนึก เล่าเบื้องหลังชุดป้องกันติดเชื้อ โควิด-19 อันตรายสุดตอนถอด | แพทย์รามาฯ เล่าเบื้องหลังชุดป้องกันติดเชื้อ โควิด-19 ของบุคลากรทางการแพทย์ อันตรายที่สุดคือตอนถอด มีความเสี่ยงทุกขั้นตอนศ.นพ.สมนึก สังฆานุภาพ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้แชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก Somnuek Sungkanuparph โพสต์เล่าเบื้องหลังชุดป้องกันเชื้อ โดยระบุว่า คนที่ไม่ได้อยู่หน้างานอาจจะไม่รู้ว่าทีมแพทย์และพยาบาลที่รักษาผู้ป่วย COVID-19 นั้นจะต้องมีทีม IC (Infection Control) ที่ควบคุมไม่ให้มีการแพร่เชื้อในโรงพยาบาล ที่เข้มแข็ง เพื่อกำกับการทำงานให้มีความปลอดภัยมากที่สุดหลายคนอาจจะไม่รู้อีกเหมือนกัน ว่าชุดที่ป้องกันการติดเชื้อของแพทย์และพยาบาลนั้น ใส่และถอดไม่ง่าย และตอนถอดจะเป็นช่วงที่อันตรายที่สุด ที่คนใส่อาจรับเชื้อจากด้านนอกของชุดที่สัมผัสผู้ป่วยมา ถ้าถอดชุดไม่เป็น หรือถอดไม่ถูกวิธีตามแต่ละขั้นตอนวันนี้เรามีทีม ECMO ที่ประกอบด้วยแพทย์พยาบาลทีมใหญ่จากรามาธิบดี พญาไท เข้ามาช่วยเหลือผู้ป่วยวิกฤติที่กำลังแย่ ด้วยภาวะแทรกซ้อนที่จัดการได้ยาก หลายชีวิตจะต้องเข้าไปในห้องความดันลบที่ผู้ป่วยอยู่ และทำหัตถการที่ยากหลายอย่างเป็นเวลาหลายชั่วโมงขณะที่ หนึ่งในทีมแพทย์ IC ของเราต้องเข้าห้องก่อนห้องความดันลบหลายชั่วโมง (แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนึ่งในทีม ECMO ที่เข้าไปทำหัตถการ) เพื่อตรวจสอบและกำกับการใส่และถอดชุดให้ถูกต้อง และมีความเสี่ยงในการติดเชื้อจากผู้ป่วยให้น้อยที่สุด และคอยเฝ้าว่าแพทย์พยาบาลแต่ละคนที่ทำหัตถการในห้องจะยังอยู่ในสภาวะที่ปลอดภัยหรือไม่ และพร้อมให้การช่วยเหลือขอบคุณทีมแพทย์ COVID-19 ที่ระดมสมองช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา ขอบคุณทีม ECMO ที่มาช่วยชีวิตผู้ป่วย ขอบคุณทีม IC ที่มาปกป้องทีม ECMO ให้ปลอดภัยและสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เต็มที่ ขอบคุณผู้ป่วยที่ยังสู้ไปพร้อมๆกัน.ขอบคุณเฟซบุ๊ก Somnuek Sungkanuparph | แพทย์รามาฯ เล่าเบื้องหลังชุดป้องกันติดเชื้อ โควิด-19 ของบุคลากรทางการแพทย์ อันตรายที่สุดคือตอนถอด มีความเสี่ยงทุกขั้นตอน | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,COVID-19,โควิดวันนี้,ชุดป้องกัน,สมนึก สังฆานุภาพ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1829133 | [
0,
259,
95580,
30007,
4728,
26036,
259,
100694,
238468,
23940,
31542,
84012,
170457,
259,
1881,
202566,
202608,
95580,
259,
130377
] |
นิวยอร์กยึดผงขาวครั้งมโหฬารมูลค่า 1600 ล้านบาท | เมื่อ 19 พ.ค. สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ(ดีอีเอ) ยึดเฮโรอีนน้ำหนักกว่า 70 กก. บรรจุในซองนาฬิกา โรเล็กซ์ จำนวน 70 กล่อง ซึ่งลักลอบมาจากเม็กซิโก คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,675 ล้านบาท) ซึ่งซุกซ่อนมากับรถคันหนึ่งจอดอยู่ย่านชุมชนบรองซ์ นครนิวยอร์ก พร้อมเงินสด 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่พบใต้พื้นไม้อพาร์ตเมนต์ใกล้เคียงกับอาวุธปืน 1 กระบอกอีกแห่ง ด้านนายโฮเซ เมอร์เซเดส และนายเยนซิ ครูซ ฟรานซิสโก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยถูกตั้งข้อหาลอบขนสิ่งผิดกฎหมายและครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งคู่ได้รับการปฏิเสธให้ประกันตัว ถือเป็นการยึดยาเสพติดครั้งใหญ่สุดของนิวยอร์ก และใหญ่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ,วันเดียวกัน สภาเทศบาลนครลอสแอนเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ลงมติเห็นด้วย 14 ต่อ 1 เสียงให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง (ราว 502 บาท) ภายในปี 2563 จากปัจจุบัน 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 67% โดยเรียกร้องให้นายจ้างที่มีลูกจ้างเกิน 25 คนขึ้นไป เริ่มปรับค่าแรงตั้งแต่ 10.50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชั่วโมงในปี 2559 และทยอยเพิ่มขึ้นทุกปีจนถึงระดับที่ผ่านมติเห็นชอบดังกล่าว ส่วนผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างน้อยกว่าก็จะให้เวลาปรับค่าแรงล่าช้าไปอีก 1 ปี ข้อเสนอนี้ยกเว้นลูกจ้างอายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้ที่ทำงานกับองค์กรไม่แสวงผลกำไร ขณะที่นายรูเบ็น กอน-ซาเลซ รองประธานอาวุโสสมาคมการค้านครลอสแอนเจลิส ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าเป็นการโยนภาระให้กับนักธุรกิจและอาจส่งผลให้นายจ้างปลดคนงาน. | สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ ยึดเฮโรอีนน้ำหนักกว่า 70 กก. บรรจุในซองนาฬิกาโรเล็กซ์ มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซุกซ่อนมากับรถคันหนึ่งจอดอยู่ย่านชุมชนบรองซ์ นครนิวยอร์ก พร้อมเงินสด 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ | สำนักงานปราบปรามยาเสพติด,สหรัฐ,เฮโรอีน,นาฬิกา,โรเล็กซ์,เม็กซิโก,ชุมชนบรองซ์,นิวยอร์ก,ยาเสพติด,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/500110 | [
0,
259,
156417,
146177,
6581,
146177,
3945,
185674,
213617,
259,
33523,
8084,
818,
99401,
333,
259,
40487,
4188,
41604,
31421
] |
|
จู่โจมค้นที่พักไทใหญ่ที่หางดง ล่าแก๊งซามูไร อาละวาดท้าตีผ่านเฟซบุ๊ก | ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สนธิกำลัง ร่วม 150 นาย ดีเดย์จู่โจมค้นที่พักคนงานไทใหญ่ ในพื้นที่ อ.หางดง หลังมีข่าวตั้งแก๊งซามูไร ท้ามีเรื่องวัยรุ่นไทย จนกระทบผู้บริสุทธิ์ ผลตรวจค้นพบมีด 1 เล่ม ประทัดยักษ์ 2 ลูก แต่ไม่พบคนในแก๊ง พร้อมนำ 5 ผู้ต้องสงสัยสอบประวัติ,เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 19 พ.ย. 59 พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท. ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกับ พ.อ.สืบสกุล บัวระวงศ์ รอง ผบ.มทบ.33 ร่วมกับ พ.ต.ท.ยศศรัณ คำวงศ์ สว.สส.สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 5 ฝ่าย ปกครองอำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ร่วม 130 นาย ทำการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแหล่งที่พักอาศัยแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ อ.หางดง จำนวน 3 เป้าหมาย ที่ บ้านต้นเฮือด หมู่ 8 ต.บ้านแหวน อ.หางดง โดยกระจายกำลังเข้าตรวจค้นกว่า 200 ห้อง ควบคุมกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงออกมาตรวจสอบประวัติ โดยตรวจยึดอาวุธมีดดาบ และประทัดยักษ์ จำนวน 2 ลูก ได้ทำการแยกสอบสวนแรงงานต่างด้าว แต่ไม่พบเป็นกลุ่มเป้าหมายในการตรวจค้น,พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เผยว่าทาง พล.ต.ต.พลูทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้มีการตรวจค้นจับกุมกลุ่มวัยรุ่นชาวต่างด้าว ที่มีข่าวก่อเหตุไล่ทำร้ายวัยรุ่นด้วยกันในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จึงได้บูรณาการร่วมกับฝ่ายทหาร เข้าทำการปิดล้อม ตรวจค้นเป้าหมาย ที่พักแคมป์คนงานต่างด้าว บ้านหัวเสือ ดอนไฟ หมู่ที่ 8 และ หมู่ที่ 12 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จำนวน 3 เป้าหมาย เพื่อทำการเอกซเรย์ กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อาศัยในพื้นที่ อ.หางดง แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ว่าเป็นกลุ่มแก๊งซามูไรตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่ก็ถือเป็นการยืนยันให้ประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง ก็ขอให้ชาวบ้านสบายใจได้ ,อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ นำตัวบุคคล สัญชาติไทใหญ่ ต้องสงสัยจะเป็นแก๊งซามูไร เค ดำ จำนวน 5 ราย ชาย 3 คน หญิง 2 คน ไปจัดทำประวัติและซักถามเพื่อทำการขยายผล นอกจากนี้ ยังได้ตรวจอายัดรถจักรยานยนต์อีก 4 คัน ไปตรวจสอบ ,สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ก่อนหน้ามีกลุ่มวัยรุ่นไทย ทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นชาวไทใหญ่ ที่ตั้งแก๊ง ชื่อซามูไร เคดำ และซามูไร ร็อคเชียงใหม่ โดยมีการท้าทายกันในเฟซบุ๊ก ให้มาสู้กัน จนมีการรุมทำร้ายกันบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-หางดง ต่างหวาดผวา พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ. 5 จึงสั่งการให้ตำรวจภาค 5 และตำรวจพื้นที่ ตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายทุกรายด้วย. | ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สนธิกำลัง ร่วม 150 นาย ดีเดย์จู่โจมค้นที่พักคนงานไทใหญ่ ในพื้นที่ อ.หางดง หลังมีข่าวตั้งแก๊งซามูไร ท้ามีเรื่องวัยรุ่นไทย จนกระทบผู้บริสุทธิ์ ผลตรวจค้นพบมีด 1 เล่ม ประทัดยักษ์ 2 ลูก แต่ไม่พบคนในแก๊ง | ข่าว,ทั่วไทย | แก๊งซามูไร,ไทใหญ่,เชียงใหม่,หางดง,ท้าตีผ่านเฟซบุ๊ก | https://www.thairath.co.th/news/local/787752 | [
0,
259,
169184,
66806,
156380,
187323,
259,
41582,
3100,
60592,
259,
83350,
140349,
100132,
117531,
86051,
44072,
147304,
9074,
1
] |
ประยุทธ์ เตรียมเฟสบุ๊กไลฟ์ บก.ลายจุดขอสมัครเป็นแอดมิน แลกกับเลิกอายัดบัญชี | รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง เผยพล.อ.ประยุทธ์ เตรียมไลฟ์สดสั้นๆ คุยกับ ปชช.แบบไม่เครียด แจงไม่เกี่ยวกับประเด็นหาเสียง เป็นแค่เรื่องการทักทาย บก.ลายจุด ขอสมัครเป็นแอดมิน แลกกับเลิกอายัดบัญชี17 ต.ค.2561 ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเฟสบุ๊กแฟนเพจ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha อย่างเป็นทางการไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้ (17 ต.ค.61) มียอดถูกใจ2.27 แสนแล้ว ขณะที่ยอดผู้กดติดตามต่างกัน 1 หมื่น คืออยู่ที่2.28 แสนแล้ววันนี้ รายงานว่า พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเตรียมการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กว่า การเปิดช่องทางสื่อสารใหม่ๆ ถือเป็นการทำงานที่ต้องทันกับสถานการณ์ และยุคนี้เป็นยุคดิจิตอลจึงไม่แปลกที่นายกฯจะใช้ช่องทางใหม่ๆ สื่อสารกับประชาชน และการไลฟ์สดถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำได้ แต่จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ คุยกับประชาชนแบบไม่เครียดพุทธิพงษ์ กล่าวว่า โดยจะเป็นลักษณะเสนอสิ่งที่นายกฯอยากสื่อถึงประชาชน อย่างกรณีนายกฯไปทำงานไม่ว่าในต่างประเทศหรือต่างจังหวัด อาจพบเห็นสิ่งที่อยากสื่อกับประชาชนหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่างๆ นำมาแนะนำให้กับประชาชนรับทราบ หรือกลับมาแล้วผลักดันโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้นบ้าง เช่น สวนสาธารณะ การตกแต่งร่มต่างๆ อย่างที่นายกฯเคยพูดสมัยไปฝรั่งเศส มุมมองดังกล่าวเป็นประโยชน์และมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงเวลานายกฯไปปฏิบัติภารกิจ เพราะบางครั้งกำหนดการอาจไม่มีจังหวะให้ไลฟ์สดได้เมื่อถามว่านายกฯจะไปเบลเยี่ยม วันที่ 18-19 ต.ค.นี้ จะมีไลฟ์สดกลับมาหรือไม่ พุทธิพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดและช่วงเวลา ต้องดูในเรื่องที่นายกฯสนใจและเป็นประโยชน์กับคนไทยด้วย นอกจากนี้ต้องดูในเรื่องของเวลา หากไปประเทศที่ช่วงเวลาตรงกันข้ามกับไทย ก็อาจไม่เหมาะจะไลฟ์สดเข้ามา ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน เพราะภารกิจที่จะเดินทางไปทำเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า ทั้งนี้ การไลฟ์สดเป็นแนวคิดและกรอบที่วางไว้เบื้องตน มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเมื่อถามถึงกระแสตอบรับที่นายกฯเปิดเพจทั้งเฟสบุ๊ก อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ พุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระแสตอบรับก็เป็นไปอย่างที่นายกฯพูด ผลสัมฤทธิ์เราไม่ได้มองว่ามีจำนวนคนเข้ามาติดตามมากน้อย แต่มองที่คุณภาพหลังเปิดช่องทางสื่อสารว่าประชาชนได้ติดตามและส่งปัญหา ข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เข้ามาอย่างไร เท่าที่ดูช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาถือว่าเป็นประโยชน์ ประสบความสำเร็จ เป็นช่องทางสื่อสารตรงระหว่างนายกฯกับประชาชน2-3 วันที่ผ่านมา ช่องทางที่เปิดขึ้นมีจุดแข็งที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาที่ประชาชนประสบ รวมทั้งข้อแนะนำหรือขอร้องนายกฯให้ช่วยเหลือ ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ เริ่มตอบส่วนตัวกับประชาชนบ้างแล้ว หรือบางข้อเสนอแนะ นายกฯนำมาเป็นข้อมูล รวมทั้งส่งให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา หลังจากนี้นายกฯคงสั่งการในประเด็นปัญหาที่ได้รับข้อมูลมา หลังจากกลั่นกรองตรวจสอบข้อมูลแล้ว ถือว่าเป็นตามเจตนารมณ์ที่เปิดช่องทางสื่อสาร ถือเป็นการตอบรับที่ดี และจะเร่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ พุทธิพงษ์ กล่าวและว่า ส่วนของคณะทำงานก็ช่วยนายกฯในระดับหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ทั้งหมดนายกฯจะเป็นคนดูและเล่นเอง ยืนยันว่าทีมงานไม่ได้ทำให้ แต่นายกฯทำเองเมื่อถามว่าในเชิงการเมืองถือเป็นการชิงความได้เปรียบในช่วงนี้หรือไม่ และมีเหตุผลอะไรถึงเปิดช่องทางสื่อสารใหม่พุทธิพงษ์ กล่าวว่า สาเหตุที่นายกฯเลือกมาเปิดช่องทางสื่อสารใหม่ เนื่องจากนายกฯต้องการหาช่องทางสื่อสารกับประชาชน ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมประชาชนในการบริโภคสื่อนั้นเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ใช่สื่อออนไลน์และโซเชี่ยลเป็นหลัก นายกฯจึงต้องการให้ทันยุคสมัย คณะทำงานโดยเฉพาะตนเมื่อได้รับแต่งตั้งเข้ามาดูแลด้านการสื่อสารก็พิจารณาแล้วว่า การเปิดทวิตเตอร์ เฟสบุ๊กหรืออินสตาแกรม สื่อสารได้โดยตรงและทันสมัยส่วนข้อวิจารณ์ถึงความได้เปรียบทางการเมืองนั้น รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวยืนยันว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นการเมืองสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นได้ว่า 2-3 โพสต์ที่นายกฯเสนอออกมานั้น ไม่เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับประเด็นหาเสียง เป็นแค่เรื่องการทักทาย และเปิดโอกาสให้ประชาชนติดตามและเสนอปัญหาเท่านั้น ไม่มีอะไรที่จะไปเกี่ยวกับการหาเสียง ถือเป็นเรื่องปกติในการใช้โซเชี่ยลของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งนักการเมืองทุกคนก็มีกันอยู่แล้ว บางคนก็แค่อัพเดตเรื่องราวของตัวเองเท่านั้น เรื่องนี้ทุกคนติดตามได้ว่าเป็นอย่างไรต่อไปวันเดียวกัน รายงานว่าที่หน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนราชดำเนิน สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุดผู้จดจัดตั้งพรรคเกียน เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าจาก พล.อ.ประยุทธ์กรณีขอให้ยกเลิกอายัดบัญชีธนาคาร เพราะได้รับผลกระทบมากว่า 4 ปี พร้อมแสดงออกเชิงสัญญาลักษณ์ด้วยการแต่งตัวเป็นคนตกงานใส่รองเท้าขาด ถือกระเป๋าเอกสาร พร้อมหอบเอกสารประวัติส่วนตัวมาสมัครงาน โดยมี นายสาธิต สุทธิเสริม นิติกรชำนาญการ ศูนย์บริการประชาชน รับเรื่องสมบัติ กล่าวว่า คดีความที่ตนไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช.นั้นสิ้นสุดแล้ว และได้เสียค่าปรับไปเรียบร้อย แต่บัญชียังถูกอายัด แม้เงินจะมีจำนวนไม่มาก แต่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในการจัดตั้งพรรค เพราะตนจะเป็นหัวหน้าพรรคไม่ได้อย่างไรก็ตาม หากจะไม่คืนบัญชี ขอให้นายกฯตอบคำถามให้ได้ว่า มีเหตุผลอะไรที่ต้องอายัดบัญชีเอาไว้ ทั้งที่เรื่องของตนไม่ใช่ความผิดทางอาญา ไม่มีการฟอกเงิน ที่สำคัญคดีความจบแล้ว และการกระทำเช่นนี้ ตนสามารถฟ้องร้องนายกฯตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้ทราบว่านายกฯเปิดเพจเฟสบุ๊กส่วนตัว มีคนกดถูกใจจำนวนมาก เกรงว่า จะดูแลไม่ทั่วถึง จึงเสนอตัวมาสมัครเป็นแอดมิน คอยดูแลเพจให้ในฐานะผู้ที่เล่นโซเชียลในยุคแรกๆ มีคุณสมบัติครบถ้วน มีความรู้ ความสามารถ และเชี่ยวชาญการใช้โซเชียล มีประสบการณ์ถูกปรับทัศนคติมาแล้ว จึงขอให้นายกฯรับไปพิจารณาสมบัติ กล่าว พร้อมย้ำว่า ขอให้นายกฯ คิดให้ดีว่า จะคืนบัญชีหรือจะรับตนเป็นแอดมินเพจ หากยังไม่สามารถตอบได้ตนจะเดินทางมาติดตามทวงถามเป็นระยะ ซึ่งตั้งใจว่าจะเดินทางมาทุกสัปดาห์ หรือ อาจจะตามไปทวงถามตามงานต่างๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปก็ได้ส่วน เพจ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น สมบัติ กล่าวว่า ข้อความที่ประชาชนมาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลามในเพจนั้น ไม่ตรงกับรูปภาพหรือ ข้อความของโพสต์เลย ปรากฎการณ์เช่นนี้ เรียกได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ถูกประชาชนยึดเพจไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร จะปิดเพจก็ไม่ได้ อาจจะเสียหายแบบกลับมาไม่ได้อีกเลย จะลบก็ลำบากมากผมอยากจะใช้คำว่า พล.อ.ประยุทธ์ในโลกออนไลน์ถูกล้อมกรอบเรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องได้คนแบบผมไปช่วยกู้สถานการณ์เพจประยุทธ์จันทร์โอชา ผมขอรับประกันว่า จะเกิดความบันเทิงอย่างสูงสุด แน่นอน โดยจะไม่ขอรับเงินเดือน แต่ขอให้ยกเลิกการอายัดบัญชีของผมแทนสมบัติ กล่าว | รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เผย พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมไลฟ์สดสั้นๆ คุยกับ ปชช.แบบไม่เครียด แจงไม่เกี่ยวกับประเด็นหาเสียง เป็นแค่เรื่องการทักทาย บก.ลายจุด ขอสมัครเป็นแอดมิน แลกกับเลิกอายัดบัญชี17 | การเมือง,ไอซีที | สมบัติ บุญงามอนงค์,พรรคเกียน,อายัดบัญชีธนาคาร,ประยุทธ์ จัทร์โอชา,เฟสบุ๊กแฟนเพจ,เฟสบุ๊กไลฟ์ | https://prachatai.com/journal/2018/10/79191 | [
0,
259,
203061,
6494,
34538,
74633,
4552,
6581,
237366,
73536,
112341,
259,
45173,
227164,
35872,
259,
144525,
40423,
57741,
259
] |
กสทช.เตือนผู้ประกอบการฯ ตัดสัญญาณมือถือโดยพลการ โทษถึงยึดใบอนุญาต | สำนักงาน กสทช. แจ้งผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากตัดสัญญาณโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายถึงขั้นยึดใบอนุญาต พร้อมสั่งเร่งเพิ่มความแรงคุณภาพสัญญาณในพื้นที่ชุมนุม26 พ.ย.2556 สำนักงาน กสทช. เผยแพร่ข่าว ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้ออกข่าวเกี่ยวกับสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองก่อนหน้านี้ สำนักงาน กสทช. ขอแจ้งไปยังผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายว่า การตัดสัญญาณโทรศัพท์ถือเป็นกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตพัก หรือหยุดการให้บริการ ตามาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความเสียหายร้ายแรงต่อประโยชน์สาธารณะ ตามมาตรา 66 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.เดียวกัน จึงอยู่ในอำนาจของ กสทช. ที่จะพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตได้ นอกจากนี้ เมื่อการกระทำดังกล่าวมีผลให้ระบบโทรคมนาคมขัดข้อง จึงอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดทางอาญา ตามมาตรา 73 ซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วยฐากร กล่าวว่า ขณะนี้ สำนักงานฯ ได้มีหนังสือสั่งการด่วนให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย ดูแลเพิ่มความแรงของคุณภาพสัญญาณในพื้นที่ชุมนุมให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง มีประชาชนใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพสัญญาณ แม้การออกแบบโครงข่ายจะมีการเผื่อกรณีมีผู้ใช้งานมากไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอต่อกรณีที่มีการใช้งานพร้อมกันมากมากเช่นนี้ การให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มความแรงของคุณภาพสัญญาณจะช่วยให้คุณภาพสัญญาณดีขึ้นได้ พร้อมระบุ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่สำคัญของสำนักงาน กสทช. ที่จะดูแลประชาชนผู้ใช้บริการให้ได้รับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีประสิทธิภาพ หากพบปัญหาจากการใช้บริการสามารถแจ้ง และร้องเรียนมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 ได้ทันที | สำนักงาน กสทช. แจ้งผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากตัดสัญญาณโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายถึงขั้นยึดใบอนุญาต พร้อมสั่งเร่งเพิ่มความแรงคุณภาพสัญญาณในพื้นที่ชุมนุม 26 พ.ย.2556 สำนักงาน | การเมือง,คุณภาพชีวิต,ไอซีที | กสทช.,การชุมนุม,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่,โทรศัพท์มือถือ | https://prachatai.com/journal/2013/11/49994 | [
0,
259,
196968,
7960,
12682,
260,
259,
60708,
188246,
106141,
225811,
84431,
64968,
131789,
186651,
38058,
237404,
259,
146761,
5490
] |
เพื่อไทย อัดรัฐ เลือกซื้ออาวุธมากกว่าช่วยปชช. ย้ำคง พ.ร.ก. ทำลายศก.ไทย | ส.ส.โคราชพรรคเพื่อไทย อัดรัฐ เลือกซื้ออาวุธมากกว่าช่วยประชาชน เตือน บิ๊กตู่ คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำลายเศรษฐกิจไทย หวั่น นักลงทุนหนี จี้ เร่งจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ระบุ มีเกษตรกรร้อง ยังไม่ได้รับเงินวันที่ 19 พ.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า อยากขอเตือน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่ยกเลิกพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยอ้างว่า หวั่นคุมการระบาดไม่อยู่นั้น เป็นผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะส่งผลกระทบภาคเศรษฐกิจทั้งประเทศ ทั้งการค้า การลงทุน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจไทยนอกจากนี้ การที่รัฐบาลออกพระราชกำหนดกู้เงิน จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ ทั้งการเยียวยาประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงวันนี้ไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลจะมีแผนงานในการใช้เงินกู้อย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ทั้งการใช้เงินเพื่อฟื้นฟูกิจการเอสเอ็มอี การสร้างงาน สร้างอาชีพให้ประชาชน รัฐบาลยังไม่มีแผนงานใดๆ ออกมาเลย ในส่วนนี้พรรคฝ่ายค้านคงต้องมีการสอบถามถึงความชัดเจนว่า จะมีการใช้เงินกู้อย่างไรในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังจะมาถึงนี้นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเยียวยาประชาชน และเยียวยาภาคการเกษตร พบว่า ยังมีปัญหาอยู่ จากการลงพื้นที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่า ยังไม่ได้รับการเยียวยา เพราะหลังจากลงทะเบียนแล้วระบบฐานข้อมูลแจ้งมาว่า ไม่ได้เป็นเกษตรกร เรื่องนี้รัฐบาลต้องแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะเกษตรกรเดือดร้อนมาก ถ้ารัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนจริง ควรให้ทุกครัวเรือนทั้ง 3.9 ล้านครัวเรือนที่ลงทะเบียนเกษตรกรไว้ ที่รอคอยด้วยความหวังว่าจะได้รับเงินทั้งหมด และจำนวนเงินที่ควรต้องเพิ่มจาก 15000 บาทเป็น 35000 บาท ทุกครัวเรือนการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลต้องทำให้เหมือนการซื้ออาวุธที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาก ทั้งที่รัฐบาลควรที่จะนำงบประมาณที่จะไปซื้ออาวุธ อาทิ เรือดำน้ำ รถถัง เฮลิคอปเตอร์ นำมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก่อน ในสถานการณ์ปัจจุบัน อาวุธยังไม่ใช่สิ่งจำเป็น สภาเปิดเมื่อไร ผมจะนำกรณีการจัดซื้ออาวุธของกองทัพไปหารือในคณะกรรมาธิการการทหารอย่างแน่นอน เพราะกองทัพไม่เคยยกเลิกการจัดซื้ออาวุธตามที่มีข่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ชะลอไว้เท่านั้น นายประเสริฐ กล่าว. | ส.ส.โคราช พรรคเพื่อไทย อัดรัฐ เลือกซื้ออาวุธมากกว่าช่วยประชาชน เตือน บิ๊กตู่ คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำลายเศรษฐกิจไทย หวั่น นักลงทุนหนี จี้ เร่งจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ระบุ มีเกษตรกร | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,พรก.ฉุกเฉิน,ซื้ออาวุธ,ประเสริฐ จันทรรวงทอง,เยียวยาเกษตรกร,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1848146 | [
0,
259,
203061,
259,
173212,
97003,
12066,
15319,
5405,
233016,
12005,
216048,
47414,
1,
0,
0,
0,
0,
0,
0
] |
สาว 30 ดวงถึงฆาต ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านใต้ต้นมะขามโค่นทับดับคาถนน | สาวลพบุรีดวงถึงฆาต ขี่ จยย.ไปบนถนน ถูกต้นมะขามที่โคนต้นมีรอยไฟไหม้มานานแล้ว เกิดโค่นล้มลงมาพอดี ขณะที่รถวิ่งผ่านใต้ต้น ทับทั้งรถทั้งคน เสียชีวิตคาที่เวลา 10.30 น.วันที่ 13 ก.พ. ร.ต.อ.ธีวานนท์ รัตนะ รอง สว.สอบสวน สภ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรถจยย. มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณหน้าโรงเรียนชัยบาดาลพิทยา ถนนสาย 205 ช่วง อ.ท่าหลวง-ม่วงค่อม ต.ม่วงค่อม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพ้งไล้ 16 ลำนารายณ์ที่เกิดเหตุบนถนนพบต้นมะขามขนาดใหญ่โค่นล้มขวางทางอยู่บนถนนที่ใต้ต้นไม้พบศพของ น.ส.ศิลาทิพย์ จันทรถ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 51 หมู่ 8 ต.ม่วงค่อม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เสียชีวิตในสภาพศพถูกต้นไม้ทับกระแทกร่างอย่างแรง มีบาดแผลที่ศีรษะและลำตัว เลือดไหลนองพื้นถนน ส่วนที่ปลายเท้าขาข้างขวาของผู้ตายพาดทับอยู่บนรถจยย.ฮอนด้า คลาสสิก สีชมพู หมายเลขทะเบียน 1 กณ 1031 ลพบุรีซึ่งจอดตั้งอยู่ สภาพถูกต้นไม้ทับพังเยินทั้งคัน ใกล้กันพบหมวกกันน็อกสีดำตกอยู่ที่พื้นถนน ตรวจสอบที่โคนต้นมะขามมีร่องรอยไฟไหม้ที่โคนต้นอยู่เก่าแล้วจากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าขณะที่ผู้ตายขี่รถจยย.กลับจากทำธุระ มาถึงจุดเกิดเหตุ เป็นจังหวะเดียวกันกับต้นมะขามใหญ่ที่ยืนต้นมานาน มีรอยไฟไหม้ที่โคน ได้หักโค่นลงมาในจังหวะเดียวกันที่ผู้ตายขี่จยย.ผ่านมาใต้ต้นมะขามพอดี เป็นเหตุให้ต้นไม้ล้มทับทั้งคนทั้งรถ เสียชีวิตคาที่ดังกล่าว | สาวลพบุรีดวงถึงฆาต ขี่ จยย.ไปบนถนน ถูกต้นมะขามที่โคนต้นมีรอยไฟไหม้มานานแล้ว เกิดโค่นล้มลงมาพอดี ขณะที่รถวิ่งผ่านใต้ต้น ทับทั้งรถทั้งคน เสียชีวิตคาที่ | ข่าว,ทั่วไทย | ต้นไม้ลมทับ,ต้นไม้ทับตาย,ต้นมะขามทับตาย,ต้นมะขามล้มทับ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1770595 | [
0,
259,
80327,
35749,
1549,
72364,
11922,
57345,
68437,
64469,
44836,
7910,
53727,
7960,
22401,
259,
66248,
35814,
35097,
259
] |
YouLike เปิดโหวต ถ้าไม่มีตระกูลชินวัตรจะเลือกใครเป็นนายกฯ พบสูงสุดคือ ไม่เลือกใครเลยสักคน | เพจ YouLike เปิดโหวตถ้าไม่มีตระกูลชินวัตรคุณจะเลือกใครเป็นนายกฯพบสูงสุดคือ ไม่เลือกใครเลยสักคน 9.2 หมื่น โหวตประยุทธ์ 1.4 หมื่น โหวตอภิสิทธิ์ 5.2 พัน ขณะที่โหวตสุเทพ 1.8 พัน29 พ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.14 น. เฟซบุ๊กแฟนเพจ ซึ่งมียอดผู้ติดตาม 13 ล้าน ได้แชร์โพสต์ตั้งคำถาม ถ้าประเทศนี้ไม่มีตระกูลชินวัตรคุณจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี? โดยมีตัวเลือก 4 ตัวเลือกคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ และไม่เลือกใครเลยสักคนล่าสุด 14.35 น. ผ่านไปประมาณ 5 ชั่วโมง มีผู้โหวตประมาณ 1.16 แสน ผู้โหวตไม่เลือกใครเลยสักคน 9.2 หมื่น โหวตประยุทธ์ 1.4 หมื่น โหวตอภิสิทธิ์ 5.2 พัน ขณะที่โหวตสุเทพ 1.8 พันเกี่ยวกับ นายกรัฐมนตรี ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ นอกจากประชาชนไม่สามารถเลือกได้โดยตรงแล้ว เคยวิเคราะห์ถึงปรากฎการณ์ นายกฯ คนนอก ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ด้วยว่า รัฐธรรมนูญกำหนดว่า พรรคการเมืองต้องเสนอชื่อผู | เพจ YouLike เปิดโหวตถ้าไม่มีตระกูลชินวัตรคุณจะเลือกใครเป็นนายกฯพบสูงสุดคือ ไม่เลือกใครเลยสักคน 9.2 หมื่น โหวตประยุทธ์ 1.4 หมื่น โหวตอภิสิทธิ์ 5.2 พัน ขณะที่โหวตสุเทพ 1.8 พัน 29 พ.ค. 2560 | การเมือง | YouLike (คลิปเด็ด),ตระกูลชินวัตร,นายกคนนอก,นายกรัฐมนตรี,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สุเทพ เทือกสุบรรณ,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://prachatai.com/journal/2017/05/71692 | [
0,
259,
112341,
1662,
45073,
259,
221409,
259,
203061,
21637,
221873,
117670,
11867,
4682,
259,
212403,
221699,
50161,
259,
110331
] |
วัดทั่วโลกจัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวาย ร.9 | เป็นศูนย์กลางให้ชาวไทยต่างแดน เน้นเรียบง่ายและสมพระเกียรติ,จากการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป ซึ่งมีพระธรรมทูตไทยจากทั่วโลกร่วมประชุม ที่วัดพุทธวิหาร เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ กล่าวว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการ มส. มีสาส์นมายังพระธรรมทูตไทย ความว่า การ ปฏิบัติหน้าที่ของพระธรรมทูตในการเผยแผ่พระธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กับชาวไทยและชาวยุโรป เป็นการประกาศเกียรติคุณของพระ พุทธศาสนา และความงดงามของวัฒนธรรมไทย ด้วย ความเสียสละ ความฉลาด ทรงความรู้ ทรงธรรม และ การปฏิบัติตามพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาจึงรุ่งเรือง อยู่ในทวีปยุโรป ความงดงามของคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนาอยู่ที่การสำรวม และรักษาระเบียบ คือพระธรรมวินัย การมาปฏิบัติศาสนกิจในทวีปยุโรป นับเป็นความ เสียสละที่ต้องละถิ่นฐานภูมิลำเนา สละความสุขส่วนตัว ขอชื่นชมและอนุโมทนางานสำคัญของคณะสงฆ์ไทยในปีนี้คือ ทุกวัดในต่างประเทศต้องเป็นศูนย์กลางประชาชนชาวไทย ในการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในเดือน ต.ค.ศกนี้ เพื่อน้อมส่งเสด็จพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างไพศาลแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย สู่สวรรคาลัย ขอให้เน้นเรื่องความเรียบง่ายตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ และสมพระเกียรติ,พระพรหมสิทธิกล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังมีมติออกปฏิญญาอัมสเตอร์ดัม ประจำปี 2560 ดังนี้ ร่วมกันจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลฯ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) พัฒนาศักยภาพของพระสงฆ์ไทยและพระธรรมทูตสายต่างประเทศ จัดตั้งและสนับสนุนการดำเนินการของสำนักวิปัสสนากรรมฐาน จัดวิปัสสนากรรมฐานแก่พระสงฆ์และประชาชนทั่วไป ร่วมกันจัดงานสัมมนาชาวพุทธนานาชาติ และงาน วิสาขบูชาโลกปี 2561 ร่วมกันจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและบาลี ร่วมกันจัดโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ในทวีปยุโรป เป็นต้น. | จากการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป ซึ่งมีพระธรรมทูตไทยจากทั่วโลกร่วมประชุม ที่วัดพุทธวิหาร เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ | ข่าว,ต่างประเทศ | พระธรรมทูต,การประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป,พระพรหมสิทธิ,พิธีบำเพ็ญกุศล,รัชกาลที่ 9 | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1071520 | [
0,
259,
137738,
71013,
225704,
72810,
20921,
52408,
232355,
11984,
2361,
194226,
9964,
124867,
259,
122112,
259,
232023,
195156,
2091
] |
ทปอ.มีมติผลักดันกระทรวงอุดมศึกษา | แนะตั้งหน่วยงานเชื่อมมหาวิทยาลัย ตั้ง ประสาท นั่งประธานคนใหม่,จากการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในฐานะรักษาการประธาน ทปอ. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงอุดมศึกษา พ.ศ และร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่) พ.ศ ซึ่ง ทปอ.มีมติยืนยันที่จะขอแยกงานการอุดมศึกษาออกจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยจัดตั้งเป็นกระทรวงใหม่ เรียกว่า กระทรวงการอุดมศึกษา เนื่องจาก ศธ.ในปัจจุบันต้องดูแลเด็กและหลักสูตรตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงปริญญาเอก หาก รมว.ศธ.ไม่เข้าใจงานอุดมศึกษา ก็จะทำให้การพัฒนามหาวิทยาลัยเดินต่อไปไม่ได้ โดยหลังจากนี้จะเร่งผลักดันร่างกฎหมายผ่านทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเลือก ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ให้ดำรงตำแหน่ง ประธาน ทปอ. แทน ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อดีต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และอดีตประธาน ทปอ.ที่ลาออกไปดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข,ด้าน ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะที่ดูแลร่างกฎหมายแยกกระทรวง กล่าวว่า เดิม ทปอ.เสนอให้แยกเป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและวิจัย แต่จากการหารือร่วมกับ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศธ. มีข้อสรุปให้ตัดงานวิจัยออก และมีการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของ รมว.กระทรวงใหม่ โดยร่างเดิมให้อำนาจรัฐมนตรีตั้งภาควิชา ซึ่งในสภาพความเป็นจริงแล้ว เป็นอำนาจของมหาวิทยาลัย จึงได้แก้ไขให้เป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยตามเดิม ส่วนโครงสร้างของกระทรวงการอุดมศึกษานั้น เดิมกำหนดให้มีหน่วยงานกลางคือ สำนักงานปลัดกระทรวง และมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ทปอ.ครั้งนี้ได้เสนอว่าควรมีหน่วยงานกลางทำหน้าที่เชื่อมระหว่างสำนักงานปลัดกับมหาวิทยาลัย อาทิ กรมวิจัย และกรมที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการประเมินคุณภาพการศึกษาในลักษณะเดียวกับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. สำหรับอุดมศึกษา. | จากการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) | ประดิษฐ์ วรรณรัตน์,ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย,ทปอ.,ผลักดัน,กระทรวงอุดมศึกษา,กระทรวงศึกษาธิการ,สมคิด เลิศไพฑูรย์,กฤษณพงศ์ กีรติกร | https://www.thairath.co.th/content/470429 | [
0,
259,
7960,
196758,
260,
134114,
4188,
97204,
3682,
128181,
3755,
204504,
63066,
3324,
259,
74425,
134409,
1,
0,
0
] |
|
เดนมาร์ก ยุคใหม่ กังหันไฟฟ้า มากกว่า โคนม | ก็สลับกันไปเรื่อยๆ ระหว่างเหตุการณ์ปัจจุบันที่น่าสนใจกับบันทึกการเดินทางไปสแกนดิเนเวียของผมซึ่งยังไม่จบ,เมื่อวานเขียนถึงสงครามการค้า จีน-สหรัฐฯ ระลอกใหม่ ซึ่งหลายๆฝ่ายเป็นห่วงว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกปีหน้าถดถอยแน่ๆ ไปพอไม่ให้ตกข่าวใหญ่ระดับโลกเรียบร้อยแล้ว วันนี้ขอกลับไปเขียนถึงการเดินทางเมื่อต้นเดือนของผมตามเดิม,จาก ฟินแลนด์ ผมบินต่อไป เดนมาร์ก ครับ เพื่อไปศึกษาดูงานในเรื่องพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาดเช่นเดียวกัน ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น เดนมาร์กเป็นประเทศที่ใช้พลังงานสะอาดสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองก็แต่สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศสเท่านั้น,ก่อนที่จะว่ากันถึงเรื่องพลังงาน เรามาทบทวนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับราชอาณาจักรเดนมาร์ก ประเทศที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักคุ้นเคยมาเป็นเวลายาวนาน อย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 เมื่อครั้ง สมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริค ที่ 9 แห่งเดนมาร์ก พร้อมพระราชินีเสด็จเยือนประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา,ทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จไปเปิดฟาร์มโคนมและโรงงานผลิตนมวัวที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 16 มกราคมของปีดังกล่าว นับเป็นจุดเริ่มของ ฟาร์มโคนม-ไทยเดนมาร์ค ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และต่อมาก็มีการจัดตั้งฟาร์มโคนมแห่งนี้ขึ้นเป็นรัฐวิสาหกิจ เรียกกันว่า องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ผู้ผลิตนมตรา วัวแดง ที่คนไทยรู้จักอย่างดียิ่งในปัจจุบันนี้,ทุกวันนี้เมื่อนึกถึงเดนมาร์กคนไทยก็มักจะนึกถึง วัวนม มากกว่าอะไรทั้งหมด แม้แต่ฉายาของประเทศเดนมาร์กในการแข่งขันฟุตบอลยุโรป สื่อมวลชนไทยก็จะตั้งฉายาให้ว่า นักเตะแดนโคนม,แต่ถ้าเราไปดูว่าโครงสร้าง GDP ของเดนมาร์กปัจจุบันประกอบด้วยอะไรบ้างจะรู้สึกแปลกใจว่าตลอด 50 ปีที่ผ่านมาเดนมาร์กได้มีการพัฒนากระจายฐานการผลิตและรายได้ไปสู่สาขาอื่นๆมากขึ้นเรื่อยๆ,ในปี 2017 ที่ผ่านมารายได้จาก สาขาบริการ เป็นรายได้สูงสุดถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP โดยมีสาขาอุตสาหกรรมรองลงมาอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ทางด้านการเกษตรเหลือเพียงไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น,โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมที่เขาส่งออกในขณะนี้ก็มีทั้งผลิตภัณฑ์จากเคมีภัณฑ์ต่างๆ มีเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องจักร เครื่องกล สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และล่าสุดมาแรงมากก็คือเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตกระแสไฟฟ้าจาก พลังลม นั่นเอง,มาถึงตรงนี้เราก็มาคุยกันถึงเรื่องนโยบายด้านพลังงานของเขาได้ละ เพราะพลังงานจากลมนี่แหละที่เป็นจุดเด่นของเดนมาร์กในปัจจุบัน,รัฐบาลเดนมาร์กได้ประกาศเป็นนโยบายไว้ตั้งแต่ ค.ศ.2012 ว่าเขาจะใช้พลังงานสะอาดให้ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานทั้งหมดในปี ค.ศ.2030,โดยจะให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือ ปราศจากการใช้พลังงานที่มาจากฟอสซิลและถ่านหินโดยสิ้นเชิงใน ค.ศ.2050 หรือจากนี้ไปอีก 31 ปี,นับเป็นนโยบายที่กล้าหาญมาก และไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ แต่ด้วยความร่วมมืออย่างแข่งขันระหว่างภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทำให้เดนมาร์กเดินหน้ามาได้ไกลพอสมควร,ณ สถานการณ์ปัจจุบัน ตัวเลขการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังสะอาดต่อพลังงานทั้งหมดอยู่ที่ 32.8 เปอร์เซ็นต์ เข้าใกล้เป้าหมาย 50 เปอร์เซ็นต์ในปี 2030 ไปทุกขณะ,ถ้ามองเฉพาะในด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าตัวเลขล่าสุดยืนยันได้ว่ามาจากพลังงานหมุนเวียนถึง 72 เปอร์เซ็นต์,ที่สำคัญกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตกระแสไฟฟ้าของเขามาจาก พลังลม ซึ่งเป็นจุดเด่นของเดนมาร์กในปัจจุบันอย่างที่ผมเกริ่นไว้,ไปไหนมาไหนเราจะเห็นเสา กังหันลมปั่นไฟฟ้า ตั้งตระหง่านเป็นทิวแถวทั้งในทุ่งนาและในทะเล,ตัวเลขเมื่อปี 2017 ระบุว่าทั่วประเทศเดนมาร์กขณะนี้มีเสากังหันลมปั่นไฟรวมทั้งสิ้นถึง 14,777 เสา โดยจะอยู่บนบก 9,597 เสา และอยู่ในทะเล 5,180 เสา,นี่แหละที่ทำให้ผมต้องตั้งข้อสังเกตไว้ในหัวเรื่องของผมวันนี้ว่าเดนมาร์กยุคนี้ทำท่าจะไม่ใช่ ดินแดนโคนม แล้วละ แต่เป็นดินแดนกังหันลมผลิตไฟฟ้า หรือเรียกสั้นๆว่า กังหันปั่นไฟฟ้า เสียมากกว่า,เพราะไม่ว่าจะไปไหนมาไหนเจอแต่กังหันลมปั่นไฟฟ้าเต็มไปหมดทั้งประเทศอย่างที่ว่านานๆจะเจอฟาร์มโคนมซะทีนึง.,ซูม | ทุกวันนี้เมื่อนึกถึงเดนมาร์กคนไทยก็มักจะนึกถึง วัวนม มากกว่าอะไรทั้งหมด แม้แต่ฉายาของประเทศเดนมาร์กในการแข่งขันฟุตบอลยุโรป สื่อมวลชนไทยก็จะตั้งฉายาให้ว่า นักเตะแดนโคนม | เดนมาร์ก,กังหันไฟฟ้า,โคนม,พลังงานลม,พลังงาน,เหะหะพาที,ซูม | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1646838 | [
0,
259,
93927,
259,
209410,
259,
97003,
193018,
121682,
5405,
259,
27605,
185039,
69012,
72023,
4728,
12002,
38245,
1549,
25889
] |
|
จิตใต้สำนึกของความสัมพันธ์ไทย สหรัฐ | เป็นที่เข้าใจได้ว่าใน psyche ของชนชั้นนำในกรุงเทพฯนั้นคงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจน่าดูเกี่ยวกับท่าทีของสหรัฐต่อความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย เพราะของที่เคยๆกัน (business as usual) นั้นมันเปลี่ยนแปลงไปโดยที่พวกชนชั้นสูงตั้งตัวไม่ทันแต่ไหนแต่ไรมาการรัฐประหารเป็นสิ่งที่วอชิงตันไม่เคยขัดข้องเลย (ถ้าบอกกันก่อน) ทั้งยังจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มทีด้วย ทว่าโลกกลับเปลี่ยนแปลงไปมาก ความห่วยแตกของการใช้กำลังทหารแก้ปัญหาการเมืองในทุกทีของโลกมันหลอนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความพยายามของสหรัฐที่จะไปหนุนกองกำลังโน่นนี่นั่นยึดอำนาจรัฐนั้นมันให้ผลร้ายทุกทีการรัฐประหาร 2-3 ครั้งที่ผ่านในประเทศไทยนั้น มองจากมุมวอชิงตันแล้ว ไม่ใช่อะไรที่จำเป็นต้องทำเลย ท่านนายกและรมต.ต่างประเทศไม่ต้องโชว์กึ๋นถามเขาว่า จะให้ทำอย่างไรหรอก วันนั้น แดเนียล รัสเซล ไม่ตอบก็ไม่ใช่ว่าตอบไม่ได้ ก็คงเพราะจะไว้ไมตรีและสมเพชจนไม่รู้ว่าอย่างไรมากกว่า คำตอบมันง่ายนิดเดียวจากมุมมองของอเมริกัน (ซึ่งทหารของเขาไม่เคยยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง) คือ ความเห็นที่แตกต่างในเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาการเมืองระหว่างไทยกับสหรัฐนั้นก็อยู่ใต้ก้นบึ้งแห่งจิตสำนักในความเข้าใจวิถีแห่งอำนาจที่ต่างกัน คนอเมริกันเขาถือปัจเจกชนนิยม อำนาจจะอยู่ที่ประชาชนทุกรูป ทุกนาม พวกเขามอบอาณัติแห่งอำนาจนั้นให้ประธานาธิบดีผ่านการเลือกตั้ง ทหารนั้นเป็นแค่กลไกรัฐ ไม่ใช่ผู้ควบคุมอำนาจรัฐ ทหารทำหน้าที่ตามอาณัติที่ประชาชนมอบผ่านรัฐบาลเท่านั้นทว่าชนชั้นปกครองในประเทศไทยนั้นคิดว่า อำนาจเป็นของตัวเองฝ่ายเดียว ทหารมีหน้าที่ปกปัองมัน ประชาชนเป็นไพร่คอยรับแต่คำบัญชา พอมีปัญหาว่าประชาชนอยากจะได้อำนาจบ้างหรืออยากจะใช้มันบ้าง ทหารก็ทำหน้าที่ออกมาปกป้องอำนาจนั้นให้อยู่แต่ในมือของชนชั้นปกครองตลอดไป เปลี่ยนแปลงการปกครองมา 80 กว่าปีแล้ว ความคิดแบบนี้ยังไม่เคยเปลี่ยนถามว่าสหรัฐยอมทำแบบเคยๆกันบ้างจะได้มั๊ย ทำไมต้องมาวิพากษ์วิจารณ์อะไรกันหนักหนาราวกันว่ายิ่งลักษณ์เป็นอองซานซูจีก็ไม่ปาน คำตอบคือไม่ได้เพราะ ถ้าสมยอมแล้วสหรัฐจะไม่มีประเด็นอะไรต่อรองเลยสำหรับการเมืองย่านนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มอาเซียนนั้น ไทยและฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่สหรัฐสปอยได้มาโดยตลอด พูดให้เป็นวิชาการหน่อยต้องว่าเป็น treaty ally แปลว่าเป็นพันธมิตรแบบมีพันธสัญญา หมายความว่าต้องยึดถือคุณค่าอะไรบางประการร่วมกัน รัสเซล พูดแล้วแต่ผู้นำไทยไม่ค่อยเข้าใจ คุณค่าที่ว่านั้นคือ democracy and rule of law สำหรับพวกคาวบอยแล้วเป็นพวกเดียวกันต้องยึดถืออุดมการณ์บางอย่างร่วมกันได้สมัยก่อนจะยึดอำนาจกี่ครั้งก็ไม่ว่าแถมจะหนุนด้วยเพราะถือคุณค่าแห่งการต่อต้านคอมมิวนิสต์ด้วยกัน เมื่อก่อนการรัฐประหารนั้นแค่เปลี่ยนจากเผด็จการกลุ่มหนึ่งไปอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่อย่างอื่นอยู่ครบหมด สมัยนี้แตกต่างกัน การรัฐประหารสมัยนี้ทำลายคุณค่าใน doctrine ของประชาธิปไตยไปด้วยเพราะพวกไพร่ตื่นตัวทางการเมืองมากจนรู้ว่าควรใช้ประโยชน์จากการเลือกตั้งอย่างไร แล้วถ้าสหรัฐไม่วิจารณ์เรื่องพวกนี้จะมีสหรัฐอยู่แถวนี้ทำไม ไทยก็จะกลายเป็นประเทศที่เหมือนกับจีนไปฉิบแต่ชนชั้นสูงของไทยจะวิพากษ์วิจารณ์วอชิงตันอย่างถึงพริกถึงขิงอย่างที่ลูกหาบและกองเชียร์ทั้งหลายต้องการได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะ ด่ามากไปก็มีแต่เข้าเนื้อ จะลดจะทอนความสัมพันธ์อะไรนั้นก็อย่าหวังว่าจะทำได้ เพราะมีประโยชน์ร่วมกันอยู่มากมาย แอลเอนั่นมัน little Thailand ชัดๆ ลูกหลานชนชั้นผู้ปกครองคนไหนไม่ถือสองสัญชาติ (ไทย-อเมริกัน) บ้าง หลายคนตั้งใจไปเกิดที่โน่นเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกัน (แม้ว่า อาก๋ง อาม่า อีจะเป็นเจ๊กก็ตาม) | เป็นที่เข้าใจได้ว่าใน psyche ของชนชั้นนำในกรุงเทพฯนั้นคงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจน่าดูเกี่ยวกับท่าทีของสหรัฐต่อความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย เพราะของที่เคยๆกัน (business as usual) | การเมือง,ต่างประเทศ | สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี.สหรัฐอเมริกา,แดเนียล รัสเซล | https://prachatai.com/journal/2015/01/57632 | [
0,
259,
97003,
82646,
162176,
1549,
21834,
139891,
147287,
89153,
10907,
259,
221640,
11821,
11740,
37070,
49376,
7428,
1549,
21834
] |
บิ๊กตู่ ยันไม่คิดล้ม 30 บาท วอน ปชช.อย่าชุมนุม ย้ำ รบ.อยู่ตามโรดแม็ป | บิ๊กตู่ ลั่นไม่ยกเลิกบัตรทอง 30 บาทแน่ ขอ ปชช.อย่าชุมนุมประท้วง หลงเชื่อใครบิดเบือน ยันรัฐบาลเดินหน้ารัฐสวัสดิการต่อ ย้ำอยู่ตามโรดแม็ป 1 ปี 6 เดือน หวังสร้างความเป็นธรรม แก้ข้อขัดแย้งทางการเมือง เพื่อ ปชช.กำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้,เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.58 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรีและหัวหน้า คสช. พร้อมคณะเดินทางไปยังโรงเรียนบ้านหนองเรียน อ.บ้านเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการประชารัฐ โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางจำนวน 50 ราย และมอบเงินช่วยเหลือโครงการฟื้นฟูกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวน 50 ราย จากนั้นนายกฯ ได้พบปะกับประชาชน ที่มาต้อนรับกว่า 2 พันคน พร้อมกับกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนและคณะดีใจที่ได้พบปะกับชาวสุราษฎร์ธานี ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ใน 4 อำเภอ จ.สงขลา ซึ่งถ้าตนเป็นนักการเมืองจะรู้สึกดีใจมากๆ เพราะคงได้คะแนนเสียงมาก แต่ตนมาเพื่อรับปัญหาจากทุกคน มารับฟังเพียงอย่างเดียว ไม่ได้หวังผลตอบแทน หวังผลเพื่อทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองโดยส่วนรวมเพียงเท่านั้น เพื่อสร้างประเทศชาติให้เข้มแข็ง ซึ่งประเทศเรามีปัญหาอยู่ไม่กี่อย่าง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่ขาดความเข้มแข็งในรอบ 20 ปี ไม่ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการค้าขายและการลงทุน เพื่อให้เดินกันต่อไป ทั้งนี้ต้องเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ โดยเริ่มจากชุมชนให้การพัฒนาส่งเสริมเกษตรกรรม เพื่อขยายไปยังตำบล อำเภอ กลุ่มจังหวัด ขยายสู่การค้าชายแดน การค้าระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ไปจนถึงประเทศอาเซียน ไปจนถึงโลก ซึ่งวันนี้เราทุกคนต้องมาร่วมกันทบทวนแก้ปัญหาร่วมกันให้ได้ เพื่อให้ประเทศไทยมั่นคงและแข็งแรง ก่อนที่จะก้าวเดินกันต่อไป โดยต้องเคารพกฎหมาย อย่างไรก็ตามทุกวันนี้หลายคนเห็นด้วยและเข้าใจถึงปัญหา เพียงแต่จะสามารถพูดให้ทุกคนเห็นกันได้หรือไม่ เพราะการแก้ไขปัญหาจะต้องทำหลายอย่างไปพร้อมกัน เหมือนที่รัฐบาลทำอยู่,นายกฯ กล่าวว่า โดยเรื่องแรก คือ การบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน ซึ่งมีอยู่หลายเรื่อง ไม่เฉพาะเรื่องการเกษตร แต่ยังมีเรื่องป่าไม้ ความเป็นอยู่ของประชาชน การทำกิน ราคายางพารา การขาดแคลนน้ำ เหล่านี้จะต้องแก้ปัญหาให้ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีเรื่องความรักความสามัคคี การติดกับตัวเอง การศึกษา อาชีพ รายได้ ความไม่เป็นธรรม ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งทุกอย่างคือปัญหาที่ต่อเนื่องเชื่อมโยง ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่รัฐบาลต้องมาอยู่ในวันนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง เพราะปัญหามีมาก ซับซ้อนและยาวนาน รัฐบาลพยายามจะแกะจะรื้อ แต่ยังไม่มีอะไรเสร็จสักอย่าง เพราะมีทั้งปัญหาหลักปัญหารอง ปัจจัยภายในภายนอกประเทศ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ก็ต้องแก้ไขกันทั้งหมด ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข เพราะจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวคงไม่ถูกต้อง จะต้องหาสมดุลให้ได้ว่า ทำอย่างไรกฎหมายที่ออกมานั้นจะทำให้สองฝ่ายไม่ขัดแย้ง,นายกฯ กล่าวต่อว่า ทุกคนจะต้องแข็งแรงด้วยตัวเอง คิดเป็น ทำเป็น และพยายามรวมกันให้ได้ อย่าไปหวั่นไหวต่อคนไม่ดีที่ซึ่งจะเป็นใครตนไม่ทราบ อย่างที่ตนย้ำเสมอว่า ทุกคนต้องเติบโตจากภายในคือ หัวใจและสติปัญญา เพื่อที่จะรวมกลุ่มไปกับคนอื่นพร้อมๆ กัน รวมกลุ่มในหมู่บ้าน อำเภอ ตำบล ดังนั้นหากมีใครมาพูดให้เกิดความขัดแย้ง พวกท่านก็ทบทวนเสียใหม่ จะต้องทำให้คนทั้งประเทศรักกันให้ได้ เหล่านี้ให้ถือเป็นหน้าที่ของผู้บริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นระดับตำบลไปจนถึงระดับจังหวัด ต้องทำให้ได้ทั้ง 77 จังหวัดทั่วทุกภาค ขณะเดียวกันต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้ ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง เมื่อทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง เราก็จะไม่ต้องใช้กฎหมายอะไรมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความรักความสามัคคี มีระบบเครือญาติเชื่อมโยงก็จะแก้ไม่ค่อยได้ ดังนั้นเราต้องใช้คนที่มีประสิทธิภาพได้เข้าไปทำงาน ไม่ว่าจะตำแหน่งใด ไม่ใช่เอาใครก็ได้เข้าไปนั่งทำงาน ถ้าอย่างนั้นก็แก้ปัญหาไม่ได้,นายกฯ กล่าวต่อว่า พื้นที่นี้โชคดีที่ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ รายได้ต่อหัวถือว่าดีกว่าจังหวัดอื่นๆ มีปัญหาเรื่องเดียวคือราคายางตกต่ำ ซึ่งก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยปลูกพืชอื่นเสริมไปพร้อมกันในสวนยาง หรือเลี้ยงสัตว์ไปในสวนยาง เพาะพันธุ์ยางใหม่ หรืออาจจะหันไปทำยางถ้วย เพราะปัจจุบันนี้ราคาใกล้เคียงกับยางแผ่น ช่วยๆ กันไปขยายแล้วรวมกลุ่มกันมา คนหนึ่งทำหน้าที่กรีดยาง คนหนึ่งทำหน้าที่ยางแผ่น รวมตัวในรูปสหกรณ์ขยายตลาดเรียนรู้ระบบการค้า ทำบัญชีให้เป็น รู้เรื่องภาษี ก็จะได้ช่วยยกฐานะยกระดับกันได้,ยันไม่ยกเลิก 30 บาท,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ประเทศไทยมีคน 70 ล้านคน อยู่ในระบบภาษี 10 ล้านคน เหลือเสียภาษีประมาณ 4 ล้านคน อีก 6 ล้านคน ลดหย่อนตรงนั้นตรงนี้ ดังนั้น 4 ล้านคนคือ ถือเป็นหลักของประเทศ เพื่อนำมาขับเคลื่อนประเทศ และในส่วนของข้าราชการเขาก็เสียภาษี อย่าไปบอกว่าเขาไม่ได้เสียภาษี และข้าราชการโกงภาษีไม่ได้ อีกส่วนหนึ่งของการเสียภาษี คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ vat โดยบวกไปกับราคาสินค้าซึ่งเก็บ 7 เปอร์เซ็นต์ มาหลายปีแล้ว ยังไม่สามารถขึ้นได้ เพราะบ้านเมืองเรายังไม่เข้มแข็ง ทั้งนี้ทุกวันนี้ประเทศไทยงบประมาณขาดดุลเป็นอย่างนี้มาทุกปี เพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้ จึงเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ดังนั้นจะยกเลิกเรื่องรัฐสวัสดิการไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี การศึกษาฟรี การรักษาพยาบาลฟรี เพราะฉะนั้นอย่าไปฟังใครบิดเบือน ตนไม่เคยคิดที่จะเลิก มีแต่จะคิดว่าหาเงินมาจากไหน แล้วทำให้ดีขึ้นอย่างไร,อย่าออกมาเดินขบวนต่อต้านเรื่อง 30 บาทกับผมอีก ได้ยินกันทุกคนแล้วนะ ขอถือโอกาสชี้แจงเลย และต่อไปถ้าทุกคนสามารถมีหมายเลขของตัวเองได้ ไม่ได้จะเอามาประจานอะไรอย่างที่เขาเอาไปว่า บัตรประชาชนก็คือบัตรประชาชน แล้วยังจะต้องมีบัตรให้คนที่ไม่ได้เสียภาษี เพื่อเป็นข้อมูลเก็บเอาไว้เฉยๆ เพื่อให้เขาไปใช้รัฐสวัสดิการ ขึ้นรถเมล์ฟรี ขึ้นรถไฟฟรี หรือวันหน้าถ้าทำได้ ก็อาจจะเอาไปขึ้นรถไฟฟ้าฟรีก็ได้ และมีอีกหลายอย่างที่จะนำมาสู่ในเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องของอนาคตที่รัฐบาลทำอยู่ ไม่มีการแบ่งชนชั้น อย่ากังวล ไม่ใช่เอามาเขียนประจานในบัตรอย่างที่เขาว่าเสียหน่อย ไม่ได้เขียนประจานบนบัตร ก็เหมือนแค่บัตรเครดิตใบหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,ย้ำอยู่ตามโรดแม็ปที่วางไว้,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมีเวลาเหลืออีกแค่ 1 ปี 6 เดือน ทำงานตามโรดแม็ป ทำงานตามรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งตนต้องการทำให้ประเทศชาติเข้มแข็ง เพื่อให้ทุกคนสามารถ กำหนดชะตาชีวิตหรืออนาคตของประเทศได้ด้วยตัวของทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนทุกคนก็ทำอยู่แล้ว เพราะทุกคนเป็นคนลงคะแนนเลือกตั้งใช่หรือไม่ ดังนั้นพวกท่านเป็นคนเลือกตั้งเป็นคนลงประชามติ โดยต้องดูสาระข้างในว่ามันคืออะไร วันนี้หลายคนยังไม่ได้ดู ดูแต่เพียงว่าต้องเลือกตั้ง ซึ่งพอเพียงหรือไม่ จะทำอย่างไรเมื่อเลือกตั้งแล้วได้คนดีมาปกครองบ้านเมือง มีธรรมาภิบาล มีความหวังให้กับพวกเรา และมีกำหนดที่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในปีนี้ ปีหน้า 3 ปี หรือ 5 ปี หรือแผนการที่จะบอกได้ว่าอีก 20 ปี ข้างหน้าประเทศไทยจะมีอะไรบ้าง ไม่ว่าการคมนาคมหรือเรื่องน้ำหรือเรื่องเศรษฐกิจ,นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้คือการเริ่มต้นในช่วงที่หนึ่งของการปฏิรูปเท่านั้น รัฐบาลจะต้องปฏิรูปให้ได้ ใน 1 ปี 6 เดือน ถึงกรกฎาคมปี 60 แล้วทุกอย่างต้องเริ่มต้นได้หมด ก่อนที่จะส่งไปยังรัฐบาลหน้า จากนั้นจะส่งแผนปฏิรูปไปให้รัฐบาลต่อไป ซึ่งประชาชนทุกคนจะต้องเลือกมาให้ดีๆ ก็แล้วกัน แต่ถ้าทุกคนทุกพรรคยังพูดแบบเดิมๆ อยู่ คงไม่มีทางทำได้ ตนบอกเอาไว้ได้เลย แต่ถ้าพวกเขามาพูดหรือว่ามาต่อว่าอะไรถึงตน ขอให้ถามกลับเขาไปได้เลยว่า แล้วเขามีแนวคิดอย่างไรในการพัฒนาบ้านเมือง ทำการปฏิรูปประเทศ แล้วปัญหาจะถูกลากโยงมาอีกเท่าไหร่ แล้วในวันหน้าประเทศเราจะล้มละลายหรือไม่ เพราะเงินทองไม่ได้หาง่ายๆ ทุกวันนี้รายได้และภาษีก็ลดลงไปจำนวนหนึ่ง ทั้งๆ ที่รัฐบาลก็อยากจะให้จัดเก็บได้สูงขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ | นายกฯ ลั่นไม่ยกเลิกบัตรทอง 30 บาทแน่ ขอ ปชช.อย่าชุมนุมประท้วง หลงเชื่อใครบิดเบือน ยันรัฐบาลเดินหน้ารัฐสวัสดิการต่อ ย้ำอยู่ตามโรดแม็ป 1 ปี 6 เดือน หวังสร้างความเป็นธรรม แก้ข้อขัดแย้งทางการเมือง เพื่อ ปชช.กำหนดชะตาชีวิตตัวเอง | เลือกตั้ง | 30 บาท,นายกฯลงใต้,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ปัญหายางพารา,ภาษี,บัตรทอง,รัฐสวัสดิการ,โรดแม็ป,รัฐธรรมนูญ,เลือกตั้ง,เศรษฐกิจ,ปฏิรูป,ปรองดอง,ความขัดแย้ง,สุราษฎร์ธานี,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/555451 | [
0,
259,
196320,
26036,
259,
80267,
259,
97003,
48161,
11922,
89153,
143604,
90936,
81125,
3755,
11723,
259,
204042,
11103,
16053
] |
ลำดับเหตุการณ์กรณีเหมืองถ่านหิน อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ (2526-2548) | กฟผ.เริ่มเข้ามาสำรวจแหล่งถ่านหินเวียงแหงครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526 และสำรวจขั้นรายละเอียดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2530 ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2531 ให้กันพื้นที่แอ่งเวียงแหงให้กับกฟผ.เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ผลการศึกษาทางธรณีวิทยาพบว่า มีปริมาณถ่านหินสำรองประมาณ 139 ล้านตัน แต่เมื่อวิเคราะห์ความต้องการของตลาดในเวลานั้น (2530-2535) พบว่ายังไม่มีความจำเป็นในการพัฒนาแหล่งถ่านหินเวียงแหง เนื่องจากยังไม่คุ้มค่าการลงทุนจึงส่งคืนแหล่งเวียงแหง ตามประสงค์ของกรมทรัพยากรธรณีเพื่อนำไปเปิดประมูล (มติครม.วันที่ 10 มี.ค.2535) กฟผ.เสนอเรื่องขอทบทวนมติ ครม.10 มี.ค. 2535 มีการประชุมร่วมกัน ระหว่างสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) และกฟผ.เพื่อหาข้อสรุป ผลรัฐบาลมีมติให้กฟผ.เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาแหล่งถ่านหินเวียงแหง และดำเนินการในรูปของบริษัทร่วมทุน ทั้งนี้ให้กฟผ.ดำเนินการขอประทานบัตร ควบคู่ไปกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะต้องสอดคล้องตามโครงสร้างการแปรรูปกฟผ. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอความเห็นจากหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม สศช. และคณะกรรมการกำกับงานนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นชอบ ยกเว้น กระทรวงกลาโหมที่แจ้งว่าไม่สามารถโอนพื้นที่ในการดูแลให้ กฟผ. ได้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค) เชิญหน่วยงานจาก กฟผ. กระทรวงกลาโหม (กองบัญชาการสูงสุด) กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม มาหารือเพิ่มเติม จนกระทั่ง ในเดือนกันยายน 2543 กระทรวงกลาโหม (โดยกองบัญชาการทหารสูงสุด) อนุญาตให้กฟผ.ใช้พื้นที่ในความควบคุมดูแลเพื่อพัฒนาเหมืองเวียงแหงได้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) ได้อนุมัติให้กฟผ.เข้าไปใช้โดยไม่ต้องมีการประมูล โดยมีเงื่อนไขกำหนดให้ กฟผ.จัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ในการพัฒนาแหล่งถ่านหินเวียงแหง หากรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเรียบ ร้อยแล้ว จึงให้ กฟผ. นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง กฟผ.เริ่มการจัดทำรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โดยให้คณะวิศวกรรม ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินการ คณะผู้จัดทำรายงานผลกระทบฯ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ในพื้นที่ เพื่อเตรียมตัวจัดทำข้อเสนอโครงการฯ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์เวียงแหงและเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำปิงตอนบน เดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อขอให้ยกเลิกโครงการเหมืองถ่านหินเวียงแหง คณะผู้จัดทำรายงานผลกระทบฯ ลงพื้นที่ อ.เวียงแหงอีกครั้งเพื่อระดมความคิดเห็นชาวบ้านในการร่างกรอบการศึกษา ปรากฏว่า ชาวเวียงแหงกว่า 90 % ก็ได้แสดงเจตจำนงว่า ไม่เอาเหมืองลิกไนต์ ชาวบ้านเวียงแหงเข้ายื่นหนังสือถึงรองอธิการบดีมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ขอให้พิจารณายกเลิกการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมโครงการเหมืองถ่านหินเวียงแหง เนื่องจากเป็นการสนับสนุนให้ทำร้ายคนเวียงแหง ตัวแทนชาวบ้านอ.เวียงแหงที่คัดค้านโครงการฯ ร่วมชุมนุมกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแลโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินทั่วประเทศ ประท้วงเวทีประชุมถ่านหินโลก ที่ จ.ลำปาง โดยก่อนหน้านี้ 1 วัน มีรายงานข่าวการชุมนุมสนับสนุนเหมืองถ่านหินที่ อ.เวียงแหง | พ.ศ.2526-2535 กฟผ.เริ่มเข้ามาสำรวจแหล่งถ่านหินเวียงแหงครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526 และสำรวจขั้นรายละเอียดอีกครั้งในปี พ.ศ. | สิ่งแวดล้อม | https://prachatai.com/journal/2005/02/2615 | [
0,
259,
128181,
5405,
29669,
131129,
3945,
259,
222692,
5405,
21005,
63917,
260,
12066,
42576,
2361,
10062,
93991,
72810,
12005
] |
|
ชางงี แชมป์สนามบินดีสุดในโลก 4 ปีซ้อน-สุวรรณภูมิดีขึ้น 11 อันดับรั้งที่ 36 | สนามบินชางงี (ภาพ: AFP),สนามบินชางงีของสิงคโปร์ ได้รับการจัดอันดับโดย สกายแทร็กซ์ ให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิของไทย อยู่อันดับที่ 36 ของโลกและอันดับ 3 ในอาเซียน,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันที่ 17 มี.ค. สกายแทร็กซ์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการบินของสหราชอาณาจักร ซึ่งคอยจัดอันดับสนามบินและสายการบินต่างๆ เผยแพร่ผลการจัดอันดับ สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2016 ที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี โดยสนามบินที่ดีที่สุดในการจัดอันดับครั้งนี้ยังคงเป็นของ ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี ซึ่งครองแชมป์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้ว,การจัดอันดับสนามบินของ สกายแทร็กซ์ ใช้การสำรวจความคิดเห็นและผลโหวตจากผู้ใช้บริการสายการบินต่างๆ ทั่วโลก จำนวนหลายล้านคนตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยผู้โดยสารจำนวนมากรู้สึกพึงพอใจกับนวัตกรรมของสนามบินชางงี ทั้งโรงภาพยนตร์ 24 ชั่วโมง 2 โรงที่ฉายหนังบล็อกบัสเตอร์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย, สระว่ายน้ำบนดาดฟ้า และสวนผีเสื้อ,หลังจากได้รับการโหวตเป็นสนามบินที่ดีที่สุด นายลี เซียว เฮียง ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของสนามบินชางงี ก็ออกแถลงการณ์ระบุว่า การได้รับเลือกเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกโดยสกายแทร็กเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน เป็นการบรรลุผลสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับสนามบินชางงี และเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า เรายังคงทำถูกต้องในการไล่ตามเป้าหมายการให้บริการที่ยอดเยี่ยมของเรา,ทั้งนี้ 10 อันดับแรกประจำปี 2016 เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนไม่มากนัก โดยท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ของเกาหลีใต้ยังคงรั้งอันดับที่ 2 ตามด้วยสนามบินมิวนิก ของเยอรมนี แต่ที่พัฒนาอย่างมากคือ ท่าอากาศยานนานาชาติ ฮาหมัด ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ขยับจากอันดับที่ 22 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 และนี่ถือเป็นอีกปีแล้วที่สนามบินในทวีปอเมริกาเหนือไม่ติด 10 อันดับแรกเลยแม้แต่แห่งเดียว,ขณะที่สนามบินในภูมิภาคอาเซียนของเรา นอกจาก สนามบินชางงี ที่ได้อับดับ 1 ไปแล้ว ยังมีอีกหลายแห่งที่ติดท็อป 100 รวมทั้ง ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ในมาเลเซีย รั้งอันดับที่ 24 ตกจากปีก่อนที่ได้อันดับ 19 ตามด้วยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทย ที่อันดับ 36 ดีขึ้นจากปีก่อนที่ได้อันดับ 47, ท่าอากาศยานนานาชาติ ซูการ์ โนฮัตตา ในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย อยู่ที่อันดับ 63 ตกจากอันดับ 57 ในปีก่อน และท่าอากาศยานนานาชาติ โหน่ยบ่าย ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม อยู่ที่ 82 กระโดดขึ้นจากอันดับ 218 ในปีก่อน,รายชื่อ 10 อันดับแรก สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2016 ของสกายแทร็กซ์,1. ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี ประเทศสิงคโปร์,2. ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้,3. ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมนี,4. ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว หรือ ฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น,5. ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง,6. ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ จังหวัดนาโงยะ ประเทศญี่ปุ่น,7. ท่าอากาศยานซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์,8. ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ ในสหราชอาณาจักร,9. ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ จังหวัดโอซากา ประเทศญี่ปุ่น,10. ท่าอากาศยานนานาชาติ ฮาหมัด ประเทศกาตาร์ | สนามบินชางงีของสิงคโปร์ ได้รับการจัดอันดับโดย สกายแทร็กซ์ ให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิของไทย อยู่อันดับที่ 36 ของโลกและอันดับ 3 ในอาเซียน | สกายแทร็กซ์,จัดอันดับ,สนามบินที่ดีที่สุดในโลก 2016,ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี,สนามบินชางงี,สิงคโปร์,สนามบิน,ผู้โดยสาร,ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,สนามบินสุวรรณภูมิ,อาเซียน,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/592479 | [
0,
259,
172224,
57741,
208007,
95320,
259,
38058,
28456,
3682,
172224,
178781,
34989,
3682,
164715,
419,
161145,
7428,
1,
0
] |
|
ครม.ไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.มาตรการทดแทนการฟ้องคดีอาญา ให้โอกาสทำความผิดโดยประมาทกลับตัว | เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ณ บริเวณหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรการทดแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวถือเป็นกฎหมายที่ให้คุณแก่ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อประมาณ 40 ปี รัฐบาลสมัยศาสตราจารย์ (พิเศษ) ธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี มีความพยายามนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ไม่ได้รับการพิจารณา กฎหมายดังกล่าวถือเป็นกฎหมายชะลอการลงโทษ โดยจะให้โอกาสผู้กระทำความผิดได้ไกล่เกลี่ยในชั้นสอบสวนของตำรวจ แล้วส่งสำนวนให้อัยการพิจารณา เมื่อได้ข้อสรุปว่าผู้กระทำความผิดสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และกลับตัวกลับใจได้ก็ไม่ต้องส่งฟ้อง และให้รอดูความพฤติกรรมแทนการรอลงอาญาซึ่งเป็นการลงโทษ แต่ร่างพระบัญญัติดังกล่าวเป็นการชะลอการฟ้องยังไม่มีโทษ ทั้งนี้ ความผิดที่กระทำต้องไม่เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ และต้องเป็นความผิดที่กระทำโดยประมาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และไม่ว่าคดีอะไรก็สามารถชะลอการฟ้องได้สำหรับ สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ มีดังนี้1. กำหนดบทนิยามคำว่า การไกล่เกลี่ยคดีอาญา คู่กรณี ผู้ไกล่เกลี่ย และ การชะลอการฟ้อง2. กำหนดให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอัยการสูงสุดรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของตน3. กำหนดมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา ได้แก่ การไกล่เกลี่ยคดีอาญาและการชะลอการฟ้อง โดยไม่ให้ใช้บังคับกับคดีที่อยู่ในอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัว แต่คดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารและมีเหตุที่อาจใช้มาตรการแทนการฟ้องคดีอาญาได้ ให้ใช้บังคับได้โดยอนุโลม ส่วนในคดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวง เมื่อมีคำสั่งให้ใช้มาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา มิให้นำบทบัญญัติในเรื่องการฟ้องและการผัดฟ้องมาใช้บังคับและเมื่อได้มีคำสั่งให้ใช้มาตรการแทนการฟ้องคดีอาญาแล้ว ให้ถือเป็นเหตุอายุความสะดุดหยุดอยู่ตลอดจนห้ามมิให้รับฟังพยานหลักฐาน คำรับสารภาพ หรือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการใช้มาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี4. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการไกล่เกลี่ย เช่น กำหนดคดีความผิดที่สามารถไกล่เกลี่ยได้ กำหนดพฤติการณ์ของการกระทำที่ได้รับการไกล่เกลี่ย กำหนดการไกล่เกลี่ยคดีกรณีที่มีผู้เสียหายหลายคน รวมทั้งกำหนดอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย5. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นผู้ไกล่เกลี่ย และกำหนดให้การยื่นคำขอ การรับขึ้นทะเบียน และการตรวจคุณสมบัติการถอนชื่อ ให้กำหนดในกฎกระทรวง6. กำหนดกระบวนการไกล่เกลี่ยคดีอาญา เช่น กำหนดระยะเวลานัดไกล่เกลี่ยระยะเวลาไกล่เกลี่ยคดีอาญาให้แล้วเสร็จ การจัดหาล่าม กำหนดให้ผู้ไกล่เกลี่ยยุติการไกล่เกลี่ยเมื่อมีเหตุตามที่กำหนด7. กำหนดเกี่ยวกับผลของการไกล่เกลี่ยคดีอาญา เช่น ผู้เสียหายจะฟ้องคดีมิได้จนกว่าพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการจะมีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไป การไกล่เกลี่ยไม่ตัดอำนาจพนักงานสอบสวนที่จะทำการสอบสวนต่อไป8. กำหนดกลักเกณฑ์เกี่ยวกับการชะลอการฟ้อง เช่น กำหนดมูลเหตุที่พนักงานอัยการอาจพิจารณามีคำสั่งให้ชะลอการฟ้องได้ และในการพิจารณามีคำสั่งให้ชะลอการฟ้อง พนักงานอัยการอาจดำเนินการตามที่กำหนดได้9. และกำหนดเกี่ยวกับผลของคำสั่งชะลอการฟ้อง เช่น ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาในกรณีที่ถูกคุมขังอยู่ ผู้เสียหายจะฟ้องคดีมิได้จนกว่าพนักงานอัยการจะมีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไป กำหนดมูลเหตุที่พนักงานอัยการจะพิจารณาสั่งให้ดำเนินคดีอาญาต่อไป | เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ณ บริเวณหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า | การเมือง | กระทำความผิดโดยประมาท,การกลับตัวกลับใจ,มติ ครม.,ร่าง พ.ร.บ.มาตรการทดแทนการฟ้องคดีอาญา,ไกล่เกลี่ย | https://prachatai.com/journal/2016/03/64379 | [
0,
259,
138562,
150741,
6581,
141944,
39932,
122572,
39322,
71810,
95201,
4188,
75416,
17858,
202889,
221294,
2752,
110957,
15918,
48556
] |
กวีประชาไท: ศพ เลือด เสียง 6 ตุลา | ศพนั้น เลือดนอง กองปราสาทศพนั้น เลือดสาด ไหลนองหน้าศพนั้น ผูกคอ ลากไปมากองทับ เรียงหน้า แล้วเผาไฟอีกศพ โดนยิง ไม่รู้นามอีกศพ กลางสนาม กระอักใส่อีกเลือด รดลานโพธิ์ โอฬารใบอีกเสียง ร้องโหยไห้ ห้วงอารมณ์อีกสาวสด ปลดเสื้อ เหลือแต่สาวอีกคนคลั่ง โลกีย์คาว ในความขมอีกกี่หวีด กรีดร้อง ร่ำระงมและอีกกี่ อาจม อุดมการณ์นั่นก็ตาย นี่ ก็ตาย หลายร้อยศพนั่นก็ตบ นี่ก็ฆ่า ล่าสังหารนั่นเสียง ไชโย โห่กังวาลนั่นเสียงหัวเราะ สนุกสนาน การฆ่าคนเพราะเป็นคน คิดต่าง จึงต้องฆ่าไม่ต้อง ตามหา ถึงเหตุผลไม่ต้องเห็น คุณค่า ว่าเป็นคนไม่ต้องสนประชาธิปไตยใครทั้งนั้น6 ตุลา ผ่านผัน เป็นวันนี้หลอกหลอน ทุกราตรี ในความฝันทุกวันคืนยืดยาวราวกัปกัลป์6ตุลา ยังฝัน เป็นวันนี้6 ตุลา ผ่านผัน เป็นวันนี้หลอกหลอน ทุกราตรี ในความฝันเราเรียนรู้ เรื่องราว อะไรกันเมื่อคนจ้องจะฆ่ากันในวันนี้ | ศพนั้น เลือดนอง กองปราสาทศพนั้น เลือดสาด ไหลนองหน้าศพนั้น ผูกคอ ลากไปมากองทับ เรียงหน้า แล้วเผาไฟ อีกศพ โดนยิง ไม่รู้นามอีกศพ กลางสนาม กระอักใส่อีกเลือด รดลานโพธิ์ โอฬารใบอีกเสียง ร้องโหยไห้ | การเมือง,วัฒนธรรม | 6 ตุลาคม 2519,กวีประชาไท,เหน่อ หนองกระโดน | https://prachatai.com/journal/2015/10/61783 | [
0,
259,
36247,
11984,
259,
135174,
131129,
6200,
66146,
18604,
21779,
259,
221082,
5095,
135834,
15789,
11821,
142276,
133409,
259
] |
ร.ร.เอกชนหนุนแก้ไขสเปกครุภัณฑ์ | ชี้คุณลักษณะที่กำหนดส่วนใหญ่ล้าสมัย อดินันท์ แจงไม่มีใครทำผิด,เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนเอกชน หรือสมาร์ทคลาสรูม ให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการกช.ครั้งที่ผ่านมาได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาหารือ และเห็นว่าการกำหนดคุณลักษณะครุภัณฑ์ดังกล่าวควรทบทวนให้เกิดความเหมาะสม ประเด็นใดที่เป็นข้อบังคับที่เข้มงวดเกินไป สามารถผ่อนคลายได้หรือไม่ แต่ต้องเป็นไปตามขอบข่ายที่ระเบียบและข้อกฎหมายกำหนด ส่วนการนำเงินอุดหนุนมาใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ในโครงการนี้ถือว่าเป็นเงินที่ไม่ได้อยู่ในระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเรื่องพัสดุ พ.ศ.2535 ดังนั้น สช.จึงโอนเงินไปให้โรงเรียนดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ แต่ สช.จะมีคณะกรรมการลงไปตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส,แม้จะมีโรงเรียนดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ในโครงการดังกล่าวไปแล้วบางส่วน แต่ไม่ได้ถือว่ามีการกระทำความผิด เพราะคุณลักษณะครุภัณฑ์ที่กำหนดไปก่อนหน้านั้นไม่มีข้อบกพร่อง เพียงแต่มีเสียงทักท้วงต้องการให้ผ่อนคลายในบางเรื่องเท่านั้น โรงเรียนไหนซื้อแล้วก็แล้วไป ส่วน โรงเรียนจะพูดคุยกับบริษัทที่ได้รับการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อขอสินค้าตามคุณลักษณะใหม่ที่ สช.กำลังทบทวนอยู่ได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ทางโรงเรียนจะต้องไปเจรจากับบริษัทคู่สัญญาเอง ยืนยันว่าเวลานี้ยังไม่มีการทุจริต เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินให้กับบริษัทใด เลขาธิการ กช. กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีบริษัทเอกชนรายหนึ่งพยายามล็อบบี้โรงเรียนให้จัดซื้อสินค้าของตัวเอง หากไม่จัดซื้อจะมีปัญหาเรื่องเงินอุดหนุนจาก สช.นั้น ตนไม่ทราบและไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ถ้ามีจริงขอให้โรงเรียนแจ้งข้อมูลมาที่ตนได้โดยตรง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปยังผู้บริหารโรงเรียนเอกชนที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนให้จัดซื้อครุภัณฑ์ในโครงการดังกล่าว พบว่าส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้มีการทบทวน ปรับปรุง แก้ไขคุณลักษณะของครุภัณฑ์สมาร์ทคลาสรูม เนื่องจากเห็นว่ามีสเปกที่ล้าสมัย และมีเพียงไม่กี่ยี่ห้อที่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ที่สำคัญยี่ห้อที่เป็นความต้องการของตลาดส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ เพราะมีสเปกไม่ตรงกับคุณลักษณะที่กำหนด. | เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์และอุปกรณ์เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา | ทีมข่าวการศึกษา,อดินันท์ ปากบารา,โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์,โรงเรียนเอกชน,สมาร์ทคลาสรูม,ความคืบหน้า,จัดซื้อจัดจ้าง,ข่าว,ข่าวการศึกษา,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/517722 | [
0,
259,
93289,
236041,
3755,
26871,
12682,
260,
259,
80267,
84431,
5490,
57345,
6494,
109370,
37801,
25534,
4215,
108604,
152563
] |
|
รถไฟไทยดีใจสายสีแดงใกล้ถึงฝั่ง เล็งต่อขยายศาลายา-ธรรมศาสตร์ | นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สินรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยหลังตรวจความคืบหน้าในโครงก่อสร้างระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ว่าความคืบหน้าในโครงการภาพรวมอยู่ที่ 98.49% โดยแบ่งเป็นในสัญญาที่ 1 งานโยธา สำหรับสถานีกลางบางซื่อทางยกระดับศูนย์ซ่อมคืบหน้า 77.37% ส่วนสัญญาที่ 2 งานโยธา สำหรับทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-รังสิตคืบหน้ากว่า 99.44% ส่วนสัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล สำหรับรถไฟช่วงบางซื่อ-รังสิต คืบหน้า 38.24% ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะก่อสร้าง แล้วเสร็จและเปิดให้บริการพร้อมช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ในเดือน ม.ค.64,สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต จะรองรับผู้โดยสารได้ 300,000 คน/วัน รวมทั้งรองรับการเดินทางระบบรางทุกประเภท ทั้งรถไฟชานเมือง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ และรถไฟความเร็วสูง และยังเชื่อมโยงกับระบบขนส่งทางรางอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู รถไฟฟ้าสายสีเขียว รถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการเดินทางด้วยระบบรางของไทย และกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,นอกจากนี้ รถไฟอยู่ระหว่างผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย วงเงินลงทุน 68,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการสายสีแดงส่วนต่อขยาย 2 โครงการ มูลค่า 24,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนส่วนต่อขยาย ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช และ ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 17,500 ล้านบาท และ 2.ส่วนต่อขยายสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วงเงิน 6,500 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้เดือน ม.ค.62,นอกจากนี้ รถไฟเตรียมเสนอรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (Missing Link) สีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง วงเงิน 44,000 ล้านบาท ให้บอร์ดรถไฟพิจารณา 20 ธ.ค.นี้ นอกจากนั้นรถไฟตั้งเป้าจะส่งแผนอัปเกรดบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ เป็นผู้บริหารเดินรถรถไฟฟ้าสายสีแดง ให้คมนาคมพิจารณาภายในเดือนนี้และจะเสนอให้ ครม.ต่อไป. | ความคืบหน้าในโครงการภาพรวมอยู่ที่ 98.49% โดยแบ่งเป็นในสัญญาที่ 1 งานโยธา สำหรับสถานีกลางบางซื่อทางยกระดับศูนย์ซ่อม | ข่าว,เศรษฐกิจ | รถไฟชานเมือง,รถไฟชานเมืองสายสีแดง,บางซื่อ-รังสิต,ศูนย์ซ่อม,รถไฟฟ้าชานเมือง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1427365 | [
0,
259,
162883,
35814,
141232,
259,
51122,
31879,
31431,
130617,
264,
126560,
206002,
49883,
108295,
17858,
218606,
2752,
259,
168374
] |
บิ๊กแดง ฮึ่ม-อย่าล้ำเส้น จวกกลับนักการเมือง | ปมทัศนคติกลุ่มอยากเลือกตั้ง พลังประชารัฐย้อนเกล็ดสุดารัตน์ ฉะซีทีเอ็กซ์ใส่ร้าย ทักษิณ,บิ๊กแดง คำรามนักการเมืองอย่าล้ำเส้น ปัดคุกคาม ส่งทหาร-ตร.ไปติดตามส่องทุกพรรค กรุณาให้เกียรติ กันด้วย โต้อคติกับกลุ่มอยากเลือกตั้งแต่อ่านเกมออก คสช.กัดติด ทักษิณ จัดรายการเขย่าโซเชียล บิ๊กตู่ สะบัดหน้าเชิดใส่ ว้ากพวกต่อต้านขีดเส้นตายรัฐบาลได้หรือ บิ๊กป้อม หยันอดีตนายกฯ อยู่ต่างแดนจะแก้อะไรได้ ย้ำได้กาบัตรแน่ภายใน 150 วัน วิษณุ ขำคำร้องฟันนายกฯเจ้าของสื่อ ยันไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เรืองไกร ตอกไม่ตลกอย่ารีบออกตัวอุ้ม เด็ก ปชป.งงชาวบ้านอยากรู้ได้เข้าคูหาเมื่อไหร่ ผบ.ทบ.หงุดหงิดทำไม อภิสิทธิ์ เตือนรัฐบาลอย่าสร้างเงื่อนไขขัดแย้ง พท.ซัดยืดหย่อนบัตรทำประเทศสั่นคลอน ขาดความเชื่อมั่น บี้ประกาศชัดวันกาบัตร สุริยะ คุยพลิกประวัติศาสตร์กวาด ส.ส.อีสานทะลุเป้า อนุชา ย้อน เจ๊หน่อย ด่านายตัวเอง ผู้ต้องหาร่วมคดีซีทีเอ็กซ์,จากกรณีแกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาฟ้องสังคมว่าถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงคุกคามตามประกบขณะลงพื้นที่หาเสียง และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)ระบุ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช.มีอคติคับแคบที่ระบุกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายตามใบสั่ง ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ออกมาปรามฝ่ายการเมืองอย่าล้ำเส้น,บิ๊กแดง ฮึ่มให้เกียรติทหาร-ตร.ด้วย,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ม.ค.ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดูแลความเรียบร้อยช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า เราติดตามความเคลื่อนไหว หรือไปดูการหาเสียงของทุกพรรคอยู่แล้ว ไม่ได้เว้นพรรคใด ทหาร ตำรวจ ที่ไปติดตาม ไม่ได้มีเจตนาจะไปจับผิดฝ่ายการเมือง กลับกันฝ่ายการเมืองมีคู่แข่ง มีคนได้และเสียประโยชน์ หากเกิดเหตุความวุ่นวาย ฝ่ายทหารต้องตกเป็นเป้าอยู่ดีและจะมาโยนความผิดให้ บางครั้งฝ่ายทหารอยู่เฉยๆมีคนมาใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายรัฐบาล ทหารและตำรวจอยู่เสมอ ขอให้สบายใจได้ว่าที่มีทั้งทหารและตำรวจไปเป็นความปรารถนาดี ได้เน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่ต้องให้เกียรติผู้ดำเนินการกิจกรรมทางการเมือง กลับกันฝ่ายการเมืองกรุณาให้เกียรติเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ไม่ใช่ไปดูหมิ่นดูแคลนซักไซ้ไล่เลียงเจ้าหน้าที่ที่มาติดตาม และอำนวยความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่จำเป็น จะต้องไปแนะนำตัวกับฝ่ายการเมือง,โต้ไม่เคยมีทัศนคติที่ไม่ดี,เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผบ.ทบ.มีทัศนคติไม่ดีต่อกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนไม่เคยบอกว่ามีทัศนคติที่ไม่ดี แต่มีทัศนคติดี ตนมีประสบการณ์อยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมมาหลายปี พอจะอ่านเกมออก เขาอยากจะพูดอะไรถือเป็นสิทธิ์ คงไม่ไปโต้ตอบและจะทำหน้าที่รักษาความมั่นคงอย่างตรงไปตรงมา พร้อมปฏิบัติธรรมตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา หากทุกคนไม่ล้ำเส้นอยู่ในกรอบในระบอบประชาธิปไตยไม่ว่ากัน เมื่อถามอีกว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะยกระดับการชุมนุมวันที่ 19 ม.ค. พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า คงไม่เป็นห่วง ถือเป็นสิทธิเสรีที่จะทำ แต่เสรีภาพการใช้ประชาธิปไตยควรอยู่ในกรอบ เป็นห่วงผู้ประกอบการในพื้นที่รอบข้าง ภาพการท่องเที่ยว ต่างชาติจะเข้าใจอย่างไร เหตุการณ์ความรุนแรงเคยเกิดแถวสถานที่บริเวณนั้นอยู่แล้ว สัญลักษณ์ของคนที่ไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองคล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เราไม่อาจไปห้ามอะไรได้ ขอให้เห็นใจประชาชนสุจริตที่ประกอบอาชีพอยู่แถวนั้น ห้างร้านต่างๆหวาดระแวง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายความมั่นคงต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุและต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ขอให้อดทนจากการยั่วยุทุกประเภทที่จะเกิดขึ้น,คำรามนักการเมืองอย่ามาล้ำเส้น,พล.อ.อภิรัชต์กล่าวต่อว่า เหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่มีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายรัฐ รัฐบาลพยายามทำหน้าที่ของรัฐบาล นายกฯก็ทำหน้าที่ของท่านได้ดีที่สุด รวมถึง ครม. กกต.แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศมีเหตุผลและคงทราบดีว่าเหตุผลอะไร เมื่อถามว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกหรือไม่ พล.อ. อภิรัชต์กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ แต่การดำเนินการใดๆ ขอให้อยู่ในกรอบ เมื่อท่านมาขีดเส้นไว้ว่าคนนั้นต้องทำอย่างนั้น ต้องขีดเส้นตัวเองด้วย ไม่ใช่มาขีด เส้นให้คนโน้นคนนี้เดินอย่างเดียว เอาเส้นขาวหรือเส้นอะไรมาวางให้เขาเดิน ท่านต้องขีดเส้นที่ตัวท่าน อย่ามาล้ำเส้นกัน ฝ่ายการเมืองก็เดินไป ฝ่ายความมั่นคงทำงานไป จะเป็นระบบสอดคล้องกัน ผมพูดไปรับรองไม่เกินอีกครึ่งชั่วโมงจะมี feedback กลับมา แต่พูดในฐานะที่มีบทบาทดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย จากประสบการณ์ตั้งแต่ปี 47 ประชาชนคงไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นอีก พล.อ.อภิรัชต์กล่าวและว่า แม้ว่าขณะนี้เป็นรัฐบาล คสช.ไม่ได้ดำเนินการมาตรการอะไรทั้งที่มีกฎหมาย อำนาจของ คสช. ปล่อยให้แสดงความเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและเห็นใจรัฐบาล,ห้ามไม่ได้ศึกโซเชียลอดีตนายกฯ,เมื่อถามถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจัดรายการ Good monday ทุกวันจันทร์ จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เขาก็ทำอยู่เรื่อยๆตาม Social Media นายทักษิณจะจัดรายการในห้วงที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังอยู่ในช่วงวุ่นวายอยู่ จะไปห้ามใครได้ เมื่อถามว่า คสช.ต้องติดตามหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่าคิดว่าคงมีคนติดตามข่าวสาร,นายกฯตู่ ถก ครม.สัญจรลำปาง,ขณะที่เมื่อเวลา 08.30น. ที่ห้องประชุมอินทนนท์ ชั้น 5 อาคารบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง อ.เมืองลำปาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน) และเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 1/2562 นายกฯกล่าวขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวเชียงใหม่และลำปาง โดยนายกฯได้ถ่ายภาพรวมกับนักศึกษาที่ร้องเพลง สู้เพื่อแผ่นดิน ต้อนรับ มีตัวแทนนักเรียนโรงเรียนละออ-อุทิศ มอบดอกกุหลาบสีขาวให้ตัวแทนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางมอบภาพวาดนายกฯเป็นที่ระลึก พร้อมสมุดภาพและข้อความในใจ นายกฯเยี่ยมชมการทำขนมของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ส่วนโรงเรียนอัสสัมชัญลำปางนำหุ่นยนต์เก็บผลไม้และแยกผลไม้ สุก ดิบ เน่า มาแสดง นายกฯขอให้ ด.ญ.วริณรำไพ รัศมีเทวินทร์ นักเรียนอนุบาล 3 โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง แนะนำคุณสมบัติหุ่นยนต์เป็นภาษาอังกฤษอย่างฉะฉาน จนนายกฯชอบใจชมว่าเก่ง กล้าพูด พร้อมหอมหน้าผากไปฟอดใหญ่,สะบัดหน้าหนีสื่อถาม ทักษิณ จ้อ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกฯถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศนัดแนะประชาชนเจอทุกวันจันทร์ในรายการ Good Monday รับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก ทันทีที่ผู้สื่อข่าวถามพล.อ.ประยุทธ์ถึงกับสะบัดหน้าเดินหนีออกวงสัมภาษณ์ทันที โดยไม่ได้ตอบคำถาม พร้อมแสดงท่าทีหงุดหงิดพูดขึ้นมาอย่างเสียงดังว่า เฮ้ย ไม่พูด ขี้เกียจฟัง ไม่พูดด้วยแล้ว,โต้คนอยาก ลต.ขีดเส้นตาย รบ.ได้หรือ,ต่อมาเวลา 13.40 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนัดชุมนุมเคลื่อนไหวขีดเส้นตายวันที่ 19 ม.ค.ให้รัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าบอกมาโดยตลอดแล้วว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด ที่ระบุว่ามีการกำหนดเส้นตายเงื่อนไขวันที่ 19 ม.ค. อยากถามว่าขีดเส้นตายให้รัฐบาลได้หรือ ไม่เข้าใจ ทั้งหมดอยู่ในกำหนดการเดิม การเลือกตั้งภายใน 150 วัน คือวันที่ 9 พ.ค. แต่เราให้มีการจัดการเลือกตั้งก่อน ไม่ได้ต้องการจะไปพูดอะไร เพราะเป็นหน้าที่การกำกับดูแลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะกำหนดวันมาโดยรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ และดำเนินการเรื่องอื่นๆต่อไปได้ เพียงแต่ต้องให้เวลาเตรียมการก่อน ในระหว่างพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและกิจกรรมที่ประชาชนทั้งประเทศ จะจัดถวายในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะนี่คือสถาบันหลักของประเทศ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน,ตัดสินเอง ครม.สัญจรถึงเมื่อไหร่,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงพรรคการเมืองเรียกร้องให้ยุติการประชุม ครม.สัญจรซึ่งเป็นการหาเสียงว่า เห็นพูดอยู่อย่างนี้ว่าเป็นการหาเสียง พูดไปเรื่อย อธิบายไปหลายครั้งแล้วมารับฟังความคิดเห็น รับเรื่องร้องเรียนและขับเคลื่อนงาน มาประชุมแต่ละครั้งไม่ใช่มา 2 วันแล้วจบ หากไม่พบปะประชาชนจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ตอนที่มีรัฐบาลเลือกตั้งเขาก็ทำ ถามผู้ว่าฯเกณฑ์ใครมาหรือเปล่า ทุกคนมาด้วยความเต็มใจ ถ้าไม่เต็มใจคงไม่มีใครมาพูดดีกับตนหรอก ไม่ได้ไปจ้างวานใครเขามา สิ่งต่างๆเหล่านี้จะพิจารณาเองว่า จะทำอะไรเมื่อไรอย่างไร ตราบใดที่ยังทำตามกฎหมายอยู่ได้ตนก็ทำอะไรที่ทำได้อะไรเหมาะสม ทำได้ถึงเมื่อไหร่อย่างไรจะพิจารณาเอง,โยนถาม เจ๊หน่อย ทำเป๋าตุงได้หรือไม่,เมื่อถามว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ใช้วาทกรรม อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงตู่กระเป๋าแฟบเดินสายพบประชาชน นายกฯกล่าวว่า ก็ให้ไปถามคุณหญิงสุดารัตน์กันเองแล้วกันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทำได้หรือไม่ได้ไม่รู้เหมือนกัน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าจะให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กระเซ้ากลุ่มผู้สื่อข่าวที่ประจำทำเนียบรัฐบาลว่า เหมือนไม่ได้เจอหน้ากันมานาน แต่ความจริงเจอกันทุกวัน ทุกอาทิตย์ ทุกสัปดาห์ ตามกันมาตลอด เป็นเพราะรักกัน จึงตามมาใช่หรือไม่ มาเพราะเป็นห่วงนายกฯใช่ไหม,ลุงตู่ อารมณ์ดีเต้น ริมโบร็อก,ต่อมาเวลา 14.30 น. ภายหลังการประชุม ครม.สัญจร พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะ เดินทางไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนเยี่ยมชมของโรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง หนึ่งในโครงการ 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ พร้อมพบปะผู้บริหารสำนักงานเขตในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กว่า 300 คน โดยนายกฯกล่าวว่า มาเพื่อให้รู้ว่าเราจริงใจแก้ปัญหา อย่ามองว่าตนเป็นศัตรู ไม่ได้เป็นศัตรูกับใครเลยแม้แต่คนเดียวในประเทศไทย หรือแม้แต่นอกประเทศก็ตาม จะเรียกร้องอะไรเรียกไป จะไม่กล่าวถึงใครทั้งสิ้น วันนี้โซเชียลมีเดียมันเร็ว ทำถูกร้อยคนทำผิดแค่คนเดียวก็โดน รัฐบาลก็โดน ฉะนั้นต้องแยกแยะ การเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ เป็นสิ่งที่อาจไม่เหมาะกับตน แต่เป็นความจำเป็น ขออย่ามองว่าเข้ามาวันนี้เพื่อมีอำนาจ ถ้าอำนาจมาแล้วมีผลประโยชน์ แล้วมีความสุข ทุกคนก็อยากมา แต่ตนไม่มีความสุข ไม่มีความสุขจริงๆ ไม่ได้บ่น เพราะเห็นความหวังของชาวบ้าน,จากนั้นนายกฯ กดปุ่มเปิดโครงการ เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานนักเรียน อาทิ สิ่งประดิษฐ์เครื่องตรวจวัดอากาศ เมื่อมาถึงห้องเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นายกฯร่วมเต้นริมโบร็อก (Limborock) กับเด็กๆอย่างสนุกสนาน เป็นการเต้นลอดไม้ฝึกกล้ามเนื้อร่างกายให้สมดุล ขณะที่เด็กๆต่างดีใจเข้าสวมกอดถ่ายภาพกับนายกฯ,นั่งรถม้าคึกคัก บอกอย่ากลัวไม่ใจร้าย,ต่อมาเวลา 16.50 น. นายกฯและคณะเดินทางไปยังวัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยนายกฯได้นั่งรถม้าชื่อ เจมส์บอนด์ หมายเลข 12 เข้าวัดบางช่วงลุกขึ้นยืนโบกมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยูทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ พร้อมกล่าวติดตลกว่า ผมมารถม้าชื่อเจมส์บอนด์ ส่วนผมเป็น 007 เมื่อเข้าอุโบสถนายกฯถวายเครื่องสักการะพระครูพิธานนพกิจ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุลำปางหลวง โดยพระครูพิธานนพกิจ มอบพระเจ้าแก้วมรกต หน้าตัก 5 นิ้ว ให้นายกฯพร้อมให้พรขอทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติสำเร็จ จากนั้นผู้สูงอายุผูกข้อมือสู่ขวัญให้นายกฯและคณะ ก่อนไปสักการะองค์พระธาตุลำปางหลวงและซุ้มพระพุทธบาท แล้วออกมาพบประชาชน มีหญิงชราอายุ 76 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นั่งรถเข็นนำพระไพรีพินาศกับพระอุปคุตมามอบให้ ทั้งนี้ นายกฯกล่าวกับประชาชนว่า อย่าเชื่อคิดว่าจะได้อะไรเร็ว จะพังทั้งประเทศ อย่ากลัวนายกฯเพราะไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ใช่คนขี้โมโห แต่บางทีคนยั่วโมโห ไม่เช่นนั้นถ้านายกฯเงียบไม่มีรสชาติ จากนั้นนายกฯไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสร็จแล้วเดินทางกลับ กทม.,บิ๊กป้อม ซัด ทักษิณ อยู่ ตปท.แก้อะไรได้,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจัดรายการ Good Monday สื่อสารจากต่างประเทศมายังประชาชนในประเทศไทยว่า แล้วควรจะฟังเขาหรือไม่ เขาอยู่นอกประเทศจะไปทำอะไร จะมีคนฟังหรือไม่จะไปรู้หรือ พวกคุณต้องไปถามคนฟัง เมื่อถามว่า นายทักษิณพยายามจะชี้แนะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จะนำมาพิจารณาปรับใช้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วอยู่ต่างประเทศจะไปแก้อะไรล่ะ เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลนี้ได้แก้ปัญหานี้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้นายทักษิณมาเสนอแนะใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คนตั้ง 70 ล้านคน เขาพร้อมจะทำงานด้วย ทำให้กับประชาชนด้วยกัน ไม่ใช่ของใครคนเดียวที่หนีคดีไปอย่างนี้หรอก,ย้ำยังไงก็ได้เลือกตั้งแน่ใน 150 วัน,พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีกลุ่มอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหวในพื้นที่ กทม. มีเคลื่อนไหวอยู่แค่ 100-200 คน แล้วจะทำอย่างไรได้ เพราะต่างคนต่างความคิดคนที่ต้องการให้เลือกตั้งหลังพระราชพิธีก็มี เขาก็ออกมาเหมือนกันมีทั้งสองฝั่ง เมื่อถามว่า มองว่าปิดปากประชาธิปไตย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ปิดปากอะไร อย่างไรก็ต้องเลือกตั้งแน่ภายใน 150 วัน เพราะ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้แล้ว จะมาเอาอะไรอีกล่ะ,เมื่อถามว่า เกรงว่าถ้าเลื่อนเลือกตั้งไปจะกระทบความเชื่อมั่นประเทศ พล.อ.ประวิตรตอบว่า อ้าว ก็มีพระราชพิธี แล้วจะเอาอย่างไรอีก ต้องดูว่าทับซ้อนกันหรือเปล่า ถ้าทับซ้อนอาจต้องเลื่อนกันนิดหน่อยก็ได้ ส่วนจะเลื่อนไป 1-2 วันหรือกี่วันยังไม่รู้ แล้วแต่ กกต.ต้องนำเรื่องพระราชพิธีไปเทียบกันแล้วกำหนด เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงจะปล่อยให้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหววันที่ 19 ม.ค. ตามที่ประกาศไว้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วแต่เขา แต่ต้องขออนุญาตและอยู่ในกฎเกณฑ์ตามกฎหมาย เมื่อถามอีกว่ากลัวว่าจะกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี จะกระทบกระทั่งได้อย่างไร ตำรวจเขาเรียบร้อยจะตายไป ไม่มีหรอก,ฟุ้ง เขมร แคร์ไทยยกเลิกพาสปอร์ต ปู,นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลกัมพูชา ยกเลิกหนังสือ เดินทางให้ชาวต่างชาติบางคนที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่า การที่กัมพูชายกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าว ไม่ใช่เพราะไทยจี้ขอให้ยกเลิกไปช่วงนี้ แต่ได้พูดคุยเรื่องนี้กันมาก่อนหน้านี้ 6-7 เดือนแล้ว กัมพูชารู้เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เหตุผลที่ยกเลิกคงเป็นเพราะการถือพาสปอร์ตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง เกินกว่าที่ควรจะเป็นจึงยกเลิก ถือเป็นการแสดงท่าทีที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการ แสดงให้เห็นว่าเราแคร์ความรู้สึกซึ่งกันและกัน กัมพูชาถือเป็นเพื่อนของเราต้องทำงานร่วมกันหลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าของหนังสือเดินทางกับกัมพูชา ยืนยันไม่ได้มาจากการขอร้องของเรา ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปปรากฏตัวที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ทางการจีนรับรู้เรื่องนี้ และมีมาตรการของเขา รับรู้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคดีความและไทยกำลังติดตามตัวอยู่,วิษณุ ขำคำร้องนายกฯเจ้าของสื่อ,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯให้สัมภาษณ์กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือถึง กกต. ให้ตรวจสอบการเปิดเฟซบุ๊กอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าข่ายเป็นเจ้าของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ทำให้ขาดคุณสมบัติของความเป็นนายกฯหรือไม่ว่า ไม่ใช่การถือครอง ไม่ใช่เป็นเจ้าของตามความหมายที่กฎหมายเขียน ไม่เช่นนั้นเป็นกันทุกคน ที่เล่นเฟซบุ๊กกันทั้งประเทศได้ขออนุญาตกันหรือไม่ คำตอบคือไม่เพราะเป็นการเล่น ไม่ใช่เป็นเจ้าของประกอบกิจการ ส่วนที่เขาร้องให้ร้องไป ผู้มีหน้าที่คงได้วินิจฉัยออกมา ตนเป็นรัฐบาลจะออกความเห็นเชิงวิชาการ อาจมีน้ำหนักน้อย ให้คนมีหน้าที่เกี่ยวข้องวินิจฉัย มองเป็นเรื่องตลกขำ ไม่เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ,เรืองไกร ตอกไม่ตลกอย่ารีบอุ้ม,นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวตอบโต้ว่านายวิษณุอย่าเพิ่งออกตัวเร็วแสดงความเห็นอุ้ม พล.อ.ประยุทธ์เร็วเกินไป ควรกลับไปอ่านรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 98 (3) ให้ดี เขียนสั้นๆเข้าใจง่าย มาตรานี้ห้ามบุคคลบางกลุ่มเท่านั้น ไม่ใช่ห้ามบุคคลทั่วไป เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก การร้องปลดนายกฯให้พ้นจากตำแหน่งเฉพาะตัวนั้น ทำจริงจังตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่มีอยู่ สิ่งที่ตนร้องให้ กกต.ตรวจสอบมีเหตุมาจากรัฐธรรมนูญห้ามไว้ ถ้า ตลกจริงเวลาอ่านรัฐธรรมนูญมาตรานี้ คงขำกลิ้งไปแล้ว การเลื่อนเลือกตั้งต่างหากที่เป็นเรื่องตลกร้ายในสายตาคนส่วนใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ,ยิ่งลักษณ์ ตีปี๊บชวนฟังรายการพี่ชาย,เมื่อเวลา 11.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่าได้นั่งฟังและอ่านแนวความคิดของพี่ชายผ่านเว็บไซต์ Thaksin Official คอลัมน์ GOOD MONDAY รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่เพิ่งเปิดตัวไป ได้แนวความคิดหลายมุมมอง ตนเป็นน้องสาวแต่เวลาพี่เล่าเรื่องที่ไปพบคนนั้นคนนี้ เจอสิ่งใหม่ๆของประเทศนั้นประเทศนี้ ยังชอบฟังรู้สึกสนุกทุกครั้งไม่มีเบื่อ ทำให้มีแนวความคิดใหม่ๆทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ ตลอดจนวิธีการที่จะรับมือกับโลกที่กำลังเปลี่ยนไปในทุกวัน เชื่อว่าทุกท่านที่ได้ฟังจะรู้สึกเหมือนกันกับตนว่ามีพลังเกิดแรงบันดาลใจ เกิดไอเดียใหม่ๆที่จะนำไปปรับใช้กับการทำงานอย่างมีประโยชน์ เราต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ศึกษาหาความรู้ใหม่ให้ก้าวทันต่อโลกที่หมุนเร็วอยู่เสมอ จึงอยากชวนทุกท่านเข้ามาฟังหรืออ่านเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์และ Podcast ทุกเช้าวันจันทร์,มาร์ค ติง รบ.อย่าก่อเงื่อนไขขัดแย้ง,ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายความมั่นคงส่งคนติดตามนักการเมืองลงพื้นที่หาเสียงว่าหลายครั้งสังเกตว่ามีการส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลสังเกตการณ์ แต่อย่ามาจำกัดสิทธิทำกิจกรรมการเมือง ขณะนี้ไม่มีข้อห้ามทางกฎหมายแล้ว ต้องไม่ทำให้หวาดกลัวหรือหวาดระแวง อย่าให้ขัดแย้งกันทุกเรื่อง การเลือกตั้งยังไม่ชัดเจนรัฐบาลถึงจะตอบได้ ทุกคนมีจิตใจเดียวกันอยากเห็นงานพระราชพิธีเรียบร้อย ไม่มีใครอยากสร้างบรรยากาศไม่ดีอยู่แล้ว รัฐบาลต้องรับผิดชอบสร้างความชัดเจนให้ความมั่นใจ สำหรับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ถ้าใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญทำได้ แต่อย่าให้ลุกลามบานปลาย รัฐบาลต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหาต่อบ้านเมือง ส่วนที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 2 เรียกประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน 20 จังหวัดภาคอีสาน ที่ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี อ้างว่าทำความเข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ทางการเมืองผิดอยู่แล้ว อย่าไปทำให้กระบวนการประชาธิปไตยมีปัญหา ทุกคนอยากหลุดพ้นวังวนแบบนี้ ถ้าไปทำอะไรสวนทางไม่เป็นประโยชน์,รัชดา งง ผบ.ทบ.หงุดหงิดทำไม,น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่เเข็งกร้าวขึ้น เมื่อถูกถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายการเมืองและกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่าประชาชนเเค่ต้องการความชัดเจนว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ ผบ.ทบ.ต้องเข้าใจว่าประชาชนก็รักชาติ เคารพสถาบันเหมือนกัน อยากให้มีการเลือกตั้งสอดคล้องกับคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยยืนยันมาตลอดเท่านั้นเอง ไม่เห็นว่า ผบ.ทบ.จะต้องออกมาหงุดหงิดอะไรหรือฮึ่มๆอะไรเลย บรรยากาศวันนี้กำลังดีอยู่เเล้ว ไม่เห็นต้องอะไรเลยประชาชนเป็นเจ้าของบ้านเมืองเหมือนกัน มีสิทธิอยากรู้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด,พท.ซัดเลื่อน ลต.ทำสั่นคลอน,วันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ว่า แน่ชัดแล้วว่าการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.จะไม่เกิดขึ้น การเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าผู้เกี่ยวข้องจะอ้างเหตุผลอย่างไร ย่อมมีผลต่อความรู้สึกของประชาชนที่หวังจะได้อำนาจอธิปไตยคืนมา ยังมีผลต่อความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศอยู่บนความไม่แน่นอนอีกครั้ง ขณะนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่ากังวลว่ามีการใช้อำนาจและกลไกของรัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง และคงจะมีอยู่ไปจนถึงวันเลือกตั้ง เช่น 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลยังปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีต่อไป ยากจะแยกแยะว่ากิจการใดทำเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือทำไปเพื่อหวังผลทางการเมือง รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มโดยอาศัยช่องว่างตามรัฐธรรมนูญใช้งบ ประมาณมหาศาลทุ่มเทช่วงปลายรัฐบาล อ้างนโยบายประชารัฐชื่อคล้ายชื่อพรรคของตน แกนนำพรรคบางคนได้แสดงออกชัดเจนว่าสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ในบัญชีรายชื่อพรรค,บี้รัฐบาล-กกต.ประกาศชัดวันกาบัตร,แถลงการณ์ระบุด้วยว่าเห็นได้ชัดว่ามีการใช้กลไกของรัฐสร้างความได้เปรียบต่อเนื่อง ตั้งแต่หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ไขกฎหมายพรรค การเมืองหลายครั้ง แทรกแซงการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ใช้กลไก กอ.รมน.ภาค เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อีสาน ใช้ศูนย์ดำรงธรรมเรียกประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ้างสร้างความปรองดอง เลือกปฏิบัติให้ใช้สถานที่ราชการทำกิจกรรมทางการเมือง ใช้หน่วยงานความมั่นคงติดตามสอดส่องการลงพื้นที่ทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย หรือกรณีบุกจับกุมว่าที่ผู้สมัครของพรรคขณะเดินรณรงค์พบประชาชน จึงขอให้นายกฯ และหัวหน้า คสช. กำชับให้หัวหน้าส่วนราชการวางตนเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง อย่าทำเป็นปากว่าตาขยิบ และขอให้ กกต.เข้ามาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐว่าใช้อำนาจรัฐเป็นคุณแก่บางพรรคหรือไม่ และขอให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับวันเลือกตั้ง และยุติการคุกคามประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งด้วย,จี้ผู้มีอำนาจฟังเสียงประชาชน,นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องสื่อสารให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของกำหนดการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น จึงเกิดความเคลื่อนไหวของผู้คนทุกภาคส่วน รวมถึงนักเรียน นิสิตนักศึกษา ถามหาความชัดเจนยืนยันให้เลือกตั้งตามกำหนดเดิม เพราะต่างฝากความหวังไว้กับการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอิสระทางความคิดมากขึ้น ที่สำคัญมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องเร่งรัดให้เกิดความชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นแน่นอนเมื่อใด หากปล่อยให้คลุมเครือไม่เป็นผลดีต่อประเทศ ผู้มีอำนาจต้องฟังเสียงเรียกร้องที่ต้องรับฟังและปฏิบัติตาม ขอเป็นกำลังใจให้นักสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกคน การต่อสู้ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเป็นการต่อสู้เพื่อคืนความเชื่อมั่นให้ประเทศ คืนความหวังให้คนทั้งสังคม,ทษช.ปลุกคืน ปชต.ฟื้นวิกฤติ,เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ตลาดคลองเตย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล (บิ๊กเบน) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้า ร่วมโต๊ะดื่มน้ำเต้าหู้กับชาวตลาดคลองเตย โดย ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ตลาดนี้ผู้ซื้อและผู้ขายมาจากหลายที่ เสียงสะท้อนส่วนใหญ่ไม่พ้นเศรษฐกิจปากท้อง เดิมค้าขายดีมากแต่ 4-5 ปีมาไม่ดีเช่นเดิม ปีนี้เศรษฐกิจทรุดตัวค่อนข้างชัดเจน ประชาชนฝากความหวังว่าจะมีเลือกตั้งภายในปีนี้เพื่อได้รัฐบาลประชาธิปไตย กุญแจสำคัญเปิดรับการค้าการลงทุนมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ,อ๋อย ป้องคนเห็นต่างไม่น่ากลัว,นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.หลายเขต จะจัดปราศรัยใหญ่ช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือต้นเดือน ก.พ.ส่วนการชุมนุมของคนอยากเลือกตั้ง เป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย เมื่อประเทศกำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง เท่ากับกำลังจะคืนความเป็นประชาธิปไตยแล้ว การเรียกร้องเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็วเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ ต่างเดือดร้อนกับปัญหาเศรษฐกิจสังคมมานาน ความหวังของประชาชนคือการเลือกตั้ง เพื่อจะได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งมาแก้ความเดือดร้อนเป็นเจตนาดี ถ้าให้โอกาสแสดงความเห็นที่แตกต่างไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไร และคงไม่นำไปสู่ความวุ่นวายจนเป็นข้ออ้างไปสู่การเลื่อนวันเลือกตั้งไปอีก ผู้ชุมนุมทำตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยไปคงไม่มีปัญหา,สุริยะ โวกวาด ส.ส.อีสานทะลุเป้า,ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง พร้อมคณะลงพื้นที่ปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายสุริยะกล่าวว่าจะผลักดันโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้มากขึ้น จะกระจายความเจริญมาที่ภาคอีสาน ตั้งโรงงานในพื้นที่ ไม่ต้องอพยพไปทำงานนอกภูมิลำเนา ลดค่าครองชีพให้มีเงินเหลือใช้มากขึ้น ชาวบ้านบอกหมดเวลาใช้คำว่าเสื้อเหลืองเสื้อแดง และแกนนำที่หากินบนความขัดแย้งทางการเมืองร่ำรวยบนความทุกข์ยาก วันนี้แกนนำรวยแต่อาจติดคุก ชาวบ้านมีความสุขไม่ต้องออกไปประท้วง ผาสุกในครอบครัว ถ้าเดินสายรณรงค์หาเสียงภาคอีสานครบทุกพื้นที่ อย่าว่าแต่ 60 ที่นั่ง อาจพลิกได้มากเป็นประวัติการณ์อย่างคาดไม่ถึง,อนุชา ย้อน เจ๊หน่อย ด่านายตัวเอง,นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง พปชร. กล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทยพาดพิงนายสุริยะ กระเป๋าตุงช่วงซีทีเอ็กซ์ว่า คดีซีทีเอ็กซ์ ในฐานะอดีตเลขานุการอดีต รมว.คมนาคม เคยพูดหลายครั้งแล้วว่านายสุริยะไม่ผิด คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ผิด 9 ต่อ 0 คุณหญิงสุดารัตน์อาจไม่รู้ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯถูกตั้งข้อกล่าวหาพร้อมนายสุริยะด้วย เครื่องซีทีเอ็กซ์ยังใช้ได้เป็นอย่างดี เป็นประโยชน์ต่อสนามบินสุวรรณภูมิอย่างมาก คุณหญิงสุดารัตน์เพียงต้องการให้ร้ายนายสุริยะ โดยหารู้ไม่ว่ากำลังให้ร้ายนายตัวเอง ดีไม่ดีอาจจะถูกนายทักษิณปลดออกจากว่าที่ผู้ชิงนายกฯ พรรคเพื่อไทยน่าจะหมดความชอบธรรมที่จะพูดถึงเรื่องทุจริตแล้ว เพราะมีอดีตผู้นำถึง 2 คนหนีออกนอกประเทศแล้วปล่อยให้ลูกน้องติดคุก ถ้าอยากรู้ว่าใครกระเป๋าตุงให้ไปถามนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ดูได้,ธนาธร สับทุนผูกขาดทำคนยากจน,ที่ จ.ยโสธร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษก พรรค นายณัฐพงษ์ พานิชศิริ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.ยโสธร ลงพื้นที่พบปะประชาชน นายธนาธรกล่าวว่า พรรคส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทั้ง 3 เขต และครบทุกจังหวัดความพร้อมเป็นพรรคใหญ่ เป็นทางเลือกใหม่ อาสานำประเทศออกจากความขัดแย้งทางการเมือง พัฒนาเศรษฐกิจให้เกรียงไกร จากนั้นนายธนาธรไปยังวัดโพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว มีประชาชนผูกข้อมือรับขวัญ นายธนาธรกล่าวว่า กลุ่มทุนผูกขาดในสังคมไทย คือกลุ่มทุนเดียวกับที่สนับสนุนรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น ทุนธนาคารผูกขาด ทุนเหล้าเบียร์ผูกขาด ทุนเกษตรผูกขาดเรียกว่า กลุ่มอภิสิทธิ์ชน มีนายทุน นายทหาร ข้าราชการระดับสูง และพรรคการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย ทำให้พี่น้องไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ พวกเราจนอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะความโง่หรือขี้เกียจ แต่เพราะอำนาจทางการเมือง และเศรษฐกิจผูกขาดอยู่กับคนกลุ่มนี้,เจ๊แดง ส่งทนายฟ้องหาเผ่นหนี,นายธนากร แหวกวารี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากนางเยาวภายื่นฟ้องนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sermsuk kasitipraditข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาหลายกรรมต่างกัน กรณีโพสต์เฟซบุ๊กตั้งแต่วันที่ 20-29 ธ.ค.2561 ใส่ร้ายนางเยาวภาร่วมกับผู้กระทำความผิดในคดีจำนำข้าว มีชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีจีทูจี ลอตสอง ที่คณะป.ป.ช.กำลังจะส่งฟ้องศาล และจะอายัดทรัพย์สิน รวมถึงได้ประกาศขายบ้านหนีไปต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้นางเยาวภาได้รับความเสียหาย เสีย ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ศาลนัดไต่ส่วนวันที่ 4 มี.ค. เวลา 13.30 น. นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบสื่อออนไลน์ด้วยว่ามีใครกล่าวหาใส่ร้ายอีก หากพบให้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลทันที | บิ๊กแดง คำรามนักการเมืองอย่าล้ำเส้น ปัดคุกคาม ส่งทหาร-ตร.ไปติดตามส่องทุกพรรค กรุณาให้เกียรติ กันด้วย โต้อคติกับกลุ่มอยากเลือกตั้งแต่อ่านเกมออก คสช.กัดติด ทักษิณ จัดรายการเขย่าโซเชียล | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,หาเสียง,เลื่อนเลือกตั้ง,คนอยากเลือกตั้ง,ข่าวหน้า1,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1470708 | [
0,
259,
137738,
116131,
227164,
80836,
148601,
11984,
34904,
78032,
259,
204042,
4188,
164000,
111243,
2091,
53868,
260,
8084,
1
] |
พลเมืองเน็ต ย้ำคลิกไลค์ไม่ผิด-ม.14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เรื่องหมิ่นประมาท | 17 ธ.ค.2558 เครือข่ายพลเมืองเน็ตออก รัฐบาลต้องสนับสนุนการตรวจสอบของประชาชน โดยอธิบายเรื่องการกดไลค์ไม่ผิดกฎหมายและเรียกร้องให้ระงับการดำเนินคดีหมิ่นประมาทออนไลน์โดยใช้มาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์การการแสดงความเห็นทุกกรณีการออกแถลงการณ์ครั้งนี้สืบเนื่องจากการจับกุมผู้ต้องหาหลายรายโดยใช้อำนาจตาม ม.44 จากการแชร์ผังทุจริตโครงการราชภักดิ์ และเชื่อมโยงไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 116 มาตรา 14 ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงมาตรา 112 หลังเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาไปคลิกไลคก์ข้อความหมิ่นสถาบันและเสียดสีสุนัขทรงเลี้ยง เครือข่ายพลเมืองเน็ตอธิบายเหตุการณ์ในภาพรวมพร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า การคลิกไลค์เฟซบุ๊กไม่มีกฎหมายรองรับว่าเป็นการกระทำความผิด ไม่ใช่ผู้สนับสนุนการทำความผิดตามหลักกฎหมาย และไม่ใช่การเผยแพร่เนื้อหาซ้ำเพราะเป็นระบบซอฟท์แวร์ที่ทำการแสดงผลอัตโนมัติโดยไม่ใช่เจตนาหรืออยู่ในวิสัยที่ผู้กดไลค์จะดำเนินการอะไรได้ นอกจากนี้ยังระบุว่า มาตรา 14 ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก็ไม่ได้มีเจตนารมณ์ในการจัดทำเพื่อนำมาดำเนินคดีหมิ่นประมาท หากแต่เพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลเอกสารและอิเล็คทรอนิกส์รายละเอียดแถลงการณ์มีดังนี้จากความสงสัยของสาธารณะต่อประเด็นที่ว่าการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้นมีการทุจริตหรือไม่ และถ้าหากมีจริง การทุจริตดังกล่าวเกี่ยวข้องกับข้าราชการ รัฐบาลทหาร หรือบุคคลในคณะรัฐประหารหรือไม่นั้น นำไปสู่กิจกรรมที่น่าสนใจอย่างน้อยสามประการโดยสื่อและพลเมืองที่สนใจประเด็นทุจริตคอรัปชัน กล่าวคือ1) การแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งรวมไปถึงการเปรียบเทียบกรณีทุจริตในรัฐบาลก่อนๆ และความคาดหวังกับการ ปฏิรูป2) การพยายามแสวงหาข้อเท็จจริงจากเอกสารหลักฐาน เช่น ผ่านช่องทางพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ3) การพยายามนำเสนอข้อเท็จจริงที่ค้นพบดังกล่าว ซึ่งอาจซับซ้อนเกี่ยวข้องกับบุคคลและองค์กรจำนวนมากในเวลาที่หลากหลาย ผ่านการเล่าเรื่องอย่างเป็นลำดับหรือการเล่าด้วยภาพ เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจในภาพใหญ่ หรือทำให้สังเกตเห็นถึงความขัดแย้งกันของข้อมูลพลเมืองจำนวนมากมีส่วนร่วมในกิจกรรมติดตามตรวจสอบทั้งสามประการนี้ ผ่านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อกันไปสู่เพื่อนฝูงญาติมิตรของเขา ไม่ว่าพวกเขาจะเห็นด้วยทั้งหมดหรือไม่ก็ตามกับข้อมูลดังกล่าว คนอีกจำนวนหนึ่งยังแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมต่อข้อมูลที่พวกเขาเผยแพร่ต่อด้วย เพื่อชวนให้คนรอบข้างพิจารณาว่าข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือเพียงไรเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 เรื่องที่ไม่ควรเกิดระหว่างการปกครองโดยกลุ่มบุคคลที่ประกาศว่ามุ่งมั่นจะกำจัดการทุจริตคอร์รัปชัน ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว จับกุมนายฐนกร ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายหนึ่ง โดย พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าหน่วยข่าวกรองของทหารสืบทราบว่านายฐนกรเป็นผู้เผยแพร่แผนผัง เปิดปมการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 และตอนที่ 3 และภาพ อุทยานราชภักดิ์จะต้องใช้ใบบัว 5920000 ใบจึงจะปิดได้มิด ซึ่งพาดพิงว่ามีบุคคลได้รับผลประโยชน์ เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นข้อมูลเท็จ จึงเข้าคุมตัวที่บริษัท ก่อนจะเข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก ยึดคอมพิวเตอร์ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือของนายฐนกร ให้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ไปตรวจสอบ และคุมตัวไปสอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยไม่เปิดเผยว่าเป็นที่ใด และไม่อนุญาตให้ทนายความเข้าพบหลังการสอบสวนและตรวจสอบ นายฐนกรถูกแจ้งความดำเนินคดีเมื่อเวลาประมาณ 17:30 น. ของวันที่ 9 ธันวามคม 2558 โดยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในฐานความผิด นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตามมาตรา 14 ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยุยุงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และ ดูหมิ่นกษัตริย์ ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา จากการกระทำ 3 เหตุการณ์ ได้แก่ 1. กดไลก์รูปภาพในเฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาเป็นการดูหมิ่นสถาบันฯ 2. คัดลอกและแชร์รูปภาพประชดเสียดสีสุนัขทรงเลี้ยงในเฟซบุ๊ก และ 3. คัดลอกและแชร์รูปภาพแผงผังเปิดโปงทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นการต่อต้านการทำงานของรัฐและปลุกปั่นยุยงให้เกิดความไม่สงบโปรดสังเกตว่าเหตุการณ์ (1) (กดไลก์) และ (2) (สุนัขทรงเลี้ยง) นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ปรากฏเพิ่มเติมหลังการจับกุม ตรวจค้นบ้านพัก ยึดคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือของนายฐนกรไปตรวจสอบ ซึ่งทั้งในข่าวกรองของทหารที่พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. กล่าวถึง และในการให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 ธันวาคม ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็กล่าวถึงเฉพาะเหตุการณ์ (3) (แผนผังทุจริต) เท่านั้น ส่วนด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อในช่วงประมาณก่อนบ่ายสามโมงของวันเดียวกัน ว่าทหารกำลังสอบสวนอยู่ และกล่าวถึงเฉพาะการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สำหรับข้อหาอื่นพล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่ายังต้องรอการตรวจสอบหลักฐาน โดยไม่ได้พูดถึงความผิดตามมาตรา 112 และ 116 แต่อย่างใดเช่นกันหลังการจับกุมข้างต้น พล.ต.ต. ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ หนึ่งในชุดสอบสวนคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า ตามกฎหมายนั้นผู้ใดที่กดถูกใจ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นในเพจเฟซบุ๊กหรือในข้อความที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ก็จะต้องมีความผิดร่วมไปด้วย และประกาศเตรียมดำเนินคดีต่อผู้ดูแลกลุ่มและสมาชิกของกลุ่มเฟซบุ๊กที่นายฐนกรนำภาพไปเผยแพร่ โดยอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อสมาชิกที่มีการกดไลก์และแชร์ข้อความหรือรูปภาพที่ ไม่เหมาะสม ซึ่งปรากฏต่อมาว่ามีการจับกุมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมตลอดทั้งสองสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เพียงกรณีการจับกุมนายฐนกร และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอื่นๆ ในช่วงระยะเวลาสองสัปดาห์นี้เท่านั้น ในช่วงที่ผ่านมา ที่รัฐบาล กองทัพ และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ พยายามใช้ข้อหา หมิ่นประมาท ไม่ว่าจะในรูปแบบการใช้กฎหมาย หมิ่นประมาทบุคคล หมิ่นประมาทกษัตริย์ ยั่วยุปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก็ตาม มาคุกคามการนำเสนอข้อมูลเพื่อการตรวจสอบโดยสุจริต โดยปฏิเสธที่จะชี้แจงหรือแสดงหลักฐานว่าข้อมูลที่ถูกนำเสนอนั้นเป็นเท็จอย่างไร และมักเบี่ยงเบนประเด็นการตรวจสอบไปเป็นเรื่องอื่น ด้วยการกล่าวหาลอยๆ ว่า ผู้พยายามเสนอข้อมูลเพื่อการตรวจสอบดังกล่าว ทำไปโดยมีวาระทางการเมืองหรือมีขบวนการสนับสนุนเบื้องหลังเช่น เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 กรมทหารพรานที่ 14 จังหวัดยะลา แจ้งความร้องทุกข์ข้อหาหมิ่นประมาทต่อ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จากกรณีที่มูลนิธิฯ ออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาว่ามีการทำร้ายร่างกายผู้ถูกควบคุมตัวรายหนึ่ง โดยกล่าวหาว่า น.ส.พรเพ็ญ ทำให้ กรมทหารพรานที่ 41 จังหวัดยะลา ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง คดีนี้ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดยะลามีคำสั่งไม่ฟ้องหรือกรณีเมื่อเร็วๆ นี้ที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับการแทรกแซงการดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ และการถูกข่มขู่คุกคาม จากกลุ่มผู้มีอิทธิพลเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่ากำลังปรึกษา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาว่าการแสดงออกดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่คดีสำคัญอีกคดีหนึ่งในเรื่องนี้ คือคดีที่กองทัพเรือเป็นโจทก์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อ นายอลัน จอร์น มอริสัน และนางสาวชุติมา สีดาเสถียร สองผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ออนไลน์ภูเก็ตหวาน จากการเสนอรายงานข่าวขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งแม้ต่อมาหลังจากสู้คดีมาสองปี ศาลจังหวัดภูเก็ต มีคำพิพากษายกฟ้อง แต่ภูเก็ตหวานก็ตัดสินใจจะปิดตัวลงในวันที่ 31 ธันวาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากบรรยากาศไม่สามารถนำเสนอข่าวได้อย่างรอบด้านและตรงไปตรงมาได้ ยังมีสังคมบางส่วนที่ไม่เข้าใจการทำงาน อีกทั้งถูกข่มขู่เป็นระยะ กรณีเช่นนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความไม่มีอิสระในการทำงานของสื่อ บรรยากาศของความหวาดกลัว และการถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนการกระทำและความเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเป็นปัญหาต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหลายประการ อีกทั้งได้ตีความกฎหมายจนเกินตัวบท เครือข่ายพลเมืองเน็ตมีความเห็นดังนี้เครือข่ายฯยืนยันจุดยืนเดิมตามเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 และมีความเห็นเพิ่มเติมดังนี้แม้การเผยแพร่เนื้อหาที่เข้าข่าย ยั่วยุปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และ หมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา อาจถูกศาลตัดสินให้เป็นความผิด แต่การแสดงออกถึงความรู้สึกต่อเนื้อหาดังกล่าว ไม่มีฐานความผิดตามกฎหมาย อีกทั้งไม่ถือเป็นการสนับสนุน เพราะการสนับสนุนต้องเกิดขึ้นก่อนหรือเกิดขึ้นขณะที่กระทำความผิด และผู้สนับสนุนต้องมีการกระทำบางอย่างในการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระ ทำความผิด ซึ่งการกดไลก์นั้นไม่เข้าเงื่อนไขใดเลยนอกจากนี้ การกดไลก์ก็ไม่ใช่การเผยแพร่เนื้อหาซ้ำ แม้จะมีโอกาสที่ระบบซอฟต์แวร์ของเว็บไซต์สื่อสังคมจะทำการเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกกดไลก์ต่อไปโดยอัตโนมัติ แต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นเจตนาของผู้กดไลก์ ผู้กดไลก์ไม่ได้มีอำนาจควบคุมใดๆ ในการทำงานของซอฟต์แวร์ดังกล่าว อีกทั้งจะสั่งให้ระงับการเผยแพร่ก็มิได้ มากไปกว่านั้น ผู้กดไลก์ไม่มีอำนาจควบคุมเนื้อหาของข้อความต้นทางที่ตนกดไลก์ ซึ่งสามารถถูกแก้ไขโดยผู้สร้างข้อความนั้นๆ ได้ทุกเมื่อ ทำให้ข้อความที่แสดงให้เห็น ณ เวลาหนึ่ง อาจแตกต่างไปจากเวลาที่ผู้ใช้กดไลก์ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา มาตรา 14 (1) ของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งระบุให้การ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นความผิด ถูกนำไปใช้ในการฟ้องหมิ่นประมาทจำนวนมาก ทั้งที่เจตนารมณ์ของมาตรานี้ เขียนขึ้นเพื่ออุดช่องว่างที่ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารในประมวลกฎหมายอาญา ยังไม่รวมการปลอมแปลงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม และ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในมาตราดังกล่าวตามเจตนารมณ์ของผู้ร่างกฎหมาย จึงหมายถึงข้อมูลอย่างอีเมลปลอมหรือเว็บไซต์แอบอ้าง อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ตีความมาตรานี้ในทางที่ครอบคลุมการหมิ่นประมาทด้วย ส่งผลให้มาตรา 14 (1) นี้ถูกใช้ในทางที่ผิดเพื่อฟ้องร้องด้านเนื้อหา โดยจุดอ่อนสำคัญก็คือมาตราดังกล่าวมิได้ยกเว้นกรณีที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต หรือทำไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งเป็นข้อยกเว้นโทษฐานหมิ่นประมาทในกฎหมายอาญาคดีที่กองทัพเรือเป็นโจทก์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ภูเก็ตหวาน ถือเป็นคดีสำคัญที่ศาลพิจารณาตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยศาลระบุว่า เจตนารมณ์ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่ได้มุ่งเอาผิดกับความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ที่ได้บัญญัติไว้แล้วในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328เครือข่ายพลเมืองเน็ตเรียกร้องให้ระงับการใช้มาตรา 14 ของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ในการฟ้องร้องที่เกี่ยวกับเนื้อหาการแสดงออกในทุกกรณีอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทางสังคมที่เราทุกคนอยู่ร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ผู้ให้บริการ และพลเมืองเน็ตจะต้องมีบทบาทร่วมกันในการรักษาพื้นที่นี้เพื่อประโยชน์สาธารณะ บนพื้นฐานของการรักษาสิทธิพลเมืองและปกป้องสิทธิมนุษยชนเครือข่ายพลเมืองเน็ต17 ธันวาคม 2558 | 17 ธ.ค.2558 เครือข่ายพลเมืองเน็ตออกแถลงการณ์ รัฐบาลต้องสนับสนุนการตรวจสอบของประชาชน โดยอธิบายเรื่องการกดไลค์ไม่ผิดกฎหมายและเรียกร้องให้ระงับการดำเนินคดีหมิ่นประมาทออนไลน์โดยใช้มาตรา 14 | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที | คลิกไลค์,คลิกไลค์ไม่ใช่อาชญากรรม,ทุจริตราชภักดิ์,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,มาตรา 14,อุทยานราชภักดิ์,เครือข่ายพลเมืองเน็ต,แถลงการณ์ | https://prachatai.com/journal/2015/12/63017 | [
0,
259,
99412,
82646,
24633,
143088,
221409,
3755,
49947,
142319,
3945,
17858,
15770,
20279,
141126,
147287,
16053,
259,
3945,
28924
] |
ค้นบ้าน เสธ.แดง และลูกน้องพบอาวุธสงคราม เจ้าตัวลั่นแค่ คิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้ | ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน เสธ.แดง และลูกน้องคนสนิทพบอาวุธสงคราม ด้านเจ้าตัวระบุไม่มีเอี่ยวยิง อนุพงษ์ ชี้ไร้หลักฐานจับ ย้ำทำได้แค่สโลแกน คิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้21 ม.ค. 53 – รายงานว่าหลังจากที่คนร้ายยิงอาวุธสงครามแบบเอ็ม 79 เข้าไปยังบริเวณห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก บริเวณอาคาร 1 ชั้น 6 เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.อนุพงษ์ ได้เชิญ พล.ต.ท. สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ท. ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) พล.ต.ท. ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เดินทางมาที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อประชุม และประเมินสถานการณ์ พร้อมกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก โดยมีนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชม.30 นาทีอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.อ.อนุพงษ์ ได้เรียกประชุม 5 เสือ ทบ. ซึ่งประกอบไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก ได้ประชุมร่วมกันก่อนเพื่อประเมินสถานการณ์ จากนั้นจึงประชุมร่วมกับนายสุเทพ และผู้บัญชาการตำรวจจาก 3 หน่วยงานดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในจุดที่เกิดเหตุด้วยหลังจากนั้น ในเวลาประมาณ 17.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นบ้านพักของ เสธ.แดง พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่อยู่ภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) แยกเกียกกาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินแล้วว่า พล.ต.ขัตติยะ อาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการสรุปอาวุธสงครามที่ใช้ยิงมาบริเวณดังกล่าวด้วย โดยมีการคาดว่าลูกระเบิดเอ็ม 79 อาจจะยิงมาจาก 3 ที่ คือ สะพานพระราม 8 ตึกสวัสดิการของ ทบ. ที่อยู่ด้านหลังของกองบัญชาการกองทัพบก และ บริเวณแฟลตทหารที่อยู่บริเวณด้านข้างตึกบัญชาการกองทัพบกทั้งนี้ หลังการเข้าค้นเบื้องต้นได้พบของกลางจำนวนหนึ่งที่อาจเกี่ยวพันกับการยิงเอ็ม 79 ใส่ บก.ทบ. แต่เจ้าหน้าที่ทหารไม่สามารถที่จะดำเนินการด้านคดีได้ จึงได้ประสานทางตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจค้นและยึดของกลางมาตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไปภายหลังการเข้าตรวจค้นบ้านพัก เสธ.แดงดังกล่าว พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาท รักษาราชการ ผบก.ป. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายได้เดินทางไปยังจุดที่ตำรวจและทหารเข้าตรวจค้นบ้านพัก เสธ.แดง ตามด้วยตำรวจสันติบาลจำนวนหนึ่ง โดยกันกลุ่มผู้สื่อข่าวไว้บริเวณหน้า ม.พัน 4ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าตรวจค้นบ้านพักของ เสธ.แดง ปรากฏว่าในบ้านพักไม่พบสิ่งผิดปกติ จากนั้นได้ทำการตรวจค้นภายในรถเบนซ์ ซึ่งเป็นรถตู้ หมายเลขทะเบียน ศข 121 กทม. บริเวณเบาะหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบระเบิดลูกเกลี้ยง M26 และอาวุธปืนขนาด .32 และเครื่องกระสุน โดยในการเข้าตรวจค้นครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความร่วมมือจากทางทหารเป็นอย่างดีส่วน พล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง ไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก นอกจากนี้ตำรวจได้ทำการขยายผลตรวจค้นไปยังบ้านพักของลูกน้องเสธ.แดง ซึ่งเป็นอาคารแฟลต 5 ชั้น ชื่อจ่าสิบเอกนัฐสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ที่อยู่ในละแวกดังกล่าว เบื้องต้นพบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนมาก มีทั้ง เอ็ม 72 จำนวน 60 ลูก ระเบิดเอ็ม 79 ปลอกกระสุน และระเบิดที่ใช้แล้ว จำนวนมาก เหมือนกับเป็นคลังอาวุธที่ถูกนำมาซุกซ่อนไว้โดยการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 1 ราย แต่ยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการสอบปากคำ ว่าเชื่อมโยงกับ เสธ.แดง อย่างไรหรือไม่ | ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน เสธ.แดง และลูกน้องคนสนิทพบอาวุธสงคราม ด้านเจ้าตัวระบุไม่มีเอี่ยวยิง อนุพงษ์ ชี้ไร้หลักฐานจับ ย้ำทำได้แค่สโลแกน คิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้ 21 ม.ค. 53 – | การเมือง,ความมั่นคง | อนุพงษ์ เผ่าจินดา | https://prachatai.com/journal/2010/01/27410 | [
0,
259,
203061,
259,
70851,
3755,
111243,
193870,
28495,
153851,
4395,
159230,
260,
6196,
260,
7960,
260,
259,
180094,
36595
] |
กลุ่มเซ็นทรัล รวมพลัง ยูนิเซฟ พัฒนาเด็กปฐมวัยถูกวิธี | เน้นปัจจัยหลัก กินให้เป็น เล่นให้สุด ไม่หยุดรัก,ร่วมเป็นหนึ่งขององค์กรภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาเด็ก สุทธิชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ #EatPlayLove กินให้เป็น เล่นให้สุด ไม่หยุดรัก เชิญชวนผู้ใหญ่ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาเด็กในช่วงปฐมวัยอย่างถูกวิธี โดยได้รับเกียรติจาก อานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว เมื่อเร็วๆนี้,ประธานใหญ่กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวถึงแคมเปญ#Eat PlayLove ว่าจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสมองของเด็กในช่วงปฐมวัย วิธีการเลี้ยงลูกและการกระตุ้นพัฒนาการง่ายๆ โดยเน้นปัจจัยที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็ก ได้แก่ โภชนาการที่ดี การเล่นและความรักความอบอุ่นจากครอบครัว ซึ่งเป็น 3 ปัจจัยหลักที่จะช่วยให้เด็กพัฒนาเต็มศักยภาพ และวางรากฐานสำคัญสำหรับอนาคตต่อไป โดยจะมีการจัดกิจกรรมโรดโชว์ในรูปแบบของงานเอ็กซ์โป #EatPlayLove สัญจรไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศตลอดปี 2561 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือน มีนาคม-พฤศจิกายน 2561 เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจและให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยกลุ่มเซ็นทรัลและยูนิเซฟหวังว่าจะเห็นพ่อแม่ ผู้ดูแลเด็ก ผู้กำหนดนโยบาย ภาคสังคม ภาคธุรกิจ หันมาลงทุนในการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างจริงจัง เพราะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในการเสริมสร้างศักยภาพของเด็ก ผู้ซึ่งจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของสังคมต่อไป,ด้านผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย มร.โธมัส ดาวิน กล่าวว่า แคมเปญนี้แสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและองค์กรที่ทำงานด้านพัฒนาสังคม และการจัดกิจกรรมแบบนี้ถือเป็นครั้งแรกของยูนิเซฟในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ดูแลเด็ก สมาชิกครอบครัว นักธุรกิจ ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กปฐมวัย ซึ่งช่วงหกปีแรกของชีวิตเป็นช่วงที่สมองพัฒนาเร็วที่สุด ดังนั้นช่วงปฐมวัยคือโอกาสทองของการวางรากฐานการเรียนรู้และพัฒนาตลอดชีวิต แต่หากเด็กปฐมวัยขาดการดูแลที่เหมาะสม ขาดโภชนาการที่ดี ขาดการกระตุ้นพัฒนาการ หรือต้องเผชิญกับความเครียด ความรุนแรง ก็จะบั่นทอนการพัฒนาสมองของพวกเขาและอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้,สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ดูแลเด็กเล็กในช่วงปฐมวัยอย่างถูกวิธี โดยติดตามข้อมูลได้ที่ ,www.centralgroup.com, และ ,www.unicef.or.th/eatplaylove, | ร่วมเป็นหนึ่งขององค์กรภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาเด็ก สุทธิชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ประเทศไทย | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | สุทธิชัย จิราธิวัฒน์,แคมเปญ,องค์การยูนิเซฟ,กลุ่มเซ็นทรัล,เด็กปฐมวัย,อื่นๆ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1226120 | [
0,
259,
137738,
156814,
60946,
143750,
231615,
259,
46033,
259,
107451,
160725,
42688,
259,
39350,
137751,
16514,
4188,
32921,
24946
] |
กก.สิทธิฯเตรียมถก ม.101 กม.สิ่งแวดล้อม ขัดสิทธิชุมชน | ประชาไท - 14 มิ.ย.48กรรมการสิทธิฯ หวั่นกรณีความขัดแย้งโรงไฟฟ้าแก่งคอย2 เป็นตัวอย่างใช้มาตรา 101 พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมหยุดความเคลื่อนไหวชาวบ้าน เตรียมจัดเสวนากฎหมายเจ้าปัญหา จำกัดสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ คณะอนุกรรมการด้านพลังงาน ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีการประชุมเกี่ยวกับกรณีที่ชาวบ้านจากชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย จ.สระบุรี เข้าร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการฯ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จความเป็นธรรมด้านสิทธิมนุษยชน กรณีที่แกนนำถูกออกหมายจับข้อหาไขข่าวเท็จ ทำให้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่เสียชื่อเสียง ตามมาตรา 101 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า ทางอนุกรรมการฯ ได้ทำหนังสือไปยัง สภ.อ.เมืองสระบุรี เพื่อขอดูเอกสารหลักฐานต่างๆ ในการออกหมายจับแกนนำที่ทำการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เนื่องจากมีข้อร้องเรียนว่าเป็นการออกหมายจับโดยไม่เป็นธรรม คาดว่าจะได้รับเอกสารภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะจัดสัมมนาเกี่ยวกับมาตรา 101 ของพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ราวกลางเดือนก.ค.นี้ เพราะกรณีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้มาตรานี้กล่าวโทษชาวบ้าน โดยทางกรรมการสิทธิฯ จะจัดเวทีหารือในภาพรวม และจะเชิญตัวแทนนักวิชาการด้านกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการ ภาคประชาชน รวมถึงนายพนัส ทัศนียานนท์ ส.ว.ตาก ซึ่งมีส่วนร่วมในการยกร่างกฎหมายฉบับนี้ร่วมหารือ เพื่อทำความเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย และสร้างความเข้าใจร่วมกันว่าหากเกิดกรณีดังกล่าวตำรวจควรหาหลักฐานอย่างไร นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ชัดเจนว่าเป็นการยกกฎหมายลูกมาจำกัดสิทธิชุมชน ที่จะมีส่วนร่วมจัดการ บำรุงรักษาทรัพยากรท้องถิ่นหรือไม่ ชาวบ้านมีสิทธิที่จะกังวลในความเป็นอยู่ของเขา ต้องมาดูกันว่าการยกมาตรา 101 ขึ้นมานี้จะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 46 และ 56 หรือไม่ นายวสันต์กล่าว ทั้งนี้ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 101 ระบุว่า ผู้ใดแพร่หรือไขข่าวที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับอันตราย จากแหล่งกำเนิดมลพิษใดโดยมีเจตนาที่จะทำลายชื่อเสียงหรือความไว้วางใจ ของสาธารณชนต่อการดำเนินกิจการโดยชอบด้วยกฎหมายของแหล่งกำเนิดมลพิษ นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ หากการแพร่หรือไขข่าวตามวรรคหนึ่งกระทำโดยการประกาศโฆษณา หรือออกข่าวทางหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อมวลชน อย่างอื่น ผู้กระทำผิดดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน ห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ.2540 มาตรา 46 ระบุว่าบุคคลซึ่งรวมกันเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมย่อมมีสิทธิอนุรักษ์หรือฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะหรือวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นและของชาติ และมีส่วนร่วมในการจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ มาตรา 56 ระบุว่า สิทธิของบุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการบำรุงรักษา และการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ และในการคุ้มครอง ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่อง ในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน ย่อมได้รับความคุ้มครอง ทั้งนี้ตามกฎหมายบัญญัติ. | ประชาไท - 14 มิ.ย.48 กรรมการสิทธิฯ หวั่นกรณีความขัดแย้งโรงไฟฟ้าแก่งคอย2 เป็นตัวอย่างใช้มาตรา 101 พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมหยุดความเคลื่อนไหวชาวบ้าน เตรียมจัดเสวนากฎหมายเจ้าปัญหา | สิ่งแวดล้อม | https://prachatai.com/journal/2005/06/4435 | [
0,
259,
137738,
77772,
136909,
156814,
26036,
259,
122112,
259,
9542,
136909,
156814,
26036,
49883,
37801,
80250,
9074,
20475,
70838
] |
|
22 ปีสภาการหนังสือพิมพ์ฯ การอยู่รอดในยุค ดิจิทัล | สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ,และแล้ววันที่ 4 กรกฎาคม ก็มาถึง และเป็นวันสำคัญที่ผมต้องขออนุญาตเขียนถึงเรื่องราวของแวดวงวิชาชีพสื่อมวลชนอีกครั้ง,เนื่องจากวันนี้เมื่อ 22 ปีมาแล้ว เจ้าของ บรรณาธิการ และผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ทั้งหลายทั่วประเทศไทย ได้มาร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจจัดตั้งองค์กร ที่เรียกว่า สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ขึ้นมาทำหน้าที่กำกับดูแลกันเองทางด้านจริยธรรม,ที่ผ่านมา สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ทำหน้าที่กำกับดูแลการทำหน้าที่ของหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ที่เป็นสมาชิกและผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ในสังกัดสมาชิกให้เป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ที่พวกเราร่วมกันร่างขึ้น,แต่หลายครั้งสภาการหนังสือพิมพ์ฯก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่สามารถกำกับดูแลกันเองได้ เพราะไม่มีมาตรการลงโทษทางกฎหมายกับสมาชิกที่ละเมิดจริยธรรม ทำให้เกิดแนวคิดที่จะออกกฎหมาย จัดตั้งองค์กรขึ้นมาทำหน้าที่และมีบทลงโทษตามกฎหมายด้วย โดยจะให้ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติมาจากฝ่ายข้าราชการ,เป็นผลให้พวกเราต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจว่าเพราะเหตุใดจึงต้องกำกับกันเอง และในที่สุดทางฝ่ายรัฐก็เข้าใจและยอมรับเหตุผล,ล่าสุดแนวคิดที่จะออกกฎหมายจัดตั้งองค์กรเข้ามาใช้อำนาจตรวจสอบและลงโทษตามกฎหมายต่อสื่อได้ถูกปรับเปลี่ยนไปแล้ว โดยร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานสื่อมวลชน ที่ขณะนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแล้วนั้น ไม่มีบทบัญญัติที่เคยกังวลกันอีกต่อไป,แต่ยังไม่รู้ว่าจะผ่านการพิจารณาของรัฐสภาเมื่อไหร่และอย่างไร,อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหม่ที่กำลังท้าทายวงการสื่อมวลชน คือ ความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมการบริโภคข่าวสารที่เปลี่ยนไป ทำให้หนังสือพิมพ์ต้องปรับตัวเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว,ซึ่งการปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์นี้ ย่อมไม่ง่ายนัก เพราะแม้ต้นทุนในการผลิตและจำหน่ายหนังสือพิมพ์จะหายไป แต่ต้นทุนในการผลิตข่าวสารยังคงอยู่,ขณะที่รายได้จากสื่อออนไลน์ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะความหลากหลายของสื่อออนไลน์มีมาก เม็ดเงินโฆษณาถูกแบ่งไปอยู่ที่โซเชียลมีเดียไปมากกว่า 70-80% ดังนั้น การอยู่รอดโดยยังสามารถดำรงมาตรฐานความเป็นมืออาชีพไว้ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในปัจจุบัน,ดังนั้น ในโอกาสที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติจะมีอายุครบ 22 ปีในปีนี้ จึงถือโอกาสจัดปาฐกถาพิเศษเรื่อง มาตรฐานความเป็นมืออาชีพของสื่อในยุคดิจิทัล ขึ้น,เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และความเป็นจริงในขณะนี้ โดยเชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือ หม่อมอุ๋ย อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาเสนอมุมมองเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของ สื่อมืออาชีพ ที่นับวันจะเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอจากหนังสือพิมพ์กระดาษไปสู่สื่อดิจิทัลมากขึ้น,ตามด้วยวงอภิปรายในหัวข้อ สื่อการปรับตัวและมาตรฐานความเป็นมืออาชีพ โดยมีตัวแทนคนทำสื่อออนไลน์จากสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย รวมทั้งผู้แทนสมาคมมีเดียเอเจนซีและธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมอภิปราย,ได้รับเกียรติจากอาจารย์ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ กรรมการฯ สภาการหนังสือพิมพ์ฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ,งานทั้งหมดนี้ จัดขึ้นในวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2562) เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ที่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน ผู้สนใจเข้าร่วมฟังฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น,ในฐานะศิษย์เก่าของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จึงถือโอกาสนี้เชิญชวนผู้ที่สนใจความเคลื่อนไหวของแวดวงวิชาชีพสื่อมวลชนไปร่วมในกิจกรรมนี้กันมากๆ,และที่ลืมไม่ได้คือการให้กำลังใจเพื่อนสื่อมวลชนทั้งหลาย ทั้งที่เป็นและไม่เป็นสมาชิกของสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ให้สามารถปรับตัวสู้กับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป โดยยังรักษาความเป็นสื่อมืออาชีพที่ทำงานอยู่ในกรอบจริยธรรมสื่อ เพื่อให้ผู้บริโภคข่าวสารวางใจ,รู้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็อย่างที่ผู้ใหญ่รุ่นเก่าๆสอนไว้น่ะแหละ ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป สู้ๆ สู้ตายนะครับ เพื่อนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับทั้งที่ยังพิมพ์ด้วยกระดาษและแปลงร่างสู่ออนไลน์เรียบร้อยแล้ว.,ซูม | และแล้ววันที่ 4 กรกฎาคม ก็มาถึง และเป็นวันสำคัญที่ผมต้องขออนุญาตเขียนถึงเรื่องราวของแวดวงวิชาชีพสื่อมวลชนอีกครั้ง | สื่อมวลชน,หนังสือพิมพ์,สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ,สื่อออนไลน์,ยุคดิจิทัล,ซูม,เหะหะพาที | https://www.thairath.co.th/news/politic/1605851 | [
0,
259,
156417,
3755,
63709,
54143,
138658,
259,
194516,
225704,
72810,
7428,
37616,
1,
0,
0,
0,
0,
0,
0
] |
|
กอล์ฟสแควร์ 16/06/60 | ไปเจองานใหญ่กว่าเลยต้องขยับมาแสดงความยินดีกันวันนี้ กับ ,โปรออม สุภมาส แสงจันทร์, ที่ไปคว้าแชมป์ ,ไชน่า แอลพีจีเอทัวร์, รายการ ,อีจีเอฟฮ่องกงเลดีส์โอเพ่น, ทำให้อันดับโลกขยับจากที่ 258 ขึ้นมาที่ 238 เป็นลำดับ 9 ของ ,โปรกอล์ฟหญิงไทย,นี่ก็ประเภทอายุเป็นแค่ตัวเลข, โปรหมาย ประหยัด มากแสง, คว้าแชมป์ ,เจแปนซีเนียร์ทัวร์, เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ จาก ,18 สตาร์ทสซีเนียร์กอล์ฟทัวร์นาเมนต์, และเป็นแชมป์ที่ 6 ในทัวร์นี้ของนักกอล์ฟวัย 51 ปี,อีกสองแชมป์ในบ้านเรา ,โปรจอห์นนี่ จักรพันธ์ เปรมสิริกรณ์, แชมป์ฝ่ายชาย และ, โปรกุ๊ก ชมพัช พงศ์ธนารักษ์, แชมป์ฝ่ายหญิงของ ,ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์, รายการ, ไทยแลนด์พรีเมียร์แชมเปียนชิพ–โรดทูสิงห์มาสเตอร์ส, ที่ ,สิงห์ปาร์คขอนแก่นกอล์ฟคลับ, มีหน้าใหม่เก่งขึ้นมาเรื่อยๆ เกิดขึ้นมาในวงการกอล์ฟไทย,คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC), ยืนยันออกมาแล้วว่า กอล์ฟ จะเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่นอกจากจะแข่งขันใน ,โอลิมปิก 2020 ที่ โตเกียว, ยังจะต่อเนื่องไปถึงปี 2024 ซึ่งยังไม่ทราบว่าเจ้าภาพจะเป็นใคร ระหว่าง, ปารีส, หรือ ,ลอสแอนเจลิส,ว่าถึงกอล์ฟใน ,โอลิมปิก, แล้ว นี่แหละคือภารกิจสุดท้าย ที่จะเติมเต็มความเป็นสุดยอดนักกอล์ฟของ ,โปรเม เอรียา จุฑานุกาล, ด้วยการคว้า, เหรียญทองโอลิมปิก, ให้ได้ หลังจากที่จำต้องถอนตัวในรอบสามที่ ,ริโอ เด จาเนโร 2016 อย่างน่าเสียดายมาแล้ว,ดราม่าเรื่อง ,พ่อคนดีๆ, ที่ไม่ได้โหนกระแสลูก ,ฟิล มิกเคลสัน, ต้องลุ้นหนักว่าจะได้ทีออฟ, U.S.Open, ปีนี้ทันเวลาหรือไม่ เพราะต้องกลับบ้านเพื่อไปร่วมงานที่ลูกสาวต้องขึ้นเป็นผู้แทนไปกล่าวในงานวันสำเร็จการศึกษา แม้จะมีเครื่องบินส่วนตัว แต่ก็ต้องขอเวลาล่าช้าถึง 4 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะทำให้ ต้องพลาดการลงแข่งขันเป็นครั้งที่ 23 ใน ,เมเจอร์, นี้,และที่กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งดราม่าใน ,U.S.Open, คือคลิปในเฟซบุ๊กของ เควิน นา หนึ่งในผู้เล่นปีนี้ที่แสดงความโหดของสนามที่รัฟสูงถึง 2 ฟุต คงจะกลายเป็นเรื่องให้เม้าท์กันสนุกปากตลอดทัวร์นาเมนต์นี้,โปรแช้งค์ | โปรออม สุภมาส แสงจันทร์,ไชน่า แอลพีจีเอทัวร์,อีจีเอฟฮ่องกงเลดีส์โอเพ่น,โปรกอล์ฟหญิงไทย | กอล์ฟสแควร์,โปรแช้งค์,ไชน่า แอลพีจีเอทัวร์,โปรออม สุภมาส,โปรหมาย ประหยัด มากแสง | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/973388 | [
0,
259,
186338,
3682,
39204,
1549,
135647,
34538,
4728,
2361,
259,
261,
40423,
49277,
3945,
114866,
5405,
972,
17636,
259
] |
|
สุรชัย แซ่ด่าน ร้องเรียนถูกกลั่นแกล้ง แจ้งเพิ่มคดี 112 หลังรอพระราชทานอภัยโทษ | นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยานายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) ผู้ต้องขังคดีหมิ่นประมาทสถาบันกษัตริย์ ตามมาตรา 112 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยอัยการพิเศษได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 แก่นายสุรชัยที่อยู่ในเรือนจำเพิ่มอีก 1 คดี หลังจากก่อนหน้านี้นายสุรชัยตกเป็นจำเลยในคดีหมิ่นฯ รวม 5 คดีจากการตระเวนปราศรัยในหลายพื้นที่ และศาลพิพากษาให้จำคุกคดีละ 2 ปี 6 เดือนเนื่องจากจำเลยรับสารภาพ รวมแล้วพิพากษาจำคุก 12 ปี 6 เดือน โดยคดีล่าสุดที่ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหานั้นเป็นกรณีการปราศรัยที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดือนมกราคม 2554ปัจจุบันนายสุรชัยอยู่ระหว่างขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล โดยเขาถูกจับกุมและคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.2554 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนางปราณี ได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยัง นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. โดยขอให้ นปช.ช่วยเหลือผลักดัน ดังนี้ 1.ขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจ สภ.แม่ริม และดีเอสไอ ว่ามีการกลั่นแกล้งหรือไม่ ในกรณีที่ผบ.ตร.และรัฐบาลไม่ได้อนุมัติให้ดำเนินคดี เนื่องจากไม่มีการเสนอให้ ผบ.ตร.และรัฐบาลรับทราบก่อน 2.หาก ผบ.ตร.และรัฐบาลทราบและอนุมัติให้ดีเอสไอดำเนินคดีได้ ก็เท่ากับว่ารัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยทำลายนักรบตัวเอง มวลชนคนเสื้อแดงจะรับได้หรือไม่ การทำเช่นนี้ทำให้เกิดความแตกแยกในคนเสื้อแดงและรัฐบาลมากขึ้นอย่างไรก็ตาม วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสุรชัย ได้ทำหนังสือขอกความเป็นธรรม กรณีถูกกลั่นแกล้งจากตำรวจ สภ.แม่ริมและดีเอสไอเช่นกัน โดยระบุว่า คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 5 คดีของเขานั้นถูกตัดสินจำคุกรวม 12 ปี 6 เดือน ได้รับอภัยโทษเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2555 ลดโทษ 1 ปี 9 เดือน คงเหลือโทษจำคุกอีก 8 ปี 4 เดือน โดยจำคุกมาแล้ว 2 ปี 5 เดือนและเวลานี้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม จึงได้ทำหนังสือทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษพิเศษรายบุคคลไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 พร้อมกับผู้ต้องขังคดีเดียวกันอีก 2 คน คือ ธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล และวันชัย แซ่ตัน ซึ่งทั้งคู่ได้รับพระราชทานอภัยโทษและปล่อยตัวไปแล้ว สุรชัยย้ำด้วยว่า มีสัญญาณว่าเขาอาจได้รับพระราชทานอภัยโทษในเดือนสิงหาคม 2556 นี้ผ่านมา 3 ปี โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ทางเรือนจำพิเศษฯ ได้สอบถามไปยังฝ่ายทะเบียนประวัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนเสนอเรื่องทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ไปยังกรมราชทัณฑ์ ก็ไม่มีเรื่องจาก สภ.แม่ริม ก่อนที่อัยการคดีพิเศษ นายจรูญพงศ์ อินทจาร จะฟ้องคดีตามมาตรา 112 ทั้งหมด ก็ได้สอบถามไปยงสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกท้องที่ให้ส่งคดีมายังดีเอสไอเพื่อฟ้องคราวเดียวกัน เพราะได้ตกลงกันว่าข้าพเจ้าจะขอรับสารภาพทั้งหมดทุกคดี เพื่อให้คดีจบเร็ว จะได้ทำหนังสือทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษพิเศษ แล้วจู่ๆ เอาคดีมายัดให้ข้าพเจ้าอีก จะให้พิจารณาอย่างไร สุรชัยระบุในจดหมายในจดหมายยังระบุด้วยว่า นับตั้งแต่หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ถูกจับกุม เขาถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสิ้น 11 คดี คือ1.ถูกนายชวน หลีกภัย แจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท คดีจบลงโดยศาลสั่งปรับ 25000 บาท ในปี 25502.ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า และ พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตในปี 2552 คดีจบลงโดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง3.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมชุมนุม ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและพากันเดินขบวนเป็นแถวกีดขวางการจราจรที่เมืองพัทยา ในเดือนเมษายน 2552 ร่วมกับนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล4.ถูกแจ้งข้อหาร่วมชุมนุม และโฆษณาให้ปิดถนน ในการชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาลในเดือนเมษายน 2552 ผลคดีเงียบหายไป คาดว่าสั่งไม่ฟ้อง5.ถูกแจ้งข้อหาขู่ฆ่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ทางสถานีวิทยุกระจายเสียง ที่จังหวัดเชียงใหม่ในปี 2552 ผลคดีเงียบหายไป คาดว่าสั่งไม่ฟ้อง6.ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดย สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในปี 2552 ผลคดีเงียบหายไป คาดว่าสั่งไม่ฟ้อง7.ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในการปราศรัยที่ท้องสนามหลวง ในเดือนธันวาคม 2551 ผลคดีถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน 8.ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในการปราศรัยที่ห้างอิมพีเรียลเวิร์ล ลาดพร้าว ในปลายปี 2553 ผลคดีถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน 9.ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในการปราศรัยที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในปลายปี 2553 ผลคดีถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน 10.ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในการปราศรัยบนเวทีวัดย่านลาดพร้าว ในปลายปี 2553 ผลคดีถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน 11.ถูกแจ้งขอหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในการปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงที่จังหวัดอุดรธานี ในปลายปี 2553 ผลคดีถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน | นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยานายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) ผู้ต้องขังคดีหมิ่นประมาทสถาบันกษัตริย์ ตามมาตรา 112 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | ดีเอสไอ,มาตรา 112,สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์,สุรชัย แซ่ด่าน,หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ | https://prachatai.com/journal/2013/07/47829 | [
0,
259,
54741,
146177,
160511,
259,
231095,
4388,
191028,
177882,
4388,
187882,
4552,
179918,
259,
38058,
84281,
98996,
4188,
67279
] |
เฟม-ชวินโรจน์ เติบโต 10 ปีประสบการณ์ไม่ซ้ำ | เปิดรับบทหลากหลาย พร้อมเล่นซีรีส์วายครั้งแรกได้เข้ามาโลดแล่นในวงการครบ 10 ปี แจ้งเกิดตั้งแต่เป็นนักแสดงเด็กร่วมแสดงภาพยนตร์ บ้านฉันตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) จนตอนนี้หนุ่ม เฟม-ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล เติบโตเป็นหนุ่มหล่อยังเดินหน้าในเส้นทางบันเทิงประสบการณ์ไม่ซ้ำ ล่าสุดปลายปีที่ผ่านมาเพิ่งถูกแฮ็กอินสตาแกรมที่มีคนตามกว่า 5 แสน แต่โชคดีกู้คืนกลับมาได้ถือว่าอุปสรรคผ่านไป ปีนี้เตรียมมีผลงานพร้อมปังและเปิดตัวรับเล่นซีรีส์วายเรื่องแรก รักนาย My Ride ทาง LINE TV เพิ่งบวงสรวง เลยชวน เฟม อัปเดตชีวิตเริ่มจากตอนนี้เรียนใกล้จบแล้ว รับงานได้เต็มที่ ปีนี้เลยมีภาพยนตร์ 2 เรื่อง ปิดกล้องแล้ว เล่นภาพยนตร์ My God Father อย่าเรียกพี่ว่าพ่อ กับ พี่เต๋อ-ฉันทวิชช์ และ พี่โป๊ป-ธนวรรธน์ เป็นเพื่อนแก๊งพี่เต๋อ คาแรกเตอร์น่ารัก ปลายปีเป็นพระเอกภาพยนตร์ของพี่ปอ-วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส บริษัท 360 องศาเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เค้าสร้างหนังเกี่ยวกับการดูแลสิ่งแวดล้อม มีซีรีส์จีนที่ถ่ายไปแล้วเรื่อง เล่ห์เกมรัก คาแรกเตอร์แบดบอยเรียกว่าบทหลากหลายขึ้น? โชคดีที่ช่วงปีนี้หลายๆคนนึกถึง ผู้จัดฯนึกถึง เราก็หายๆไปเพราะไอจีเข้าไม่ได้มา 6 เดือน มันเด้งออกและบอกว่ามีคนพยายามเข้าไอจีเรา เราก็ยืนยันตัวตน แต่อีเมลที่ใช้สมัครมันนานมาก เราสะเพร่าเองจำรหัสไม่ได้ โชคดีเฟมได้รับความช่วยเหลือจากคุณณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการคอมพิวเตอร์ คอยให้ความช่วยเหลือประสานงานและอธิบายขั้นตอน ให้เราได้มีโอกาสยืนยันตัวตนได้ทันในทุกๆครั้งพี่เค้าบอกว่าเกิดแบบนี้บ่อย อยากบอกหลายๆคนให้หมั่นเช็กความปลอดภัยของโซเชียลของเรา จำและเก็บพาสเวิร์ดดีๆ อย่างไอจีของเฟมมียอดคนติดตาม 5 แสน ก็เสียดายเพราะมันเป็นเรื่องราวของเราที่ถูกบันทึกไว้ บางรูปเราลบไปหมดแล้วเหลือแต่ในไอจี ถามว่ามีถอดใจมั้ยว่าไม่ได้ ก็คิดนะ ทำใจแล้ว ต้องขอบคุณพี่ที่ช่วยประสานให้ ด้วยโชคชะตาหรืออะไรเค้าก็ส่งมาบอกว่า ยืนยันได้แล้วนะ ตอนแรกไม่เชื่อเลย ตอนนั้นอยู่ในกองถ่ายโปสเตอร์หนัง ผมกำลังปรึกษาพี่เต๋อ เพราะเค้าเป็นคนที่โดนแฮ็กคนแรกๆ เมื่อนานมากแล้ว เค้ากำลังปลอบผมเลยปีที่แล้ว ที่ผ่านมา มีซีรีส์ติดต่อมาแต่ตารางเรียนไม่ได้ก็ต้องปล่อยไปเพราะผมอยากจบพร้อมเพื่อน ตอนนี้ผมก็มองว่าอะไรดีๆคงกำลังมาก่อนหน้านี้เคยบอกว่าตัวเองไม่เหมาะกับสายวาย แต่วันนี้ตัดสินใจรับแล้ว? จริงๆก็มีมาเรื่อยๆ เราก็พยายามดูเรื่องของบทบาทที่ได้รับ เรื่องที่รับเป็นบทประพันธ์ ของรังสิมันต์ นามปากกา หมอตุ๊ด ชื่อเรื่องรักนาย My Ride เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของคุณหมอกับวินมอเตอร์ไซค์ว่ามารักกันได้ยังไง ความรักไม่ได้เลือกอาชีพที่ดูต่างกันมาก ไม่ได้เลือกเพศ ถ้าคนเราคลิกกันมันก็มีโอกาสรู้สึกดีๆกัน เลิฟซีนไม่หวือหวาก็ฟินได้ เฟมเล่นเป็นหมอ อีกคนชื่อฟลุ้ค-พงศกร นักแสดงใหม่ เป็นทีมค่ายใหม่ เราอ่านบทแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักดี อีกอย่างได้คุยกับผู้กำกับเค้าสนใจอยากให้เรามารับบทนี้จริงๆ ไม่ได้มีฉากหวือหวา เพราะเป็นซีรีส์วายแนวน่ารักอบอุ่น กระจายบทบาทคู่ชายหญิง เฟมรู้สึกว่าเราโตแล้ว อยากลองหลายบทบาทการทำงานเข้มข้น เพราะเราอยู่มานาน เมื่อเทียบกับนักแสดงวัยเดียวกัน ทำให้เราโตกว่าคนอื่นมั้ย? จริงๆแล้วทุกบทบาท เหมือนเราต้องมาเริ่มใหม่เพราะแต่ละงานไม่เหมือนกัน การบรีฟหรือความต้องการของผู้กำกับ การแสดงแต่ละเรื่องก็ไม่เหมือนกัน เหมือนเราได้เรียนรู้ใหม่ ทุกงานก็สอนเรา ทำให้เราได้ทำอะไรที่หลากหลายขึ้น ปีนี้อาจจะมีโปรเจกต์พิเศษเกี่ยวกับงานเพลงด้วย ปีที่เป็นปีที่ 10 ของเฟม ตั้งแต่งานหนังเรื่องแรก ประสบการณ์ก็จะสอนให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ทุกช่วงเวลาได้ ถือว่าผมมีโอกาสได้เห็นอะไรเยอะ หวังว่าจังหวะโอกาสจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นและพร้อมพัฒนาได้เต็มที่ครับ. | ได้เข้ามาโลดแล่นในวงการครบ 10 ปี แจ้งเกิดตั้งแต่เป็นนักแสดงเด็กร่วมแสดงภาพยนตร์ บ้านฉันตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) จนตอนนี้หนุ่ม เฟม-ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล เติบโตเป็นหนุ่มหล่อ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เฟม ชวินโรจน์,ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล,ซีรีส์วาย,รักนาย My Ride,LINE TV,อัปเดตชีวิต,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1783805 | [
0,
259,
74633,
3945,
259,
70663,
9964,
47820,
6196,
40438,
54434,
4348,
88016,
35436,
68115,
66848,
2091,
15334,
12848,
2752
] |
สระบุรีรอดตกชั้น วีระพล เตรียมรำแก้บนหลวงพ่อโต 99 รอบ | วีระพล อดิเรกสาร ประธานสโมสร ขุนศึก สระบุรี เอฟซี เตรียมรำแก้บนหลวงพ่อโต วัดสะตือ เป็นจำนวน 99 รอบ หลังสร้างผลงานรอดตกชั้นไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมาชนิดหักปากกาเซียนทุกสำนัก เช่นเดียวกับบรรดาแฟนคลับทีมสระบุรี ที่เตรียมยกพลเดินเท้ากว่า 30 กม. จากสนามเหย้า อบจ.สระบุรี ไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด ส่วนทีม ,เทพอินทรี อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด น้องใหม่ยามาฮ่าลีกวัน (ดิวิชั่น 1) โชว์ความเป็นเจ้าบุญทุ่มอีกครั้ง เมื่อจัดการคว้าตัวอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติไทย คัพฟ้า บุญมาตุ่น มาร่วมทัพ,สืบเนื่องจากการรอดพ้นการตกชั้นในศึกโตโยต้าไทยพรีเมียร์ ลีก 2015 ของทีม ขุนศึกสระบุรี เอฟซี น้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดในปีที่ผ่านมาเป็นปีแรก พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์รอดพ้นการตกชั้นได้ชนิดหักปากกาเซียนทุกสำนัก,ล่าสุดจากการรอดตกชั้นของทีม ขุนศึก ดังกล่าว ทางด้านทีมผู้บริหาร นำโดยวีระพล อดิเรกสาร ประธานสโมสรฯ ได้เตรียมแก้บนหลังจากที่ประสบความสำเร็จ โดยเตรียมรำแก้บนหลวงพ่อโต ณ วัดสะตือ จำนวนถึง 99 รอบ ตามที่ได้บนไว้ ซึ่งจะมีการแก้บนในวันเสาร์ที่ 16 ม.ค. เวลา 13.30 น.เป็นต้นไป,ขณะที่กลุ่มแฟนคลับของทีมสระบุรี เอฟซีก็ได้มีการบนบานศาลกล่าวไว้ด้วยเช่นกัน โดยแฟนคลับขุนศึกได้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หากสระบุรีรอดตกชั้นจะเดินทางไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ในวันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ซึ่งจะใช้วิธีเดินเท้าออกจากสนาม อบจ.สระบุรี ไปยังวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร รวมระยะทางราว 30 กิโลเมตร เลยทีเดียว,ส่วนทางด้านความเคลื่อนไหวของสโมสร เทพอินทรี อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด น้องใหม่ของศึกยามาฮ่าลีกวัน (ดิวิชั่น 1) มีข่าวดีอีกครั้ง เมื่อจัดการคว้าตัวคัพฟ้า บุญมาตุ่น กองกลางตัวทำเกมจากศรีสะเกษ เอฟซี ทีมดังจากไทยพรีเมียร์ลีก เข้ามาร่วมทัพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่เปิดเผยค่าตัวและค่าเหนื่อย,บิ๊กอ๋อ ธนพร สมศรี ผู้อำนวยการสโมสรเผยว่า คัพฟ้าถือเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางที่เราให้ความสนใจ ด้วยประสบการณ์ของเจ้าตัวที่เคยผ่านเวทีไทยลีก รวมไปถึงทีมชาติมาแล้ว เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้แผงมิดฟิลด์ของเรามีมิติมากขึ้น ดังนั้น เราจึงตกลงเซ็นสัญญากับเจ้าตัวด้วยระยะเวลา 2 ปี ส่วนค่าตัวและรายละเอียดต่างๆทางบอร์ดบริหารขอปิดไว้เป็นความลับภายในสโมสร | วีระพล อดิเรกสาร ประธานสโมสร ขุนศึก สระบุรี เอฟซี เตรียมรำแก้บนหลวงพ่อโต วัดสะตือ เป็นจำนวน 99 รอบ หลังสร้างผลงานรอดตกชั้นไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมาชนิดหักปากกาเซียนทุกสำนัก | สระบุรี เอฟซี,วีระพล อดิเรกสาร,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/560899 | [
0,
259,
137738,
113501,
259,
196344,
134028,
259,
177091,
76527,
259,
120251,
25851,
259,
70433,
196870,
106557,
17383,
175703,
58368
] |
|
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: ดินแดนคนตาบอด | เรื่องที่เขียนในครั้งนี้ จะเป็นเรื่องสั้นครับ คือ The Country of the Blind แต่งโดย เอช.จี.เวลส์ พิมพ์ครั้งแรก ค.ศ.1904 ฉบับภาษาไทยแปลโดยมโนราห์ ให้ชื่อไทยว่า ดินแดนคนตาบอด พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สมมติเอช.จี.เวลส์(1866-1946) เป็นนักเขียนคนสำคัญของอังกฤษ และถือว่าเป็นนักคิดสังคมนิยมคนสำคัญ งานเขียนของเขามีลักษณะหลากหลาย แต่งานที่มีชื่อเสียงของเขาคือนิยายวิทยาศาสตร์ คือเรื่อง The Time Machine (เครี่องจักรเวลา-1895) เป็นนิยายเรื่องแรกที่นำเสนอการเดินทางผ่านเวลาโดยเครื่องจักร นอกจากนี้เรื่องอื่นก็เช่น The Island of Doctor Moreau (เกาะของ ดร.โมโร- 1896) The Invisible Man (มนุษย์ล่องหน- 1897) The War of the Worlds (สงครามระหว่างโลก- 1897) The First Men in the Moon (มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์-1901) และ When the Sleeper Wakes (ตื่นข้ามยุค- 1910) เป็นต้นสำหรับเรื่อง ดินแดนคนตาบอด เล่าถึง ชายคนหนึ่งที่ชื่อ นูเนส(Nuñez) ซึ่งเดินทางไปยังเทือกเขาอันดิสในอเมริกาใต้ เพื่อพิชิตยอดเขาสูง แต่ได้ผลัดตกลงไปในหุบเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกตัดขาดจากดินแดนส่วนอื่นของโลกอย่างสิ้นเชิง ดินแดนนี้คือดินแดนคนตาบอด ที่ประชาชนทั้งหมดตาบอดทั้งสองข้างเพราะตาบอดมาตั้งแต่เกิดจนโตขึ้นมา และสืบทอดมาอีกรุ่นต่อรุ่นอีกหลายรุ่น จนไม่มีใครเคยทราบถึงประสบการณ์ของการมองเห็นว่ามีลักษณะอย่างไร ผู้คนไม่เข้าใจแม้กระทั่งความหมายของคำว่า มองเห็น และแม้กระทั่งความหมายของคำว่า ตาบอด เพราะเมื่อการมองไม่เห็นเป็นสิ่งปกติทางสังคม คำว่าตาบอดจึงปราศจากความหมาย เท่ากับว่าเมื่อนูเนซมาถึงดินแดนนี้ เขาจึงกลายเป็นคนเดียวที่มองเห็นและมีประสบการณ์โลกภายนอกนูเนซพยายามจะเล่าเรื่องโลกภายนอกที่กว้างใหญ่ ท้องฟ้า ดวงดาว ภูเขา เล่าถึงเมืองใหญ่ภายนอก คือ โบโกตาเมืองหลวงของโคลัมเบีย ที่มีผู้คนมากมายและมีความแตกต่างอย่างมากกับดินแดนในหุบเขา แต่คนในหุบเขาเชื่อว่า โลกของเขาอยู่ภายใต้หลังคาหินครอบ จึงไม่มีใครเข้าใจหรือเชื่อในสิ่งที่นูเนซเล่า พวกเขาคิดว่า นูเนซเกิดมาจากก้อนหินและมีสมองยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง คนในหุบเขาจึงเรียกเขาว่า โบโกตา นูเนซนึกถึงวลีที่ว่า ในดินแดนคนตาบอดคนตาเดียวก็อาจเป็นพระราชา จึงคิดว่าจะอาศัยประสบการณ์จากการมองเห็นในการสร้างอำนาจ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะประสบการณ์ของนูเนซกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ในดินแดนนี้ในที่สุด นูเนซก็กลายเป็นพลเมืองของดินแดนคนตาบอด ทำงานกับชาวพื้นเมือง ชื่อ ยาคอบ และเกิดความรักกับเมดินา-ชาโรต ลูกสาวคนเล็กของยาคอบ แต่การแต่งงานมีปัญหา เพราะชาวหุบเขาเห็นว่าเขาเป็นพวกปัญญาทึบผิดปกติ ต้องทำการรักษา ผู้เฒ่าที่เป็นหมอเห็นว่า อาการสมองเพี้ยนของนูเนซมาจากของพิลึกกึกกือที่เรียกว่า นัยน์ตา ถ้าจะทำให้นูเนซหายขาด ต้องจัดการเอาออกเสีย การมีนัยน์ตาและมองเห็นจึงกลายเป็นโทษทัณฑ์ เมื่อเป็นเช่นนี้ นูเนซจึงต้องตัดสินใจหนีออกจากดินแดนคนตาบอด และเรื่องก็จบลงที่นูเนซหนีได้สำเร็จ แต่ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ต่อมา ในฉบับพิมพ์ใหม่ ค.ศ.1939 เวลส์ได้แก้ไขเรื่องตอนสุดท้าย ให้นูเนซพาเมดินา-ชาโรตหนีออกมาด้วย และหุบเขาถล่มทำลายหุบเขาคนตาบอดจนหมดเรื่องสั้นดินแดนคนตาบอดของเวลส์จึงตีความได้หลายอย่าง ถ้าตีความในฉบับที่แก้ไขใหม่ อาจสรุปได้ว่าในที่สุดคนตาดีก็ต้องเหนือกว่าคนตาบอด ซึ่งถ้าเป็นดังนั้น งานของเวลส์ก็อาจไม่มีคุณค่านัก แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งว่า การมองเห็นของนูเนซ ทำให้เขาเล่าแต่เรื่องดวงดาว ท้องฟ้า เมืองใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์เลยในดินแดนคนตาบอด แต่คนตาบอดที่ไม่รู้เรื่องนี้กลับทำงาน และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข คำว่า โบโกตาที่หมายถึงเมืองใหญ่ กลายเป็นคำที่เรียกแบบเสียดสี เวลส์กำลังจะบอกว่า บรรดาความรู้และอารยธรรมนั้นไร้ความหมายในการสร้างสังคมให้มีความสุขถ้าพัฒนามาจากเรื่องของเวลส์มาเล่าถึงเมืองสมมติอีกเมืองหนึ่ง ที่เป็นบ้านเมืองอันมืดบอดทางด้านสิทธิเสรีภาพ คำว่า ประชาธิปไตยมีความหมายในเชิงเสียดสี และเป็นเรื่องเพ้อฝันที่ไม่อาจเข้าใจได้ เมื่อนูเนซในเมืองนี้ พยายามเล่าเรื่องประชาธิปไตยให้คนในเมืองนี้ฟัง ก็ไม่ประสบความสำเร็จ คนในเมืองสมมตตาบอดในเรื่องการเมือง จึงมีจินตภาพว่าประชาธิปไตยต้องเป็นเรื่องของการโกงการทุจริต จึงสรุปว่าอำนาจนิยมและเผด็จการทหารเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมแล้ว การลงประชามติในเมืองสมมต ประชาชนในเมืองจึงพร้อมใจเลือกเผด็จการทหาร เพราะมั่นใจว่าเผด็จการทหารคือความสงบเรียบร้อย ผู้นำฝ่ายทหารล้วนเป็นคนดีไม่มีใครทุจริต ไม่ว่าใครจะมาร้องโฆษณาว่า โลกภายนอกเขาไม่มีเผด็จการทหารกันแล้ว คนในเมืองสมมตก็ไม่เชื่อในจินตภาพของโลกภายนอก หรือเห็นว่าบ้านเมืองของตนมีลักษณะพิเศษที่เหมาะกับเผด็จการทหาร เผด็จการทหารจึงกลายเป็นข้อดีที่ห้ามใครมาแก้ไข ชาวเมืองสมมตต่างก็บอกว่า ถ้าประชาธิปไตยเมืองอื่นดีอย่างนั้น คุณก็ไปอยู่เมืองอื่นสิ จะมาอยู่เมืองนี้ทำไมฉบับนี้ ถือว่า ผมเล่านิทานไม่สนุกสักเรื่องแล้วกัน ใครจะเอาไปโยงกับเรื่องอะไรก็ได้ตามแต่ใจครับ เผยแพร่ครั้งแรกใน โลกวันนี้วันสุข ฉบับที่ 577 วันที่ 13 สิงหาคม 2559 | เรื่องที่เขียนในครั้งนี้ จะเป็นเรื่องสั้นครับ คือ The Country of the Blind แต่งโดย เอช.จี.เวลส์ พิมพ์ครั้งแรก ค.ศ.1904 ฉบับภาษาไทยแปลโดยมโนราห์ ให้ชื่อไทยว่า ดินแดนคนตาบอด พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สมมติ | การเมือง,วัฒนธรรม | วรรณกรรม,สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ,เอช.จี.เวลส์ | https://prachatai.com/journal/2016/08/67419 | [
0,
486,
21751,
304,
287,
74113,
259,
89885,
14785,
101650,
12682,
260,
66571,
260,
200713,
29373,
259,
54143,
142821,
259
] |
บก.ลายจุด ร่วมปั่นจักรยานปลูกป่าลดภาวะโลกร้อน | บก.ลายจุดร่วมปั่นจักรยานปลูกป่าลดภาวะโลกร้อน ปรับกลยุทธ์ เสื้อแดง มาสร้างสรรค์สังคมช่วยปลูกต้นไม้กันน้ำท่วม สนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมาที่ จ.ร้อยเอ็ด กลุ่มวันอาทิตย์สีแดง นำโดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด กลุ่มคนร้อยเอ็ดรักประชาธิปไตย นำโดยนายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร ประธานกลุ่ม รักษาการประธานผู้ประสานงานกลุ่ม นปช.คนเสื้อแดงภาคอีสาน และนายอดิศร วัฒนาบุตร รักษาการเลขาธิการกลุ่ม นปช.ภาคอีสาน ร่วมกับชมรมปั่นจักรยานจังหวัดร้อยเอ็ด นำโดยนายอนันต์ เจริญแก่นทราย ประธานชมรมปั่นจักรยานจังหวัดร้อยเอ็ด ประมาณ 300 คน จัดโครงการปั่นจักรยานปลูกป่าชุมชนลดภาวะโลกร้อนวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและเป็นการ กล่อมเกลาจิตใจให้ทุกคนมีจิตใจอ่อนโยน เพิ่มความผูกพันในหมู่ประชาชน เชื่อมโยงกับศาสนาและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยนัดหมายรวมกันที่หน้าบึงพลาญชัย เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จากนั้นปั่นจักรยานรอบบึงพลาญชัย 1 รอบ และเดินทางเส้นทางร้อยเอ็ด-โพนทอง ไปยังวัดป่าบ้านมีชัย ต.หมู่ม้น อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด เป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เพื่อปลูกป่าในพื้นที่ 8 ไร่ ประกอบด้วย ต้นแคป่า ต้นหมากเม้า ต้นประดู่ และต้นยางนา รวมทั้งสิ้น 600 ต้น โดยมี หลวงตา ประเด็จ เขมะจิตโต เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านมีชัย ทายกทายิกาวัดและชาวบ้านมีชัยให้การต้อนรับและร่วมปลูกป่า มีกิจกรรมเลี้ยงพระเพล ถวายเงินและจตุปัจจัยไทยทาน เยี่ยมชมธนาคารต้นไม้ศูนย์จังหวัดร้อยเอ็ดโดยนายสมบัติกล่าวว่า หลังเหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงจะปรับกระบวนการทำงานเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ต่อสังคมมากขึ้น เท่าที่คนเสื้อแดงจะทำได้ในทุกเรื่องและไม่ถูกสังคมต่อต้าน เช่น งานสิ่งแวดล้อม งานด้านอาสาสมัคร หรือหลังน้ำลด จะนำคนเสื้อแดงเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมในทุกจังหวัด จะเข้าไปร่วมด้วยโดยไม่เข้าไปขัดแย้งกัน แม้มีกลุ่มคนเสื้อเหลืองร่วมด้วยก็ตามคนเสื้อแดงจะเป็นอาสาสมัครร่วมเคลียร์พื้นที่หลังน้ำลด ทำความสะอาดบ้าน ซ่อมแซมฟื้นฟู อาคารบ้านเรือน และให้คำปรึกษาแก้ปัญหาระยะยาวหลังน้ำลด เช่น เรื่องหนี้สินของผู้ประสบภัย โดยกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ทั้งหมดจะเป็นผู้เข้าไปให้ความช่วยเหลือและ ดำเนินการ ในลักษณะของการที่ทุกคนทุกสีต่างมีพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งต้องอยู่ในสังคมของคนไทยด้วยกันนายสมบัติกล่าวจากนั้นเดินทางกลับมายังบึงพลาญชัย ร่วมรับประทานอาหาร และทำกิจกรรมพบปะพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบและชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มคน เสื้อแดง และเปิดโอกาสให้ แสดงความคิดเห็นในเรื่องการบ้านการเมือง จนถึงเวลาประมาณ 16.00น. เป็นอันสิ้นสุดกิจกรรมแยกย้ายกันกลับ | บก.ลายจุดร่วมปั่นจักรยานปลูกป่าลดภาวะโลกร้อน ปรับกลยุทธ์ เสื้อแดง มาสร้างสรรค์สังคมช่วยปลูกต้นไม้กันน้ำท่วม สนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. | การเมือง | ภาวะโลกร้อน,ร้อยเอ็ด,สมบัติ บุญงามอนงค์,เสื้อแดง | https://prachatai.com/journal/2010/10/31621 | [
0,
259,
193870,
260,
53377,
41076,
259,
27605,
11821,
82904,
66217,
4728,
134212,
82551,
1,
0,
0,
0,
0,
0
] |
จับไม้ประดู่กลางถนน ตามเจอตอในป่า สั่งสอบ หน.หน่วย ส่อรู้เห็น | ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติฯพิษณุโลก ร่วมกับทหาร ตำรวจ จับไม้ประดู่ขนาดใหญ่ 5 ท่อนบรรทุกใส่รถ ขยายผลตามไปเจอตอในป่าเพิ่งตัดโค่นสดๆ สั่งย้าย หน.หน่วยที่รับผิดชอบ ออกนอกพื้นที่ทันทีเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า จากการสนธิกำลังร่วมกับ พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 และรอง ผอ.กอ.รมน. จ.พิษณุโลก นายอัครชัย อาสุ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก และตำรวจภูธรภาค 6 ควบคุมตัว นายวสันต์ อินทนิน อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 57 หมู่ 5 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ขณะขับรถสิบล้อยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-0895 อุตรดิตถ์ บรรทุกไม้ประดู่ท่อน จำนวน 5 ท่อนโดยมีผ้าใบปิดคลุม ที่บริเวณด่านตรวจความมั่นคง บ้านกรดงาม สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาไว้เพื่อตรวจสอบไม้ที่บรรทุกมาทั้งนี้ นายวสันต์ อินทนิน ได้แสดงเอกสารซื้อขายไม้ให้ดู แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบเอกสารซื้อขายนั้นเป็นเท็จ และไม้ประดู่มีการลักลอบตัดมาจากเขตพื้นที่ป่า ส.ป.ก. และจากเขตป่าสงวนเขากระยาง จ.พิษณุโลก จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีอย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-1031 เพชรบูรณ์ บรรทุกไม้ท่อนจำนวน 5 ท่อน เสียหลักตกถนนอยู่บริเวณบ้านน้ำลัด หมู่ 17 ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เมื่อไปตรวจสอบพบเพียงรถบรรทุกแต่ไม่พบไม้ตามที่ได้รับแจ้ง สอบสวน นายสว่าง เทียนบัว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/1 หมู่ที่ 3 ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ คนขับรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวทราบว่า รับจ้างขนไม้มาจากบ้านน้ำตาก หมู่ 17 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย เพื่อนำไปส่งที่ จ.ชลบุรี โดยได้รับค่าจ้าง 20000 บาท แต่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ส่วนไม้มีรถบรรทุกสิบล้ออีกคันมาขนไปแล้วนายอัครชัย อาสุ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก จึงประสานตำรวจภาค 6 ติดตามสกัดจับรถที่บรรทุกไม้ประดู่ท่อนได้ที่ จ.พิจิตร ดังกล่าว และเชื่อว่าการกระทำของผู้ถูกจับกุมน่าจะเป็นขบวนการที่มีนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง และอาจมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วยต่อมา บ่ายวันที่ 13 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในป่าบ้านน้ำตาก หมู่ที่ 17 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่เขตป่าสงวนเขากระยาง พบตอไม้ประดู่อายุกว่า 100 ปี ถูกตัดโค่นใหม่สด ขนาดเส้นรอบวงของลำต้น 2.95 เมตร มีร่องรอยการแปรรูปโดยใช้เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้เป็นการอนุญาต ซึ่งตรงกับไม้ประดู่ที่ยึดได้จากรถบรรทุกสิบล้อในพื้นที่ อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร นายอัครชัย ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นครไทย เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวสันต์ อินทนิน และนายสว่าง เทียนบัว พร้อมกับพวกตามกฎหมายพร้อมกันนี้ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการตัดไม้รายนี้หรือไม่ โดยออกคำสั่งย้ายหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.3 (หนองกะท้าว) และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด) รวมทั้งเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ออกนอกพื้นที่ไปก่อน ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2563 เป็นต้นไปนายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า นายอัครชัย อาสุ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ได้มีคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 1707/2563 ลงวันที่ 13 พ.ค. 2563 ให้ย้าย นายไชยวัฒน์ หล่อฐานนท์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้นครไทย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.3 (หนองกะท้าว) อ.นครไทย และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด) ไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ชาติตระการ และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.4 (ป่าแดง-แก่งบัวคำ) อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก โดยเป็นการสลับตำแหน่งกับ นายวิวัฒน์ อินแปง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานพร้อมสั่งย้าย นายพิษณุ นวมเฟื่อง พนักงานพิทักษ์ป่า ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) ช่วยปฏิบัติราชการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.3 (หนองกะท้าว) อ.นครไทย ย้ายไป สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ประจำศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ | ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ พิษณุโลก ร่วมกับทหาร ตำรวจ จับไม้ประดู่ขนาดใหญ่ 5 ท่อนบรรทุกใส่รถ ขยายผลตามไปเจอตอในป่าเพิ่งตัดโค่นสดๆ สั่งย้าย หน.หน่วยที่รับผิดชอบ ออกนอกพื้นที่ทันที | ข่าว,ทั่วไทย | จับไม้ประดู่,โค่นไม้ประดู่,จับไม้ประดู่ พิษณุโลก,ย้ายหัวหน้าป่าไม้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1844049 | [
0,
259,
85322,
49947,
48662,
45173,
12976,
15918,
4348,
154301,
11699,
167499,
259,
142932,
911,
62760,
260,
13999,
56705,
234362
] |
อุเทน ไล่ ปิยบุตร อ่าน ก.ม. พ.ร.ป.พรรคการเมือง60 อย่าสับสน | อุเทน แย้ง ปิยบุตร อ้างหลายพรรคกู้ยืมเงิน ไล่ไปอ่าน ก.ม.ให้ละเอียดก่อนออกมาให้ข่าวสร้างความสับสน ชี้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 ไม่เปิดช่องให้หารายได้อื่น ต่างจาก พ.ร.ป.พรรคการเมือง 50 ชัดเจน ระบุเป็นเหตุหนึ่งที่ตัดสินใจยุติ พรรคคนไทย เพราะหารายได้ยุ่งยาก-เสี่ยงผิด ก.ม. ชี้ อนาคตใหม่ จึงเข้าข่ายใช้จ่ายเงินหาเสียงขัด ก.ม.,เมื่อวันที่ 23 พ.ค.62 นายอุเทน ชาติภิญโญ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงว่าการที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พรรคอนาคตกู้เงินเพื่อใช้ในการเลือกตั้งสามารถดำเนินการได้โดยไม่ผิดกฎหมาย รวมทั้งอ้างว่าพรรคการเมืองอื่นๆ อาทิ ชาติไทย พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ก็มีรายการกู้ยืมเงินในรายงานบัญชีงบดุลที่ยื่นต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เกรงประเด็นที่นายปิยบุตรหยิบยกขึ้นมานั้น อาจสร้างความสับสน และความเข้าใจผิดให้กับสังคม เนื่องจากการดำเนินงานของพรรคอนาคตใหม่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง ปี 2560 ในขณะที่รายการกู้ยืมเงินของพรรคการเมืองอื่นๆ นั้นอยู่ภายใต้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2550 ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนั้นมีเนื้อหาในส่วน รายได้ของพรรคการเมือง แตกต่างกัน โดยในมาตรา 53 พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2550 ได้กำหนดให้พรรคการเมืองมี รายได้อื่น ได้ พรรคจึงถือเอาการกู้ยืมเงินเป็นรายได้ แต่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ได้ตัดออกไป คงไว้ในส่วนของทุนประเดิม ค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิก เงินระดมทุน และเงินบริจาค เป็นต้น ด้วยเจตนารมณ์ที่ไม่ต้องการเกิดช่องโหว่ให้พรรคการเมืองจะมีการครอบงำจากนายทุน หรือมีเจ้าของพรรคอย่างที่เคยปรากฏมาในอดีต ซึ่งในส่วนของเงินบริจาคก็กำหนดไว้สูงสุดไว้เพียงรายละ 10 ล้านบาทเท่านั้น,ที่อาจารย์ปิยบุตร พยายามนำกรณีของพรรคการเมืองอื่นๆ มาเทียบเคียง เหมือนพูดความจริงเพียงส่วนเดียวเท่านั้น เพราะหากพิจารณาอย่างละเอียด ก็จะพบว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 มีผลบังคับใช้ โดยในมาตรา 62 ไม่ได้มีเรื่องรายได้อื่นไว้แล้ว พร้อมกำหนดประเภทของรายได้ไว้แค่ 7 ประการ พรรคการเมืองจึงไม่สามารถกู้ยืมเงินมาเป็นรายได้ ได้อีกต่อไป ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจยุติพรรคคนไทย ที่ผมเคยก่อตั้งและเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องมีข้อจำกัดในการหารายได้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ค่อนข้างจำกัดและยาก ทั้งยังสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิดกฎหมายด้วย นายอุเทนระบุ,นายอุเทน กล่าวต่อด้วยว่า ในกรณีของพรรคอนาคตใหม่นั้น ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะเมื่อเงินกู้ยืมจากนายธนาธร ไม่มีลักษณะเป็นรายได้ที่ถูกต้องตามกฎหมายของพรรคการเมือง อีกทั้งยังมีข่าว ระบุชัดเจนว่ามีการนำเงินนั้น ไปใช้ในกิจกรรมหาเสียงของพรรค เมื่อคราวเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อพิจารณาในมาตรา 87 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 เกี่ยวกับ การใช้จ่ายเงินของพรรคการเมือง ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า เงินหรือทรัพย์สินของพรรคการเมืองต้องนำไปใช้จ่ายเพื่อการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของพรรคการเมือง และสมาชิก และค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคการเมือง หากมีการวินิจฉัยว่าเงินที่กู้ยืมจากนายธนาธรไม่ถือเป็นรายได้ของพรรคอนาคตใหม่ ตามกฎหมายกำหนด ก็จะเข้าข่ายว่า พรรคอนาคตใหม่ ได้นำเงินที่นอกเหนือจากเงินหรือทรัพย์สินของพรรคมาใช้ ซึ่งน่าจะมีบทลงโทษทางกฎหมายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง. | อุเทน แย้ง ปิยบุตร อ้างหลายพรรคกู้ยืมเงิน ไล่ไปอ่าน ก.ม.ให้ละเอียดก่อนออกมาให้ข่าวสร้างความสับสน ชี้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง60 ไม่เปิดช่องให้หารายได้อื่น ต่างจาก พ.ร.ป.พรรคการเมือง 50 ชัดเจน | ข่าว,การเมือง | อุเทน ชาติภิญโญ,กู้เงิน,อนาคตใหม่,พรป.การเมือง,ปิยะบุตร แสงกนกกุล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1574411 | [
0,
259,
148601,
192537,
259,
37672,
259,
107451,
3755,
5405,
233016,
234235,
3945,
15319,
12005,
12066,
17856,
238131,
1,
0
] |
นานาชาติปลื้มข้อตกลงแก้โลกร้อน COP21 | บรรดาผู้นำโลกต่างออกแถลงการณ์แสดงความยินดี ต่อการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 หรือ COP21 ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ที่แม้ว่าจะพบอุปสรรคต้องยืดการประชุมต่อไปอีก 1 วัน แต่ในที่สุดตัวแทนจาก 195 ประเทศก็สามารถบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ซึ่งสำหรับรายละเอียดมีการกำหนดเงื่อนไข กรอบเวลาอย่างชัดเจน และทุกฝ่ายยอมรับ ต่างกับร่างข้อตกลงการประชุมครั้งก่อนๆ ที่ต่างฝ่ายต่างรับรู้ถึงปัญหา แต่ไม่มีทางออกอะไรเป็นรูปธรรม,โดยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวชื่นชมว่า นานาชาติได้มาถึงจุดสูงสุดของการตกลงในระบบพหุภาคี พร้อมพูดถึงร่างข้อตกลงที่ส่วนใหญ่จะใช้ถ้อยคำประนีประนอม ว่าเป็นเรื่องจริงที่เวลาคนเราจะไม่อยากทำอะไรหากถูกบีบให้ทำตามมาตรฐานของคนอื่น และการกระตุ้นให้ทำตามวิถีทางของเขาเองจะถูกต้องกว่า ขณะที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการช่วยโลกของเรา เมื่อโลกเรารวมเป็นหนึ่งเดียวจะทำอะไรก็สำเร็จ และแม้ว่าข้อตกลงจะไม่สมบูรณ์แบบเสียทีเดียว แต่ก็จะทำให้ปริมาณคาร์บอนในโลกลดลง ทั้งยังเป็นโอกาสสร้างงานและเศรษฐกิจในภาคการลงทุนธุรกิจสีเขียว เช่นเดียวกับรายอื่นๆ ที่กล่าวแสดงความยินดีต่อข้อตกลงปารีสครั้งนี้ ไม่ว่านายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศไอเอ็มเอฟ นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก กลุ่มภาคธุรกิจอย่างบริษัท เจเนอรัล อิเลคทริค หรือยูนิลีเวอร์ ไปจนถึงตัวแทนประเทศผู้เข้าร่วมการประชุมอย่างจีน ที่เคยเรียกร้องให้กลุ่มชาติพัฒนาช่วยเหลือชาติกำลังพัฒนามากกว่านี้ ก็ระบุว่าถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าครั้งประวัติการณ์ แม้ข้อตกลงจะไม่ถึงกับดีเลิศ,อย่างไรก็ตาม กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางส่วนทักท้วงว่า จะเรียกข้อตกลงว่าเป็นความสำเร็จไม่ได้ เพราะเงื่อนไขบางประการไม่ได้เป็นพันธะผูกพันทางกฎหมาย อาทิ การให้แต่ละประเทศพิจารณามาตรการควบคุมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกันเอง ขณะที่กลุ่มกรีนพีซมองว่าข้อตกลงครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจพลังงานฟอสซิลในอนาคต ทั้งนี้ เงื่อนไขที่มีพันธะผูกพันทางกฎหมาย จะได้แก่การที่แต่ละประเทศจะต้องส่งผลประเมินทุก 5 ปี ว่ามีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใด ในการดำเนินการตามเป้าหมายหลักที่ทุกชาติจะต้องช่วยกันควบคุมอุณหภูมิโลก ไม่ให้สูงเพิ่มเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส. | บรรดาผู้นำโลกต่างออกแถลงการณ์แสดงความยินดี ต่อการประชุม COP21 ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ที่แม้ว่าจะพบอุปสรรคต้องยืดการประชุมต่อไปอีก 1 วัน แต่ในที่สุดตัวแทนจาก 195 ประเทศก็สามารถบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ | ผู้นำโลก,แสดงความยินดี,ประชุม,สหประชาชาติ,การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ,COP21,กรุงปารีส,ฝรั่งเศส,ข้อตกลง,ข้อตกลงปารีส,ลดโลกร้อน,ก๊าซเรือนกระจก,อุณหภูมิโลก,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/548638 | [
0,
259,
220497,
58473,
209402,
3682,
75416,
1549,
51673,
73863,
229356,
113262,
11858,
162920,
1,
0,
0,
0,
0,
0
] |
|
สิ่งที่จะได้เห็นจากนี้ไป | ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองที่พุ่งเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และมีผลต่อความเป็นไปของรัฐบาลด้วย,เนื่องจากดำรงความเป็นนายกฯและผู้นำรัฐบาล,มีอยู่ 2 ปมที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะมีผลวินิจฉัยออกมาในลักษณะใด,ปมที่ 1 คือเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าด้วยความเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หากชี้ว่าผิด พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องออกจากตำแหน่ง,ผลตามมาอีกคือ ครม.จะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วยทั้งคณะ,ปมที่ 2 ซึ่งกำลังเกรียวกราวกันมากในทางการเมือง คือเรื่องการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนที่ผ่านขั้นตอนการต่อสู้กันทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง,กระทั่งผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและมีผลต่อการจำกัดสิทธิเสรีภาพของรัฐประชาชน,หากชี้ผลออกมาว่าผิด ผลก็จะไม่ต่างไปจากปมที่ 1,ว่าไปแล้วเดิมพันของ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะมีสูงกว่านักการเมืองคนอื่นๆที่กำลังถูกสอบความผิดในการถูกร้องและศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณา,เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวโทษความผิดจึงหมายถึงเฉพาะตัวเท่านั้น แต่อาจจะมีบางเคสนอกจากที่ถูกลงโทษในความผิดทางการเมืองแต่อาจจะถูกคดีอาญาด้วย,หนักไปกว่านั้นก็คืออาจจะถูก ยุบพรรค ได้,ทว่าผลที่จะตามมาของ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกฯนั้นไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะตัวเท่านั้น แต่พ่วงไปถึงรัฐบาลต้อง ล้ม ไปโดยปริยาย,นั่นแหละจะทำให้การเมืองต้องเปลี่ยนสำรับใหม่ในทันที,พรรคฝ่ายค้าน 7 พรรคนั้นน่าจะมีเป้าหมายตรงกันเพื่อล้มรัฐบาล จากเงื่อนไขที่น่าจะพูดได้ว่ามาจาก ส้มหล่น หรือ ลูกเข้าตีนว่างั้นเถอะ,เพราะไม่ได้คาดการณ์มาก่อนว่าจะเกิดเงื่อนไขนี้ขึ้นมาและรวดเร็วจนแทบจะตั้งตัวไม่ทัน ทั้งๆที่มุ่งไปสู่ประเด็นอื่นๆ มากกว่าที่จะทำให้รัฐบาลล้มครืนลงไป,ทว่าในความเป็นไปทางการเมืองนั้นหาใช่ว่ามีแต่ พล.อ.ประยุทธ์ฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่นักการเมืองฝ่ายค้านก็อยู่ในภาวะที่ต้อง ลุ้น ไม่ต่างกัน,คดีถือ หุ้นสื่อ ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นั้นดูแล้วว่าหนักหนาสากรรจ์ไม่น้อย โดยมีประเด็นสำคัญที่จะต้องวินิจฉัยผิด-ถูก,คือโอนหุ้นก่อนลงสมัครเลือกตั้งหรือหลังวันสมัคร,โทษความผิดใน พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. หากมีความผิดจริงคือต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่น-2 แสนบาท ให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี,ในประเด็นโอนหุ้นหลังการเลือกตั้งนั้นถือว่าเป็นเรื่องคดีอาญาโดยตรง เพราะเท่ากับว่าแก้เอกสารสำคัญ,อีกเรื่องคือการโอนทรัพย์สิน 5,000 ล้านบาท และการปล่อยเงินกู้ให้พรรคอนาคตใหม่ จากหัวหน้าพรรคคือนายธนาธร,พิจารณาจากเรื่องที่ถูกร้องเรียนทั้ง 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ และนายธนาธรนั้นถือว่าสำคัญไม่ต่างกันเท่าใดนัก และมีผลทางการเมืองโดยตรง,ฝ่ายหนึ่งมีผลต่อความคงอยู่ของรัฐบาล แต่อีกฝ่ายหนึ่งหมายถึงความผิดเฉพาะตัว ทั้งต้องพ้นจาก ส.ส.เว้นวรรคการเมือง คดีอาญาและอาจถึงขั้น ยุบพรรค ได้ หากมีความผิดจริง,ที่แน่ๆก็คือจะมีผลต่อความเป็นไปทางการเมืองของประเทศด้วย.,สายล่อฟ้า | ต่างคนต่างลุ้น ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองที่พุ่งเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และมีผลต่อความเป็นไปของรัฐบาลด้วย เนื่องจากดำรงความเป็นนายกฯและผู้นำรัฐบาล | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ศาลรัฐธรรมนูญ,ถวายสัตย์ฯไม่ครบ,ผู้ตรวจการแผ่นดิน,ถือหุ้นสื่อ,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1651950 | [
0,
259,
104338,
68109,
259,
87753,
88450,
259,
118985,
5490,
145688,
64877,
143225,
32816,
43202,
16344,
74367,
183690,
6582,
140815
] |
|
ชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ จัดพิธีแสดงความอาลัยแด่ ในหลวง | วันนี้ (21 ต.ค.2559) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานกล่าวแสดงความอาลัย แด่พระบาสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ร่วมกับคณะกรรมการอิสลามกลางจังหวัดเชียงใหม่ และชาวมุสลิมเชียงใหม่ ที่มัสยิดอัตตักวา อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนานับประการที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยไม่แบ่งแยกชนชั้นและศาสนา ด้านนายกวินธร วงศ์ลือเกียรติ ประธานคณะกรรมการอิสลามกลางจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า แม้รูปแบบการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แม้จะแตกต่างกัน แต่ที่ผ่านมาพระองค์ทรงทราบและเข้าพระทัย ขณะเดียวกันยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตและพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ สร้างมัสยิดกลาง ประจำจังหวัดต่างๆ ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเที่ยง ชาวมุสลิมในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ร่วมรับฟังบทคุตบะห์ ซึ่งเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ที่ทรงมีต่อชาวไทยมุสลิมในช่วงที่ผ่านมาชาวไทย-มุสลิม กว่า 200 คน ใน จ.ขอนแก่น เข้าร่วมประกอบพิธีละหมาดภายในมัสยิดกลางจังหวัดขอนแก่น และร่วมแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช นายธีระยุทธ สังขศิลา อิหม่ามประจำมัสยิดกลางขอนแก่น ระบุว่า จากปกติในชาวไทยมุสลิมจะมีพิธีคุตบะห์ ซึ่งจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของพระอัลเลาะห์ แต่วันนี้จะมีการบรรยายถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อชาวไทยมุสลิม ก่อนจะร่วมกันทำพิธีละหมาดและทำพิธีขอดูอาร์ ซึ่งเป็นการขอพรจากพระอัลเลาะห์ตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชส่วนบรรยากาศที่มัสยิตกุวะติลอิสลามในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามต่างร่วมใจกันทำพิธีละหมาด และแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจากทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้แจ้งให้ชาวมุสลิมทั่วประเทศทำพิธีละหมาดแสดงความอาลัยต่อพระองค์ท่าน พร้อมกันทั่วประเทศ เช่นเดียวกับบรรยากาศพิธีละหมาดที่มัสยิดกุฎรอตุ้ลอิสลามประจำจังหวัดยโสธร ผู้นับถือศาสนาอิสลามร่วมกันกล่าวความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งหลังทราบข่าวการสวรรคต และยืนสงบนิ่งอธิฐานจิตขอพระจากพระอัลเลาะห์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ขณะที่ชาวไทยมุสลิมใน จ.อุบลราชธานี จะทำพิธีคุตบะห์เพื่อกล่าวสรรเสริญถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย-มุสลิม ก่อนทำพิธีละหมาด ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี เพื่อร่วมแสดงความอาลัยและถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์อัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันใหญ่หลวงต่อศาสนาอิสลามและพสกนิกรชาวไทยมุสลิมอย่างหาที่สุดมิได้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้นำชาวไทยมุสลิม จำนวน 125 มัสยิด จากพื้นที่ 17 อำเภอ ประกอบพิธีดูอาร์ และร่วมน้อมเกล้าแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ร่วมสร้างมัสยิดกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ปี 2502 เช่นเดียวกับชาวไทยมุสลิม จ.ปัตตานี ประมาณ 1000 คน จัดพิธีแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเป็นเอกองค์อัครศาสนูปถัมภกต่อศาสนาอิสลาม | ชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ จัดพิธีแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนานับประการที่ทรงมีต่อพสกนิกร โดยไม่แบ่งแยกชนชั้นและศาสนา | ภูมิภาค | ในหลวง,อิสลาม,ข่าวภูมิภาค,ชาวไทยมุสลิม | https://news.thaipbs.or.th/content/256929 | [
0,
259,
137738,
116131,
60099,
4552,
29669,
3945,
45984,
67395,
118087,
259,
215520,
16485,
20921,
59270,
179717,
135570,
14905,
1881
] |
ฮือฮาปาฏิหาริย์หลวงพ่ออิ่ม | รูปหล่อโลหะอายุเก่าแก่ โดนขโมยไป40ปีได้คืน เซียนพระถูกหวย3งวด,อัศจรรย์ รูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสวัดดังสิงห์บุรี ถูกโจรใจบาปฉกไปจากวัดนานร่วม 40 ปี จู่ๆ ได้กลับคืนวัดราวปาฏิหาริย์ หลังเซียนพระไปพบวางขายอยู่ในตลาดนัด เห็นขนาดหน้าตักกว้างเกินกว่าจะเป็นพระบูชาประจำบ้านเลยมั่นใจถูกขโมยมา ตั้งจิตอธิษฐานขอให้มีโชคลาภจะซื้อถวายคืนวัด เหลือเชื่อถูกหวย 3 ตัวตรงเผงได้เงินหลายแสนบาท เจ้าตัวรีบทำตามสัญญา ขณะที่ผู้เฒ่าผู้แก่เห็นองค์หลวงพ่อถึงกับหลั่งน้ำตา ชาวบ้านเฉลิมฉลองแห่ปิดทอง,เรื่องราวชวนอัศจรรย์ใจครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางมาที่วัดประศุก ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 5 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อร่วมฉลองพิธีถวายคืนรูปหล่อโลหะของพระครูพิศิษย์ ศีลคุณ หรือหลวงพ่ออิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดประศุก หลังถูกแก๊งคนร้ายโจรกรรมไปจากวัดเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ในพิธีได้นิมนต์เจ้าอาวาส 9 วัดในย่านใกล้เคียงมาเจริญพระพุทธมนต์ ขณะที่ชาวบ้านต่างนำทองคำเปลวมาปิดองค์พระ พร้อมตั้งโรงทานแจกจ่ายอาหารให้ผู้มาร่วมงาน โดยบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจที่ได้องค์พระกลับคืนมา,นายสุดใจ จุมจันทร์ หรือใจ พิจิตร เซียนพระชื่อดังภาคเหนือ ผู้นำรูปหล่อหลวงพ่ออิ่มมาถวายคืนให้กับวัดประศุก เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ราวเดือน ต.ค.57 ตนกลับบ้านใน จ.ขอนแก่น และไปเดินเล่นที่ตลาดนัดจตุจักรขอนแก่น ได้เห็นรูปหล่อองค์นี้ ตั้งอยู่บนแผงให้เช่าพระ เห็นว่าเป็นพระเนื้อสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 18 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่เกินกว่า จะเป็นพระบูชาประจำบ้าน มั่นใจว่าเป็นพระที่ถูกโจรกรรมมาจากวัดใดวัดหนึ่ง แต่ไม่ทราบที่มาแน่ชัด อีกทั้งคนขายพยายามยัดเยียดขายให้ตน 2-3 ครั้ง แต่ช่วงนั้นไม่มีเงินมากนัก จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าหลวงพ่ออยากกลับวัด ขอให้ตนมีโชคลาภ จากวันนั้นไม่นาน ตนถูกหวย 3 ตัวตรงเผงได้เงินมาก้อนใหญ่ จึงติดต่อเช่าพระองค์นี้,เซียนพระผู้เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ เล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นต่อไปว่า ครั้งแรกพ่อค้าจะขายให้ในราคา 1 แสนบาท แต่พอบอกว่าจะเช่าเอาไปถวายคืนวัด ขอให้ลดราคาลงหน่อยเพราะหลวงพ่อมาเข้าฝันบอกว่าอยากกลับวัด ปรากฏว่าคนขายถึงสะดุ้ง ยอมลดราคาลงมาฮวบฮาบ เหลือเพียง 55,000 บาท หลังได้พระมา ตนถูกหวยอีก 2-3 ครั้ง จากนั้นเริ่มสืบหาแหล่งที่มาของพระ โดยใต้ฐานพระ,ด้านหน้าเขียนว่า พระครูพิศิษย์ ศีลคุณ (หลวงพ่อ อิ่ม) ชาตะ 2409 มรณะ 2489 ด้านหลังเขียนว่า วัดประศุก เมื่อสืบค้นทางอินเตอร์เน็ต พบว่าวัดประศุกตั้งอยู่ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงติดต่อผ่านนายพชร จันทรเศธร หรือนายกตี๋ นายกเทศมนตรีตำบลอินทร์บุรี และนายคำรณ สุวรรณสัมพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอินทร์บุรี ช่วยประสานนำพระกลับมาถวายคืนวัดได้ในที่สุด,ขณะที่ผู้สูงอายุคนหนึ่งที่มีบ้านใกล้วัด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลวงพ่ออิ่มเป็นอดีตเจ้าอาวาสที่ชาวบ้านเคารพนับถือมาก เป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม เคร่งในพระธรรมวินัย และยังเป็นนักพัฒนา สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร ทำให้วัดประศุกซึ่งเป็นวัดเล็กๆบ้านนอกเจริญขึ้นทันตา หลังจากหลวงพ่ออิ่มมรณภาพ ชาวบ้านพร้อมใจกันนำเครื่องประดับทองคำและสิ่งของมีค่า อาทิ ขันเงิน พานทองเหลือง มาร่วมเททองหล่อรูปเหมือนของหลวงพ่อ นำไปตั้งบูชาไว้ในศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลายสิบปีผ่านไปปรากฏว่ามีโจรใจบาปเป็นหัวขโมยในหมู่บ้าน ใกล้เคียงแอบมาขโมยรูปหล่อหลวงพ่อไป ชาวบ้านรู้สึกเสียใจมาก แต่สมัยนั้นไม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ และช่วยกันหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อขึ้นใหม่ ซึ่งอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ การได้รูปหล่อหลวงพ่อกลับคืนมาในสภาพสมบูรณ์หลังหายไปนานร่วม 40 ปี นับว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างมาก เชื่อว่าเป็นบุญบารมีของหลวงพ่ออิ่มที่จะกลับมาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้วัดประศุกอีกครั้ง | อัศจรรย์ รูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสวัดดังสิงห์บุรี ถูกโจรใจบาปฉกไปจากวัดนานร่วม 40 ปี จู่ๆ ได้กลับคืนวัดราวปาฏิหาริย์ หลังเซียนพระไปพบวางขายอยู่ในตลาดนัด เห็นขนาดหน้าตักกว้างเกินกว่าจะเป็นพระบูชาประจำบ้านเลยมั่นใจถูกขโมยมา | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,สิงห์บุรี,ปาฏิหาริย์หลวงพ่ออิ่ม,หลวงพ่ออิ่ม,รูปหล่อโลหะ,พระครูพิศิษย์ ศีลคุณ,วัดประศุก,ขอโชคลาภ | https://www.thairath.co.th/news/local/483848 | [
0,
259,
135776,
33559,
44628,
220118,
44076,
45173,
185121,
5405,
259,
100694,
6582,
259,
107079,
2752,
25534,
30713,
140256,
1881
] |
มงไม่ลงงงไปเลย | ผ่านพ้นไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาแล้ว สำหรับการประกวดนางงามจักรวาล หรือมิสยูนิเวิร์ส ประจำปี 2017 ปีที่เรียกว่าเป็นการประกวดครั้งที่พี่น้องชาวไทยตื่นตัวกันมากเป็นพิเศษ เพราะปีนี้เราได้ตัวแทนสาวไทยที่มีความพร้อมมากที่สุดในทุกๆ เรื่อง ทั้งรูปร่าง หน้าตา และภาษา อย่าง, ,มารีญา พูลเลิศลาภ,, ที่เรียกว่าคว้ามงกุฎสุดยอดสาวงามในประเทศไปครอบครองแบบม้วนเดียวจบ (พูดถึงสำนวน ม้วนเดียวจบ จำได้ว่าเมื่อครั้งได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ใหม่ๆ เคยมีนักข่าวสัมภาษณ์มารีญาว่ารู้สึกอย่างไรที่การประกวดครั้งนี้คว้ามงกุฎไปครองแบบม้วนเดียวจบ ด้วยความที่ไม่สันทัดในภาษาไทย มารีญาเลยตอบไปแบบติดตลกว่า ก็ดีสิคะ ไม่ต้องเปลืองสองม้วน เล่นเอานักข่าวขำไปตามๆ กัน สำหรับสำนวนม้วนเดียวจบ หลายตำราสันนิษฐานว่ามาจากการชมภาพยนตร์ทางวิดีโอเทปแบบดูจบในหนึ่งม้วน ก็เลยเรียกว่า ม้วนเดียวจบ ได้อรรถรสแบบไม่ต้องรอ ไม่ต้องดูต่อม้วนต่อไปนั่นเอง) ต่อกันที่เรื่องมารีญา พูลเลิศลาภนะคะ เมื่อไปประกวดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเธอก็ทำหน้าที่ตัวแทนสายสะพายประเทศไทยได้อย่างดีที่สุด เสียดายว่าแค่ไปหยุดอยู่ตรงรอบห้าคนสุดท้ายเท่านั้น ไม่สามารถฝ่าฟันจนไปถึงรอบสามคนสุดท้ายได้ มิเช่นนั้น ประเทศไทยของเราก็ได้ชื่อว่ามีรองนางงามจักรวาลคนใหม่เป็นอย่างน้อยทันที แถมดีไม่ดีอาจจะหวังสูงสุดได้ถึงมงกุฎนางงามจักรวาล มงกุฎที่สามกันเลยทีเดียว งานนี้แม้หลายคนบอกว่าเข้าสู่รอบห้าคนสุดท้ายก็ถือว่าเป็นการทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว เพราะถือว่าเป็นสถิติที่ดีที่สุดในรอบ 29 ปีที่ผ่านมา หลังจากพี่ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลไปเมื่อปี 1988 หรือปีพุทธศักราช 2531 ก็ยังไม่เคยมีสาวงามจากประเทศไทยคนใดเข้าใกล้ตำแหน่งสูงสุดได้มากเท่านี้มาก่อน ครูลิลลี่เองในฐานะที่อุตส่าห์ตั้งใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเชียร์ถึงขอบเวที ตั้งแต่รอบลองไฟ ไปจนถึงรอบประกวดจริง ก็ต้องขอบอกตามตรงว่า ตั้งความหวังไว้สูงเพราะมารีญาเป็นสาวงามจากประเทศไทยที่พร้อมมากจริงๆ แถมยังมีการคาดคะเนจากโพลหลายๆ สำนัก หรือที่เรียกว่า เป็นแบบสำรวจความคิดเห็นจากบรรดากูรูนางงาม เซียนนางงาม หรือบรรดาผู้สันทัดกรณีจากเวทีความงามต่างๆ จากหลากหลายประเทศทั่วโลก ต่างก็ยกให้มารีญาเป็นตัวเก็งเป็นตัวเต็ง ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งถึง 40 กว่าโพลเลยทีเดียว โดยมีสาวงามจากแอฟริกาใต้ เป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง ซึ่งในที่สุดเธอคนนี้ก็มาแรงแซงโค้งในช่วงสุดท้ายเข้าป้ายเป็นนางงามจักรวาลคนใหม่ไปเรียบร้อย,พูดถึงนางงามมาพอสมควร จนเกือบจะลืมสอดแทรกความรู้ภาษาไทยไปเสียแล้ว ความรู้ภาษาไทยวันนี้เป็นเรื่องของมารีญา ที่ก่อนการประกวดจะถูกยกให้เป็น ตัวเก็ง ตัวเต็ง หรือมีบางคนเขียนว่าเป็น ตัวเกร็ง ก็มี งงไหมล่ะคะว่า คำไหนกันแน่คือคำที่ถูกต้อง เก็ง เต็ง หรือ เกร็ง มาดูกันค่ะ,คำว่า, ตัวเก็ง, ถ้าเป็นในพจนานุกรม ,ตัวเก็ง, เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ ตัว หรือ สิ่งที่คาดหมายไว้อย่างมั่นใจ ส่วนคำว่า ,ตัวเกร็ง, อันนี้ไม่มีในพจนานุกรมนะคะ มีแต่คำว่า ,เกร็ง, เป็นคำกริยา แปลว่า ทำกล้ามเนื้อให้แข็ง เช่น ,เกร็งแขน เกร็งขา, หรือเป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า อาการที่กล้ามเนื้อแข็งอย่างงอไม่ได้ เช่น ,มือเกร็ง เท้าเกร็ง, ค่ะ จำไว้นะคะ, ตัวเก็ง, ใช้ได้ แต่ ,ตัวเกร็ง, ไม่มี คุณครูลิลลี่เห็นหลายคนชอบพูดว่า ตัวเกร็ง แบบกระดกลิ้น มี ร เรือ ควบกล้ำ หรือสะกดแบบมี ร เรือ คำนี้ใช้ในความหมายนี้คือผิดนะคะ,ส่วนคำว่า ,ตัวเต็ง, ถ้าเปิดดูในพจนานุกรม จะพบว่าเป็น คำนาม แปลว่า ตัวที่มีน้ำหนักในการคาดหมายว่าจะชนะมากกว่าตัวอื่นๆ ค้นเพิ่มเติมมาได้ความว่า,คำว่า ,เต็ง, มาจากคำเต็มว่า ตาเต็ง เป็นชื่อเรียกตาชั่งขนาดเล็กชนิดหนึ่งของจีนนะคะ มีถาดห้อยอยู่ทางหัวคันที่เป็นไม้หรืองาช้าง มีตุ้มถ่วงห้อยเลื่อนไปมาตามคัน ของที่ชั่งได้น้ำหนักครบเรียกว่า เต็ง ได้เต็ง หรือเต็มเต็ง (ถ้าเคยได้ยินคำว่า ไม่เต็มเต็ง จึงหมายถึงคนไม่ครบประกอบ หรือมีสติไม่สมบูรณ์นั่นเอง) ต่อค่ะ ต่อ หลังจากนั้นต่อมา ได้มีการนำคำว่า เต็ง มาใช้แก่การแข่งม้า เรียกม้าที่มีน้ำหนักในการคาดหมายว่าจะมีโอกาสชนะมากกว่าตัวอื่นว่า ม้าเต็ง หรือม้าตัวเต็ง ขยายความอีกนิดนะคะ ในระหว่างม้าเต็งด้วยกัน ม้าตัวใดคาดว่าจะชนะเลิศได้ลำดับที่ ๑ เรียกว่า ม้าเต็งหนึ่ง ส่วนม้าตัวที่คาดว่าจะได้ที่ ๒ เรียกว่า ม้าเต็งสองค่ะ และก็มีข้อน่าสังเกตว่าจะมีการใช้คำว่า ,เต็งหนึ่ง, กับ ,เต็งสอง, เท่านั้นนะคะ มากกว่าสองก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน นานๆ ครั้งจึงอาจจะมีเต็ง ๓ ให้ได้เห็นบ้าง จากการแข่งม้า ต่อมาได้นำคำว่า ,ตัวเต็ง, มาใช้ในการแข่งขันอื่นๆ รวมทั้งเวทีนางงามด้วย เช่น, มารีญา พูลเลิศลาภ, มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เป็นตัวเต็งที่จะได้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนใหม่ประจำปีนี้ เอาล่ะค่ะแม้ว่าวันนี้ตัวเต็งจะไปไม่ถึงฝัน ไม่สามารถทำให้เราได้ภูมิใจที่จะมีนางงามจักรวาลคนที่สาม แต่เชื่อว่าสิ่งที่มารีญาได้ทำ ก็คือ สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้แล้ว อย่างน้อยช่วงเวลาที่คนไทยพร้อมใจกันเชียร์ พร้อมใจกันโหวต ก็คือช่วงเวลาสำคัญที่หล่อหลอมรวมดวงใจของคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้วจริงๆ สวัสดีค่ะ,instagram : ,kru_lilly,, facebook : ,ครูลิลลี่ | แม้ว่าวันนี้ตัวเต็งจะไปไม่ถึงฝัน แต่เชื่อว่าสิ่งที่มารีญาได้ทำ ก็คือ อย่างน้อยช่วงเวลาที่คนไทยพร้อมใจกันเชียร์ พร้อมใจกันโหวต ก็คือช่วงเวลาสำคัญที่หล่อหลอมรวมดวงใจของคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้วจริงๆ | คนดังนั่งเขียน,ข่าว | มารีญา พูลเลิศลาภ,ตัวเต็ง,คนดังนั่งเขียน,ครูลิลลี่,มิสยูนิเวิร์ส,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1146998 | [
0,
259,
4728,
51646,
112202,
259,
226746,
185939,
29669,
52854,
259,
194516,
113227,
35814,
206433,
94117,
66501,
93728,
1,
0
] |
มติ ส.ส.อิรักเห็นชอบนายกฯ แต่งตั้ง | เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสฯที่ 7 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นอิรัก นายมุสตาฟา อัล-คัดฮิมี อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองและอดีตผู้สื่อข่าวเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่ 6 ของประเทศนับแต่ปี 2546 ถือว่าสิ้นสุดความวุ่นวายในช่วง 5 เดือนของการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งถูกปฏิเสธ 2 ราย หลังเสียงส่วนใหญ่ ส.ส.ในสภาที่เข้าประชุมสภา 255 คน ลงมติเห็นชอบกับแผนของรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงยอมรับรัฐมนตรี 15 กระทรวง ไม่ยอมรับ 5 กระทรวง ทั้งพาณิชย์ ยุติธรรม วัฒนธรรม เกษตรและผู้ลี้ภัยทั้งนี้ นายอาเดล อับดุล มาห์ดี อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศลาออกเมื่อปีกลาย จากกระแสกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเรียกร้องแก้ปัญหาการว่างงานและโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ชนที่เข้าไปมีอำนาจทางการเมือง หลังสหรัฐฯบุกอิรักเมื่อปี 2546 โค่นล้มซัดดัม ฮุสเซน ด้วยข้ออ้างการคอร์รัปชันและซุกซ่อนอาวุธนิวเคลียร์ จนทำให้อิรักตกอยู่ในสภาพง่อยเปลี้ยและเศรษฐกิจเสียหายหนัก ขณะที่อัล-คัดฮิมี ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งจากอิหร่านและสหรัฐฯเตรียมแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศรายวันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2000 คน เสียชีวิตกว่า 100 ราย การสืบสวนหาคนกระทำความผิดจากเหตุสังหารกลุ่มผู้ประท้วงช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและคาดว่าจะมีการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-อิรัก. | นายมุสตาฟา อัล-คัดฮิมี อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองและอดีตผู้สื่อข่าวเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่ 6 ของประเทศนับแต่ปี 2546 ถือว่าสิ้นสุดความวุ่นวายในช่วง 5 เดือน | ข่าว,ต่างประเทศ | อิรัก,นายกรัฐมนตรีอิรัก,มุสตาฟา อัล-คัดฮิมี,สาบานตนรับตำแหน่ง,อาเดล อับดุล มาห์ดี,การเมืองอิรัก,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1838954 | [
0,
259,
203061,
29669,
23045,
37861,
36999,
17858,
45173,
7960,
21779,
49612,
229499,
97003,
233576,
177831,
3755,
122092,
12848,
2091
] |
หนุ่มรง.ชิ้นส่วนรถ ถูกเครื่องจักรหนีบหัวดับสยอง | เครื่องกดแบบแม่พิมพ์ตะกั่ว หนีบหัวหนุ่มวัย 31 หัวหน้าคุมเครื่องจักรแท่นพิมพ์ เสียชีวิตคาที่ด้วยความสยดสยอง กะโหลกแตก กระดูกหักหลายท่อน ต่อหน้าลูกน้องระหว่างเครื่องจักรเกิดขัดข้องได้มุดหัวเข้าไปดูว่าเกิดจากอะไรปรากฏว่าสวิตช์เกิดทำงานขึ้นมา,เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 17 ธ.ค.57 พ.ต.ท.ศิวะ ริมฝาย สารวัตรเวร สภ.บางปู ได้รับแจ้งมีคนงานถูกเครื่องจักรหนีบเสียชีวิตภายในบริษัท แอมพาส อินดัสตรี่ จำกัด เลขที่ 164 หมู่ 4 นิคมอุตสาหกรรมซอย 8 เอ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุได้พบว่า บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ทำจากตะกั่ว ภายในโรงงานข้างเครื่องจักรกดแบบแม่พิมพ์ขนาดใหญ่พบร่างของนายวสันต์ เงินงาม อายุ 31 ปี หัวหน้าแผนกคุมเครื่องจักรของบริษัท นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างเครื่องเนื่องจากคนงานได้ช่วยกันทำการรื้อเครื่องจักรนำร่างของนายวสันต์ ออกมาวางไว้ที่พื้นในสภาพใบหน้าบิดเบี้ยวกะโหลกข้างขวาถูกเครื่องจักรหนีบจนแบนกะโหลกศีรษะแตกหน้าอกถูกหนีบจนกระดูกหักหลายท่อน โดยที่เครื่องจักรดังกล่าวยังมีคราบเลือดติดอยู่,จากการสอบสวน เพื่อนร่วมงานได้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ผู้ตายและคนงานอื่นๆ ได้เข้าประจำเครื่องทำงานกันอยู่ตามปกติแต่ระหว่างนั้นเครื่องจักรที่ผู้ตายทำงานอยู่เกิดขัดข้อง ผู้ตายจึงได้เดินเข้าไปเช็กอาการเครื่อง จู่ๆ ระหว่างที่ผู้ตายดูมุดศีรษะเข้าไปที่แม่พิมพ์ในระหว่างนั้น เครื่องกดแม่พิมพ์ได้เกิดทำงานขึ้นมาเอง ก่อนกดแม่พิมพ์เข้าหากันทับเข้าที่ศีรษะและลำตัวของผู้ตาย เพื่อนร่วมงานที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งเข้ามาปิดสวิตช์เครื่องจักร และช่วยกันรื้อแม่พิมพ์ออกเพื่อช่วยนำร่างผู้ตายออกมา จากนั้นรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ในขณะที่ผู้ตายเดินมาดูเครื่องจักรที่เกิดขัดข้องโดยที่ไม่ทันได้ปิดสวิตช์เครื่องจักร ในระหว่างที่ผู้ตายมุดเข้าไปดู เครื่องจักรได้เกิดทำงานจึงหนีบศีรษะ และลำตัวผู้ตายจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | เครื่องกดแบบแม่พิมพ์ตะกั่ว หนีบหัวหนุ่มวัย 31 หัวหน้าคุมเครื่องจักรแท่นพิมพ์ เสียชีวิตคาที่ด้วยความสยดสยองกะโหลกแตก กระดูกหักหลายท่อน ต่อหน้าลูกน้องระหว่างเครื่องจักรเกิดขัดข้องได้มุดหัวไปดูว่าเกิดจากอะไร สวิตช์เกิดทำงานขึ้น | ข่าว,ทั่วไทย | แท่นพิมพ์หนีบหัว,วสันต์ เงินงาม,หน.แผนกควบคุมเครื่องจักร,บริษัทแอมพาส อินดัสตรี่ จก.,นิคมอุตสาหกรรม ต.แพรกษา,หนีบกะโหลกแตก,เครื่องจักรขัดข้อง | https://www.thairath.co.th/news/local/469522 | [
0,
259,
85322,
10228,
147851,
35239,
54143,
23045,
12005,
27605,
138562,
17858,
73765,
5269,
12002,
127687,
82573,
1,
0,
0
] |
ผอ.สคร.แจง 6 ประเด็นร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ | ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ชี้ 6 ประเด็นสำคัญของ ร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ ย้ำไม่มีเขียนสักคำว่าเพื่อให้มุ่งหวังกำไรสูงสุด ระบุมี ยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาที่ห้อง Le lotus 1 โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด (รัชดาฯ)สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จัดเสวนาสาธารณะ หัวข้อ อนาคตรัฐวิสาหกิจไทย กับ ร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ โดยในช่วงแรกเปิดด้วยการบรรยายหัวข้อ แนวทางการพัฒนารัฐวิสาหกิจ และ ร่าง พ.ร.บ. การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ (ร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ) โดย ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)เพื่ออภิปรายถึง ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รับหลักการร่างกฎหมายนี้เมื่อต้ผอ.สคร. ชี้ให้เห็น 6 ประเด็นสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ว่าประกอบด้วย 1. เรื่องการจัดตั้งกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ 2. ให้มียุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ ซึ่งไม่เคยมีที่รัฐวิสาหกิจจะมียุทธศาสตร์ในภาพรวม เป็นครั้งแรก 3. มีกลไกความโปร่งใส และความรับผิดชอบ 4. มีกระบวนการคัดเลือกกรรมการ 5. พัฒนาระบบประเมินผล ซึ่งทุกวันนี้มีการประเมินผล เป็นระเบียบสำนักนายก แต่การประเมินไม่มีการเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ | ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ชี้ 6 ประเด็นสำคัญของ ร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ ย้ำไม่มีเขียนสักคำว่าเพื่อให้มุ่งหวังกำไรสูงสุด ระบุมี ยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ เป็นครั้งแรก เอกนิติ | การเมือง,เศรษฐกิจ | บรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ,มัลติมีเดีย,รัฐวิสาหกิจ,ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....,สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ,เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ | https://prachatai.com/journal/2017/11/74077 | [
0,
259,
188810,
70851,
3755,
138562,
16912,
260,
10228,
260,
6581,
260,
259,
100023,
3755,
225704,
72810,
2091,
123955,
89153
] |
ย้าย 5 จนท.ราชทัณฑ์ อุ้ม สนธิ ออกพ้นเรือนจำ | อ้างดูหมายผิดเบิกตัวไปศาล นายกฯยอมรับ มีนอตหลุดบ้าง เป็นสีสันไม่จืด,นายกฯลงใต้อีกรอบ ลั่นขอ ยึดขันติ เก็บอารมณ์ให้มากที่สุด รับมีนอตหลุดระบายอารมณ์บ้างตามประสามนุษย์ แต่เป็นสีสันไม่อย่างนั้นก็จืดชืด พูดแต่จ๊ะจ๋า แต่ย้ำสิ่งสำคัญคือพูดแล้วทำ หยอดหวาน นายกฯชวน รักกันดี ครวญ รัฐอยู่ในช่วงประสบโอษฐภัย ป้อง ไก่อู พูดอะไรก็ผิดไปหมด ฉุน ทอท.ปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจสนามบิน ย้ำไม่บิดพลิ้วแน่เรื่องการเลือกตั้ง คสช.ยันไม่จ้องรังแกใครเรื่องอาวุธ ขู่เชือดอีกพวกผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ผบ.ตร.ซ้ำพวกหน้าเดิมจ้องรอจังหวะป่วน หมวดเจี๊ยบ อัด บิ๊กตู่ ไม่เปิดใจฟังเสียงวิจารณ์ เปลี่ยนนามสกุลให้เจิดจ้าไฉไล เตือนอย่าจับผิดตัว สุเทพ มาแปลก ไลฟ์สดวอร์มอัพ กปปส. สมชัย ย้ำเลือก กกต.มติศาลใหญ่กว่า ก.ม.ไม่ได้ วิษณุ สำทับต้องทำให้สิ้นสงสัย เผย โอ๊ค ขอขยายเวลายื่นหลักฐานคดีกรุงไทย ย้าย 5 จนท.ราชทัณฑ์พาสนธิออกนอกเรือนจำ,สืบเนื่องจากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชนในโอกาสไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ภาคใต้ โดยมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้อารมณ์พูดคุยกับชาวประมงที่ จ.ปัตตานี นั้น ล่าสุด นายกฯ ระบุจะพยายามอดกลั้นเก็บอารมณ์ให้มากขึ้น,เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 09.15 น. ที่หอประชุมโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปราศรัยกับประชาชนตอนหนึ่งระหว่างเดินทางไปมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยว่า ข้าราชการและประชาชนทุกคนไม่ไว้ใจกันไม่ได้ วันนี้ข้าราชการต้องทำร่วมกับตน การศึกษาต้องส่งเสริมให้ลูกหลานเรียนเยอะๆ มีอาชีพ เพราะวันนี้ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ที่จบวิทยาลัย อุดมศึกษา ไม่มีงานทำ จบไม่ตรงกับสายงาน ต้องมีการปฏิรูปทุกกระทรวง ไม่ง่าย อยากให้ทุกคนมีรอยยิ้ม บางครั้งตนกลับไปอาจคิดว่าจะทำให้หรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้กดดันตน กดดันรองนายกฯ ของตน สิ่งที่ไม่ดีต้องมารื้อใหม่ทั้งหมด บางอย่างอาจต้องใช้เวลานาน เราต้องเรียนรู้แล้วอยู่กันแบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณทุกคน ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม บางอย่างต้องยอมให้รัฐบาลบ้างเพื่อเกิดการแก้ไขปัญหา,ไม่มีรัฐบาลไหนมาพูดให้ฟังแบบนี้ เขาอยากทำอะไรก็ทำตามใจพี่ เพราะเลือกมาก็ต้องทำตามใจคนเลือก แต่วันนี้ให้ใครเลือกผมไม่ได้ เพราะลงเลือกตั้งไม่ได้ แต่ไม่ต้องมากังวลกับผม ถ้ารักผมก็ต้องอยู่กับผม ไหนใครไม่รักผมยกมือ ผมเป็นคนอย่างนี้ ไม่ได้บ้าๆบอๆอย่างที่ใครเขาว่า แต่มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ เป็น ผบ.ทบ.ก็ต้องมีอารมณ์บ้าง ไม่อย่างนั้นก็จืดชืด ยิ้มพูดแต่จ้า สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งพูดแต่ไม่ทำ แต่ผมพูดแล้วทำ และระบายนิดหน่อย คราวหน้าผมจะเก็บอารมณ์ให้มากที่สุด ไม่ทะเลาะกับใคร รักทุกคน นายกฯกล่าว,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ขอให้ทุกคนเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งไม่ง่ายแต่จะดีระยะยาว ลูกหลานในวันหน้าสบายแน่นอน รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาทั้งประเทศไม่ได้เลือกที่จะรักหรือจะทำ ถ้าอยากจะฟังตนพูดให้ไปดูในรายการวันศุกร์ อย่าไปดูคลิปในโซเชียลมีเดียเลอะเทอะ โซเชียลมีเดียอันตราย ทำให้สังคมเกิดความขัดแย้ง การวิพากษ์วิจารณ์อะไรบางทีไม่เหมาะสม และสิ่งที่เป็นห่วงอีกอย่างการหลอกลวง อย่าไปเชื่อเขา คนไทยซื่อ คนเลวก็ใช้ประโยชน์ ตรงนี้ คนไทยเป็นคนซื่อสัตย์ กตัญญู ใจตนอยู่กับทุกคนเสมอ จังหวัดตรังตนเคยไปมาแล้ว ตอนเป็น ผบ.ทบ.กับอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย ก็รักกันดีไม่มีอะไร อย่าให้ทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ใครก็ได้ที่ทำความดีร่วมกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่าน ยังมองเราอยู่ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำให้ท่านสบายพระทัยคือขัดแย้งกันไม่ได้ ช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะตนใช้แนวทางของพระองค์ท่านมาทำในทุกเรื่อง,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พล.ท.สรรเสริญ โฆษกไก่อู โดนด่าทุกวัน ยิ่งพูดยิ่งโดน วันนี้พูดอะไรไม่ได้ผิดไปหมดเลย วันนี้ต้องมาทบทวนกันใหม่แล้วว่า เราจะทำงานกันอย่างไร ไม่ใช่ผมมาอย่างนี้อยู่อย่างนี้ เป็นนายกฯเป็นหัวหน้า คสช. แล้วทำได้ทุกเรื่องเพราะคนไทยด้วยกันการใช้อะไรที่แรงไปก็ไม่เหมาะ บางครั้งไม่ใช้เลยก็ยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ ขอให้เข้าใจวันนี้ผมบอกแล้วว่า การเมืองเอาไว้ก่อน บอกทั้งท้องถิ่นและอะไรต่างๆไว้ด้วย ยังไงก็เดินหน้าไปตามระยะเวลา วันนี้เราต้องมาแก้ปัญหาเราก่อน,ต่อมาเวลา 13.15 น. ที่หอประชุมอาคารอเนกประสงค์ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวระหว่างไปตรวจเยี่ยมพบปะประชาชนที่ประสบอุทกภัยตอนหนึ่งว่า ฝากคนตรังด้วยทำบ้านเมืองให้สะอาดคนจะได้มาเที่ยวเพราะมีทะเลสวยอยู่แล้ว ตนจะเล่นงานการท่าอากาศยานฯ เมื่อเช้าลงเครื่องบินมาดูไม่ได้เลย แล้วจะให้คนมาเที่ยวได้ยังไง การท่าฯต้องรับผิดชอบสนามบินทุกแห่ง ต้องพัฒนาให้ดี จะปล่อยอะไรที่ไม่ได้ใช้ให้รุงรังไม่ได้ เราถูกเพื่อนบ้านเราว่าอยู่เหมือนกันว่า ให้รู้เลยว่าเหยียบประเทศไทยเมื่อไหร่ ให้รู้เลยว่ามีอะไรอยู่ข้างทาง อายเวลาคุยกับเขาถือว่าดูถูกประเทศไทย ไม่ได้ก็ค่อยๆแก้กันไป,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้เขียนจดหมายส่งมาถึงตนที่ทำเนียบรัฐบาล หรือศูนย์ดำรงธรรม มาถึงตนทั้งหมด อย่ามาประท้วงเลย และขอย้ำว่าไม่เคยเกลียดชังคนใต้ พล.อ.ประยุทธ์ยังถามประชาชนที่ฟังอยู่อีกว่า ราคายางวันนี้กิโลกรัมละเท่าไหร่ เมื่อมีเสียงตอบกลับมาว่า 45 บาท พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องราคายางทุกวัน ยางพาราแปรรูปได้หลายประเภท ราคาก็จะแตกต่างกันไป มีคนชอบไปตีขลุมบอกยาง 3 กิโลฯ 100 แล้วให้คนเกลียดรัฐบาล,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเลือกตั้งใหม่จะทำอย่างไรให้ได้รัฐบาลที่ทำงานให้คนทั้งประเทศได้จริง ที่ผ่านมาเราเดินหน้าประชาธิปไตยตลอด ตนเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาให้ ถึงจะบังคับใช้กฎหมายได้ไม่เต็มที่เพราะต้องฟังเสียงประชาชน ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็ทำไม่ได้ทั้งหมด วันนี้ต้องไว้ใจกันและกันให้มากขึ้น การเลือกตั้งต้องมี ขึ้นกับสถานการณ์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องจะเสร็จหรือไม่ ขออย่ามากดดันเรื่องนี้ ตนไม่บิดพลิ้วอะไรทั้งสิ้น ให้ใจท่านทั้งหมด เหลือแค่การปฏิบัติ ตนทนไม่ได้อีกแล้วที่เห็นคนไทยทั้งประเทศดวงตาแห้งผาก ระหว่างนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามว่ามีใครเกลียดตนหรือไม่ ปรากฏว่ามีคนตะโกนบอก รักนายกฯ เมื่อได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์ตอบกลับว่า รักนานๆอย่ารักแป๊บเดียวนะ ก่อนจะกล่าวอีกว่า วันนี้ต้องไม่ขัดแย้งอีกถึงจะเป็นประชาธิปไตย จะเลือกใครจะกาให้ใครดูให้ดี ท้องถิ่นด้วยต้องปรับปรุงตัวเอง ไม่ใช่คิดแค่จะยุบหรือไม่ยุบ สำคัญคือต้องพัฒนาตัวเองก่อน จากนั้นประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่จำนวนมากต่างเข้ามาจับมือและถ่ายเซลฟี่กับนายกฯอย่างเป็นกันเอง,ช่วงค่ำเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ว่า วันที่ 9 ธ.ค.ของทุกปีถือเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล รัฐบาลและ คสช.ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทุจริต ให้เป็นวาระเร่งด่วนและวาระแห่งชาติ ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องลุกขึ้นทำหน้าที่ปกป้องสิทธิของตนเองและประเทศชาติ โดยไม่ทนต่อการทุจริต และมีจิตสำนึกที่ถูกต้อง เคารพในกฎหมาย ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม และความพอเพียง อย่าใช้ความรู้สึกในการตัดสินคน พร้อมแสดงบทบาทพลเมืองดีในการตรวจสอบและเฝ้าระวังการทุจริต เพื่อให้ประเทศไทยโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การพัฒนาชาติบ้านเมืองอย่างยั่งยืนนั้น เราต้องปฏิรูปตนเอง ด้วยการพัฒนาจิตใจ 3 ระดับได้แก่ 1.จิตสำนึก 2.จิตสาธารณะ และ 3.จิตอาสา,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า มีเรื่องที่เป็นห่วงพี่น้องประชาชน 2 เรื่อง เพราะใกล้วันปีใหม่และวันนักขัตฤกษ์ เรื่องแรก อุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถิติการเสียชีวิตบนท้องถนนของคนไทย สูงเป็นอันดับต้นๆของโลก เป็นสิ่งที่เราทุกคนจะต้องตระหนักและช่วยกันลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียให้ได้ ด้วยการเคารพกฎจราจร มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทาง และที่สำคัญก็คือ เมาไม่ขับ รัฐและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถแก้ไขได้ 100% หลายคนโทษกลับไปที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่เขาก็ทำงานกันเต็มที่ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวบุคคล,วันเดียวกัน พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผบ.มทบ.11 ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงการปล่อยตัวนายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร หนึ่งในผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่ถูกนำมาทิ้งที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า นายวัฒนาเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว โดยนายวัฒนาเคยมีคดีเชื่อมโยงอาวุธสงครามเมื่อปี 2557 และถูกศาลพิพากษาจำคุก 40 เดือน แต่รับสารภาพลดโทษเหลือ 20 เดือน ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกมา ทาง คสช.ได้สอบสวนติดตามขยายผลตรวจสอบไม่พบความเกี่ยวโยง ขณะเดียวกัน นายวัฒนาได้ให้ข้อมูลที่ชี้ชัดว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ ส่วนจะกันตัวนายวัฒนาเป็นพยานหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนจะติดตามขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดหรือไม่ โดย คสช.ปล่อยตัวนายวัฒนาไปเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา,พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีของ พล.ท.มนัส เปาริก 1 ในผู้ที่ถูกออกหมายจับนั้น เขาเดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังศาลออกหมายจับ และพนักงานสอบสวนสอบถามมายัง คสช.ในฐานะที่ดูแลความมั่นคงว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ โดย คสช.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า พล.ท.มนัสแสดงความบริสุทธิ์ใจเดินทางมามอบตัวจึงไม่คัดค้านการประกันตัว,คสช.ต้องการสื่อให้สังคมเห็นว่า ใครทำผิดอะไรก็ว่าไปตามกระบวนกฎหมาย คนไม่ผิด ก็ไม่ได้ไปกลั่นแกล้ง หรือคนที่ทำผิด คสช.ให้โอกาสในการหาพยาน หลักฐานมาต่อสู้ บางคดี คสช.จะคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงไปกระทบต่อรูปคดี หรือหลบหนี แต่ในคดีนี้ พล.ท.มนัสได้แสดงความบริสุทธิ์ โดยมามอบตัว คสช.ก็ไม่ได้ค้าน กักขังหน่วงเหนี่ยวอะไรทั้งสิ้น เพื่อชี้ให้เห็นว่า คสช.ไม่ได้เลือกปฏิบัติหรือรังแกใคร และมีคณะติดตามข้อมูลที่เกิดจากการกระทำของแต่ละบุคคล พล.ต.ปิยพงศ์กล่าว,พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวว่า ส่วนกรณีของ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ทางฝ่ายกฎหมายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหากระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จะเห็นได้ว่า คสช.ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดกฎหมาย ผ่านทางกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้ใช้ความรู้สึก หรือกลั่นแกล้ง แต่ดำเนินการภายใต้หลักฐานข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมต่อทุกกลุ่มทุกฝ่าย ไม่เลือกปฏิบัติ ยืนยันว่า คสช.ไม่เคยปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น แต่ผู้แสดงความคิดเห็นต้องรับผิดชอบตนเอง ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ และจากนี้ไปอาจจะมีผู้กระทำผิดที่ต้องถูกร้องทุกข์กล่าวโทษอีกจำนวนหนึ่ง,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหา 5 คน ได้แก่ นายชัยวัฒน์ หรือเปี๊ยก ผลโพธิ์ นายสมเจตน์ หรือสน คงวัฒนะ นายจักรรินทร์ หรือเสธ.ไก่ เรืองศักดิ์วิชิต นายจักรภพ เพ็ญแข และ พล.ท.มนัส หรือ เสธ.หยอย เปาริก เกี่ยวข้องคดีพบวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา โดย พล.ท.มนัสเข้ามอบตัวตำรวจกองปราบฯแล้วว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ดูแลคดี ทุกอย่างดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะซีเรียล นัมเบอร์ของอาวุธเป็นตัวเชื่อมโยงคดี ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พบอาวุธสงครามอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณหรือมีนัยอะไรเรื่องการเมือง แต่ถ้าพบว่ายังไม่เกิดความปลอดภัยก็ต้องดำเนินการสืบสวนจับกุม ส่วนการขยายผลจะไปเชื่อมโยงตรงไหนก็ค่อยว่ากันไป เพียงแต่เมื่อสืบสวนลงไปพบว่าผู้ที่เกี่ยวข้องก็เป็นหน้าเดิมๆ กลุ่มคนเหล่านี้รอเวลาและโอกาสในการสร้างสถานการณ์ แต่เจ้าหน้าที่ระมัดระวังมาโดยตลอด เพราะเราก็ไม่รู้ว่าอาวุธสงครามที่เจอเขาจะเอามาทำอะไร สำหรับนายจักรภพไม่อยากจะพูดพาดพิง แต่พื้นฐานของเขาเป็นคนรุนแรงอยู่แล้ว,ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง (เลิศภควัต) อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีถูก คสช.แจ้งความดำเนินคดีว่า ขอยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ต้องถูกวิจารณ์ได้ตำแหน่งนายกฯต้องรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ว่าใครมาเป็นนายกฯก็ต้องถูกตรวจสอบและต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ใช่อยากจะมีแต่อำนาจ และการชี้แจงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานและการตอบคำถามสื่อมวลชน ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของคนเป็นนายกฯ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ว่าพอใจจะพูดหรือไม่ วันนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การวิจารณ์การทำงานของนายกฯ แต่ปัญหาคือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถทนฟังความคิดเห็นคนอื่นได้ ถ้าทนฟังเสียงวิจารณ์ไม่ได้ก็ควรลาออก ขณะเดียวกัน ตนมองว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เป็นกฎหมายที่สมควรยกเลิก เพราะประชาชนส่วนใหญ่คัดค้าน เนื่องจากมีเนื้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน และเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุม แทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน ปิดปากคนคิดต่าง และเล่นงานนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม,เปลี่ยนนามสกุลแล้วอย่าฟ้องผิดคน,ร.ท.หญิงสุณิสากล่าวด้วยว่า ขอฝากบอกพล.อ.ประยุทธ์ว่า ปัจจุบันนามสกุลของตนคือ ทิวากรดำรง แปลว่า พระอาทิตย์ที่ส่องสว่าง ตั้งขึ้นมาใช้เอง ไม่ได้เปลี่ยนเพราะแต่งงาน ท่านจำไว้ให้ดี จะได้แจ้งความไม่ผิดคน,เมื่อเวลา 14.40 น. ที่มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ (Suthep Thaugsuban สุเทพ เทือกสุบรรณ) ว่า สวัสดีครับ พี่น้องมวลมหาประชาชนที่เคารพรักทุกๆ ท่าน เพื่อเป็นการรำลึกถึงมหากาพย์การต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน มวลมหาประชาชน ผมขอนำคลิป บันทึกภาพประวัติศาสตร์ การต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ในปี พ.ศ. 2556-2557 มาเปิดเพื่อรำลึกถึงวันเก่าๆ ที่เราได้ต่อสู้ร่วมกัน โดยตอนที่ 2 ใน วันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. 2560 ทาง Facebook Live นี้ เวลา 18.00 น. ขอบคุณครับ,นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.กล่าวถึงการท้วงติงการคัดเลือก กกต.ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าไม่ถูกต้องที่ลงคะแนนลับเพราะต้องลงคะแนนโดยเปิดเผยว่า กฎหมายเขียนอย่างไร ควรทำให้ถูกต้องจะได้ไม่เป็นปัญหาภายหน้า การไปกำหนดกันเองว่าให้ลงคะแนนโดยลับ ก็ถือเป็นการลงมติที่มิชอบโดยกฎหมาย เพราะมติที่ประชุมจะเหนือกว่ากฎหมายได้อย่างไร สิ่งที่ตนทักท้วงมิใช่เรื่องอยากอยู่ต่อ เพียงแค่ให้ลงมติใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายใช้เวลาเพิ่มไม่เกิน 1 เดือน จะได้ไม่เป็นปัญหา การทำงานในอนาคตก็เกิดความสง่างาม วันที่ 12 ธ.ค.ที่จะมีการประชุมจะนำประเด็นดังกล่าว เข้าหารือเพื่อให้เกิดการดำเนินการที่เหมาะสมต้องรอดูว่าที่ประชุม กกต.จะมีความเห็นอย่างไรในเรื่องนี้,ด้านนายสุริยันต์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ยืนยันว่า การลงคะแนนคัดเลือกผู้สมควรที่จะได้เป็น กกต.ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายครบถ้วน ไม่ขอชี้แจงรายละเอียด เพราะจะกลายเป็นการโต้ตอบไปมา,นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าการลงมติของศาลฎีกาใช้วิธีประชุมลับจริงหรือไม่ ต้องมีการตรวจสอบเพราะกฎหมายกำหนดให้ลงคะแนนโดยเปิดเผย จะใช้วิธีลับไม่ได้ แต่ถ้ามีการยกมือในการพิจารณาก็ถือว่าเปิดเผย ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องตัวบุคคล ที่ได้รับการคัดสรรหลายคนไม่มีประ-สบการณ์การเลือกตั้งนั้น สามารถวิจารณ์ได้แต่ต้องมองด้วยว่าคณะกรรมการสรรหามีกรอบการคัดสรรที่ต้องดูว่าประสบการณ์บุคคลเหล่านี้มีประโยชน์กับการทำงานด้านการเลือกตั้งหรือไม่ ไม่ได้มองแค่ว่าเคยทำงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งมาก่อนหรือไม่ มิฉะนั้นคงต้องให้ กกต.มาสมัครเท่านั้นหรือ เมื่อถามถึงกรณีที่บางคนกลัวว่าผู้สมัคร กกต.บางคนอาจไม่ผ่านความเห็นชอบของ สนช. นายพรเพชรตอบว่า เรื่องผลการลงคะแนนต้องรออีกนิด ตนพูดแทน สนช.ไม่ได้ หากมีผู้สมัครที่ไม่ผ่าน ตำแหน่งนั้นๆก็ต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาใหม่,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่าไม่ทราบรายละเอียดและข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว คงต้องไปถามคณะกรรมการสรรหา กกต. แต่ถ้าผิดและเป็นโมฆะอย่างที่มีข้อสังเกตคงต้องสรรหาใหม่ เมื่อถามว่า เมื่อมีข้อท้วงติงจำเป็นต้องมีผู้ออกมาให้ข้อยุติหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เมื่อเรื่องมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เลขานุการของที่ประชุมคงต้องออกมาชี้แจง หากไม่ชี้แจงคงจะมีวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้ข้อยุติ เพราะก่อนนำความกราบขึ้นบังคมทูลฯเป็นหน้าที่ของผู้นำความกราบบังคมทูลฯ จะต้องตรวจสอบไม่ให้มีข้อสงสัย เป็นหน้าที่ของประธานสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.) และที่ผ่านมายังไม่เจอปัญหาเช่นนี้,นายวิษณุยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับว่า กำชับคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแล้ว เมื่อกระทรวงมหาดไทยและ กกต.ส่งความเห็นกลับมา ให้นำเข้าที่ประชุม ครม.โดยเร็ว ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งรายงานอย่างไม่เป็นทางการ กระทรวงมหาดไทยยังไม่ส่งความเห็นกลับมา สำหรับกรณีที่ กกต.เสนอแก้ไขเกือบทั้งฉบับนั้น เราต้องนำมาพิจารณาว่าอะไรเกี่ยวพันกับการเลือกตั้ง อะไรจำเป็นต้องแก้ อะไรที่รอได้ไว้ทีหลัง ตอนนี้เอาแต่สิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งก่อน,นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า กกต.ประชุมร่วมกับตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นร่วมกันว่าควรแก้ไขในประเด็นต่างๆ ที่มีความจำเป็นในคราวเดียว ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยเห็นชอบให้ใช้ร่างของ กกต.เป็นหลัก ทางสำนักงาน กกต.จะใช้เวลายกร่างส่วนที่ต้องแก้ไขประมาณ 1 เดือน และจะเสนอเข้าที่ประชุม กกต.ให้ความเห็นชอบในวันที่ 9 ม.ค.2561 ก่อนส่ง ครม.ช่วงกลางเดือน ม.ค. ถ้าผ่านมติ ครม.ช่วงปลาย ม.ค. สนช.น่าจะ ลงมติในวาระ 3 ได้ ภายใน 60 วัน หรือประมาณปลายเดือน มี.ค. ที่เหลือก็แล้วแต่บทเฉพาะกาลในกฎหมายว่าจะให้เวลาเตรียมการอย่างไร และจะกำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่นประเภทใด ก่อนหลัง แต่ไม่เร็วกว่ากลางเดือน พ.ค.2561 อย่างแน่นอน,เมื่อเวลา 12.20 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสนช. โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย ที่ ครม.เป็นผู้เสนอ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯชี้แจงว่า หลักการของร่าง พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย เป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการถวายความปลอดภัยฉบับเดิม คือ พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ.2557 สาเหตุที่ต้องขอปรับปรุง เพราะเหตุว่าเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 แล้ว ต้องปรับปรุงในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบบริหารราชการในพระองค์ และบุคลากรหรือข้าราชการในพระองค์เสียใหม่ โดยกฎหมายฉบับนี้มี 9 มาตรา จากนั้นเป็นการลงมติรับหลักการในวาระแรก โดยที่ประชุมเห็นด้วยด้วยคะแนน 193 งดออกเสียง 3 และตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาขึ้นมาพิจารณา โดยไม่มีสมาชิกคนใดอภิปรายในวาระ 2 และลงมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยคะแนน 190 งดออกเสียง 3 โดยร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป,ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะนายอติโชค ผลดี รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง รักษาการตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง นำคณะผู้บริหารสำนักงาน บุคลากรและเจ้าหน้าที่ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวนกว่า 1,500 คน ทำพิธีประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 โดยนายอติโชคกล่าวว่า เราตระหนักถึงปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ จึงเข้าร่วมโครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อยกระดับการบริหารจัดการองค์กรให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล รวมถึงรับแจ้งเบาะแสการทุจริต และผลประโยชน์ทับซ้อนออนไลน์ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบการปฏิบัติงานบุคลากรศาลปกครอง ทางเว็บไซต์ ,http://www.admidcourt.go.th, ซึ่งเริ่มเปิดให้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. เป็นต้นไป,ที่ศาลปกครอง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ นำโดยนายคณุตม์ ฤทธิสอน ประธานสหภาพฯ นำรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบจากกฎกระทรวงการคลังว่าด้วยการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 จำนวน 14,676 รายชื่อ ยื่นฟ้องกระทรวงการคลัง และ รมว.คลังต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้พิจารณาทุเลาและเพิกถอนการบังคับใช้กฎกระทรวงดังกล่าว โดยนายคณุตม์กล่าวว่า เมื่อกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ส่งผลให้โรงงานยาสูบมียอดจำหน่ายบุหรี่ลดลงจากปีงบประมาณ 2560 คิดเป็น 41% เพราะกฎหมายเปิดช่องให้บริษัทบุหรี่ต่างประเทศลดราคาจากเดิม ทำให้รายได้ของโรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก จึงต้องฟ้องให้เพิกถอนกฎกระทรวงดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาทุเลาการบังคับใช้กฎกระทรวงฯฉบับเดียวกันระหว่างที่ศาลพิจารณาคดีด้วย เพราะก่อนหน้านี้เราเคยยื่นเรื่องถึงนายกฯแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า จึงต้องมาขอพึ่งอำนาจศาลในการพิจารณาทุเลาและเพิกถอนกฎกระทรวงฯ,ที่หน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี นายวินัย พ้นภัยพาล นายกสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.ชลบุรี และประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อ.เมืองชลบุรี นายกัมพล ตันสัจจา ประธานบริหารสวนนงนุชพัทยา พร้อมด้วยภาครัฐ เอกชน และประชาชนกว่า 1 พันคน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพื่อ ขอความเป็นธรรมให้นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี หลังถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีมีประชาชนบางส่วนประท้วงไม่พอใจ การจัดงานถวายดอกไม้จันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 โดยมีนายภวัต เลิศมุกดา รอง ผวจ.ชลบุรี เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ เนื้อหาในหนังสือระบุว่า ชาว จ.ชลบุรี รับไม่ได้ ที่มีบุคคลจำนวนหนึ่งสร้างข้อมูลเท็จบังคับให้มีการโยกย้าย ทั้งที่นายภัครธรณ์มีความรู้ความสามารถ เอาใจใส่และพัฒนาพื้นที่ รวมถึงจัดงานถวายดอกไม้ จันทน์อย่างสมพระเกียรติ อยากให้ส่งตัวกลับโดยเร็วหากสอบสวนไม่พบความผิด,พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพวกรวม 4 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน กรณีอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายพานทองแท้ อย่างเป็นทางการว่าจะส่งคำให้การและเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรในวันใด ซึ่งในชั้นการแจ้งข้อกล่าวหา ได้ให้เวลาผู้ต้องหารวบรวมพยานหลักฐานมาโต้แย้งข้อกล่าวหาใน 60 วัน จะครบกำหนดวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เบื้องต้นแม้ผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่ขอขยายเวลา พนักงานสอบสวนที่มีอัยการเป็นผู้ร่วมสอบสวน จะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจว่าเหตุผลที่ขอเลื่อนเพียงพอที่จะให้อนุญาตหรือไม่ และจะอนุญาตให้ขยายเวลาออกไปอีกกี่วัน,รายงานข่าวแจ้งว่าพนักงานสอบสวนได้รับการประสานอย่างไม่เป็นทางการจากทีมทนายความนายพานทองแท้ ว่าขณะนี้ยังรวบรวมหลักฐานไม่เสร็จขอขยายเวลาออกไปอีก 60 วัน พนักงานสอบสวนชี้แจงว่าปกติจะให้เวลาการรวบรวมเอกสารหลักฐาน 30 วัน แต่กรณีนายพานทองแท้ได้ให้เหตุผลว่าคดีเกิดขึ้นผ่านมาหลายปี จำเป็นต้องใช้เวลารวบรวมและค้นหาพยานหลักฐานย้อนหลัง จึงให้เวลาครั้งแรกถึง 60 วัน ถ้าจะขอขยายเวลาอีกคงพิจารณาถึงเหตุผล และอาจอนุญาตได้เต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 15 วัน เท่านั้น เพราะคดีจะครบกำหนดอายุความ 15 ปี ในเดือน มิ.ย.61 ไม่ว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนการสอบสวนไปในทิศทางใด ก็ต้องมีระยะเวลาเพียงพอให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษได้พิจารณาและตรวจสอบหลักฐานในสำนวนด้วย,พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรมเบิกตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกจำคุก 20 ปี ออกจากเรือนจำโดยไม่มีเหตุอันควรและมีญาติมาพบด้วยว่า ได้รับรายงานว่า มีการเบิกตัวนายสนธิออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 06.00 น. ก่อนนำตัวไปศาลอาญา ถนนรัชดาฯ และนำตัวกลับเรือนจำเวลาประมาณ 10.00 น. ซึ่งมีข่าวว่า มีญาติพี่น้องนายสนธิมารอพบที่เรือนจำด้วย กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ 5 คนที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่เบิกตัวนายสนธิ อ้างว่านายสนธิมีหมายไปขึ้นศาลคดีพันธมิตรฯ ในวันที่ 22 ธ.ค. แต่ดูหมายผิดคิดว่าเป็นวันที่ 22 พ.ย. เป็นการตั้งใจหรือประมาทเลินเล่อ ต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรอบภายใน 30 วัน จึงทราบผล เบื้องต้นสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คน ไปอยู่เรือนจำอื่นๆในกรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราว ระหว่างรอผลการพิจารณา หากผลการพิจารณาออกมาเป็นประมาทเลินเล่อ หรือเจตนาในการกระทำผิด จะพิจารณาโทษและวินัยต่อไป | นายกฯลงใต้อีกรอบ ลั่นขอ ยึดขันติ เก็บอารมณ์ให้มากที่สุด รับมีนอตหลุดระบายอารมณ์บ้างตามประสามนุษย์ แต่เป็นสีสันไม่อย่างนั้นก็จืดชืด พูดแต่จ๊ะจ๋า แต่ย้ำสิ่งสำคัญคือพูดแล้วทำ | ข่าว,การเมือง | ย้าย,เจ้าหน้าที่,ราชทัณฑ์,สนธิ ลิ้มทองกุล,เรือนจำ | https://www.thairath.co.th/news/politic/1148322 | [
0,
259,
203061,
2091,
169184,
77772,
34904,
10062,
229634,
138658,
259,
204042,
112088,
16344,
223713,
126560,
114766,
35468,
16968,
218592
] |
เปิดมติเสียงข้างน้อย กสทช. ทำไมควรเยียวยาให้DTAC | เปิดความเห็นประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. เสียงข้างน้อย ทำไม DTAC ควรเข้าสู่มาตรการเยียวยาลูกค้าที่ใช้บริการบนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ หลังสัมปทานสิ้นสุด13 ก.ย.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากNBTC Rights ว่า จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา มีมติด้วยเสียงข้างมาก 4 ต่อ 2 ไม่ให้ดีแทคเข้าสู่มาตรการเยียวยาลูกค้าที่ใช้บริการบนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ หลังสัมปทานสิ้นสุดโดยทาง ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้แถลงข่าวมติที่ประชุมภายหลังการประชุมทันที ซึ่งมีการอธิบายถึงเหตุผลต่างๆ ของที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้กล่าวถึงความเห็นที่แตกต่างแต่อย่างใดอย่างไรก็ตามในวันนี้ กสทช. เสียงข้างน้อย ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน หนึ่งในผู้ลงมติแตกต่างได้จัดทำความเห็นของตนเอง เพื่อให้ทางสำนักงาน กสทช. ใส่ประกอบไว้ในรายการงานประชุมของ กสทช. นัดพิเศษครั้งที่ 5/2561 (วันที่ 12 กันยายน 2561) ต่อไปสำหรับความเห็นของ ประวิทย์ ทาง NBTC Rights ระบุว่า สรุปได้ดังนี้1. การอ้างว่าเหตุที่ไม่ให้เข้าสู่มาตรการคุ้มครองเพราะมีการจัดประมูลล่วงหน้าแล้ว ถ้าเช่นนั้น ไม่ว่าเอกชนจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ก็ไม่สามารถเข้าสู่มาตรการคุ้มครองได้ แต่มติที่ประชุม กสทช. เดิมกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทฯ ต้องเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่จึงจะได้สิทธิเข้าสู่มาตรการคุ้มครองฯ ซึ่งมิใช่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการ จึงไม่เป็นไปตามประกาศที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ตามมติเดิมนี้ย่อมแสดงว่า การจัดประมูลในตัวมันเองไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการตัดสิทธิไม่ให้เข้าสู่มาตรการคุ้มครอง2. ยิ่งไปกว่านั้น การประมูลคลื่นความถี่ 900MHzครั้งที่ผ่านมานี้ ไม่ตรงกับคลื่นที่ขอความคุ้มครอง กล่าวคือ แม้ว่าเอกชนจะชนะการประมูลก็ไม่สามารถนำคลื่นนี้ไปทดแทนคลื่นตามสัมปทานเดิมได้ การพิจารณาเรื่องนี้จึงต้องคำนึงถึงผู้ใช้บริการเดิมเป็นหลัก แม้จะอ้างว่าเอกชนสามารถทำสัญญาRoamingกับรายอื่นได้ แต่หากซิมดับ ทุกบริการก็สิ้นสุดลงทันที ส่วนการอ้างว่าหากชนะประมูลก็สามารถใช้คลื่นเดิมไปก่อนได้ ไม่เคยมีกฎหมายหรือมติที่ประชุมรองรับแต่อย่างใด3. ประเด็นการเพิ่มภาระรับผิดชอบอุปกรณ์ป้องกันคลื่นรบกวนในการประมูลที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏในร่างประกาศประมูลมาก่อน สำนักงาน กสทช. เพิ่งเสนอเพิ่มภายหลังการรับฟังความเห็นสาธารณะ เมื่อปรากฏว่าไม่มีเอกชนรายใดเข้าร่วมประมูลด้วยเหตุว่าภาระดังกล่าวเป็นต้นทุนที่ไม่อาจคำนวณได้แน่ชัด จึงเสี่ยงต่อการประกอบธุรกิจ จึงรับฟังได้ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้การประมูลล้มเหลว และสมควรตัดภาระดังกล่าวออกแล้วจัดประมูลใหม่โดยเร็ว ซึ่งสำนักงานฯ รับว่าถ้าตัดเฉพาะเงื่อนไขนี้ สามารถจัดประมูลได้ในเดือนตุลาคม4. ในประเด็นความเสียหายที่เกิดขึ้นหากไม่เห็นชอบมาตรการคุ้มครองนั้น เอกชนได้เสนอข้อเท็จจริงต่อศาลปกครองว่า มีผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุใช้บริการในต่างจังหวัด แต่ผู้จดทะเบียนเป็นบุตรที่ทำงานในกรุงเทพฯ ซึ่งผู้สูงอายุไม่สามารถดำเนินการโอนย้ายได้เอง ต้องรอบุตรเดินทางกลับต่างจังหวัดไปดำเนินการ หากซิมดับก็จะไม่สามารถสื่อสารขอความช่วยเหลือได้ ส่วนสำนักงาน กสทช. รายงานว่ามีกรณีซิมที่ใช้กับMachineซึ่งต้องเปลี่ยนที่ตัวอุปกรณ์ จึงไม่สามารถดำเนินการได้โดยเร็ว และจากข้อมูลพบว่า มีทั้งการใช้งานกับเครื่องEDCตามร้านค้า เครื่องATMเครื่องส่งข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของ กฟภ. ใช้กับเซ็นเซอร์น้ำตามสถานีตรวจสอบระดับน้ำของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงมรสุม เสี่ยงต่อภัยน้ำท่วม จึงเห็นว่า หากไม่เข้าสู่มาตรการคุ้มครองฯ อาจกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและบริการสาธารณะต่างๆ ตลอดจนอาจกระทบต่อการติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติ ส่วนการอ้างว่าศักยภาพโอนย้ายของระบบนั้นสูงถึง 60000 เลขหมายต่อวัน ผู้ใช้บริการ 90000 รายสามารถโอนย้ายได้ก่อนสิ้นสัมปทาน เป็นการคำนวณที่ไม่คำนึงถึงอุปสรรคในการโอนย้ายจริงในกรณีของผู้อยู่ต่างจังหวัดหรือผู้ที่ยากต่อการเข้าถึงการโอนย้าย รวมทั้งกรณีMachine5.ทางออกในเรื่องนี้ เห็นว่าควรตัดเงื่อนไขการประมูลที่ก่อภาระต่อเอกชนเกินกว่าการประมูลครั้งก่อนออก และไม่ต้องขยายงวดชำระเงินเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ชนะประมูลเดิม แล้วเร่งจัดประมูลในเวลาไม่เกิน 1-2 เดือน ก็จะทำให้มาตรการคุ้มครองที่เอกชนขอสิ้นสุดลงตามกลไกปกติ ดังเช่นในอดีต เนื่องจากการไม่ให้เข้าสู่มาตรการคุ้มครองฯ นอกจากจะกระทบประโยชน์สาธารณะ ยังทำให้คลื่นความถี่ไม่ถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยรวมขณะทีเพจ กสทช. โพสต์ชี้แจงผู้ใช้โทรศัพท์มือถือดีแทคบนคลื่นความถี่ 850 MHz ที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ให้รีบย้ายไปใช้บริการบนคลื่นความถี่อื่นในค่ายเดิมหรือโอนย้ายค่าย ไม่เช่นนั้นซิมจะดับ | เปิดความเห็น ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. เสียงข้างน้อย ทำไม DTAC ควรเข้าสู่มาตรการเยียวยาลูกค้าที่ใช้บริการบนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ หลังสัมปทานสิ้นสุด 13 ก.ย.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก NBTC Rights | เศรษฐกิจ,ไอซีที | ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา,กสทช.,NBTC Rights,ดีแทค,Dtac | https://prachatai.com/journal/2018/09/78690 | [
0,
259,
196968,
7960,
12682,
260,
259,
40487,
69473,
41391,
259,
105415,
431,
36254,
259,
51523,
147163,
207017,
99490,
187077
] |
กระชากหน้ากาก เผยโฉม เค สไปเดอร์แมน ทำดี ตัวอย่างดีสังคมมีหวัง | เรื่องราวดีๆ ยังมีอยู่ในรั้วสถาบันการศึกษา วันนี้ ,สวัสดีแคมปัส, พาไปรู้จัก หนุ่มน้อย,สไปเดอร์แมน, แห่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หลังเป็นข่าวฮือฮามาสักพัก ว่าเค้าเป็นใคร ใส่ชุดสไปเดอร์แมนไปนั่งเรียนหนังสือ หวือหวาแปลกใจกันไป แต่พี่แคมปัสมีโอกาสได้สัมภาษณ์พูดคุยกับเค้าในแบบพิเศษ พร้อมกับได้เห็นความตั้งใจในสิ่งที่เค้าทำด้วย เดียวเราไปฟังเรื่องราวของเค้าพร้อมๆ กัน และไปดูว่าเค้าไปทำอะไรมา,กฤช พงษ์ชัยอัศวิน, ชื่อเล่นว่า เค อายุ 22 ปี ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย,ผมเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ ที่เลือกเรียนแบบนี้เพราะตั้งใจจะไปทำธุรกิจกับที่บ้านครับ ไปบริหารธุรกิจร่วมกับพ่อ ช่วยพ่อทำงานไปในตัวครับ,วิชาที่เรียน,วิชาพวกนี้มีประโยชน์ต่อผมในอนาคต สามารถนำไปใช้ในการบริหารงานต่างๆ โดยเอาแนวทางมาประยุกต์ใช้ในแบบที่เราถนัด สามารถบ่งบอกถึงความสามารถการทำงานต่างๆ ได้ ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ แก้ไขปัญหาอะไรยังไง แบบนี้อะครับ,ยากมั้ย,สำหรับผมยากครับ เพราะผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ บางวิชาเป็นพวกตัวเลขการคำนวณ ผมไม่ค่อยถูกกับอะไรแบบนี้,แรงไปมั้ยคำถาม, ,กลางๆ ครับผม ผมไม่ได้เรียนเก่ง 2 กว่าๆ ครับ ไม่เป็นไรครับผมยินดีตอบ ความจริงคือความจริงครับ,สไปเดอร์แมนนั่งเรียน,ปกติผมแต่งตัวไปเรียนด้วยชุดนักศึกษาโดยตลอด แต่วันนั้นที่ใส่ชุดสไปเดอร์แมนไปเรียน เพราะผมรับปากเพื่อนว่า หากชุดที่ผมสั่งทำเสร็จ ผมจะใส่มาหาเพื่อนมาเรียน มันเป็นคำสัญญาครับ โดยปกติผมจะไม่ผิดคำพูดกับเพื่อนๆ แล้วชุดผมก็มาจริงๆ ผมก็ใส่ไปเรียนเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ ตามสัญญาครับ ไม่ได้มีอะไร,ฮือฮามากๆ,เพื่อนคาดไม่ถึงครับ ผมเองไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้าง แต่ผมรู้สึกว่ามีคนจ้องมอง ประมาณว่า เรากล้าเนอะ อะไรแบบนี้อะครับ แต่ผมเชื่อว่าคนที่เห็น เค้าคงตั้งคำถามเยอะว่าทำไม ส่วนเพื่อนๆ ยินดีและก็ชมว่ากล้าใส่มา บางคนก็พยายามหาตัวผม อยากรู้ว่าคนใส่คือใคร ใครพบเจอมีความชอบในฮีโร่ ก็มาถ่ายรูปด้วยครับ,จิ้งจกทัก,ฮ่าๆ ไม่ใช่ครับ ผมใส่ที่ห้องน้ำมหาลัย แล้วเข้าไปเรียน เข้าไปก็ไปนั่งที่ประจำ ส่วนขากลับก็ใส่กลับบ้านเลย นั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับบ้านครับผม เพื่อนๆในกลุ่มมาส่ง มีคนถ่ายคลิปลงโซเชียล เลยดังเลยทีนี้,อาจารย์เรียก สไปดี้,อาจารย์เห็นครับ ตอนผมเดินเข้าไปนั่งที แต่ก็สอนต่อ เค้าดีใจมากครับ ส่วนตัวผมและก็เพื่อนๆ จะรู้ครับว่าอาจารย์ใจดี เค้าเรียนนอก แล้วผมก็มีถ่ายรูปคู่กับอาจารย์ครับ อาจารย์พูดประมาณว่า เห้ยมีสไปดี้มาเรียน ผมก็จับมือกับท่านแล้วก็กลับบ้าน,ที่มาของสไปดี้,ก็ผมใส่ชุดสไปดี้ครับน่าจะนะครับ ไม่ครับเรียกเหมือนกันครับ แต่วิชาที่ผมเรียนเป็นวิชาความท้าทายการเป็นผู้นำ เรียกสไปเดอร์สไปดี้ ประมาณนี้ครับ แล้วแต่คนจะเรียก,ชุดนี้ได้ แต่ใดมา,สั่งตัดจากต่างประเทศครับ ส่วนราคาผมต้องขอไม่บอกนะครับ ผมติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสไปเดอร์แมนมาเยอะกว่า 10 ปี การมีชุดในครอบครองและใส่ได้แค่คนเดียว ผมดีใจมากครับ,ใส่เพื่อการค้า??,ผมใส่จากความชอบมากว่า การใส่ชุดของผม ไม่มีผลประโยชน์ในเชิงการค้า ผมทำเพียงเพราะความชอบของตัวผม อยากใส่เพื่อทำประโยชน์ให้กับคนอื่น พวกเด็กที่ขาดความหวัง ผมอยากเป็นความหวังให้กับหลายๆ คน,พี่เชื่อผม,คนเราอะ ใครๆ ก็อยากมีความหวังความชัดเจน ทุกคนต้องการความชัดเจน ไม่ว่าเรื่องอะไร ถ้าเราสามารถเป็นความหวัง เป็นแรงผลักดันได้ ถ้าเรามีโอกาส ทำไมเราไม่ทำ ผมจะยินดีมาก ถ้าคนคนนึงวันนั้น ที่ผมทำให้เขาอยากเป็นเหมือนเรา คนดีๆ จะมีอีกมาก ผมมองว่าคนไม่ดีเยอะ ภายใต้หน้ากากเช่นกัน,ภายใต้หน้ากาก,คนไม่ดีก็มีเยอะ ผมเองโดนด่า บางคนไม่ชอบ บางคนไม่ชอบในสิ่งที่ผมทำ มองว่าผมแปลกแยก อยากเด่น คนใส่คอสเพลย์มีมาก ปิดหน้า เปิดหน้า บางคนก็ทำประโยชน์ บางคนก็ใส่เฉยๆ ครับ,รู้จักสไปเดอร์แมน, ,ผมดูเรื่องแรกเลย ฮีโร่ตัวแรกที่ดูในโรงภาพยนตร์ ตอนที่ผมดูจบ ผมรู้สึกว่า คนคนนึงทำเพื่อคนอื่นๆ โดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทน แต่ก็ยังพยายาม,ความชื่นชอบ, ,ผมดูหลายภาค ทั้ง 1, 2 และ 3 รีใหม่ 1 และ 2 ผมชอบสุดภาค 2 ที่สู้กับด็อกอ็อค ผมชอบมานานนะ ประมาณตั้งแต่ สิบกว่าปีได้,ฉากที่ประทับใจ, ,ผมชอบฉากนึง ฉากที่ปะทะกันบนขบวนรถไฟ ที่คันเร่งถูกเร่งให้ความไวสูงสุด แล้วไม่มีคันเร่ง เพราะถูกผู้ร้ายดึงออก เขาเอาตัวหยุดรถไฟที่ไม่สามารถประเมินความเร็วได้ ในขบวนรถมีคนกว่า 100 คน เขาทุ่มพลังทั้งหมดในการหยุดรถไฟ ใช้ใยแมงมุมพลังของตัวเองในการหยุด เค้าเห็นล่วงหน้า ถ้าไม่สามารถหยุดรถไฟได้คนจะตายหมด เพราะเส้นทางอยู่ในระหว่างการซ่อม และรถไฟจะตกลงสู่ทะเล ผมมองว่า มันเป็นฉากที่ทำร้ายตัวเค้า แล้วก็เป็นฮีโร่มากๆ ที่ใครคนนึงจะทำเพื่อใครอีกหลายคน เป็น 100 คน หาไม่มีหรอกครับ ใช้ตัวเข้าแลก แล้วก็ไม่ได้อะไรด้วย ผมมองว่า เค้านี่แหละคนที่ควรเอาแบบอย่าง,ถ้าสไปเดอร์แมนมีจริง,มันคือตัวละคร ผมเอามาประยุกต์ใช้บางอย่าง ความคิด การแสดงออก ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา เราเลือกได้เสมอ สิ่งที่ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ สอนผม คือ เชื่อในตัวเรา คนเราเลือกทำได้เสมอ มีพลัง ไม่มีพลัง ก็ทำดีได้,เมื่อใส่ชุด พลังมา,ครับ ผมเองก็ตั้งใจที่จะใส่ชุดนั้น เพื่อทำประโยชน์ครับ ปกติผมชอบให้อยู่แล้ว ผมไม่ชอบติดใคร ผมมองว่ามันแย่กับตัวผม ผมชอบคิดเป็นหนี้บุญคุณอะครับ ผมจึงเลือกที่จะเป็นผู้ให้ สบายใจกว่า ผมอยากใส่ทำประโยชน์มากกว่าใส่โชว์เท่ๆ เด่นๆ ผมเชื่อว่า ทุกคนอยากมีฮีโร่ปกป้องเราในทุกเรื่อง แต่ถ้าเลือกได้ เป็นฮีโร่ซะเองจะดีกว่า,ทำดีที่ว่า, ,ผมตั้งใจไว้ว่า ถ้าได้ชุดมา จะไปทำความดี ด้วยการไปให้ความหวังน้องๆ ที่ขาดโอกาส ผมเริ่มใส่ชุดไปรับบริจาคหลายที่ครับ ก่อนจะได้เงินมา เพื่อนำไปซื้อของมาให้เด็กๆ ที่มูลนิธิเซนต์มาร์ติน,โดนด่าสารพัด,ผมโดนด่าสารพัด ไปยืนตรงไหน ก็ลำบากครับ เค้าไม่เข้าใจผมเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมก็เปลี่ยนที่ยืน สุดท้ายก็ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง,บ้านแห่งความหวัง,ผมติดต่อไปยังมูลนิธินี้สักพักหนึ่งครับ ผมเจอบ้านแห่งความหวัง ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งของมูลนิธินี้ครับ บ้านแห่งความหวังเป็นโครงการให้ที่พักพิงสำหรับเด็กด้อยโอกาส ที่ไม่มีความพร้อมในการศึกษาเล่าเรียน หรือผู้ปกครองประสบปัญหาที่ไม่สามารถดูแลลูกได้ เด็กที่เข้ามาอยู่ จะมีอายุตั้งแต่ 1 ขวบ ถึง 16 ปีครับ มีทั้งชายและหญิง,สไปเดอร์แมนปะทะเด็ก,น้องๆ ที่มูลนิธิน่าสงสารครับ เป็นเด็กกำพร้า บางคนมีครอบครัวแต่ว่าครอบครัวแตกแยก บิดามารดาติดคดี ผมไปให้กำลังใจ ไปให้รอยยิ้มน้องๆ ผมว่าให้ต่อสู้อุปสรรคปัญหาต่างๆ ให้มีแรงใจในการใช้ชีวิตจะดีที่สุดครับ และน้องๆ ทุกคนมีความสามัคคีกัน ผมว่าถ้าถูกผลักดันในทางที่ดี ทุกคนก็เป็นคนดีมีชีวิตที่ดี,ฝากถึงน้องๆ, ,หลังจากเคมอบเงินบริจาคให้ทางมูลนิธิๆ น้องๆ ก็จัดแสดงเต้นให้ดู พอจบการแสดง เคก็พูดให้กำลังใจ และให้พวกเขาให้ตั้งใจเรียน และบอกว่า เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกทำได้ อย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังพี่ๆ เค้า น้องๆ ก็ตั้งใจฟังมากๆ เลยครับ,ทำแบบนี้อีกมั้ย??,โดยรวมแล้วมาครั้งนี้ ผมโอเคมาก แน่นอนผมต้องทำอีก แต่อาจจะไปที่อื่นๆ เพราะถ้าถามว่า ผมได้อะไรกลับมา ผมได้ประสบการณ์ได้รอยยิ้ม ตอนที่ผมออกมา น้องๆ เค้ามองกันตาละห้อย คงคิดว่าผมจะไม่กลับมาแล้ว,พี่แคมปัสไม่รู้จักเคเป็นการส่วนตัว แต่เรารู้จักกันด้วยการพูดคุยสัมภาษณ์ สิ่งที่พี่รับรู้ คือ เคตั้งใจจะทำดี นี่ไม่ใช่การสร้างภาพ แต่เคอยากสร้างความหวังให้กับคนอื่น ในวันที่เคยังทำดีได้ ,เรื่องราวของเคอาจไม่แปลกสำหรับคนพบเห็น แต่ใครจะรู้ หัวใจผู้ให้ มันเป็นอย่างไร? ,เค สไปเดอร์แมนทำดี. | พี่แคมปัสไม่รู้จักเคเป็นการส่วนตัว แต่สิ่งที่พี่รับรู้ คือ เคตั้งใจจะทำดี นี่ไม่ใช่การสร้างภาพแต่เคอยากสร้างความหวังให้กับคนอื่น เรื่องราวของเคอาจไม่แปลกสำหรับคนพบเห็น แต่ใครจะรู้ หัวใจผู้ให้ มันเป็นอย่างไร?เค สไปเดอร์แมนทำดี | เค สไปเดอร์แมนทำดี,สไปเดอร์แมน,สไปเดอร์แมนทำดี,มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย,กฤช พงษ์ชัยอัศวิน,แคมปัส,แต่งสไปเดอร์แมนไปเรียน,แต่งชุดสไปเดอร์แมน,พี่แคมปัส,ข่าว,ข่าวแคมปัส,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ,ไทยรัฐไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/638683 | [
0,
259,
42874,
57617,
3945,
9964,
90936,
33523,
10062,
152410,
2361,
82918,
86823,
12002,
1,
0,
0,
0,
0,
0
] |
|
กรณีแม่ชีทศพร : ว่าด้วยการผูกขาดครอบงำทางวัฒนธรรม | ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา วีดีโอ แก้กรรม ของแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ หรือแม่ชีใหญ่ซึ่งเผยแพร่ในเวปไซต์ยูทูปได้กลายมาเป็นประเด็นการถกเถียงที่ ร้อนแรงประเด็นหนึ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค จนทำให้เกิดแฟนเพจล้อเลียนแม่ชีทศพรชื่อว่า แม่ชี นะลูกนะ ซึ่งมีสมาชิกจำนวนกว่าพันคนเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา คำ ผกา นักคิดนักเขียนชื่อดังได้หยิบประเด็นการแก้กรรมของแม่ชีทศพรมาวิเคราะห์และ วิพากษ์ในรายการ คิดเล่นเห็นต่าง กับ คำ ผกา ซึ่งเผยแพร่เป็นประจำทุกวันอาทิตย์ทางช่องเคเบิลทีวี Voice TV (ดูวีดีโอย้อนหลังได้ที่ )และล่าสุด เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางไปวัดพิชยญาติการาม เพื่อขอเข้าพบพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสและกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และได้พบกับแม่ชีทศพร จึงได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน () ในเย็นวันเดียวกันนี้เอง รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง สรยุทธ์ เจาะข่าวเด่น รมว.วธ. ได้รับเชิญมาชี้แจ้งท่าทีของกระทรวงวัฒนธรรมต่อกรณี แก้กรรมแบบพิศดาร (ดูวีดีโอย้อนหลังได้ที่ ) จนนำมาซึ่งการกดดันและการใช้มาตรการต่างๆ (ทั้งโดยตรงผ่านกฎหมายและโดยอ้อมผ่านผู้บังคับบังชา) เพื่อจัดการกับแม่ชีทศพรโดยศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ()ปรากฏการณ์วิวาทะแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่สังคมเสมือนจริงไปจนถึงพื้นที่สื่อสารมวลชนนี้ นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจต่อพัฒนาการทางความคิดของสังคมไทย เพราะแสดงให้เห็นถึงการเริ่มเปิดกว้างสู่การวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นอ่อนไหว ทั้งหลายในสังคม (ในกรณีนี้คือ ความเชื่อทางศาสนา) เห็นได้จากข้อเสนอของ คำ ผกา ในตอนท้ายรายการที่ชักชวนให้ผู้ชมเห็นต่างและร่วมถกเถียง โดยเน้นย้ำว่าการวิพากษ์ของเธอไม่ได้ต้องการตัดสินคุณค่าดี/เลวให้กับความ เชื่อเรื่องสแกนกรรม แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงที่มาที่ไปของ กรอบคิด ซึ่งแฝงอยู่เบื้องหลังการแก้กรรมของแม่ชี อันเต็มไปด้วยอคติทางเพศและมายาคติทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ถึงที่สุดแล้ว การสแกนกรรมของแม่ชีนับเป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการผูกขาดองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมผ่านกระบวนการกล่อมเกลา และปลูกฝังโดยระบบการศึกษาและจารีตประเพณีของทางการมาเป็นเวลาเนิ่นนานอาจกล่าวได้ว่า วัฒนธรรมแห่งการวิพากษ์ ที่เกิดขึ้นจาก กรณีแม่ชีทศพร นี้เป็นสิ่งที่สังคมต้องการอย่างมากในยุคเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะสังสรรค์ของความคิดความเชื่อหลักของคนใน สังคม อันจะนำไปสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางกระบวนทัศน์อย่างถอนรากถอนโคนในไม่ช้า อย่างแน่นอนอย่างไรก็ดี การแสดงบทบาทและท่าที ตลอดจนการทยอยออกมาตรการต่างๆ ของกระทรวงวัฒนธรรม ผ่านรัฐมนตรีเจ้าประจำกระทรวงและศูนย์เฝ้าจับระวังทางวัฒนธรรมนั้นสวนทางกับ วัฒนธรรมแห่งการวิพากษ์นี้อย่างมีนัยสำคัญดังที่ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) ได้กล่าวในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ว่า เราต้องกลับไปที่หลักของพระพุทธศาสนา เรารู้ว่ามนุษย์สามารถแยกแยะความผิดความถูกได้ ความดีความเลวได้ ถ้าสิ่งที่เราทำนั้นหลักศาสนาพุทธบอกว่าเป็นความชั่ว เป็นอกุศลกรรมก็อย่าไปทำ แต่ถ้าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นความดี เราก็ต้องทำดียิ่งๆ ขึ้นไป หลักมันอยู่ตรงนั้นเองโดยการอ้าง หลักที่แท้จริงของศาสนา รมว.วธ. ได้สถาปนาหน่วยงานของตนเป็นผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการตีความศาสนาพุทธ และในขณะเดียวกัน ในฐานะหน่วยงานของรัฐ กระทรวงวัฒนธรรมได้ใช้กลไกอำนาจทั้งหมดที่อยู่ในมือ เซ็นเซอร์ บุคคลใดๆ ที่แสดงออกซึ่งรสนิยมและแนวทางความเชื่อที่แตกต่างไปจากการตีความศาสนาของตน ด้วยวิธีการเผด็จการนิยม ไม่ว่าจะเป็นการชงเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งล่าสุดได้ถอดถอนวีดีโอในยูทูปทั้งหมด และข่มขู่จะดำเนินการกับผู้ที่ทำการเผยแพร่คลิปตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือการใช้วิธีการ มาเฟีย คุกคามสถานะของแม่ชีทศพรผ่านผู้บังคับบังชาคือพระพรหมโมลีเจ้าอาวาสนั่นเองนอกจากนี้ โดยยังไม่ต้องเข้าไปถกเถียงประเด็นการตีความ พุทธปรัชญา เป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตว่า การอุปโลกน์ ความดี/เลว ให้เป็น หลักของพระพุทธศาสนา ตามความเข้าใจของ รมว.วธ. นี้ แท้จริงกำลังจะสับสนระหว่าง หลักพุทธศาสนา (หรือพุทธปรัชญา ซึ่งเป็นแนวทางสู่ อิสรภาพ ทางจิตวิญญาณ) กับ หลักศีลธรรม (ซึ่งเป็น กฎเกณฑ์ แนวปฏิบัติทางโลกอันเกิดขึ้นจากฉันทามติของคนในสังคมเดียวกัน) เสียด้วยซ้ำเนื้อหาและแนวทางของแม่ชีนั้นดีไม่ดี ถูกผิด เหมาะสมหรือไม่อย่างไร คงจะเป็นเรื่องที่สังคมไทยต้องร่วมกันพูดคุยถกเถียง (ต้องไม่ลืมว่าแม่ชีเองก็มีลูกศิษย์ลูกหาหลายพันคน) และกระทรวงวัฒนธรรมก็มีความชอบธรรมในการที่จะออกมาแสดงจุดยืนและท่าทีของตน ได้ แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีการ อำนาจนิยม ที่กำลังทำอยู่ ซึ่งมุ่งยืนยัน อำนาจ ของตนเองผ่าน บทลงโทษ มากกว่าจะเปิดกว้างสู่ วัฒนธรรมการวิพากษ์ เพื่อสร้างปัญญาให้กับสังคมอย่างแท้จริงนี่สะท้อนปัญหาในเชิงกรอบคิดอันเป็นปัญหาเรื้อรังของกระทรวงนี้ กรอบคิดแบบ ผูกขาดครอบงำเชิงวัฒนธรรม (cultural hegemony) ได้ถูกสถาปนาให้เป็น อัตลักษณ์ ประจำกระทรวงวัฒนธรรมซึ่งทึกทักเอาเองว่าการมีอยู่ของตนไม่สามารถแยกออกจาก การ เฝ้าระวัง และ ลงโทษ ได้เราต้องการสังคมแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ สังคมที่จะเปิดพื้นที่ให้กว้างมากพอสำหรับการต่อรองและการแสดงออกถึงความแตก ต่างทางความเชื่อและวัฒนธรรมของกลุ่มคนต่างๆ ไม่ใช่สังคมที่ถูกกำกับโดยองค์กรซึ่งมีแนวคิดฟาสชิสต์ ในนามของ ความถูกต้อง หรือ ความบริสุทธิ์ดีงาม ทางวัฒนธรรม เพราะแม้แต่ความถูกต้องดีงามที่ถูกสถาปนาเป็นแนวคิดหลักนั้นก็ต้องถูกตรวจ สอบและสอบทานได้และถึงที่สุดแล้ว อาจไม่ใช่แม่ชีทศพรหรือสแกนกรรมใดๆ ที่เป็นภัยอย่างแท้จริงต่อความมั่นคงของพุทธศาสนา (เพราะพุทธศาสนาแบบทางการดำเนินอยู่ควบคู่ไปกับพุทธศาสนาแบบชาวบ้านมา ตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว) หากแต่เป็นกระบวนการครอบงำทางวัฒนธรรมที่มีหัวขบวนเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่เฉก เช่นกระทรวงวัฒนธรรมต่างหาก เพราะสิ่งที่ท่านทำคือ การปิดกั้นกดทับผู้คนในสังคมไม่ให้พวกเขาได้มี อิสรภาพ และ พื้นที่ ในการแสดงออกซึ่งความเชื่อและความต้องการทางจิตวิญญาณที่หลากหลายในยุคกลางของยุโรป ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้สถาปนาตนเองเป็น สถาบัน (Establishment) ที่มีอำนาจและสถานะทางสังคมการเมืองที่มั่นคงและเบ็ดเสร็จ ประวัติศาสตร์ได้จารึก กระบวนการล่าพวกนอกรีต (Inquisition) ซึ่งกระทำโดยพระสงฆ์และคริสต์ศาสนิกชนในนามของความบริสุทธิ์ดีงามของศาสนา และหนึ่งในกลุ่มนอกรีตคือ กลุ่มผู้หญิงซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น แม่มดหากพิจารณาขบวนการแม่มดที่เกิดขึ้นในยุโรปนี้ด้วยมุมมองใหม่ทางประวัติ ศาสตร์ผนวกกับองค์ความรู้สายสตรีนิยม เราสามารถตีความได้ว่า ในแง่หนึ่ง การมีอยู่ของ แม่มดหญิง นี้เป็นความพยายามในการต่อรองกับ อำนาจ (ของศาสนจักรและศิลปวิทยาการ ซึ่งก็คือ องค์ความรู้ ทั้งหลายของมนุษย์) ซึ่งถูกผูกขาดเรื่อยมาโดย ผู้ชาย การตั้งชื่อในแง่ลบให้กับกลุ่มผู้หญิงเหล่านี้ว่าเป็น แม่มด ตลอดจนการยัดเยียดข้อกล่าวหา นอกรีต ก็แสดงให้เห็นถึงกระบวนการที่ สถาบัน (ผ่านอำนาจชายเป็นใหญ่) จัดการกับการต่อสู้เพื่อจะมี ที่ยืน ในสังคมของกลุ่มคนชายขอบไร้อำนาจซึ่งคือ ผู้หญิงในแง่นี้ การ เตือนสติสังคม ของกระทรวงวัฒนธรรมโดยการผูกขาด ความถูกต้อง ของการตีความทางศาสนานี้เป็นการกระทำที่รุนแรงภายใต้กรอบความคิดผู้ชายเป็น ใหญ่ ในสังคมที่อำนาจและองค์ความรู้ถูกผูกขาดเรื่อยมาโดยผู้ชายการปกป้องศาสนาถูก เลือกปฏิบัติ กับแม่ชีทศพร (ซึ่งไม่มีสถานะใดๆ เนื่องจากความเป็นแม่ชีไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสังคมหรือจาก องค์กรสงฆ์ไทย ไม่ใช่นักบวช เป็นเพียงแค่ฆราวาสนุ่งขาวห่มขาวที่ถือศีล 8 ธรรมดา) ในขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมไม่เคยมีความจริงใจใดๆที่จะตรวจสอบพระสงฆ์องค์คณะ ที่มีพฤติกรรมการสอนเข้าข่าย เบี่ยงเบน (หากวัดจากบรรทัดฐานทางศีลธรรมของรมว.กธ.) อย่างสำนักธรรมกายหรือแม้กระทั่งพระสงฆ์ในการกำกับดูแลของมหาเถรสมาคมเองก็ ตามใช่ วิธีคิดและชุดคำสอนของแม่ชีมีปัญหาอย่างแน่นอน แต่การเกิดขึ้นและมีอยู่ของแม่ชีเป็นผลพวงจากส่วนเกิน (excess) ที่สังคมนี้ผลิตขึ้นมาเอง ผ่านกระบวนการครอบงำและกดขี่ทางวัฒนธรรมที่ดำเนินมาช้านานซึ่งไม่เคยมี พื้นที่ ให้กับผู้หญิงอย่างจริงจังเพราะ ในปริมณฑลของพุทธศาสนาไทย มีผู้หญิงเพียงสองประเภทเท่านั้นที่สามารถมีพื้นที่ยืนอยู่ได้ คือผู้หญิงอย่างแม่ชีศันสนีย์ที่ต้องอ่อนน้อมสยมยอมต่อระบอบชายเป็นใหญ่ หรือฆราวาสหญิงทั้งหลายซึ่งเป็นได้เพียงแค่อุบาสิกาผู้ค้ำจุนทำนุบำรุงศาสนา แต่ ผู้หญิง ในฐานะปัจเจกที่มีความเป็นเอกเทศและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่จะสามารถ เข้าถึงนิพพานได้ดังเช่นผู้ชายนั้น พุทธศาสนาไทยไม่เคยรับรองพื้นที่ให้กับพวกเธออย่างเป็นทางการและอย่างเท่า เทียมลูกศิษย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงของแม่ชีอาจไม่ หลุดพ้น แต่ภายใต้สถานภาพของผู้หญิงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ แม่ชีได้ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์เฉพาะหน้าของพวกเธอใช่ การตีความพุทธศาสนาและรูปแบบการนำเสนอของแม่ชีอาจหมิ่นเหม่และล่วงละเมิดไม้ บรรทัดทางศีลธรรมของกระทรวงวัฒนธรรม แต่แม่ชีทศพรไม่ใช่อาชญากรของรัฐที่จะทำลายความสงบสุขของสังคมไทยดังเช่นที่ รมว.วธ.กล่าวอ้างดังนั้น กรณีแม่ชีทศพรนี้จึงเป็นกรณีที่น่าสนใจและท้าทายต่อสติและวุฒิภาวะของสังคม เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ของการปะทะต่อสู้ระหว่างความเชื่อแบบทางการกับความ เชื่อแบบชาวบ้านแล้ว ในภาพที่กว้างออกไป กรณีนี้ยังชี้ให้เราเห็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนว่าด้วยความไม่เท่าเทียมทาง เพศในปริมณฑลของพุทธศาสนาไทยอีกด้วย | ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา วีดีโอ แก้กรรม ของแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ หรือแม่ชีใหญ่ซึ่งเผยแพร่ในเวปไซต์ยูทูปได้กลายมาเป็นประเด็นการถกเถียงที่ ร้อนแรงประเด็นหนึ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค | วัฒนธรรม | ความเท่าเที่ยมทางเพศ,พุทธศาสนา,แม่ชีทศพร | https://prachatai.com/journal/2011/04/34303 | [
0,
259,
51122,
60936,
39525,
94608,
259,
105261,
259,
104582,
9074,
260,
9074,
27987,
260,
259,
38058,
152499,
4728,
126493
] |
ปี 63 จีดีเอช-นาดาว ไม่หยุดนิ่งลุยผลิตงาน | จีดีเอช–นาดาว เปิดโปรเจกต์ปี 2563 รุกตลาดหนัง-ทีวี เน้นผลิตคอนเทนต์ที่ดี พร้อมขยายฐานผู้ชม จินา โอสถศิลป์ เผยว่า ผลประกอบการในปี 2562 เราทำได้ 471.29 ล้านบาท โตขึ้นกว่าปี 2561 ประมาณ 12% จีดีเอชยังคงมุ่งเน้นผลิตภาพยนตร์ และซีรีส์ที่ดี ประเดิมด้วย ฉลาดเกมส์โกงเดอะซีรีส์ ฉาย ส.ค.นี้ ทางช่องวัน 31 ออกอากาศคู่ขนานไปพร้อมกับประเทศจีนต่อด้วยภาพยนตร์แนว thriller horror ของผู้กำกับ กอล์ฟ ปวีณ และ ภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมดี้ จากผู้กำกับ เมษ ธราธร ตลาดต่างประเทศ GDH ยังคงเป็นที่ต้องการในแถบSouth East Asia ซึ่ง GDH ที่ผ่านมาเรามีบริษัทสวัสดีทวีสุข ดูแลการทำชิ้นงานคีย์ อาร์ต เสียงดีทวีสุข ดูแลเรื่องการมิกซ์เสียง งานดีทวีสุข ดูแลพีอาร์ อีเวนต์ เพิ่ม เปิดบริษัทน้ำดีไม้งาม มาช่วยคิดคอนเทนต์ทำงานโปรโมตซัพพอร์ตผู้ชมย้ง–ทรงยศ สุขมากอนันต์ เผย ในปี 2563 นาดาว บางกอก ยังคงมุ่งหน้าผลิตคอนเทนต์ที่ดี มีการขยายบริษัท เปิดนาดาวมิวสิค มีเบล สุพล มารับหน้าที่ผู้บริหารและโปรดิวเซอร์เพลง ดี๊ดี (UNEXPECTED) ให้กับ เจเลอร์ X พาริส ทำเพลงให้กับ กัปตัน แพรวา และบิวกิ้น ผลิตละคร ซีรีส์ดีๆ มี ปิง เกรียงไกร ดูแล ซีรีส์เรื่องใหม่ที่ได้บิวกิ้นกับพีพีมาแสดง กำกับโดย บอส นฤเบศ โครงการ Nadao Academy ค้นหาเด็กฝึกมาเป็นศิลปิน โครงการ workshop เขียนบท เพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจให้น้องๆไปร่วมงานกับช่องอื่นๆ ทั้งช่องวัน GMM25 และ ช่อง 3. | จีดีเอช–นาดาว เปิดโปรเจกต์ปี 2563 รุกตลาดหนัง-ทีวี เน้นผลิตคอนเทนต์ที่ดี พร้อมขยายฐานผู้ชม จินา โอสถศิลป์ เผยว่า ผลประกอบการในปี 2562 เราทำได้ 471.29 ล้านบาท | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | GDH,จีดีเอช,นาดาว,รุกตลาดหนัง,จินา โอสถศิลป์,กอล์ฟ ปวีณ,ทรงยศ สุขมากอนันต์,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1763080 | [
0,
259,
193934,
259,
66571,
8357,
30356,
12682,
259,
102912,
153272,
107451,
78411,
94314,
31753,
149595,
44704,
259,
58296,
96422
] |
ซอยเจ้าพ่อเขาเขียว หมาดุ วิ่งไล่กัดผู้คน วอนเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราจัดการที | แว้นในโรงเรียน ชาวหมู่บ้านหนองตะขบ หมู่ 8 ต.โคกตูม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ สุดทน เกือบทุกวันหลังเลิกเรียน กลุ่มวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์แต่งซิ่ง นับสิบคันเข้ามาประลองความเร็ว ยกล้อ ในสนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านหนองตะขบ ส่งเสียงดังรบกวน ทั้งคนแก่ คนป่วย เดือดร้อนมาก วันหยุดจะหนักหน่อย ผอ.โรงเรียน ผกก. สภ.ประโคนชัย จัดการไปเลย,หมาดุ ในซอยเจ้าพ่อเขาเขียว หลังโรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเส้นทางที่พระสงฆ์ใช้ออกบิณฑบาต และนักเรียนเดินไปโรงเรียน แต่มีสุนัขหลายตัวที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ มักจะออกมา วิ่งไล่กัดผู้ที่ผ่านไปมา ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว เทศบาลเมืองฉะเชิงเทราทราบแล้วช่วยจัดการทีเถอะ,ระวัง ผู้ใช้ถนนเลียบคลองลิขิต หน้าซอยโรงงานพีวีฟู้ด ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร แจ้งเตือน ถนนบริเวณนี้ มีรอยต่อของพื้นคอนกรีตที่ใหญ่มาก หากขับรถมาด้วยความเร็ว ยางรถอาจระเบิดได้ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ล้อพังไปหลายคันแล้ว หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยแก้ไขด่วน,บ้านพัง ชาวบ้านในซอยคู้บอน 27 เขตบางเขน เดือดร้อนจากหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง สร้างสะพานข้ามคลองจรเข้บัว (คลองขุด 6) สูงถึง 5 เมตร เพื่อเข้าหมู่บ้าน ตอกเสาเข็ม จนบ้านชาวบ้านนับ 10 หลังที่อยู่ใกล้จุดก่อสร้างแตกร้าวและเริ่มทรุดตัว ผอ.เขตบางเขน และเขตคันนายาวอย่ามัวรีรอเข้าช่วยเหลือด่วน ก่อนที่บ้านจะพัง,นายมนัส อยู่นาม ผช.ผอ.เขตทวีวัฒนา ชี้แจงกรณีริมถนนพุทธมณฑลสาย 2 แยกบรมราชชนนีมุ่งหน้าศาลาธรรมสพน์ มีผู้ค้าตั้งสินค้าบนทางเท้ากีดขวางทางเดิน นั้น ตรวจสอบแล้ว เดิมเป็นจุดผ่อนผัน แต่ยกเลิกไปเมื่อปี 59 สนง.เขต จัด จนท.ชุดสายตรวจ ออกกวดขันอย่างเคร่งครัด ไม่ให้ฝ่าฝืน หากพบจะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด.,[email protected], ,โทร.0-2127-1000 กด 2,แฟกซ์ 0-2272-1333,จันทร์-เสาร์ 09.00-17.00 น. เว้นวันอาทิตย์ | ในซอยเจ้าพ่อเขาเขียว หลังโรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเส้นทางที่พระสงฆ์ใช้ออกบิณฑบาต และนักเรียนเดินไปโรงเรียน แต่มีสุนัขหลายตัวที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ | เด็กแว้น,หมาดุ,ถนนพัง,ถนนชำรุด,สร้างสะพาน,บ้านร้าว,ห้องร้องทุกข์ | https://www.thairath.co.th/news/local/1636476 | [
0,
259,
154301,
150280,
69260,
20322,
6581,
259,
183562,
183464,
220356,
4395,
66248,
1549,
135647,
34538,
4728,
1,
0,
0
] |